:::     :::

Isak Hansen-Aaröen ประกายแสงแห่งนอร์เวย์ที่ลิเวอร์พูลชิงตัวไม่สำเร็จ

วันอาทิตย์ที่ 13 มิถุนายน 2564 คอลัมน์ #BELIEVE โดย ศาลาผี
19,102
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
เจ้าหนูดาวรุ่งวัย16ปีชาวนอร์เวย์รายนี้เปิดเผยถึงเส้นทางก่อนที่จะได้มาเซ็นสัญญากับแมนยูไนเต็ดว่า น้องรักแมนยูไนเต็ดจริงขนาดไหน ถึงกับปฏิเสธแมวมองทีมใหญ่อื่นๆและเลือกที่จะมาอยู่กับเรา ด้วยความเป็นนักเตะพรสวรรค์สูง หมอนี่คืออนาคตแม่ทัพทีมชาตินอร์เวย์อย่างแน่นอน

2014 : คุณพ่อ Sverre Aarøen และคุณแม่ Marianne Hansen ส่งลูกชายของพวกเขาเข้าสู่โรงเรียนฟุตบอลของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดที่ Tromsø ซึ่งโรงเรียนตรงนั้นไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับฝ่ายอะคาเดมี่ของยูไนเต็ด และจัดตั้งขึ้นกว่า90แห่งในหลายๆประเทศ เพื่อเป็นการทำการตลาดของสโมสรในระดับสากลนั่นเอง

Isak ได้ไปโรงเรียนแห่งนั้นพร้อมกับเพื่อนเพื่อที่จะไปฝึกฝนสกิลทักษะต่างๆที่นั่น

"ผมก็พยายามทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ และหลังจากทำเสร็จแล้วเราก็ไม่ได้คิดอะไรถึงมันอีก" Isak Hansen-Aarøen กล่าวกับเว็บไซต์VG

สิ่งที่เจ้าหนูไม่รู้ก็คือ ผลการทดสอบนั้นถูกบันทึกไว้และเปรียบเทียบสถิติกับเด็กอีกหลายร้อยคนในเมืองNordic

และแน่นอน หลังจากนั้นโรงเรียนของยูไนเต็ดก็ติดต่อไปยังแม่ของเด็กน้อยคนนั้น

ในฐานะห้านักเตะระดับท็อปไฟว์ของNordic เจ้าหนูน้อยวัย10ขวบก็เดินทางไปยังแมนเชสเตอร์เพื่อที่จะเข้าร่วมฝึกซ้อมกับสโมสร และเดินทางไปเยี่ยมชมโอลด์แทรฟฟอร์ด

"ตอนนั้นผมซ้อมอยู่ที่ Alfheim แล้วแม่ก็เดินมาหาและบอกผม ผมช็อคไปเลย" Isakเล่าให้ฟัง

เขายังจำทริปแรกครั้งนั้นได้ที่เดินทางออกนอกนอร์เวย์ ซึ่งก็ไปพร้อมกับพ่อของเขาซึ่งมีเสื้อแมนยูไนเต็ดตัวแรกในชีวิตเมื่อปี1976และเคยมาอังกฤษอยู่10วัน

"ผมนึกอะไรได้แค่นิดเดียว จำได้ได้ว่าเห็นชื่อตัวเองบนบิลบอร์ดที่โอลด์แทรฟฟอร์ด เราขึ้นรถไฟไปที่สนามซ้อมเก่า The Cliff และเรียนรู้ประวัติศาสตร์สโมสรและเรื่องราวตำนานที่เคยเกิดขึ้นที่นี่ มันน่าทึ่งมากๆ" Isak เล่าเอาไว้ดังนี้

2016 : Isak ร่วมเดินทางในนามทีม Tromsø IL ไปยัง Oslo เพื่อลงแข่งในทัวร์นาเมนต์เล็กๆ ซึ่งที่นั่นคุณพ่อ Sverre ของเขาได้รับการแจ้งว่ามีแมวมองของ Manchester United มาด้วย

และไม่หยุดเพียงแค่นั้น

มีคนจากสมาคมฟุตบอลนอร์เวย์เข้ามาและบอกว่า แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดรับตัว Isak เอาไว้เรียบร้อย ซึ่ง Isak ก็คิดในใจว่า

"โอเค เรียบร้อยซักทีละ"

