การกลับมาของ คาร์โล อันเชล็อตติ แทนที่ ซีเนดีน ซีดาน งานชิ้นแรกๆ เลยที่โค้ชชาวอิตาเลียนต้องทำ คือการเลือกบุคลากรที่มีอยู่ในมือ ก่อนทำการเสริมทัพตามที่ต้องการ
ในทุกๆ ฤดูกาล เรอัล มาดริด มักจะมีนักเตะถูกปล่อยยืมตัวจำนวนมาก เหตุผลหลักๆ นักเตะล้นทีม คาดว่าจะไม่ได้รับโอกาสลงเล่น หรือไม่ก็โชว์ฟอร์มไม่ออก ต้องการให้ไปเค้นฟอร์มกับทีมอื่น
ฤดูกาลที่แล้ว เรอัล มาดริด ปล่อยยืมนักเตะออกไปมากถึง 10 คน (เฉพาะทีมชุดใหญ่) จากการประเมินค่าตัวของเว็บไซต์ที่่เชี่ยวชาญ ทรานสเฟอร์มาร์เก็ต เป็นการประเมินตามสถานการณ์จริง ปรากฏค่าตัวรวมกันมหาศาลถึง 177 ล้านยูโร
ตอนแรก วิเคราะห์ถึงผลงานและโอกาสของ 5 นักเตะไปแล้วมี มาร์ติน โอเดการ์ด, บอร์ฆา มาโยราล, ทาเคฟูสะ คูโบะ, เฆซุส บาเยโฆ, แกเร็ธ เบล ดังนั้นตอนสองจึงมาว่ากันต่ออีก 5 คนที่เหลือ
ดานี่ เซบายอส
การกลับมาของ ซีดาน รอบสอง ทำให้ เซบายอส ยิ่งหาที่ลงในทีมตัวจริงของ เรอัล มาดริด ไม่ได้ สุดท้ายต้องปล่อยไปเรียกฟอร์มกับ อาร์เซน่อล ในฤดูกาล 2019-20 และสถานการณ์ก็ยังเป็นเช่นเดิมในปีต่อมา จึงมีการต่ออายุสัญญาเช่าในถิ่น เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม อีกหนึ่งซีซั่น
ปัจจุบัน ซีดาน อำลา มาดริด ไปแล้ว เซบายอส ก็ประกาศชัดเจนไม่อยากไปเล่นกับ อาร์เซน่อล ด้วยสัญญายืมอีกแล้ว ขอพิสูจน์ตัวเองในทีมของ อันเชล็อตติ ให้รู้แล้วรู้รอด เทรนเนอร์ชาวอิตาเลียนก็พร้อมให้โอกาสแน่นอน ขึ้นอยู่กับผลงานในช่วงปรีซีซั่นล้วนๆ ว่าจะออกมาเป็นอย่างไร
เรเนียร์
กองกลางตัวรุกวัย 19 ปีที่ เรอัล มาดริด จ่ายหนัก 30 ล้านยูโรดึงตัวมาจาก ฟลาเมงโก้ แต่กลับไม่ประสบความสำเร็จเลยระหว่างอยู่ในสัญญายืมตัวเล่นกับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ทีมดังบุนเดสลีกา ที่ขึ้นชื่อเรื่องการปลุกปั้นดาวรุ่ง ขึ้นชื่อเรื่องฟุตบอลเกมรุก หรืออาจเป็นเพราะเพิ่งย้ายมายุโรป ยังปรับตัวไม่ได้
น่าสนใจตรงที่สัญญายืมตัวระหว่าง ดอร์ทมุนด์ กับ เรอัล มาดริด ที่ทำเอาไว้เป็นสัญญาระยะเวลาสองฤดูกาลนี่แหละ เพราะจากผลงานซีซั่นแรกได้ลงเล่นไปเพียง 19 เกมรวมทุกรายการ แต่เป็นการลงตัวจริงเพียงเกมเดียวเท่านั้น ไม่รู้ว่า ดอร์ทมุนด์ จะขอยุติสัญญายืมตัวตั้งแต่ซัมเมอร์นี้หรือเปล่า
บราอิม ดิอาซ
นับตั้งแต่ย้ายมาจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เดือนมกราคมปี 2019 บราอิม ไม่สามารถงัดฟอร์มที่ดีที่สุดของตัวเองออกมาได้เลย จนในที่สุดก็ถูกปล่อยไปให้ เอซี มิลาน ยืมใช้งานตลอดฤดูกาล 2020-21 เป็นสัญญายืมแบบแห้งๆ หรือไม่มีออปชั่นซื้อขาดหลังจบฤดูกาลนั่นแหละ
บทสรุปที่ ซาน ซีโร่ บราอิม ยิงไป 7 ประตูจาก 39 เกมที่ลงสนามรวมทุกรายการ ซึ่งเป็นการลงตัวจริง 21 เกม และลงสำรองอีก 18 เกม ถือว่ามีบทบาทสำคัญไม่น้อยทีเดียวกับการพา มิลาน คว้าตั๋วแชมเปี้ยนส์ลีกฤดูกาลหน้า และ ปีศาจแดงดำ พยายามยืมต่ออีกซีซั่น ทีนี้ก็ขึ้นอยู่กับผลงานในช่วงปรีซีซั่นแล้วว่าจะถูก มาดริด ปล่อยอีกฤดูกาลหรือเปล่า
ฟราน การ์เซีย
อันที่จริง ชื่อนี้ไม่ค่อยคุ้นหูสักเท่าไหร่ เพราะหลังจากพุ่งขึ้นสู่ชุดใหญ่ในฤดูกาล 2018-19 ที่ได้เล่นแค่เกมเดียวใน โกปา เดล เรย์ ฟราน การ์เซีย ก็กลับไปอยู่ในทีม กัสตีย่า ตามเดิม ก่อนปล่อยให้ ราโย บาเยกาโน่ ในเซกุนดา ดิวิชั่น ยืมใช้งานและเป็นตัวหลักที่นั่นตลอดฤดูกาลที่กำลังลุ้นเลื่อนชั้นในรอบชิงเพลย์ออฟ
แบ็กซ้ายวัย 21 ปี จะถูกจับตามองและเรียกมาดูฟอร์มในช่วงปรีซีซั่นจาก อันเชล็อตติ ค่อนข้างแน่ แม้ในอดีตจนถึงปัจจุบัน เรอัล มาดริด ปล่อยแบ็กซ้ายออกไปเยอะ เพราะมี มาร์เชโล่ กับ แฟร์กล็องด์ เมนดี้ ขวางหน้าอยู่ในทีมชุดใหญ่
ลูก้า โยวิช
60 ล้านยูโรที่ เรอัล มาดริด จ่ายให้ ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต ในปี 2019 แทบจะละลายหายไปในพริบตา จากผลงานในช่วงหนึ่งฤดูกาลครึ่ง 32 เกมรวมทุกรายการ ยิงไปเพียง 2 ประตู และที่เจ็บปวดกว่านั้นคือการปล่อยกลับให้ แฟร้งค์เฟิร์ต ยืมใช้งานในช่วงครึ่งฤดูกาลหลัง แต่ผลงานก็ดีแค่ช่วงแรกๆ จบที่ 18 เกมมี 4 ประตู
ถึงตอนนี้ค่อนข้างชัดแล้ว โยวิช คงไม่น่ากลับมาเป็นตัวจริงที่ เรอัล มาดริด แม้ อันเชล็อตติ อาจให้โอกาสช่วงปรีซีซั่น แต่ปัญหาคือศูนย์หน้าเซอร์เบียจะไปไหนได้ เพราะ แฟร้งค์เฟิร์ต ก็ชัดเจน ไม่มีปัญญาซื้อกลับแน่นอน งานนี้จึงมีแต่เฉือนเนื้อตัวเองสำหรับ ราชันชุดขาว
แม้ อันเชล็อตติ จะมีตัวเลือกให้พิจารณาใช้งานในฤดูกาล 2021-22 แต่หลายคนอาจหมดโอกาสไปแล้ว หลายคนรอเวลาย้าย หรือรอเวลาหมดสัญญา บางทีบรรดาแข้งยืมทั้งหมดนี้ อาจไม่มีใครได้กลับไปเป็นตัวหลักในทีม เรอัล มาดริด ซีซั่นหน้าเลยก็เป็นไปได้
เพราะอย่าลืมว่า อันเชล็อตติ จะต้องเสริมทัพตามที่ตัวเองต้องการอีก
