:::     :::

ตาต่อตา ฟันต่อฟัน Dean Henderson Vs David de Gea [Analysis]

วันเสาร์ที่ 22 พฤษภาคม 2564 คอลัมน์ #BELIEVE โดย ศาลาผี
4,189
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
นี่คือบทวิเคราะห์ในเชิงสถิติการเล่นของ "ผู้รักษาประตูมือหนึ่งทั้งสองคน" ที่เห็นได้ชัดเจนทั้งผลลัพธ์การแข่งขันและรูปแบบการเล่น โดยสถิติที่ชัดเจนเป็นรูปธรรมแน่นอนซึ่งจะเห็นได้ชัดเจนที่สุด ควบคู่ไปกับ"วิธีคิด"ในการวิเคราะห์อย่างถูกต้อง

บทความวิเคราะห์นี้เกิดมาจากเสียงเรียกร้องของแฟนคอลัมน์ว่า ต้องการให้เปรียบเทียบการเล่นระหว่าง David de Gea กับ Dean Henderson ในการลงสนามฤดูกาลนี้กับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ว่าใครกันแน่ที่เป็นมือหนึ่ง หรือใครกันแน่ที่เก่งกว่ากัน

จะบอกว่า บทความนี้มันเหมือนเป็น"กระทู้VS" ที่เปรียบเทียบนักเตะอย่างหนึ่ง เพียงแต่ว่ามันจะถูกเขียนขึ้นจาก "Fact" ที่มีอยู่ทั้งหมดที่เป็นข้อเท็จจริงของผลลัพธ์สถิติในสนาม และถูกเขียนโดยไม่มีBiasใดๆ ในฐานะที่เราเป็นแฟนปีศาจแดงที่ "รักทั้งคู่" ไม่ได้เชียร์อะไรใครเป็นพิเศษมากนัก

เราจึงมีหน้าที่เปรียบมวยอย่างตรงไปตรงมาเท่านั้น และจากนั้นทำการวิเคราะห์สถิติเชิงประจักษ์ต่างๆเหล่านี้ออกมาอีกหนึ่งขั้น ผ่านการเล่นที่แฟนบอลอย่างเราเห็นในสนาม และตามเชียร์อยู่ทุกนัด

ดังนั้นก่อนที่จะอ่านข้อมูลต่อจากนี้ สบายใจได้ว่ามันถูกตัดสินอยู่บนการวิเคราะห์บนหลักความจริงเป็นสำคัญ

ข้อมูลหลายๆอย่างในนี้สามารถทำให้ผู้อ่านมองเห็นความจริงได้ว่า ระหว่าง ดีน เฮนเดอร์สัน กับ ดาวิด เดเคอา ใครมีผลงานที่ดีกว่ากันในแง่ไหนบ้าง และเมื่อเปรียบเทียบกันแล้วเป็นยังไง และใคร "เหมาะที่จะใช้กับงานแบบไหน"

ผู้เขียนเชื่อว่ามันไม่มีนักเตะคนใดบนโลกที่มันจะสมบูรณ์แบบไปเสียทุกอย่าง และการมีผู้รักษาประตูระดับ "มือ1" อยู่ถึงสองคนในทีมถือเป็นเรื่องที่ดี

ถ้าจำกันได้ มันดีมากๆที่หลายปีที่ผ่านมาเรามีโกลสองคนที่เป็น โกลมือ1 กับ "โกลมือ1.5" (เก่งกว่าจะเป็นมือ2) นั่นก็คือ ดาวิด เดเคอา กับ แซร์คิโอ โรเมโร่ นั่นเอง นั่นก็แกร่งจนไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว เพราะเอาใครลงก็ได้ไม่ต่างกันเลย

แต่สถานการณ์ตอนนี้หนักกว่าเดิมอีก เมื่อนี่คือหนึ่งในผู้รักษาประตูระดับท็อปของวงการฟุตบอลทั้งคู่ในสถานะมือ1 ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่ปวดหัวที่สุดเรื่องนึง ซึ่งไม่ได้หมายถึงไอ้สองคนนี้นะที่จะปวดหัว

แต่ผู้จัดการทีมนี่แหละ ที่จะปวดกบาลกับเรื่องนี้!

เมื่อเป็นเช่นนี้ ลองมาดูข้อมูลวิเคราะห์กันว่า สองคนนี้มีฟอร์มการเล่นในลีกเป็นยังไง และมีจุดดีจุดอ่อนแตกต่างกันยังไงบ้างในลีก โดยที่เป็นสถิติที่วัดสดๆวันที่22 พฤษภาคม 2021 หรือในยามที่แมนยูไนเต็ดลงสนามไป 37นัดในพรีเมียร์ลีกแล้ว

1. สถิติเบื้องต้น

David de Gea : ลงสนาม 26 นัด เสีย32ประตู / คลีนชีท9นัด คิดเป็น 34.6%ของการลงเล่นทั้งหมด

Dean Henderson : ลงสนาม 12นัด(สำรอง1) เสีย11ประตู / คลีนชีท4นัด คิดเป็น36.4%ของการลงเล่นทั้งหมด

เบื้องต้นเดเคอาลงสนามในเกมลีกเยอะกว่าดีนเกินครึ่ง แต่ "โอกาสคลีนชีท" ได้เมื่อลงสนาม ดีน เฮนเดอร์สัน มีโอกาสคลีนชีท 36.4% มากกว่าเดเคอาที่คลีนชีท 34.6% แปลว่าทีมมีโอกาสทำคลีนชีทเยอะกว่าถ้าเป็นดีนลงเล่น