"มีข่าวลืออะไรเยอะแยะมากมาย แต่ผมก็พยายามที่จะไม่คิดถึงอะไรพวกนั้น ผมนึกถึงแต่เรื่องการไปลงแข่งอย่างเดียวเท่านั้น"

นั่นคือสิ่งที่เจ้าตัวคิดและว่าเอาไว้


2017 : Isak และทีมเด็กผู้ชายที่แก่กว่าเขาสองปีจาก Tromsø เดินทางไปยังทัวร์นาเมนต์ใหญ่ในเดนมาร์ก และก็มีแมวมองนั่งอยู่มากมายบนสแตนด์ที่นั่ง และเกมใหญ่ของรุ่นอายุ12ปี ก็ดึงดูดความสนใจจากแมวมองเหล่านั้นได้หลายคน ซึ่งรวมถึงตัวแทนจากลิเวอร์พูลที่ไปที่นั่นด้วย ซึ่งเขาก็เดินมาหาครอบครัวและกล่าวชื่นชม Isak

และไม่กี่สัปดาห์ต่อมา Tromsø IL ก็ได้รับการติดต่อไป

"เขาบอกว่า มีสโมสรใหญ่ติดต่อเข้ามา และสโมสรที่ว่านั้นคือลิเวอร์พูล โอ้โหนี่เรื่องใหญ่ ผมนี่ช็อคเลย"

"เราถึงได้รู้ว่าทั้งลิเวอร์พูลและแมนยูไนเต็ดมาติดตามเขาอยู่ทั้งคู่ โดยที่ต่างฝ่ายต่างไม่มีใครรู้" คุณพ่อ Sverre กล่าว

และเมื่อพอเจอแรงกระตุ้นจากทีมคู่อริตลอดกาล แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดก็เหมือนถูกปลุกให้ตื่นโดยเร็วเพื่อเร่งคว้าตัวหมอนี่ให้ได้เช่นกัน

ในเดือนพฤศจิกายน isak เดินทางมาอังกฤษกับพ่อของเขาเพื่อที่จะทดสอบฝีเท้ากับสองเจ้าที่ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในสโมสรที่ใหญ่ที่สุดในโลก

เริ่มที่ลิเวอร์พูลก่อน และทุกอย่างก็เกินความคาดหมาย

"ผมเข้าไปลงแข่งในเกมที่อยู่ในรุ่นอายุของตัวเองเลยทันที และก็ทำได้ดีเยี่ยม เขาเลยเอาผมขึ้นไปเล่นรุ่นปีสูงกว่านั้นอีก ผมเลยไปลงแข่งในเกมที่มีแต่นักเตะที่แก่กว่า"

"มันเหมือนอยู่ในความฝันเลย"

"ผมเลยได้ไปฝึกซ้อมกับนักเตะพรสวรรค์กับทั้งอะคาเดมี่เลยตั้งแต่ระดับ U-14s จนถึง U-23s และคนที่นำฝึกซ้อมผมเห็นว่าเป็นพวกสตาฟฟ์โค้ชในทีมตอนที่ลิเวอร์พูลลงแข่งด้วย" Isak เล่าประสบการณ์กับลิเวอร์พูลให้ฟัง

ที่จริงแล้วเขาจะใช้เวลาประมาณหนึ่งสัปดาห์ในลิเวอร์พูล กลับมาบ้านอีกหนึ่งสัปดาห์ จากนั้นก็ค่อยกลับมาอีกครั้งและไปเทรนอีกหนึ่งสัปดาห์กับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด

แต่ลิเวอร์พูลขอเด็กน้อยรายนี้ให้อยู่ต่อเลยได้ไหมอีกหนึ่งสัปดาห์

"สุดท้ายจบลงด้วยการที่ลิเวอร์พูลพาเราไปแมนเชสเตอร์และกลายเป็นว่าเขาต้องไปลงแข่งกับยูไนเต็ดเฉยเลย" คุณพ่อ  Sverre Aarøen ฮาก๊ากออกมา

เฉียดแบบ เฉียดมากจริงๆ เกือบไปแล้ว!

และเด็กน้อยวัย13ปีก็ยังทำผลงานได้ยอดเยี่ยมที่นั่น ซึ่งระหว่างที่มาพักอยู่อังกฤษ ทางเอฟเวอร์ตันก็หันมาสนใจและทึ่งเด็กหนุ่มปรากฏการณ์ชาวนอร์เวย์รายนี้ โดยสุดท้ายแล้ว Isak ก็ได้ไปลงแข่งทัวร์นาเมนต์ในนามเอฟเวอร์ตัน และฝึกซ้อมอยู่หนึ่งสัปดาห์ที่นั่นเช่นกัน

สิ้นปี2018 Isak กลับบ้านไปพร้อมกับทางเลือกสำคัญที่ต้องตัดสินใจ

2018 : หลังจากที่ใช้ชีวิตอยู่บนการเดินทางเป็นเดือนๆ ซึ่ง Isak ก็ได้ลิ้มลองรสชาติของการใช้ชีวิตในฐานะนักเตะพรสวรรค์จากต่างชาติ ในที่สุดคุณพ่อและคุณแม่ก็ต้องตัดสินใจเลือก

"มันก็เป็นเรื่องที่เครียดนิดหน่อย เขายังเป็นเด็กหนุ่มน้อยที่มีเรื่องต่างๆให้ต้องพิจารณาร่วมด้วยหลายอย่าง" Sverre กล่าว

Isak Hansen-Aarøen กลายเป็นชื่อที่รู้จักกันดีในหมู่แมวมองยุโรปและเอเย่นต์ต่างๆ การเติบโตก้าวหน้าเป็นไปอย่างดุเดือด

"พวกเขาช่วยดูแลผมดีมากๆโดยการที่ทำให้ผมไม่ต้องวุ่นวายกับหลายสิ่งหลายอย่างที่ไม่จำเป็นต้องรู้ก็ได้"

ดังนั้นเพื่อที่จะทำให้เด็กหนุ่มเย็นใจได้ ทางครอบครัวจึงคิดว่าต้องตัดสินใจในเรื่องนี้แล้ว

"เรานั่งคุยกันในครอบครัว ทุกๆคนบอกกล่าวว่ารู้สึกยังไงบ้างตอนที่ไปมาในหลายๆที่เหล่านั้น จากนั้นพวกเขาก็บอกให้ผมลองคิดตัดสินใจดู ซึ่งจริงๆแล้วผมไม่ต้องรีบตอบหรอก.."

"แต่ความคิดในหัวมันขึ้นมาทันทีอย่างรวดเร็วว่า ผมอยากเซ็นสัญญากับยูไนเต็ด"

"นี่คือเรื่องราวที่ผมก็ได้มาอยู่ในทีมนี้ ซึ่งเป็นแพลนที่ดีมากที่พวกเขาวางไว้ให้กับผม"

Isak กล่าว

2019 : 15เดือน ก่อนที่จะอายุ16 Isak เซ็นสัญญาที่เป็น pre-contract กับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด เพราะมีกฎของ FIFA ที่จะไม่อนุญาตให้มีการเซ็นสัญญาซื้อขายนักเตะต่างชาติได้จนกว่านักเตะคนนั้นจะอายุ16ปี

ครั้งแรกสุดสมัยเด็กๆที่เขามาอยู่ยูไนเต็ด ตอนนั้น José Mourinho เป็นผู้จัดการทีมอยู่ และก่อนที่จะได้เซ็นข้อตกลงล่วงหน้า (pre-agreement) คนบ้านเดียวกันอย่าง Ole Gunnar Solskjær ก็เข้ามาคุมหางเสือเรือในที่แห่งนี้ต่อเรียบร้อย

"ความรักที่มีต่อครอบครัวยูไนเต็ดเข้มแข็งมากๆ เราคิดว่า โอเล่ กุนนาร์เป็นคนที่ดีมาก" คุณพ่อ Sverreเล่า และทาง Isak ก็เล่าถึงความสัมพันธ์กับโซลชาให้ฟังด้วยว่า

"เราร่วมกินข้าวด้วยกันที่โรงอาหารและพูดคุยกันหลายๆอย่างเลย"

2020 : ในวันที่ 22 สิงหาคม วันเกิดอายุ16ปี Isak Hansen-Aarøen ก็กลายเป็นนักเตะของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดเป็นที่เรียบร้อย

การเซ็นสัญญาทำภายใต้กฎข้อระเบียบการป้องกันโรคระบาด คุณพ่อSverreมีหลากหลายความรู้สึกระคนปนกันไป เพราะลูกชายนั้นก็เตรียมตัวพร้อมแล้วสำหรับทีมฟุตบอลที่เขารัก ในขณะที่ทั้งครอบครัวก็อยู่ฉลองวันเกิดและการเซ็นสัญญาของเขาร่วมกันในแมนเชสเตอร์

แต่ว่าก็เกิดปัญหาการระบาดของไวรัสโคโรน่าเกิดขึึ้น ซึ่งหัวใจของคนเป็นพ่อก็กล่าวเอาไว้ว่า "ผมคิดว่ามันค่อนข้างหนักหนามา และคงจะเป็นปีที่ลำบากจริงๆ" เพราะครอบครัวไม่สามารถไปดู Isak ได้ในระหว่างที่ลงแข่งในเกมเป็นทางการ แต่ยังดีว่าทุกๆเกมเหล่านั้นถ่ายทางช่องทีวีของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดด้วย

"เท่าที่ผมรู้ก็คือ เดาไม่ออกเหมือนกันว่าชีวิตการอยู่ในอังกฤษจะเป็นยังไงบ้าง ถ้ามันไม่มีไวรัสโคโรน่าเกิดขึ้น มันเป็นสิ่งที่ผมไม่ได้คาดเอาไว้ว่ามันจะมีเรื่องแบบนี้ เราวางแผนกันว่าครอบครัวผมมากมายจะมาเยี่ยม และทำให้ช่วงเปลี่ยนผ่านครั้งนี้มันเกิดขึ้นได้ไม่ยาก แต่หลังจากผมย้ายมาอังกฤษแล้ว ผมก็ไม่เจอครอบครัวเลยถึง4เดือน"

"ผมรู้สึกว่าช่วงท้ายนี่มันยากลำบากจริงๆ" Isak Hansen-Aarøen กล่าว

2021 : ช่วงข้ามปีเขาเดินทางกลับไปยังบ้านที่ Tromsø และอยู่ที่นั่นจนถึงเดือนมีนาคมเพื่อจะใช้เวลากับครอบครัว

"มันทำให้ผมกลับมาอย่างสดชื่นมากขึ้น และมีเป้าหมายที่ชัดเจน"

ก่อนที่จะกลับไปบ้านครั้งนั้น เขาทำประตูได้ 1ลูก จาก9นัดในการลงเล่นกับทีมชุด U-18s พอกลับมาในทีมอีกครั้ง ก็ระเบิดอีก 2 ประตู กับ 3 แอสซิสต์ จากการลงเล่น 7 เกม

และเจ้าหนูอิซัคก็เดบิวต์กับชุด U-23s ในลีกแล้วเรียบร้อย

"ผมคิดว่ามันเป็นไปได้ด้วยดีมากๆ โดยเฉพาะหลังจากที่ผมกลับไปบ้านมา ผมก็ได้รับฟีดแบ็คที่ดีมากเลย"

แผนการอนาคตในขั้นต่อไปสำหรับเขาก็คือเพื่อที่จะอยู่ฝึกซ้อมถาวรให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้กับทีมชุด U-23s ซึ่งเป็นขั้นสุดท้ายก่อนเข้าสู่ทีมชุดใหญ่

เขาอยู่ที่โรงเรียนยูไนเต็ดตอนอายุ 10 ขวบ และแมวมองสโมสรก็ไปค้นพบเมื่อตอนอายุ 12 จากนั้นเซ็นสัญญาตอนอายุ 14 แล้วสุดท้ายย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่ตอนอายุ 16 ปี

-ดูจากสเต็ปขั้นตอนดังกล่าวนี้แล้ว แปลว่าบางทีคุณอาจจะได้เดบิวต์ทีมชุดใหญ่ตอนอายุ "18" น่ะสิ? ทีมงานถาม

"ก็อาจจะเป็นอย่างนั้น ผมหวังว่ามันจะเกิดขึ้นเร็วกว่านั้นนะ" Isak Hansen-Aarøen กล่าวทิ้งท้าย

นั่นคือทั้งหมดของเรื่องราวความเป็นมาก่อนที่จะย้ายมาเซ็นกับแมนยูไนเต็ดของเจ้าหนู Isak Hansen-Aarøen ซึ่งหลายๆคนคงจะอยากรู้ว่า เด็กน้อยคนนี้มีอะไรดี เล่นตำแหน่งไหน และสไตล์การเล่นเป็นยังไง ต่อจากนี้คือข้อมูลคร่าวๆของนักเตะพรสวรรค์คนบ้านเดียวกันกับโอเล่ กุนนาร์ โซลชารายนี้ (แนะนำให้เลื่อนลงไปด้านล่างสุดที่ลงคลิปยูทูปไว้ให้ในReferences ไปนั่งดูก่อนจะดีมาก)

1.ข้อมูลทั่วไป

Isak Hansen-Aarøen

(ชื่อน้องอ่านว่า อิซัค ฮานเซิน-โอเริน ไม่ใช่ ไอแซ็ค แฮนเซ่น อารอน เรียกน้องว่า อิซัค เฉยๆก็โอเค)

อายุ : 16 ปี  ส่วนสูง : 173 cm

สัญชาติ : นอร์เวย์

เท้าที่ถนัด : ขวา

สังกัดทีม Manchester United U-18s

ตำแหน่งถนัด : CM, AM

ตำแหน่งอื่นๆที่เล่นได้ : DM

2.ตำแหน่งถนัดและสไตล์การเล่น

หากจะdefinitionเจ้าหนู Isak ด้วยคำใดสักคำหนึ่ง ผู้เขียนขอมอบคำเดียวที่ขึ้นมาในหัวตลอดเวลาที่นั่งดูฟอร์มการเล่นของน้องได้เลยว่า "Skillful" สุดๆ น้องเป็นนักเตะพรสวรรค์ที่คล่องแคล่วและเต็มไปด้วยทักษะที่อัดแน่นและแพรวพราว เรียกง่ายๆว่าฝีเท้าดีจริงๆ

ด้วยสถิติการลงสนามในทีม U-18s ทั้งหมด 16นัด น้องยิงไป 3 ประตู กับอีก3 แอสซิสต์ ตำแหน่งการเล่นที่ถนัดของเจ้าหนูอิซัคคือ "มิดฟิลด์ตัวรุก" ที่หลักๆในทีมชุดU-18s น้องลงในจุดของ CM และ AM เป็นหลัก และการเล่นที่ค่อนข้างเป็นมิดฟิลด์เชิงรุกของน้องนั้น สามารถเรียกได้ว่าน้องเป็นตัวรุกแบบเพลย์เมคเกอร์เบอร์10 สายคลาสสิคแบบโบราณที่จะคอนโทรลเกม เป็นจุดศูนย์กลางการจ่ายบอลสนับสนุนเพื่อนตัวรุกคนอื่นๆที่จะเคลื่อนที่ไปรอบๆ

คอนโทรลเกม ปั้นเกมอยู่ด้านหลังตัวรุก

เรียกศัพท์เทคนิคอาจจะฟังดูไม่ชินว่าตัวนี้คือมิดฟิลด์สาย "Enganche" ที่เป็นผู้ควบคุมบัญชาการเกมรุก ที่positionการยืนจะอยู่ในจุด CM ที่น้องเล่นเป็นหลักนี่แหละ แต่นอกจากนั้นแล้วด้วยความแพรวพราวที่ทำเกมรุกได้ดีและแม่นยำนั้น หลายๆครั้งน้องก็จะยืนสูงขึ้นมา และเล่นในลักษณะของ "Attacking Midfielder" ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ยังคงทำหน้าที่ของมิดฟิลด์อยู่เป็นหลัก แต่ว่าจะมีส่วนร่วมกับเกมรุกเพิ่มมากขึ้น

(จะแตกต่างจาก Advance Plamaker ของบรูโน่ หรือ ฮันนิบาล ที่เป็นตัวรุกไปเลยเต็มตัว แต่สำหรับตำแหน่งของอิซัค ฮานเซิน-โอเริน นั้น น้องคือมิดฟิลด์จริงๆ)

นึกถึงใครไม่ออก ให้นึกถึง ลูก้า โมดริช ก็ได้ รวมถึง เจ ชนาธิป ก็ใช่ เวลาดูเจ้าหนูอิซัคเล่นก็เหมือนเห็นโมดริชหรือชนาธิปนั่นแหละ เล่นคล้ายกันเป๊ะ ซึ่งอิซัคสามารถเล่นเป็นมิดฟิลด์ตัวขับเคลื่อนแบบเบอร์8ก็ได้อีกด้วย (Mezzala)

3.จุดเด่นในการเล่น

3.1 การจ่ายบอล (passing) : มีการจ่ายบอลที่แม่นยำและได้คุณภาพ เหมือนนักเตะที่ฝึกฝนมาในโรงเรียนฟุตบอลด้วยเบสิคที่ถูกต้องและดีเยี่ยม พื้นฐานการเล่นดูดี

3.2 ความคล่องแคล่ว (agility) : ข้อนี้จะแตกต่างจากความเร็ว จุดที่น้องอิซัคเด่นมากๆคือความคล่องแบบที่เหมือนชนาธิป หรือโมดริชเป็น กล่าวคือ อิซัคนั้นไม่ได้วิ่งเร็วเป็นจรวด แต่ความคล่องแคล่ว ความพริ้วนี่คือยืนหนึ่งจริงๆ(agi 99) ซึ่งมันมีประโยชน์ในการโจมตีใส่คู่ต่อสู้เพราะความคล่องนี้มันไปคอมโบกับจุดเด่นในข้อต่อไปที่น้องมีด้วย

3.3 เทคนิคการเล่น (technique) : แน่นอนว่า เทคนิคตัวนี้ถือว่าอยู่ในระดับสูง เทคนิคการเล่นดี และสามารถใช้งานได้จริง ไม่ได้หวือหวามาก แต่เอาตัวรอดโคตรเก่งในยามที่โดนคู่แข่งซึ่งตัวใหญ่กว่ามากๆเข้ามารุม

3.4 บอลแรก (First Touch) : ไม่รู้ว่าเอาไปรวมกับหัวข้อเทคนิคด้วยได้รึเปล่า แต่บอลแรกของอิซัคค่อนข้างฉลาด หลายๆครั้งแตะจังหวะเดียวเอาชนะคู่แข่งที่เข้ามาเพรสได้เลย รวมถึงด้วยความที่เบสิคดี การเล่นจึงลื่นไหลและรวดเร็วมาก

3.5 อื่นๆ : อย่างอื่นที่ดี เท่าที่เห็นก็เช่น ความมุ่งมั่นทุ่มเทในสนามดีเยี่ยม ใจสู้แม้จะตัวเล็กกว่า รวมถึงสปีดต้นในการเคลื่อนที่ก็ค่อนข้างเร็ว และการเติมเกมรุกทำได้ดีเลย เล่นได้อันตรายมากๆ และเลี้ยงบอล พาบอลไปกับตัวดีมากด้วย (dribbling)

ถือว่าเป็นมิดฟิลด์ตัวพริ้วที่ทำได้ดีในกลางสนาม การมีพื้นที่ตรงกลางให้น้องเล่นถือว่าเป็นจุดแข็งเลยที่จะเอาตัวรอดจากตรงนั้นได้ด้วยความคล่อง ความพริ้วที่มีในตัว และจังหวะการจ่ายบอล การเล่นก็ดี

เชื่อว่าตัวนี้ในอนาคตจะต้องกลายเป็น "จอมทัพ" ของทีมชาตินอร์เวย์แน่นอน ไม่ช้าก็เร็ว ไม่แปลกใจว่าทำไมทีมงาน scoutทีมต่างๆถึงได้ตื่นเต้นกับเจ้าหนูนี่นัก เพราะฝีเท้าที่เห็นคือเพชรของจริงคนนึงเลย ดูยังไงก็wonderkidชัดเจน

ปั้นดีๆ ตัวนี้มีเฮยาวๆ หลังจากนี้เมื่อรู้จักแล้วก็อย่าลืมช่วยกันตามเชียร์เจ้าหนู Isak Hansen-Aarøen กันด้วยครับ คาดว่าคงอีก 2-3 ปี ถึงจะเริ่มขึ้นมามีบทบาทในฐานะดาวรุ่งของทีมที่มีลุ้นขึ้นชุดใหญ่อีกคน แต่ที่แน่ๆคือ ติดทีมชาตินอร์เวย์ชุด U-18s ไปแล้วเรียบร้อย

เด็กคนนี้คือประกายแสงแห่งนอร์เวย์ในอนาคตอย่างแท้จริง

-ศาลาผี-

References

https://www.vg.no/sport/fotball/i/aPm64A/2004-02-isak-hansen-aaroeen

https://www.transfermarkt.com/isak-hansen-aaroen/profil/spieler/670116

https://www.youtube.com/watch?v=P6q5BPRjP5U

https://www.youtube.com/watch?v=fOtC_GnIWrQ

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด