:::     :::

ฟิล & วิลล์ ... อนาคตของคู่เซนเตอร์แก้ขัด

วันอาทิตย์ที่ 23 พฤษภาคม 2564 คอลัมน์ ศาสดา On The Ball โดย ศาสดาลูกหนัง
1,566
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
"มันเร็วไปที่จะพูดถึงเรื่องอนาคต เราจะคุยกันเรื่องนี้อีกครั้งหลังจบเกมกับคริสตัล พาเลซ ปล่อยให้พวกเขาได้มีสมาธิกับเกมไปก่อน" เยอร์เก้น คล็อปป์
หากว่าผลงานในวันอาทิตย์นี้ ลิเวอร์พูล สามารถเก็บชัยชนะพร้อมกับคว้าตั๋วไปยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกมาครองได้สำเร็จ คงต้องบอกว่าเป็นอีกหนึ่งผลงานชิ้นสำคัญอีกครั้งของเยอร์เก้น คล็อปป์ และลูกทีม

แน่นอนว่าสำหรับคนอื่น การจบจากแชมป์พรีเมียร์ลีก ลงมาอยู่เพียงการลุ้นพื้นที่ยุโรปนั้น อาจจะเป็นเรื่องที่น่าผิดหวังในระดับหนึ่ง แต่ถ้ามองถึงสิ่งที่ลิเวอร์พูลประสบปัญหาแล้วนั้นคงต้องบอกว่ามาถึงตรงนี้ได้ก็ดีแค่ไหนแล้ว อย่าลืมว่าลิเวอร์พูลเจอวิกฤติหนักที่สุด ที่มาจากการบาดเจ็บพร้อมๆ กันของ 3 เซนเตอร์แบ๊กตัวหลักอย่างเฟอร์กิล ฟาน ไดค์, โจ โกเมซ และโจเอล มาติป ซึ่งเชื่อว่าคงไม่มีทีมไหนต้องเจอกับสถานการณ์แบบนี้มาก่อน

เอาง่ายๆ ว่า ลองเทียบดูกับปีก่อน ที่ “เรือใบสีฟ้า”​ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ปล่อยตัวแวงต์ซองต์ กอมปานี ไป แถมยังเสีย อายเมอริค ลาปอร์ต ไปเกือบทั้งฤดูกาล นั่นทำให้แนวรับของพวกเขามีปัญหา จนสุดท้ายจบรองแชมป์ด้วยแต้มตามหลังหงส์แดงถึง 19 คะแนนด้วยกัน

แต่นี่ลิเวอร์พูลต้องขาดไปถึง 3 คนพร้อมๆ กัน ยังมาถึงจุดนี้ได้ อย่างน้อยฤดูกาลนี้มันก็ไม่ได้แย่อย่างที่คาดจริงไหม?
แม้ว่าลิเวอร์พูลเองจะคว้าเซนเตอร์แบ๊กใหม่เข้ามาร่วมทีมถึง 2 รายในวันสุดท้ายของตลาดซื้อขายหน้าหนาว ทั้งโอซาน คาบัก ที่ยืมจากชาลเก้04 และเบน เดวีส ที่ซื้อมาจากเปรสตัน นอร์ธเอนด์ แต่กลับไม่ได้ดีเท่าของที่มีอยู่ในทีมอยู่แล้ว
เพราะลิเวอร์พูลได้ค้นพบพระเอกขี่ม้าขาวในช่วงเวลาวิกฤติอย่างนี้ นั่นก็คือ นาธาเนียล ฟิลลิปส์ กองหลังเด็กปั้นของทีมที่ก้าวขึ้นมากลายเป็นตัวหลักของทีมในช่วงเวลาสำคัญพอดิบพอดี ทั้งๆ ที่ทีมเองก็คว้าเซนเตอร์แบ๊กเข้ามาใหม่ถึง 2 รายในวันสุดท้ายของตลาดซื้อขายหน้าหนาว



จากกองหลังที่เกือบจะถูกปล่อยตัวออกจากทีมไปเมื่อช่วงซัมเมอร์ที่แล้ว ได้อยู่กับทีมต่อเนื่องจากไม่มีทีมใดคว้าตัวไป แล้วก็ไม่มีชื่อในทีมชุดที่จะต้องลงเล่นในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก แต่ตอนนี้ชีวิตของเขาเหมือนพลิกฟื้นขึ้นมา และกลายเป็นหนึ่งในกองหลังที่น่าจะได้ไปต่อในฤดูกาลหน้า

แน่นอนว่าผลงานของเขาเป็นที่ประจักษ์อย่างมากในเวลานี้ จากคำที่เยอร์เก้น คล็อปป์ หล่นเอาไว้ตั้งแต่นัดแรกที่เขาลงสนามกับเวสต์แฮม ยูไนเต็ด ว่านี่คือ"ปีศาจแห่งลูกกลางอากาศ" เขาก้าวขึ้นมาเป็นกองหลังที่ดวลลูกกลางอากาศชนะเฉลี่ยต่อนัด 5.8 ครั้งด้วยกัน ตั้งแต่ได้ออกสตาร์นัดแรก จนถึงตอนนี้ 14 นัดที่ได้เป็นตัวจริงในพรีเมียร์ลีก มีเพียง 2 นัดเท่านั้นที่จบลงด้วยความพ่ายแพ้ แถมตอนนี้ยังกลายเป็นนักเตะลิเวอร์พูลที่มีเรตติ้งจากเว็บไซต์ Whoscored สูงสุดคือ 7.31 อีกด้วย

อีกคนหนึ่งที่ต้องชมเลยก็คือ รีห์ส วิลเลี่ยมส์ ถึงตอนนี้หลายคนจะบอกว่ายังไม่ค่อยน่าไว้ใจ แต่การที่คล็อปป์ ไว้ใจให้เขาลงเล่นต่อเนื่องมา 3 เกมติดต่อกัน แล้วทีมก็สามารถเก็บชัยชนะได้ทั้งหมด นับได้ว่าเป็นหนึ่งการตัดสินใจที่ยอดเยี่ยมของคล็อปป์ เช่นกัน

ตอนช่วงปรีซีซั่นต้องบอกว่ารีห์สเองก็เหมือนจะโดนมองข้ามนิดๆ เพราะคนที่ดูจะถูกจับตามองมากกว่าคือ บิลลี่ คูเมติโอ ที่ได้รับโอกาสลงสนาม แต่ว่าพอถึงเวลาเปิดฤดูกาลจริงๆ กลับกลายเป็นวิลเลี่ยมส์ที่ได้รับโอกาสลงเล่นมากกว่าเสียอีก แน่นอนว่ารีห์สยังมีจุดอ่อนอยู่ในเรื่องของประสบการณ์, ความเร็ว, การจับจังหวะ หรือการเข้าบอล บางครั้งก็มักจะทำพลาดง่ายๆ แต่ช่วงหลังถือว่าแก้ตัวได้ดีขึ้นเรื่อย และดูมีอนาคตไม่น้อย



ท่ามกลางข่าวที่หงส์แดงนั้นใกล้ได้ตัว อิบราฮิม่า โคนาเต้ กองหลังชาวฝรั่งเศส จากอาร์เบ ไลป์ซิก เข้ามาร่วมทีม คนเริ่มมองว่าแล้วอนาคตของทั้งสองคนนี้ รวมถึงโอซาน คาบัก และเบน เดวีส เอง จะไปอยู่จุดไหนในฤดูกาลหน้า
เพราะต้องไม่ลืมว่า ตัวหลักๆ อย่างฟาน ไดค์, โกเมซ รวมถึงมาติป เองก็มีโอกาสที่จะกลับมาฟิตสมบูรณ์ได้ในฤดูกาลหน้า รวมกับโคนาเต้อีกนั้น อาจจะทำให้ทั้งคู่กลายไปเป็นตัวเลือกลำดับ 5-6 ของทีมได้เลย ซึ่งตัว คล็อปป์ เองได้พูดถึง แนท ฟิลลิปส์ รวมถึง รีห์ส วิลเลี่ยมส์ เอาไว้ว่า ทั้งสองคนได้รับโอกาสแล้วก็สามารถใช้มันได้ ผมไม่คิดว่าจะมีใครมองว่าฟิลลิปส์นั้นเหมาะเป็นตัวจริงสำหรับลิเวอร์พูล แต่ตอนนี้เขาสามารถทำประตูได้อีกด้วย มันจึงยอดเยี่ยมมากๆ

“มันเร็วไปที่จะพูดถึงเรื่องอนาคต เราจะคุยกันเรื่องนี้อีกครั้งหลังจบเกมกับคริสตัล พาเลซ ปล่อยให้พวกเขาได้มีสมาธิกับเกมไปก่อน แล้วหลังจากนั้นผมสัญญาเลยว่าจะคุยเรื่องนี้กับทุกคนเป็นชั่วโมงเลยยังได้”

มองในแง่ที่ดีที่สุด เชื่อว่าอย่างน้อยฟิลลิปส์ จะได้รับโอกาสให้อยู่กับทีมต่อไปในฤดูกาลหน้าค่อนข้างแน่นอน เว้นเสียแต่ว่าจะมีทีมใดกล้าทุ่มข้อเสนอเพื่อดึงเขาไปร่วมทีม แต่จากฟอร์มตอนนี้ บวกกับสัญชาติอังกฤษ คงต้องมีอย่างน้อย 15 ล้านปอนด์ขึ้นไปแน่นอน และนั่นก็ถือว่าเป็นดีลที่ลิเวอร์พูลกับฟิลลิปส์จะได้ประโยชน์อย่างมาก

ส่วนวิลเลี่ยมส์ ด้วยอายุแค่นี้เชื่อว่าสิ่งที่เหมาะสมที่สุดสำหรับเขาคือการออกไปยืมตัวสักหนึ่งฤดูกาล เพื่อให้ได้โอกาสลงเล่นแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย อาจจะเป็นทีมที่เพิ่งเลื่อนชั้นขึ้นมาอย่าง นอริช หรือวัตฟอร์ด หรือลงไปเล่นในแชมเปี้ยนชิพ ก็จะได้สั่งสมประสบการณ์แน่นอน

แต่ถ้าหากจะเก็บไว้เพื่อป้องกันวิกฤติแนวรับที่อาจจะเกิดขึ้นอีก

ก็เป็นทางเลือกที่ไม่เลวนะ


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})