ข้อแรกนี้คือสถิติเบื้องต้นในภาพรวมคร่าวๆว่า ใครลงสนามแล้วมีโอกาสคลีนชีทมากกว่ากัน ซึ่งก็คือน้องดีนนั่นเอง

2. การเซฟและอัตราการเสียประตู

David de Gea : เสียประตูเฉลี่ย 1.25 ลูกต่อนัด / อัตราการเซฟลูกยิงที่ยิงตรงกรอบสำเร็จ 67.1%

(โดนยิงตรงกรอบ85 เสีย32)

Dean Henderson : เสียประตูเฉลี่ย 0.96 ลูกต่อนัด / อัตราการเซฟลูกยิงที่ยิงตรงกรอบสำเร็จ 76.6%

(โดนยิงตรงกรอบ47 เสีย11)

เฉลี่ยต่อเกมแล้ว ดีนเสียประตูน้อยกว่าเดเคอาพอสมควร อยู่ที่ 0.96ลูกต่อเกม ซึ่งเดเคอาเสียถึง 1.25ลูกต่อเกม ต่างกันพอสมควร และแปลว่าเทียบกันแล้ว เกมที่เดเคอาลงสนาม เฉลี่ยแล้วเสียประตูเยอะกว่าดีน

นอกจากนี้"อัตราการเซฟลูกยิงสำเร็จ" ดีน เฮนเดอร์สันก็เซฟได้ดีกว่าเดเคอาชัดเจนพอสมควรที่ 76.6% ในขณะที่เดเคอาเซฟได้เพียงแค่ 67.1%เท่านั้น นั่นแปลว่า ถ้าคู่แข่งยิงมาตรงกรอบ โอกาสที่ดีโน่จะเซฟได้มีเยอะกว่าเดเคอา

3. รูปแบบการเสียประตู

David de Gea : เสีย32ประตู ในนี้มีจุดโทษ4ลูก, ฟรีคิก1ลูก, ลูกเตะมุม5ลูก, Own Goals 2ลูก

Dean Henderson : เสีย11ประตู ในนี้เป็นเตะมุม4ลูก

เนื่องจากเดเคอาลงสนามเยอะกว่าน้องดีน จึงเจอครบทุกรสชาติ บริการทุกระดับประทับใจ ข้อนี้ให้ดูเฉยๆในเบื้องต้นว่าแต่ละคนเสียประตูจากอะไรบ้าง แต่น่าสนใจว่า น้องดีนเล่น ทีมไม่โดนจุดโทษเลย ในขณะที่ไม่เสียogด้วย แถมยังไม่เสียเตะมุมจากฟรีคิกอีก แต่โดนลูกเตะมุมแทน และเยอะพอๆกันกับเดเคอา

4. การเตะบอลยาว (Kicking)

David de Gea : เตะจุดพลุสำเร็จ 43.3%(เตะไกลเกิน40หลาตรงเป้าหมาย) / ระยะทางเฉลี่ยลูกตั้งเตะจากประตู 34.6หลา

Dean Henderson : เตะจุดพลุสำเร็จ 36.7% / ระยะทางเฉลี่ยของลูกตั้งเตะจากประตู 32.8หลา

จะเห็นได้ว่าการเตะเปิดบอลยาว เดเคอาเตะบอลจุดพลุออกมาแม่นกว่าพอสมควร ในขณะที่ระยะเตะจากลูกตั้งเตะจากประตูก็ดูเหมือนจะเตะได้ไกลกว่าดีน เฮนเดอร์สัน

5. การออกมาตัดบอลห่างปากประตู

David de Gea : ระยะยืนห่างจากปากประตูเฉลี่ย 14.1 หลา / การออกมาป้องกันนอกเขตโทษเฉลี่ย 0.35 ครั้งต่อเกม / อัตราการออกมาตัดลูกครอสสำเร็จ 4.6%

Dean Henderson : ระยะยืนห่างจากปากประตูเฉลี่ย 15.7 หลา / การออกมาป้องกันนอกเขตโทษเฉลี่ย 1.22 ครั้งต่อเกม / อัตราการออกมาตัดลูกครอสสำเร็จ 8.7%

ข้อนี้ค่อนข้างชัดเจนอยู่แล้วจากตาเห็น และในเชิงสถิติว่า ดีน เฮนเดอร์สัน ออกมาเล่นห่างปากประตูตัวเองได้ดีกว่า ระยะห่างจากประตูมากกว่า ออกมาป้องกันนอกกรอบเขตโทษเยอะกว่าราวๆ4เท่า และออกมาตัดลูกครอสสำเร็จดีกว่าสองเท่า

ถือว่าดีโน่มีสกิลของ "Sweeper Keeper" อยู่เต็มตัวอย่างชัดเจนจากสถิติและสิ่งที่เห็นได้ชัดเจนในสนาม

6. ความน่าจะเป็นที่ควรจะเซฟประตูได้

ค่าที่นำมาคิดตรงนี้คือ "PSxG" (Post-Shot Expected Goals) คือจำนวนที่น่าจะเป็นประตูทั้งหมด โดยคำนวณจากลูกที่ผู้รักษาประตูควรจะเซฟได้

David de Gea : PSxG 29.8 เสียประตูจริง 32

นั่นคือ เดเคอาเสียประตูเยอะกว่าค่าที่คำนวณว่าควรเซฟได้ (เสีย 32ลูก จากความน่าจะเป็นที่ควรเสียประตูอยู่ที่ราวๆ29.8ลูก จึงแปลว่าเดเคอาควรจะทำได้ดีกว่านี้ ควรจะเซฟได้มากกว่านี้ราวๆ "2.2ประตู" จากการคำนวณปัจจัยต่างๆ

สรุปคือ เดเคอาพลาดลูกที่ควรเซฟได้ประมาณ 2.2 ประตู

Dean Henderson : PSxG 11.3  เสียประตูจริง 11

ค่าคำนวณประเมินว่าดีนควรจะเสียถึง 11.3 ประตู แต่เสียประตูจริง 11ประตู นั่นแปลว่าอีก0.3ประตูที่ควรจะเสียเพิ่มกว่านี้ ดีน เฮนเดอร์สัน เซฟได้

สรุปคือ ดีนเซฟได้มากกว่าค่าความน่าจะเป็นที่คำนวณราวๆ 0.3 ประตู

วัดกันตรงนี้ก็ค่อนข้างชัดเจนว่าเดเคอามีลูกที่ควรจะเซฟให้แมนยูได้อยู่อีก2ลูกกว่าๆ(2.2) แต่ทำไม่ได้ ในขณะที่ ดีน เฮนเดอร์สัน ทำให้เราเสียประตูน้อยกว่าที่ควรจะเสียถึง 0.3

เป็นคำตอบที่"วัดความเหนียว" ของทั้ง2คนได้ดีว่า เดเคอามีลูกที่เซฟพลาดจากการที่ควรเซฟได้ค่อนข้างเยอะกว่าดีน

7. การจ่ายบอล

การจ่ายบอลแบ่งเป็นสามระดับ บอลสั้น 5-15หลา / ระยะกลาง 15-30หลา / จ่ายยาว มากกว่า30หลา

David de Gea : จ่ายบอลสำเร็จ77.1% / จ่ายสั้น99.2% จ่ายระยะกลาง96.3% จ่ายบอลยาว53.8%

Dean Henderson : จ่ายบอลสำเร็จ75.4% / จ่ายสั้น100% จ่ายระยะกลาง100% จ่ายบอลยาว41.5%

รูปแบบการจ่ายบอล

David de Gea : ลูกเรียด59.7%, ลูกโด่ง(เกินไหล่)36% / ใช้เท้าซ้ายจ่ายบอลเมื่อเทียบกับขวา 7.9%

Dean Henderson : ลูกเรียด63.7%, ลูกโด่ง(เกินไหล่)33.8% / ใช้เท้าซ้ายจ่ายบอลเมื่อเทียบกับขวา 11.1%

เรื่องของการจ่ายบอล เดเคอาจ่ายบอลได้แม่นยำมากกว่าดีนในภาพรวม จ่ายบอลทั้งหมด594่ครั้ง สำเร็จ458 ส่วนดีนจ่าย 284 สำเร็จ 214 ครั้ง คิดเป็นเปอร์เซ็นต์จะน้อยกว่าเดเคอาประมาณ 1.7% ก็เกือบจะไม่ต่างกันมาก

ลูกจ่ายยาวถือว่าเดเคอาวางบอลยาวแม่นกว่าดีนค่อนข้างมาก (53.8% กับ 41.5%) และลูกจ่ายส่วนใหญ่ของเดก็เป็นลูกโด่งด้วย สะท้อนภาคการเล่นได้ดี และน้องดีนก็ถือว่าเตะบอลยาวยังไม่แม่นสักเท่าไหร่ตามสถิติที่ชัดเจน

ยังไงก็แล้วแต่ ใช่ว่าดีนจะแย่กว่าซะทุกอย่างในด้านpassingนี้ เพราะการให้บอลใกล้ๆถือว่าดีนแน่นอนมาก ในระยะไม่เกิน30หลา ทั้งระยะใกล้ ระยะกลาง ดีน เฮนเดอร์สัน จ่ายบอลไม่พลาดเลยแม้แต่ครั้งเดียว (all 100%) นั่นแปลว่าดีนดีกว่าเดเคอาในแง่ของการให้บอลเท้าต่อเท้า และเซ็ตบอลจากแดนหลังขึ้นหน้ามานั่นเอง

เรื่องนี้ต้องวัดกันที่แทคติก และหากแมนยูไนเต็ดจะยึดการเล่นที่เซ็ตบอลจากหลังบ้านจริงๆ ดีน เฮนเดอร์สันดูจะfitกับแทคติกที่ว่านี้มากกว่าเพราะต้องมีการจ่ายบอลให้บอลกันตลอดเวลา และผู้รักษาประตูต้องมีส่วนร่วมในการเล่นสูง อย่างที่เราทราบๆกันว่าคู่แข่งเดียวนี้เล่นHigh Pressingกันถึงหน้าประตู

อนึ่ง หากดูข้อมูลจากเว็บwhoscoredที่คำนวณด้วยสถิติคนละตัว แต่ผลก็ออกมาคล้ายๆกัน เดเคอาก็ยังจ่ายบอลสำเร็จเยอะกว่าอยู่ดีที่ 75.4% ดีน 67.5% / บอลยาว เดเคอา 3.2ต่อเกม ดีน1.9ต่อเกม / จำนวนการจ่ายต่อเกม เดเคอา 19.3 ครั้ง ดีน 19.5ครั้ง

8. ผลลัพธ์ของทีมในยามลงเล่น

David de Gea : คะแนนเฉลี่ยของทีมจากการลงเล่น 1.73 คะแนนต่อเกม, ผลต่างประตูได้เสียต่อ90นาที +0.55

Dean Henderson : คะแนนเฉลี่ยของทีมจากการลงเล่น 2.42 คะแนนต่อเกม, ผลต่างประตูได้เสียต่อ90นาที +1.22

ข้อนี้ชัดเจนว่า ดีน เฮนเดอร์สัน ลงสนามแล้วทีมจะได้แต้มเฉลี่ย 2.42ต่อเกม เฉลี่ยได้แต้มสูงกว่าเดเคอา 0.69คะแนน และในแต่ละนัดๆเฉลี่ยผลต่างประตูของทีมที่จะได้ในแต่ละนัด ดีนลงทีมจะได้ +1.22ประตูต่อเกม ส่วนเด +0.55

ในเชิงประสิทธิภาพของทีม หากดีนลงสนาม ทีมจะได้แต้มมากกว่า ได้ประตู+ มากกว่ายามที่ทีมใช้เดเคอาลงสนาม

9. สถิติอื่นๆ

David de Gea : เพรสบีบคู่แข่ง 0ครั้ง / จ่ายบอลที่นำสู่การได้ประตู 1 ครั้ง / รับบอลจากเพื่อนสำเร็จ 99.6% (รับพลาด1ครั้ง)

Dean Henderson : เพรสบีบคู่แข่ง 4ครั้ง สำเร็จ1 / จ่ายบอลนำสู่การได้ประตู 0 ครั้ง / รับบอลจากเพื่อนสำเร็จ 100%

จุดที่น่าสนใจคือ น่าตกใจว่าดีน เฮนเดอร์สัน ออกมาบีบมุมใส่คู่แข่งคนที่มีบอลกับตัวถึง4ครั้ง แถมบีบสำเร็จครั้งนึงด้วย แต่ในแง่ของการมีส่วนกับเกมรุก เดเคอาดูจะทำได้เยอะกว่า เพราะมีสถิติ SCA การจ่ายบอลที่สร้างโอกาสได้ยิง (Shot Creating Actions) ถึง 2ครั้ง เป็นจังหวะบอลตายหนึ่งครั้ง และบอลไม่นิ่งหนึ่งครั้ง ซึ่งก็น่าจะเป็นลูกที่วางยาวให้บรูโน่สะกิดบางๆ(แบบไม่โดน) ให้คาวานี่ยิง "Goal of the season" ลูกนั้นนั่นเอง

ส่วนดีน เฮนเดอร์สัน มีการจ่ายบอลสร้างโอกาสยิงครั้งเดียว ซึ่งวิเคราะห์ว่าน่าจะเป็นเพราะความแม่นยำของการวางบอลยาวที่เดเคอาทำได้ดีกว่าด้วย สถิติตรงนี้จึงเหนือกว่าดีน

ส่วนสถิติจากแหล่งอื่น มีเรตติ้งเฉลี่ยจากwhoscored เดเคอาได้คะแนน 6.47  ส่วนดีนได้คะแนน 6.66 / Aerial Won เดเคอา 0.2ต่อเกม ดีน0.6ต่อเกม / เคลียร์บอล เดเคอา 0.5 ดีน 0.6 ครั้งต่อเกม / แทคเกิล(?) เดเคอา 0 ดีน 0.1ต่อเกม / เลี้ยงบอลผ่านคู่แข่ง(!?) เดเคอา 0 ดีน 0.1

10. สถิติในบอลยุโรป

David de Gea : ลงเล่น 9 นัด เสีย13ประตู  เสียประตูต่อเกม 1.44ลูก / อัตราการเซฟลูกยิงตรงกรอบ 70% / โอกาสคลีนชีท 33.3% / ความน่าจะเป็นที่เสียประตู (PSxG) 13.2 เสียจริง 13 (ดีกว่าค่าคำนวณ0.2)

Dean Henderson : ลงเล่น 5 นัด เสีย3ประตู เสียประตูต่อเกม 0.6ลูก / อัตราการเซฟลูกยิงตรงกรอบ 80% / โอกาสคลีนชีท 60% / ความน่าจะเป็นที่เสียประตู (PSxG) 2.7 เสียจริง 3 (แย่กว่าค่าคำนวณ 0.3) 

สถิติอื่นๆในบอลยุโรป

de Gea — จ่ายบอลสำเร็จ 77.3% / สร้างโอกาสยิงให้ทีม 3 / ตัดบอลนอกกรอบเฉลี่ย 0.56 / ตัดลูกครอสสำเร็จ 3% / เตะจุดพลุ(40หลา+) 51.6% / บอลสั้น 100% บอลกลาง 96.9% บอลยาว 58.1%

Dean จ่ายบอลสำเร็จ 78% / สร้างโอกาสยิงให้ทีม 2 / ตัดบอลนอกกรอบเฉลี่ย 0.8 / ตัดลูกครอสสำเร็จ 12.5% / เตะจุดพลุ(40หลา+) 39.6% / บอลสั้น 100% บอลกลาง 98.1% บอลยาว 55.9%

Conclusion

สรุปผลลัพธ์ถือว่ามีทั้งที่เป็นไปตามคาดหมาย และมีสิ่งที่เหนือความคาดหมายอยู่พอสมควร แต่ก็ทำให้เราได้เห็นการเปรียบเทียบที่ชัดเจนมากๆ ผู้เขียนเองก็เพิ่งจะรู้เหมือนกันจากการที่นั่งทำข้อมูลไปพร้อมๆกับผู้อ่านด้วย

เมื่อวิเคราะห์สถิติการเล่นทั้งหมดของ David de Gea กับ Dean Henderson นั้น ค่อนข้างชัดเจนว่า Dean Henderson มีสถิติการลงเล่นที่มีประสิทธิภาพเหนือกว่าใช้เดเคอาลงสนามอย่างชัดเจนมากๆในพรีเมียร์ลีก (รวมถึงบอลยุโรปด้วย)

การเสียประตูเฉลี่ย เดเคอาเสียมากกว่าดีนเยอะอยู่ที่ 1.25 ลูกต่อนัด ส่วนดีนเสียเฉลี่ย 0.96 ลูกต่อนัด ในขณะที่เรทการเซฟดีนก็ดีกว่าเดเคอา เซฟได้ 76.6% ซึ่งเยอะกว่า 67.1% ของเดเคอาพอสมควร

คะแนนเฉลี่ยต่อเกมในการลงสนาม ดีนลงแล้วทีมได้แต้มเฉลี่ยอยู่ที่ 2.42 แต้มต่อเกม เทียบกับเดเคอาลงสนามเฉลี่ยแล้วได้ 1.73 แต้มต่อเกม สองคนนี้ลงสนามแล้วทีมได้แต้มต่างกัน 0.69คะแนนต่อเกมถือว่าห่างกันเยอะพอควร หมายความว่า หากดีนลงสนาม เฉลี่ยต่อเกมเราจะได้แต้มเพิ่มขึ้นราวๆ 0.7 ซึ่งก็ใกล้ๆจะเป็น 1แต้ม ต่อเกม

หมายความว่าดีนยิ่งลงเยอะเท่าไหร่ แต้มต่อเกมที่ได้ก็จะบวกเพิ่มไปอีก1แต้มเฉลี่ยต่อนัด หากว่าลงเยอะๆแต้ม0.7ตรงนี้ก็จะทบไปเรื่อยๆและก็น่าจะบีบคู่แข่งเข้าไปใกล้กว่าเดิมเยอะพอควร

จุดที่เห็นได้ชัดในลีกคือค่า PSxG ที่น่าจะเซฟประตูได้นั้น เดเคอาเสียประตูเยอะกว่าที่ค่าคำนวณว่าควรจะเซฟได้ถึง 2.2 ลูก นั่นคือจำนวนที่เขาพลาดไปและเซฟไม่สำเร็จ (ไม่งั้นเขาควรจะเสียแค่ราวๆ29.8 แต่เสีย32) แต่ดีน เฮนเดอร์สันดูดีกว่าตรงนี้ที่เสียแค่ 11 จากความน่าจะเป็นถึง 11.3 นอกจากจะไม่พลาดแล้วยังเซฟได้มากกว่าที่ควรจะเซฟได้ถึง 0.3ประตูโดยเฉลี่ย

ส่วนเรื่องของ "รูปแบบการเล่น" ตามที่เราเห็นๆกันในสนาม สถิติก็ฟ้องอยู่พอควร เมื่อดีน เฮนเดอร์สัน ออกมาเล่นห่างจากปากประตูไกลกว่า บ่อยครั้งกว่า และออกมาจัดการลูกครอสสำเร็จมากกว่าเดเคอาเยอะมากตามสถิติในข้อ5.ทั้งหมด

แต่จุดที่ด้านของเดเคอาดีกว่าอย่างเห็นได้ชัดคือการเตะบอลยาวทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นการหวดจุดพลุยาวๆ หรือการวางบอลยาว เปอร์เซ็นต์การจ่ายสำเร็จเดเคอาชนะดีน เฮนเดอร์สันเกลี้ยง ซึ่งนั่นส่งผลรวมไปถึงการสร้างโอกาสยิงให้ทีมด้วยซึ่งรวมแล้วเดทำได้ถึง 5ครั้งในทุกรายการ ส่วนดีนมี3ครั้ง

แต่ถ้าเป็นการจ่ายระยะสั้น ระยะกลาง ดีน เฮนเดอร์สันจ่ายได้แม่นยำและแทบจะไม่พลาดเลย ซึ่งก็น่าจะเหมาะกับทีมในการที่จะใช้การเล่นโดยการเซ็ตบอลจากแดนหลัง ดีนจะช่วยจ่ายบอลกับกองหลังได้ดี เพราะจ่ายสั้นเท้าต่อเท้าแม่นกว่าเดเคอาที่ถนัดการสาดยาวแม่นๆมากกว่า

ที่น่าแปลกใจสำหรับผู้เขียนก็คือ แม้แต่สถิติในบอลยุโรป ดีน เฮนเดอร์สัน ยังมีสถิติที่ดีกว่า ดาวิด เดเคอา จากการที่เราคาดการณ์และวิเคราะห์กันเอาไว้ว่า เดเคอาดู "น่าจะเหมาะกับการใช้ในบอลยุโรปมากกว่า" ซึ่งเน้นการเล่นกันด้วยระบบการเล่น ทีมเวิร์ค และชั้นเชิงการเล่นต่างๆ

ส่วน ดีน เฮนเดอร์สัน "น่าจะเหมาะกับบอลลีกสไตล์อังกฤษมากกว่า" ที่เน้นบอลกรรมกร โยนกันตูมๆ หวดปะทะกันด้วยร่างกายเน้นๆ ดีน เฮนเดอร์สันที่มีสไตล์การเล่นเป็น Sweeper Keeper ที่กล้าออกมาเล่นนอกเส้นและออกมาตัดลูกโด่งมากกว่าเดเคอา

ความเป็นจริงตรงนี้ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงไป ตามสไตล์ถนัดของการเล่น แต่ที่น่าสนใจก็คือ สถิติดีโน่ก็ยังดูดีกว่าเดเคอาอยู่ดีในหัวข้อ10ที่รวบรวมสถิติของบอลยุโรปในทุกๆด้านมาให้

ปัญหาคือ "จำนวนตัวอย่าง" มันน้อยเกินไปในบอลยุโรป ซึ่งก็คือจำนวนนัดที่ทั้งสองคนลงสนาม มีแค่ 9 กับ 5 เท่านั้นเอง ดังนั้นสถิติของบอลยุโรปอาจจะมีไว้ประกอบการพิจารณาเท่านั้น แต่สิ่งที่สะท้อนได้ดีเพราะจำนวนsamplesมากกว่าก็คือเกมลีก ที่ลงเล่นกันไปเยอะๆนั่นเอง ตรงนั้นสะท้อนการเล่นได้ดีกว่า

ทั้งหมดนี้คือการเปรียบเทียบในเชิง "สถิติตัวเลข" และผลลัพธ์ก็ค่อนข้างชัดเจน เราต้องยอมรับว่า สถิติการเล่นจริงในสนามของ ดีน เฮนเดอร์สัน นั้นเหนือกว่าดาวิด เดเคอาไปแล้วในสนาม

แต่นั่นคือข้อมูลในภาคของ Performance ในสนามเท่านั้น เรายังไม่สามารถตีขลุมเหมารวมได้ซะทีเดียวทั้งหมดว่า ตอนนี้ ดีน เฮนเดอร์สัน เก่งกว่า ดาวิด เดเคอา ไปแล้ว

เพราะอะไร? เพราะนี่คือผลลัพธ์ของการลงสนามเท่านั้น ซึ่งมันสะท้อนในแง่ที่ว่าใครผลงานดีกว่ากันในสนาม ใครเซฟได้ดีกว่า ใครคลีนชีทได้มากกว่า พาทีมได้แต้มเฉลี่ยเยอะกว่า ฯลฯ แต่มันก็ยังเป็นเพียงในแง่ของผลลัพธ์การแข่งเท่านั้น

ในฝีมือการเซฟจริงๆยังมีปัจจัยอื่นๆที่นอกเหนือจากนี้อีกเยอะ ทั้งในเรื่องของความคิดในการอ่านเกม / ประสบการณ์ในการรับมือกับสถานการณ์จริง / ปฏิกิริยาตอบสนองในการเซฟลูกยิงระยะใกล้ / การเซฟลูกยิงฟรีคิก จุดโทษ ที่ก็วัดกันยาก เพราะอย่างเช่น จุดโทษ เดเคอาเจอไป4ครั้ง เสีย4 แต่ดีนยังไม่เจอจุดโทษเลยสักครั้ง

มันก็ตัดสินว่า ดีนเซฟจุดโทษเก่งกว่าเดเคอาไม่ได้อยู่ดี

สิ่งที่ผู้เขียนต้องการจะสื่อก็คือ จากบทความนี้แม้ผมจะเป็นคนทำข้อมูลมาให้เห็นชัดเจนว่า สถิติตัวเลขมันดีกว่ากันอย่างที่เห็น แต่ปัจจัยของ "ความเก่ง" มันยังมีอยู่อีกเยอะ 

รวมถึงสภาพแวดล้อมและบริบทของทีมที่สองคนนี้เจอด้วยในแต่ละนัดก็ต่างกันออกไปอีกในเชิงแทคติกและการเล่นของคู่แข่ง

ยกตัวอย่างเช่น หากเดเคอาไปอยู่กับทีมที่เน้นการ "ตั้งรับลึก" ยืนต่ำๆ เขาก็จะฟอร์มโหดมากๆเพราะไม่ต้องออกมานอกเส้นประตูเยอะ และสามารถใช้สกิลความเป็นโกลสาย Shot Stopper ได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยกับทีมที่เล่นดรอปแนวรับลึกๆ(เช่นทีมน้ามู)

ในขณะที่ ดีน เฮนเดอร์สัน ถ้าเล่นกับทีมที่ตั้งรับลึกหนักๆ เขาอาจจะมีสถิติที่แย่กว่าเดเคอาก็ได้ เพราะไม่มีพื้นที่ให้ออกมาตัดบอลแบบที่โกลสาย SK ถนัด

เพราะฉะนั้นแล้ว บทความนี้คือภาควิเคราะห์ในเชิงสถิติการเล่นเท่านั้น แต่ก็ยังไม่สามารถฟันธงได้เลยทันทีว่า ดีน เฮนเดอร์สัน เก่งกว่าดาวิด เดเคอาไปแล้ว เพราะอย่างน้อยที่สุด ประสบการณ์กับเกมระดับสูง ดีน ก็ยังห่างไกลกับเดเคอาเยอะมาก

สถิติที่ง่ายที่สุดคือ จำนวนการลงเล่นในพรีเมียร์ลีก เดเคอาซัดไป 339นัดแล้ว แต่ดีนลงเล่นไปแค่ "48นัด" เท่านั้นเอง

ถ้านั่นยังตกใจไม่พอ ในแชมเปี้ยนสลีก ชั่วโมงบินของเดเคอากดไปแล้ว 48เกม ส่วนดีนเพิ่งเคยลงเล่นแค่ "เกมเดียว"

และเมื่อเทียบกับทีมชาติ เดเคอาก็เล่นทีมชาติสเปนไปแล้ว 45เกม ส่วนดีน เฮนเดอร์สันก็ "เกมเดียว" เหมือนกัน

เห็นอะไรไหมครับ?

เพราะฉะนั้นมันจะไม่แปลกใจเลยถ้าหากโอเล่ กุนนาร์ โซลชา จะใช้เดเคอาลงในเกมรอบชิงยุโรป ซึ่งรับประกันได้เลยว่า เดเคอาลงแน่ๆ เพราะสถิติในบอลยุโรปปีนี้สองคนก็ไม่ถึงกับแตกต่างอะไรกันมาก และยังไงเดเคอาก็ลงเล่นในบอลยุโรปมาเยอะด้วย แถมการเจอกับบียาร์เรอัล คู่แข่งในรอบชิงก็ไม่ได้มีบอลไดเร็คต์ หรือ  เซ็ตพีซอะไรต่างๆที่น่ากลัวเลย (จากการที่ไปscoutรอมานานแล้ว บอกได้เลยว่าไม่ต้องกลัวเรื่องนี้มาก)

ถ้าดูจากความเหมาะสมกับสไตล์บอลที่จะเจอในเกมยุโรป บวกกับประสบการณ์เป็นล้านของเดเคอาที่มีมาตลอดเส้นทางอาชีพที่อยู่ในระดับสูงมานานมากๆแบบที่ดีนยังไม่เข้าไปแตะคำว่าใกล้เคียงเลยนั้น ถ้าเราเป็นผู้จัดการทีมก็คงจะส่งเดลงก่อนแหละในรอบชิงนี้

ผลสรุปของบทความนี้จึงเป็นการนำเสนอผลลัพธ์สถิติที่ชัดเจนซึ่งสามารถนำไปอ้างอิงได้ว่าสถิติใครดีกว่ากัน แต่จะถึงขนาดมันแปลว่า "ดีนเก่งกว่าเดเคอาไปแล้ว" หรือไม่ อันนี้ตอบได้เลยว่า ยังไม่สามารถพูดแบบนั้นได้ อย่างที่อธิบายไปแล้ว

ถ้าจะฟันธงว่า "ใครเก่งกว่าใคร" มันชี้ชัดลงไปได้ยากครับ แต่ถ้าเป็นperformanceการลงสนามว่า ใครลงแล้วทำผลงานได้ดีกว่ากัน ทำให้ทีมเสียประตูน้อยกว่า มีโอกาสได้คะแนนเยอะกว่า สถิติแทบทุกอย่างสามารถวัดได้อย่างเป็นรูปธรรมว่า ดีน เฮนเดอร์สัน ลงสนามแล้วทีมมีผลการเล่นที่ดีกว่าอย่างชัดเจน

ทั้งนี้ทั้งนั้น ดีน เฮนเดอร์สันเพิ่งจะ"เริ่มต้น" เท่านั้น มันก็เอาไปเทียบกับเดเคอาเลยยาก เพราะอายุกับประสบการณ์แตกต่างกันเยอะ (24 กับ 30)

ในยามที่สองคนนี้ถูกนำมาเปรียบเทียบกันนานตั้งแต่ดีนยังไม่กลับมาเล่นที่แมนยูเลยด้วยซ้ำจนกระทั่งตอนนี้ก็ยังถูกเปรียบเทียบอยู่ ซึ่งสิ่งที่แฟนผีควรจะทำหลังจากอ่านบทความนี้จบ ไม่ใช่การนำเอาเรื่องนี้ไปทะเลาะกันว่า ใครเก่งกว่าใคร  แต่เพื่อให้พวกเราเข้าใจสถิติการเล่นที่ชัดเจน และแฟนควรจะดีใจว่ามีผู้รักษาประตูระดับมือหนึ่งอยู่ในทีมถึงสองคนมากกว่า

คนหนึ่งแบกทีมเราผ่านยุคมืดมานักต่อนักแล้ว ในขณะที่อีกคนนึงเป็นผู้รักษาประตูสายเลือดสโมสรที่มีPotentialสูงมากในการจะพัฒนาต่อในอนาคต หากว่าได้ชั่วโมงบินมากขึ้นเรื่อยๆและเต็มเม็ดเต็มหน่วยต่อจากนี้

คิดเอาเองว่า จากสถิติที่ตอนนี้ดีกว่าเดเคอาอยู่แล้ว หากได้รับการสั่งสมประสบการณ์ไปจนเท่าๆกับเดเคอาในอนาคตอีก 3-5ปี ดีน เฮนเดอร์สันจะโหดขนาดไหนในช่วงพีคของผู้รักษาประตูที่จะเริ่มมาตั้งแต่แถวๆอายุ 28-34 ซึ่งก็อีกราว4ปีกว่าจะถึงจุดนั้น ดังนั้นมีเวลาให้ดีนอีกเหลือเฟือในการอัพเกรดตัวเองเป็นร่างสอง ร่างสามได้

เราก็เชียร์กันต่อไปสำหรับ ดีน เฮนเดอร์สัน

และสุดท้ายนี้สำหรับเดเคอา เรารู้กันอยู่แล้วว่าอนาคตของเขาดูจะไม่แน่นอนเอาซะเลยเมื่อตกเป็นตัวสำรองในลีกไปแล้ว และลงเป็นมือหนึ่งในถ้วยแทน ซึ่งก็คือการแบ่งสัมปทานมือหนึ่งแบบโครงการคนละครึ่ง กับดีโน่ แต่ด้วยค่าเหนื่อย350kต่อสัปดาห์ และการที่ได้ลงสนามน้อยลง ได้ลงแค่บอลถ้วยนั้น สำหรับโกลมือหนึ่งอย่างเดเคอาจะยินยอมอยู่ในสถานะนี้ต่อไปได้ขนาดไหน

ถ้าเดเคอาอยู่กับเราต่อ เราจะดีใจมากๆที่แอเรียผู้รักษาประตูของทีมถือว่า "โหดสัส" ที่สุดในลีกแล้ว เพราะมีมือระดับพระกาฬรอสลับกันเฝ้าเสาสบายๆสองคน และเลือกใช้ให้เหมาะสมกับเกมการแข่งขันด้วยการ put the right man on the right job เช่นการ put Deano on EPL และ put Dave on UCL แบบนี้ได้เลยถ้าเดยินดีอยู่ต่อ

เพียงแต่ว่าการมีโกลค่าเหนื่อย 350k อยู่ในทีมด้วยสถานะลงเล่นแค่ครึ่งเดียว บอร์ดบริหารคงไม่น่าจะโอเคเท่าไหร่ในแง่ของความคุ้มค่าที่ต้องรักษาstructureของค่าเหนื่อยสโมสรให้สมดุลและ "สมเหตุสมผล"

หากเป็นในแง่ความเหมาะสมเชิงการเงินของทีม แน่นอนว่าเราก็ควรเอาโกลออกหนึ่งคนเพื่อรักษาสมดุลของบัญชีสโมสรเอาไว้ไม่ให้แดงเถือก ยิ่งในช่วงเวลายังไม่ฟื้นจากโควิดเช่นนี้ด้วยแล้ว

ปัญหาในตอนนี้ก็คือ แลดูแล้วยังไม่มีทีมใหญ่ทีมไหนเลยที่อยู่ในสถานการณ์ "ขาดผู้รักษาประตูมือดี" ที่แน่ๆไม่ใช่กับพวกบาเยิร์น บาร์ซ่า มาดริด พวกนี้แน่นอน รวมถึงทีมในพรีเมียร์ลีกระดับท็อปๆทั้งหลาย ซิตี้ เชลซี ลิเวอร์พูล พวกนี้มีโกลใช้กันอยู่แล้ว ในขณะที่อดีตเป้าหมายเบอร์หนึ่งในการย้ายทีมของเดเคอาอย่าง เปเอสเช ก็เพิ่งต่อสัญญากับ เคย์เลอร์ นาบาส ไปหมาดๆถึง2024

เมื่อไม่มีทีมใหญ่ทีมไหนขาดโกล ในขณะที่หากจะมาซื้อก็ต้องเจอกับค่าเหนื่อยมหาศาลของเดเคอาอีก ดูทรงแล้วมีสิทธิ์สูงมากที่จะไม่มีคนมาซื้อไหว และเดเคอาน่าจะอยู่กับทีมต่อไปอีกปี แม้หลายคนจะมองว่า ปีนี้น่าจะย้ายแน่ๆแล้ว แต่บางครั้งการจำหน่ายนักเตะออกจากสโมสรก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเหมือนเด็กๆเล่นขายของ หลายๆคนคงจะทราบกันดีถ้าจำเคสเก่าๆของการโละพวกอเล็กซิส ลูกากูได้

ดาวิด เดเคอา เพิ่งต่อสัญญาใหม่ และมีสัญญากับโอลด์แทรฟฟอร์ดถึงเดือนมิถุนายนปี 2023 พร้อมออฟชั่นขยายต่อหนึ่งปี ดังนั้นแล้วถ้าปีหน้าอยู่ต่อ เขาก็จะเข้าช่วงปี2022 และจะเหลือสัญญาปีสุดท้ายกับทีมพอดี

จนถึงตอนนั้นคิดว่า น่าจะถึงเวลาพอดีที่มีทีมติดต่อเข้ามา และจะซื้อได้ในราคาไม่แพง (เพราะสัญญาเหลือปีเดียว) ดังนั้นถ้าให้คาดการณ์ สถานการณ์ของน้องเดก็จะอยู่กับที่นี่ต่อไปอีกปีแล้วค่อยย้าย

แต่เราก็ไม่รู้เหมือนกันว่าอนาคตจะเกิดอะไรขึ้น และเจ้าตัวเองเพิ่งจะมีลูกสาวอย่างน้อง Yanay ด้วยซึ่งน่ารักมากๆ บวกกับการที่อยากกลับบ้านเกิดแล้วเช่นกัน

มีโอกาสสูงมากที่หากคว้าแชมป์ยูโรปาลีกกับเราปีนี้ได้สำเร็จ เดเคอาก็อาจจะสั่งลาเกมสุดท้ายกับปีศาจแดงและจากไปพร้อมกับความทรงจำที่พาทีมกลับมาคว้าแชมป์ถ้วยสำคัญ และความทรงจำสุดท้ายที่ทิ้งเอาไว้ให้แฟนผีได้จดจำว่า เขาคือผู้รักษาประตูที่แบกทีมผ่านช่วงเวลาที่โคตรเลวร้ายมามากมาย

แม้อาจจะไม่มีแชมป์ใหญ่ให้เดเคอา แต่ผมก็จะบรรจุเขาเป็นตำนานผู้รักษาประตูแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดอีกคนนึงอยู่ดีที่อยู่กับเราในช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุด

ถึงสักวันนึงเขาจะออกจากสโมสรแห่งนี้ไป แต่เดเคอาก็ได้ส่งต่อความหวังของสโมสรเราในอนาคตให้กับคนรับไม้ต่ออย่าง ดีน เฮนเดอร์สัน แล้ว

-ศาลาผี-

References

https://fbref.com/en/players/7ba6d84e/David-de-Gea

https://fbref.com/en/players/e5a76dfe/Dean-Henderson

https://www.whoscored.com/Players/79554/Show/David-de-Gea

https://www.whoscored.com/Players/304008/Show/Dean-Henderson

https://www.transfermarkt.com/vergleich/spielervergleich/statistik/def/spieler/59377&258919

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด