:::     :::

อำลา ดาวิด ลุยซ์

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
เป็นที่ยืนยันแน่นอนแล้วว่า ดาวิด ลุยซ์ เซนเตอร์ฮาล์ฟบราซิเลียนจะอำลา อาร์เซน่อล หลังจบฤดูกาลนี้ ปิดฉากช่วงเวลา 2 ปีในถิ่น เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ที่มีทั้งช่วงเวลาแห่งความ "สุข" และ "ทุกข์" คละเคล้ากัน

ลุยซ์ ย้ายฟ้าผ่าจาก เชลซี มาร่วมทีม อาร์เซน่อล ด้วยค่าตัว 8 ล้านปอนด์ ในวันสุดท้ายของตลาดซัมเมอร์ 2019 เพื่อเป็นตัวแทนของ โลร็องต์ กอสซิแอลนี่ ที่ตัดสินใจแยกทางเพื่อกลับไปทิ้งทวนในลีก เอิง ร่วมทัพ บอร์กโดซ์

ฤดูกาลแรกในฐานะแข้งปืนใหญ่ ลุยซ์ ลงสนามมากถึง 43 นัดในทุกรายการพาทีมคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ มาครองพร้อมตั๋วสู่เวทียุโรป ก่อนต่อยอดด้วยแชมป์คอมมิวนิตี้ ชิลด์ ช่วงเปิดฉากฤดูกาลนี้ ทว่าก็มีหลายอย่างไม่น่าจดจำสอดแทรกระหว่างทางโดยเฉพาะการเล่นที่พร้อมผิดพลาดตลอดเวลา 

ลุยซ์ ทำเสียจุดโทษมากถึง 5 ครั้งในฤดูกาลเดียว กลายเป็นสถิติใหม่ของพรีเมียร์ลีก แถมเกิดขึ้นในเกมใหญ่ทั้งวันที่พบ ลิเวอร์พูล, กลับไปเยือนถิ่นเก่า เชลซี และเกมรีสตาร์ตพรีเมียร์ลีกที่พ่ายต่อ แมนฯ ซิตี้ ยับ 0-3

เกมที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม คืนวันนรกแตกของ ลุยซ์ อย่างแท้จริง เขาถูกส่งลงเป็นสำรองแทน ปาโบล มารี ที่ได้รับบาดเจ็บ วันนั้น ลุยซ์ หลุดฟอร์มไม่เหลือชิ้นดีทั้งสกัดพลาดนำไปสู่การเสียประตูแรก ต่อด้วยทำเสียจุดโทษ และปิดท้ายได้ใบแดง ทั้งหมดเกิดขึ้นในช่วงเวลาเพียง 25 นาที

ทว่าเมื่อ มิเกล อาร์เตต้า ปรับการเล่นเป็นปราการหลัง 3 คนในช่วงท้ายฤดูกาล ดาวิด ลุยซ์ เริ่มเรียกฟอร์มที่ดีกลับคืนมาได้ เขากลายเป็นหัวใจสำคัญในแผงหลังของทีมที่มีความลงตัวมากขึ้น ผิดพลาดน้อยลง และไม่เสียประตูเละเทะเหมือนช่วงก่อนหน้านี้

ความเก๋าและประสบการณ์ของแนวรับวัย 33 ปีช่วย อาร์เซน่อล ได้อย่างมากในเส้นทางสู่แชมป์เอฟเอ คัพ สมัย 14 เขาเล่นได้อย่างโดดเด่นทั้งรอบตัดเชือกที่ชนะ แมนฯ ซิตี้ 2-0 และรอบชิงชนะเลิศที่ชนะทีมเก่า เชลซี 2-1 


แม้ฟอร์มการเล่นจะขาดความคงเส้นคงวาและมีจังหวะผิดพลาดเรื่อยๆ ทว่า ความเป็นผู้นำและการเป็นพี่เลี้ยงในทีมก็เป็นสิ่งที่ มิเกล อาร์เตต้า มองว่าเป็นประโยชน์ ลุยซ์ จึงได้รับการขยายสัญญาให้ช่วยต่อในฤดูกาลนี้ 

ฤดูกาลที่สองของ ดาวิด ลุยซ์ กับ อาร์เซน่อล มีทั้งส่วนที่คล้ายและแตกต่างออกไปจากฤดูกาลแรก

ความผิดพลาดในสนามยังมีให้เห็นเนืองๆ ในวันที่เล่นดี ท็อปฟอร์ม ก็ช่วยทีมได้อย่างมาก ในวันที่ออกทะเลก็โดนคู่แข่งป่วนจนเสียท่า 

ส่วนสิ่งที่ต่างคือ สภาพร่างกายของ ลุยซ์ ไม่แข็งแกร่งเหมือนเดิม เขาบาดเจ็บบ่อยครั้งจนไม่สามารถเป็นตัวหลักได้แบบต่อเนื่อง อีกทั้งทีมมีเซนเตอร์ตัวใหม่ทั้ง กาเบรียล มากัลเญส รวมถึง ปาโบล มารี ที่มาในครึ่งฤดูกาลก่อน เป็นอีกทางเลือกที่ผลงานในสนามไม่ต่างกันมากนัก มิเกล อาร์เตต้า จึงสลับสับเปลี่ยนกันลงเล่นตลอด

ลุยซ์ จึงได้เล่นให้ อาร์เซน่อล เพียง 30 นัดจากทุกราการในฤดูกาลนี้ และจากอาการบาดเจ็บล่าสุดในเกมชนะ นิวคาสเซิ่ล 2-0 ก็ทำให้เขาปิดเทอมไม่ได้ลงเล่นในช่วง 4 นัดสุดท้ายของฤดูกาล 

การพูดคุยเพื่อหาสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับทุกฝ่ายจึงเกิดขึ้นก่อนได้บทสรุปว่า ดาวิด ลุยซ์ กับ อาร์เซน่อล เตรียมแยกทางกันในซัมเมอร์นี้ 

"เรามีการพูดคุยที่ชัดเจนมากๆ ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา เราได้ตัดสินใจครั้งสำคัญเมื่อปีที่แล้วกับการขยายสัญญาออกไปในช่วงเวลาที่ยากลำบากมากๆ กับสถานการณ์โควิดในโลกนี้ 

"เราจัดการต่อสัญญาอีกฤดูกาล และเขาก็ทุ่มเทอย่างสุดความสามารถ ผมพยายามช่วยเขาให้ได้มากที่สุดเช่นเดียวกับสโมสร และหลังจากการพูดคุยอย่างเข้าใจ เราจึงตัดสินใจนี่เป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่ต้องทำตอนนี้" อาร์เตต้า กล่าว 

ดาวิด ลุยซ์ เองก็เข้าใจถึงสถานการณ์ ด้วยวัยที่อยู่ในช่วงปลายอาชีพ และทิศทางของทีมที่ต้อง "ผ่าตัด" ใหม่อีกรอบหลังความล้มเหลวในฤดูกาลนี้ การเปิดทางให้ "ความหวังใหม่" จึงเป็นทางเลือกที่ดีต่อทุกคน 


อาร์เตต้า กล่าวเสริมว่า "ผมมีโอกาสสุดพิเศษที่ได้ทำงานร่วมกับเขา 18 เดือน ผมสนุกมากๆ เรามีช่วงเวลาอันยอดเยี่ยมร่วมกัน เขาช่วยเหลือได้มากจริงๆ เป็นคนที่เราชื่นชอบและยกย่องมากๆ ฉะนั้นผมอยากบอกว่าขอบคุณและอวยพรให้เขาโชคดี"

"ผมมีความสุขกับได้เรียนรู้จากเขาเยอะมากๆ เขาช่วยเหลือทีมตลอดเวลา ผมรู้สึกเศร้าเราผูกพันกับนักเตะ มันยากและเจ็บปวดเพราะความสัมพันธ์นี้จะถูกพลัดพรากไป ท้ายที่สุดผมอยากขอบคุณเขาอีกครั้ง"

ขณะที่ พาทริค ทิมมอนส์ หนึ่งในแฟนบอลพันธุ์แท้ของทีมก็ได้กล่าวอำลาแนวรับประสบการณ์สูงว่า "ขอบคุณสำหรับฟอร์มการเล่นอันโดดเด่นที่ เวมบลีย์ การช่วยให้ มาร์ติเนลลี่ และ กาเบรียล ปรับตัวเข้ากับชีวิตในอังกฤษ โทรฟี่แชมป์เอฟเอ คัพ และการช่วยเหลือดาวรุ่งจาก เฮล เอนด์ (ศูนย์เยาวชนสโมสร) ให้ปักหลักในทีมชุดใหญ่ได้ รวมถึงการเผชิญหน้ากับคำวิจารณ์อย่างองอาจและการเป็นแบบอย่างของมืออาชีพ"

หากให้ประเมินผลงานของ ดาวิด ลุยซ์ กับ อาร์เซน่อล ตลอด 2 ฤดูกาล คงมีความคิดเห็นต่างๆ นานาทั้งบวกและลบซึ่งสะท้อนถึงการเล่นในสนามของเจ้าตัวได้อย่างดี  

แต่ท้ายที่สุดแล้วเมื่อทุกอย่างมาถึงปลายทาง เราก็คงไม่ใจร้ายจนเกินกว่าจะไม่สามารถกล่าวคำร่ำลาได้ 

โชคดีนะ ดาวิด ลุยซ์ 




ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด