ศึกบุนเดสลีกาฤดูกาล 2020-2021 ที่เพิ่งปิดฉากไปจะมีการเปลี่ยนแปลงที่อาจเรียกว่าปรากฎการณ์ก็ว่าได้ เนื่องจากสโมสร 6 อันดับแรกจะมีการเปลี่ยนโค้ชทั้งหมด และมีการเปลี่ยนหัวเรือถึง 7 จาก 8 อันดับแรกไล่จาก บาเยิร์น มิวนิค, แอร์เบ ไลป์ซิก, โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์, โวล์ฟสบวร์ก, ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต, ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น และ มึนเช่นกลัดบัค ยกเว้นเฉพาะ อูนิโอน เบอร์ลิน เป็นสโมสรเดียวเท่านั้น 

1.บาเยิร์น มิวนิค

ใหม่ - ยูเลียน นาเกลส์มันน์ 

เก่า - ฮันซี่ ฟลิค 

บาเยิร์น มิวนิค ตั้ง ฮันซี่ ฟลิค รักษาการตำแหน่งโค้ชหลังการปลด นิโก้ โควาช เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2019 ซึ่งทำผลงานในช่วงแรกน่าพึงพอใจจนทีมเสือใต้ประกาศให้ทำงานจนกระทั่งสิ้นสุดฤดูกาลดังกล่าว ก่อนทีมดังแคว้นบาวาเรียจะมอบสัญญาถาวรไปจนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2023 ในช่วงเดือนเมษายน 2020 

ฟลิค ตอบแทนความไว้วางใจด้วยการนำทีมเสือใต้ฟาดแชมป์ 6 รายการในปี 2020 ตบท้ายด้วยการคว้าแชมป์บุนเดสลีกาซีซั่นที่ผ่านมา หลังการตัดสินใจก้าวลงจากตำแหน่งเพื่อย้ายไปสืบทอดอำนาจต่อจาก โยอาคิม เลิฟ ฐานะเทรนเนอร์ทีมชาติเยอรมันคนต่อไป 

เทรนเนอร์วัย 56 ปี ยืนยันการอำลาตำแหน่งเทรนเนอร์ของ บาเยิร์น มิวนิค หลังจบซีซั่นนี้เมื่อวันที่ 17 เมษายนที่ผ่านมา ซึ่ง บาเยิร์น มิวนิค ใช้เวลาเพียง 4 วันประกาศตั้ง ยูเลียน นาเกลส์มันน์ เป็นเทรนเนอร์คนต่อไปด้วยสัญญา 5 ปีที่จะมีผลอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมนี้ 

นาเกลส์มันน์ เริ่มต้นทำงานฐานะเทรนเนอร์กับ ฮอฟเฟนไฮม์ ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ปี 2016 ก่อนย้ายมารับตำแหน่งเทรนเนอร์ของ แอร์เบ ไลป์ซิก เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคมปี 2019 แม้เขายังไม่ประสบความสำเร็จด้วยการคว้าแชมป์ใดๆฐานะเทรนเนอร์ก็ตาม แต่ฝ่ายบริหารทีมเสือใต้ประเมินว่า นาเกลส์มันน์ มีคุณภาพเหมาะสมกับตำแหน่งเทรนเนอร์ของทีมดังแคว้นบาวาเรีย 

2.แอร์เบ ไลป์ซิก

ใหม่ - เจสซี่ มาร์ช

เก่า - ยูเลียน นาเกลส์มันน์ 

แอร์เบ ไลป์ซิก ยืนยันการแต่งตั้ง เจสซี่ มาร์ช โค้ชชาวมะกันวัย 47 ปี เป็นเทรนเนอร์คนใหม่ต่อจาก ยูเลียน นาเกลส์มันน์ หลังกุนซือวัย 33 ปีตัดสินใจย้ายไปทำงานกับ บาเยิร์น มิวนิค ตามความฝันของเขา และ มาร์ช ไม่ใช่คนอื่นคนไกลเนื่องจากทำงานกับสโมสรเครือข่าย 'เร้ด บูลล์' มานาน 6 ปี 

มาร์ช เริ่มต้นงานโค้ชในฐานะผู้ช่วยของ บ็อบ แบร็ดลี่ย์ กุนซือทีมชาติสหรัฐอเมริกา ก่อนย้ายมารับงานโค้ชของ มอนทรีออล อิมแพ็คท์ ช่วงเดือนสิงหาคมปี 2011 แต่แยกทางกันในช่วงเดือนพฤศจิกายนปีถัดมาเนื่องจากความแตกต่างด้าน 'ปรัชญา' ในการทำงานร่วมกันระหว่างโค้ชกับสโมสร เขากลับไปทำงานฐานะสตาฟฟ์โค้ชของ แบร็ดลี่ย์ อีกครั้ง จนกระทั่ง 'เร้ด บูลล์' ดึงมาร่วมงานฐานะเทรนเนอร์ของ นิวยอร์ค เร้ด บูลล์ส ช่วงเดือนมกราคมปี 2015 

ราล์ฟ รังนิก เทรนเนอร์ของ แอร์เบ ไลป์ซิก ดึง มาร์ช มารับบทผู้ช่วยในซีซั่น 2018-2019 ก่อนเทรนเนอร์ชาวมะกันจะย้ายมารับตำแหน่งโค้ชของ ซัลซ์บวร์ก ต่อจาก มาร์โก โรเซ่อ ที่ย้ายไปทำงานกับ มึนเช่นกลัดบัค หลังจบฤดูกาลดังกล่าว เขานำทีมดังออสเตรียคว้า 'ดับเบิ้ลแชมป์' สองปีติดต่อกันจนกระทั่ง แอร์เบ ไลป์ซิก ดึงมารับตำแหน่งโค้ชคนใหม่ 

ด้าน นาเกลส์มันน์ ซึ่งทำงานในฐานะโค้ช แอร์เบ ไลป์ซิก มีส่วนช่วยยกระดับทีมกระทิงแดงเมืองเบียร์ขึ้นมาเป็นสโมสรระดับแนวหน้าของบุนเดสลีกา พวกเขาจบอันดับ 3 กับ 2 ตลอดสองปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะการก้าวขึ้นมาเป็นผู้ท้าชิงเบอร์หนึ่งของ บาเยิร์น มิวนิค ในฤดูกาลล่าสุด 

นาเกลส์มันน์ ยังนำ แอร์เบ ไลป์ซิก เข้าถึงรอบตัดเชือกของรายการแชมเปี้ยนส์ลีกซีซั่น 2019-2020 รวมถึงการทะยานเข้ารอบชิงชนะเลิศของศึก เดเอฟเบ โพคาล ฤดูกาลที่ผ่านมา ภาพรวมการทำงานของเทรนเนอร์วัย 33 ปีดูดีเพียงแต่เขาไม่สามารถประสบความสำเร็จด้วยการคว้าแชมป์เป็นรูปธรรมเท่านั้น 

3.โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์

ใหม่ - มาร์โก โรเซ่อ

เก่า - เอดิน แทร์ซิช 

ดอร์ทมุนด์ แต่งตั้ง แทร์ซิช รักษาการตำแหน่งโค้ชหลังการปลด ลูเซียง ฟาฟร์ ตั้งแต่วันที่ 13 ธันวาคม 2020 ซึ่งโค้ชวัย 38 ปี ทำผลงานตามเป้าหมายด้วยการนำทีมเสือเหลืองคว้าตั๋วไปเล่นแชมเปี้ยนส์ลีกซีซั่นหน้าฐานะทีมอันดับ 3 ของลีกเมืองเบียร์ ต่อด้วยการคว้าแชมป์ เดเอฟเบ โพคาล ส่งท้ายฤดูกาล 2020-2021 ก่อนจะหวนกลับไปทำงานเบื้องหลังกับสโมสรต่อไป 

ทีมเสือเหลืองยืนยันการตั้ง มาร์โก โรเซ่อ โค้ชวัย 44 ปีของ มึนเช่นกลัดบัค เป็นเทรนเนอร์คนใหม่ตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งจะมีผลอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมนี้ 

โรเซ่อ เริ่มงานโค้ชกับ โลโคโมทีฟ ไลป์ซิก เมื่อปี 2012 ก่อนจะย้ายไปทำงานฐานะโค้ชทีมเยาวชนชุดยู-16 ปีของ ซัลซ์บวร์ก ในซีซั่น 2013-2014 พร้อมสร้างชื่อด้วยการนำทีมคว้าแชมป์ ยูฟ่า ยูธ ลีก ประจำฤดูกาล 2016-2017 จนกระทั่งก้าวขึ้นมาเป็นโค้ชทีมชุดใหญ่แทน ออสการ์ การ์เซีย ตั้งแต่ซีซั่น 2017-2018 เขานำต้นสังกัดคว้าแชมป์ ออสเตรีย บุนเดสลีกา 2 สมัย และ ออสเตรียน คัพ หนึ่งครั้ง 

มึนเช่นกลัดบัค ดึง โรเซ่อ มารับตำแหน่งเทรนเนอร์ในช่วงซัมเมอร์ปี 2019 เขานำทีมสิงห์หนุ่มจบอันดับ 4 พร้อมคว้าตั๋วไปเล่นแชมเปี้ยนส์ลีกตั้งแต่การทำงานปีแรก ก่อนจะตอบรับข้อเสนอจาก ดอร์ทมุนด์ ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เพียงแต่เทรนเนอร์วัย 44 ปีสิ้นสุดการทำงานแบบไม่สวยนักเนื่องจาก มึนเช่นกลัดบัค จบฤดูกาลอันดับ 8 พลาดตั๋วเล่นฟุตบอลยุโรปซีซั่นหน้า 

4.โวล์ฟสบวร์ก

ใหม่ - มาร์ค ฟาน บอมเมล

เก่า - โอลิเวอร์ กลาสเนอร์ 

โอลิเวอร์ กลาสเนอร์ เริ่มงานโค้ชกับ เอสเฟา รีด ในปี 2014 ก่อนย้ายมาทำงานกับ แอลเอเอสเค ลินซ์ ในปีถัดมา ฐานะโค้ชควบผู้อำนวยการฝ่ายกีฬาและนำต้นสังกัดเลื่อนชั้นขึ้นมาเล่น ออสเตรีย บุนเดสลีกา ในซีซั่น 2016-2017 เขานำทีมจบอันดับ 4 ในฤดูกาล 2017-2018 พร้อมคว้าตั๋วไปเล่นรายการยูโรปาลีก ซึ่งเป็นครั้งแรกที่สโมสรเข้าร่วมฟุตบอลยุโรปนับตั้งแต่ปี 2000 

กลาสเนอร์ นำต้นสังกัดคว้ารองแชมป์ ออสเตรีย บุนเดสลีกา ในซีซั่น 2018-2019 ตามหลังเฉพาะ ซัลซ์บวร์ก เท่านั้นพร้อมคว้าตั๋วไปเล่นรายการแชมเปี้ยนส์ลีก จากความสำเร็จดังกล่าวทำให้ ยอร์ก ชมัดท์เค่อ ผู้อำนวยการสโมสรดึง กลาสเนอร์ ไปรับตำแหน่งเทรนเนอร์ของ โวล์ฟสบวร์ก หลังจบซีซั่นนั้น 

โค้ชชาวออสเตรียนจะนำทีมจบอันดับ 7 คว้าตั๋วไปเล่นยูโรปาลีกซีซั่นแรกและนำทีมหมาป่าเข้าป้ายอันดับ 4 พร้อมคว้าตั๋วไปเล่นแชมเปี้ยนส์ลีกสำเร็จ ก่อนโค้ชวัย 44 ปีจะตัดสินใจย้ายไปทำงานกับ ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต ด้วยสัญญา 3 ปี

จากนั้น โวล์ฟสบวร์ก ประกาศตั้ง มาร์ค ฟาน บอมเมล วัย 44 ปีเป็นโค้ชคนใหม่ต่อจาก กลาสเนอร์ แม้ว่าเขาจะไม่ประสบความสำเร็จในฐานะเทรนเนอร์ก็ตาม แต่ทีมหมาป่าเมืองเบียร์ยังเชื่อมั่นใจประสบการณ์ค้าแข้งของอดีตมิดฟิลด์ทีมชาติเนเธอร์แลนด์ส

ฟาน บอมเมล เคยมีประสบการณ์ในบุนเดสลีกาหลังค้าแข้งกับ บาเยิร์น มิวนิค ในช่วงปี 2006-2011 หลังเคยเล่นกับ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น และ บาร์เซโลน่า เขาคว้า 'ดับเบิ้ลแชมป์' สองครั้งกับทีมเสือใต้ ก่อนย้ายไปเล่นกับ เอซี มิลาน ตบท้ายด้วย พีเอสวี อีกรอบ

พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น ตั้ง ฟาน บอมเมล เป็นโค้ชคนใหม่ต่อจาก ฟิลิป โคคู ช่วงซัมเมอร์ปี 2018 ก่อนถูกปลดออกจากตำแหน่งในเดือนธันวาคมปีถัดมา เขายังเคยทำงานฐานะผู้ช่วยของ เบิร์ท ฟาน มาร์ไวค์ คุณพ่อตาที่เคยทำงานฐานะโค้ชทีมชาติ ซาอุดิอาระเบีย, ออสเตรเลีย และล่าสุดกับ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 

5.ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต

ใหม่ - โอลิเวอร์ กลาสเนอร์

เก่า - อดอล์ฟ ฮึทเทอร์ 

อดอล์ฟ หรือ อาดี้ ฮึทเทอร์ เป็นอีกหนึ่งโค้ชชาวออสเตรียนที่ประสบความสำเร็จในการทำงานบนเวทีบุนเดสลีกา หลังเริ่มต้นทำงานกับทีมเยาวชน ซัลซ์บวร์ก ต่อด้วย ไรน์ดอร์ฟ อัลทัช, โกรดิก และ ซัลซ์บวร์ก ก่อนย้ายมาทำงานฐานะเทรนเนอร์ของ ยัง บอยส์ ในปี 2015 พร้อมนำต้นสังกัดคว้าแชมป์ สวิส ซูเปอร์ลีก ในซีซั่น 2017-2018 ซึ่งเป็นความสำเร็จครั้งแรกของสโมสรนับตั้งแต่ปี 1986 

จากผลงานดังกล่าวให้ แฟร้งค์เฟิร์ต ดึงไปทำงานฐานะโค้ชคนใหม่หลังจบฤดูกาลนั้นต่อจาก นิโก้ โควาช ที่ย้ายไปรับงานกับ บาเยิร์น มิวนิค แม้จะทำผลงานช่วงออกสตาร์ทแย่ แต่ทีมอินทรีแดง-ดำทำผลงานดีขึ้นตามลำดับและผ่านเข้าถึงรอบตัดเชือกของศึกยูโรปาลีก จนกระทั่งคนอ่านบิลด์ลงคะแนนโหวตเลือกเป็นโค้ชยอดเยี่ยมแห่งปีในซีซั่นนั้น 

แม้ แฟร้งค์เฟิร์ต ยุค ฮึทเทอร์ จะไม่สามารถคว้าตั๋วไปเล่นแชมเปี้ยนส์ลีกตลอด 3 ปีที่ผ่านมาก็ตาม แต่ผลงานภาพรวมยังดูดีจนกระทั่ง มึนเช่นกลัดบัค ดึงไปรับตำแหน่งโค้ชต่อจาก มาร์โก โรเซ่อ ส่วนผู้ที่เข้ามารับงานต่อจาก ฮึทเทอร์ คือเพื่อนร่วมชาติอย่าง กลาสเนอร์ ที่ประสบความสำเร็จกับ โวล์ฟสบวร์ก เนื่องจากเทรนเนอร์วัย 44 ปีมองว่าการทำงานกับทีมอินทรีแดง-ดำท้าทายความสามารถของเขา 

6.ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น

ใหม่ - เคราร์โด้ เซอัวเน่ 

เก่า - ฮันเนส โวล์ฟ 

ฮันเนส โวล์ฟ ถูก เลเวอร์คูเซ่น ดึงมารับตำแหน่งโค้ชรักษาการหลังการปลด ปีเตอร์ บอสซ์ เทรนเนอร์ชาวดัตช์ออกจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 23 มีนาคมที่ผ่านมา หลังโค้ชวัย 40 ปีเคยมีประสบการณ์ทำงานกับ ทีมเยาวชน ดอร์ทมุนด์, สตุ๊ตการ์ท, ฮัมบูร์ก และ เกงค์ ก่อนหน้านั้น ก่อน โวล์ฟ จะนำทีมห้างยาจบฤดูกาลฐานะอันดับ 6 คว้าตั๋วไปเล่นรอบแบ่งกลุ่มยูโรปาลีก 

เลเวอร์คูเซ่น ดึง เคราร์โด้ เซอัวเน่ โค้ชชาวสวิสวัย 42 ปีมาทำงานฐานะโค้ชคนใหม่ด้วยสัญญาจนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2024 หลังการประสบความสำเร็จที่ยอดเยี่ยมร่วมกับ ยัง บอยส์ 

เซอัวเน่ เริ่มต้นงานฐานะโค้ชของ ลูเซิร์น ก่อน ยัง บอยส์ จะดึงมาเป็นเทรนเนอร์คนใหม่ต่อจาก อดอล์ฟ ฮึทเทอร์ แบบสร้างความประหลาดใจพอสมควร แต่เขาพิสูจน์ตัวเองด้วยผลงานที่ยอดเยี่ยมจากการนำต้นสังกัดฟาดแชมป์ สวิส ซูเปอร์ ลีก 3 สมัยติดต่อกัน รวมถึงแชมป์ สวิส คัพ อีกหนึ่งครั้ง จากผลงานดังกล่าวทำให้ทีมห้างยาเลือกโค้ชวัย 42 ปีเป็นเทรนเนอร์คนต่อไปของพวกเขา 

7.อูนิโอน เบอร์ลิน

ใหม่ - ไม่มี

เก่า - อูร์ส ฟิสเชอร์ 

อูร์ส ฟิสเชอร์ โค้ชชาวสวิสวัย 55 ปี เคยทำงานกับ เอฟซี ซูริค, เอฟซี ธูน และ เอฟซี บาเซิ่ล ก่อนย้ายมาทำงานฐานะเทรนเนอร์ของ อูนิโอน เบอร์ลิน ในช่วงซัมเมอร์ปี 2018 ก่อน ฟิสเชอร์ จะนำต้นสังกัดเลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นบุนเดสลีกาครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร หลังการเอาชนะ สตุ๊ตการ์ท ในการเล่นเพลย์ออฟในซีซั่น 2018-2019 

โค้ชชาวสวิสนำ อูนิโอน เบอร์ลิน อยู่รอดปลอดภัยในปีแรกหลังจบฤดูกาลฐานะอันดับ 11 ก่อนจะสร้างความประหลาดใจด้วยการนำต้นสังกัดจบฤดูกาลที่ผ่านมาฐานะอันดับ 7 คว้าตั๋วไปเล่นรายการ ยูโรปา คอนเฟอเรนซ์ ลีก รอบเพลย์ออฟ

นั่นคือความสำเร็จของ ฟิสเชอร์ ฐานะโค้ชของ อูนิโอน เบอร์ลิน หลังเคยคว้าแชมป์ สวิส คัพ กับ เอฟซี ซูริค และยังเคยนำ เอฟซี บาเซิ่ล คว้าแชมป์ สวิส ซูเปอร์ ลีก 2 สมัย ก่อนย้ายมาทำงานในเยอรมัน 

8.มึนเช่นกลัดบัค 

ใหม่ - อดอล์ฟ ฮึทเทอร์

เก่า - มาร์โก โรเซ่อ

มาร์โก โรเซ่อ เข้ามารับตำแหน่งโค้ชของ มึนเช่นกลัดบัค ในช่วงซัมเมอร์ปี 2019 หลังประสบความสำเร็จกับ ซัลซ์บวร์ก เขานำทีมสิงห์หนุ่มจบอันดับ 4 คว้าตั๋วไปเล่นแชมเปี้ยนส์ลีกตั้งแต่การทำงานปีแรกและยังสร้างเซอร์ไพรส์ในการเล่นรอบแบ่งกลุ่มร่วมกับ เรอัล มาดริด, อินเตอร์ มิลาน และ ชัคตาร์ โดเน็ตส์ค ด้วยการคว้าตั่วเข้ารอบน็อกเอาท์ด้วย 

อย่างไรก็ตาม มึนเช่นกลัดบัค ทำผลงานในซีซั่นที่ผ่านมาตกลงไปจบฤดูกาลเพียงอันดับ 8 พลาดตั๋วไปเล่นฟุตบอลยุโรป ส่วน โรเซ่อ จะย้ายไปทำงานร่วมกับ ดอร์ทมุนด์ ตั้งแต่ซีซั่นหน้า 

ส่วน อดอล์ฟ ฮึทเทอร์ อดีตโค้ช แฟร้งค์เฟิร์ต จะเข้ามารับงานต่อจาก โรเซ่อ ซึ่งถือเป็นความท้าทายของโค้ชชาวออสเตรียนในการสร้างทีมสิงห์หนุ่มก้าวขึ้นมาเป็นสโมสรระดับแนวหน้าของบุนเดสลีกาอีกครั้ง