ในขณะที่หลายลีกหยุดพักเบรกหนีหนาว และชาร์จพลังงานเพื่อลุยครึ่งทางที่เหลือ ลีกอังกฤษยังยืนยันเจตนารมณ์ของตัวเองอย่างมั่นคงโดยไม่สนเสียงสะท้อนใดๆ จากทั้งเจ้าของทีม กุนซือ และนักเตะ
โปรแกรมโหดเริ่มตั้งแต่วันศุกร์ที่ 22 ธันวาคม ที่ อาร์เซน่อล เปิดรังเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม แลกหมัดกับ ลิเวอร์พูล แบบที่เรียกว่าใครการ์ดตกเป็นต้องโดนสอยปลายคาง
สุดท้ายจบที่่สกอร์ 3-3 โดยที่่ต่างฝ่ายต่างเสียดายที่พลาดชัยชนะ
จากนั้นช่วงคิวโหดลากยาวเข้าสู่บ็อกซิ่งเดย์ ต่อด้วยโปรแกรมสิ้นปีที่บางคู่เตะพร้อมเวลาเคาท์ดาวน์ของคนไทยกันเลยเดียว ลากยาวจนถึงนัดล่าสุดที่สเปอร์สทำศึกลอนดอน ดาร์บี้แมตช์ กับ เวสต์แฮม เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 4 มกราคม
ในช่วงเวลานี้ ทุกทีมต้องลงเล่น 4 นัด ในราวสิบวัน หรือบางทีมอย่างเลสเตอร์ ซิตี้ ก็ลุยลากเลือดในเวลาเพียง 8 วัน
บทสรุปเป็น สเปอร์ส, ลิเวอร์พูล และ แมนฯ ซิตี้ ที่ทำผลงานดีสุดเก็บไปทีมละ 10 คะแนน
อาร์เซน่อลเสมอลิเวอร์พูลสุดมันส์
ไก่เดือยทอง หวิดเก็บสถิติร้อยเปอร์เซ็นต์ได้อยู่แล้วแต่พลาดนัดสุดท้ายเมื่อบุกทั้งเกมแต่กลับโดน เวสต์แฮม ทำประตูนำก่อน และต้องมาไล่ตีเสมอจากลูกยิงไกลสุดสวยของ ซน ฮึง-มิน
หงส์แดง เริ่มโปรแกรมด้วยงานกับอาร์เซน่อลและได้ผลเสมอกลับออกมา แต่จากนั้นก็ไล่ตบได้หมดไม่ว่าจะเป็นทุบสวอนซี 5-0, แซงชนะ เลสเตอร์ 2-1 และเฉือนเบิร์นลี่ย์แบบดราม่า 2-1
เจอร์เก้น คล็อปป์ พาทีมกลับมาตั้งลำได้เต็มตัวด้วยผลงานไร้พ่าย 16 นัดจากทุกรายการ และนัดล่าสุดที่แพ้ก็วันที่โดน สเปอร์ส ไล่ทะลวง 4-1 เมื่อเดือนตุลาคม
ทีมจ่าฝูงเรือใบสีฟ้า ได้ 10 คะแนนแบบหวุดหวิดเพราะมีเกมที่เกือบพ่ายนัดแรกของฤดูกาลในวันไปเยือน คริสตัล พาเลซ ยังดีที่ เอแดร์ซอน เซฟจุดโทษช่วงทดเจ็บของ ลูก้า มิลิโวเยวิช ไว้ได้
อีก 3 นัด เรือใบ เก็บ 9 คะแนนเต็มทั้งวันเปิดบ้านถลุงบอร์นมัธ 4-0, บุกชนะ นิวคาสเซิ่ล 1-0 และล่าสุดอัดวัตฟอร์ดอีก 3-1
ทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ยังนำจ่าฝูงสบายๆ ด้วยความห่าง 15 คะแนนก่อนปรับโหมดลุยเอฟเอ คัพ ต่อด้วยลีก คัพ รอบตัดเชือก กับ บริสตอล ซิตี้
โชเซ่ มูรินโญ่ ทำผลงานได้น่าผิดหวังในช่วงหฤโหด
หมด 2 โปรแกรมบอลถ้วยที่ไม่ถึงกับเหลือบ่ากว่าแรง "ว่าที่แชมป์" ต้องเจออีกบททดสอบสำคัญในการไปเยือนแอนฟิลด์ของ ลิเวอร์พูล ในวันเสาร์ที่ 14 มกราคมนี้
ในกลุ่ม "บิ๊กซิกซ์" อีก 3 ทีม เชลซี เก็บคะแนนได้รองลงมาที่ 8 คะแนนซึ่งแน่นอนว่าหากไม่โดน เอคตอร์ เบเยริน ตะบันช่วงทดเจ็บช่วยให้อาร์เซน่อลแบ่งแต้ม ลูกน้องของ อันโตนิโอ คอนเต้ ก็ฟาด 10 คะแนนเท่ากับเรือ, ไก่ และหงส์
อีกนัดที่ เชลซี สะดุดในช่วงนี้คือวันไปเยือนกูดิสัน ปาร์ค ของเอฟเวอร์ตันก่อนจบที่สกอร์ 0-0 ขณะที่เกมในบ้านทำได้ตามเป้าไล่ทุบไบรท์ตัน 2-0 ต่อด้วยยำใหญ่สโต๊ค ซิตี้ 5-0
แมนฯ ยูไนเต็ด กับ อาร์เซน่อล ผ่านช่วงโปรแกรมหนักแบบไม่น่าประทับใจนักเพราะเก็บได้เพียง 6 คะแนน
ผีแดงเคยมีผลงานดีสุดในอดีตที่ผ่านมา แต่ครั้งนี้ต้องมาทำโครงการ "ก้าวนัดละแต้ม" แข่งกับ "พี่ตูน" เพราะเล่นเสมอ 3 นัดรวดไล่ตั้งแต่โดนเลสเตอร์ ซิตี้ ตีทดเจ็บ 2-2, ตามทวงเบิร์นลี่ย์ 2-2 ในโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ของตัวเอง และอีกครั้งที่เล่นต่อหน้ากองเชียร์ก็ได้เพียงเสมอเซาธ์แฮมป์ตันไร้สกอร์
ชัยชนะนัดเดียวในช่วงนี้คือวันบุกชนะเอฟเวอร์ตัน 2-0 ซึ่งก็ถือว่าเกินคาดเพราะ โชเซ่ มูรินโญ่ เผชิญปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บหลายราย
ส่วน 6 คะแนนของปืนใหญ่มาจากผลเสมอ 3 นัดเช่นกันทั้งเกมกับลิเวอร์พูล 3-3, เวสต์บรอมวิช 1-1 และล่าสุดไล่ตีเสมอเชลซี 2-2 ส่วนเกมบุกชนะคริสตัล พาเลซ 3-2 คือนัดเดียวที่เก็บชัยชนะได้
นิวคาสเซิ่ลที่เป๋มาตลอด 2 เดือนหลังสุด สะสมคะแนนช่วงนี้ได้ถึง 7 คะแนน มากกว่าทั้งผีแดงและปืนใหญ่
ลูกทีมของ ราฟา เบนิเตซ แพ้นัดเดียวต่อแมนฯ ซิตี้ 0-1 ซึ่งก็ถือว่าทำได้ดีสุดๆ แล้วที่เสียเพียงประตูเดียว
อีก 3 นัดเป็นการชนะนอกบ้านถึง 2 นัดทั้งวันบุกเชือดเวสต์แฮม 3-2 และทุบสโต๊ค ซิตี้ 1-0 น่าเสียดายก็นัดที่เล่นในเซนต์ เจมส์ ปาร์ค ตัวเองแต่ได้เพียงเสมอไบรท์ตัน 0-0
ตารางคะแนนช่วงโปรแกรมโหดพรีเมียร์ลีก
เวสต์บรอมวิช, เอฟเวอร์ตัน, เซาธ์แฮมป์ตัน และ เบิร์นลี่ย์ เก็บได้น้อยสุดเท่ากันที่ 2 คะแนน
ที่น่าเห็นใจสุดคงเป็นเบิร์นลี่ย์ที่ฤดูกาลนี้ทำผลงานได้ดีมาก แต่ด้วยขุมกำลังที่จำกัดทำให้เมื่อเจอโปรแกรมหนักเข้าไปก็ออกอาการเช่นกัน
ลูกทีมของ ฌอน ไดช์ เจอโปรแกรมโหดยกกำลังสองจริงๆ เพราะนอกจากเตะถี่วันเว้นวันแล้วยังเจองานหนักรับมือ สเปอร์ส, แมนฯ ยูไนเต็ด และ ลิเวอร์พูล อีกต่างหาก
พวกเขาบุกเสมอผีแดงแบบน่าชนะ และเกือบได้แต้มในการเจอหงส์แดงเพราะไล่ตีเสมอช่วงท้ายได้แล้ว ทว่ากลับโดน รักนาร์ คลาวาน ฮีโร่ลึกลับของทีมเยือนโหม่งพังประตูก่อนจบเกมไม่กี่อึดใจ
ยังดีที่ก่อนหน้านี้ทำได้ดีมากๆ ทำให้ยังรั้งที่ 7 ของตารางต่อไป และพร้อมจะเป็น "ม้ามืด" แย่งโควตายุโรปอีกทีม
