:::     :::

ในฐานะแชมป์เก่า

วันอาทิตย์ที่ 13 มิถุนายน 2564 คอลัมน์ ฟุตบอลข้างถนน โดย โกสุ่ย
1,137
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
แฟร์นันโด ซานโต๊ส และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ออกมาลดความกดดันและความคาดหวังที่โถมเข้าใส่ทีมชาติโปรตุเกสที่กำลังจะลงเล่น ยูโร 2020

ทั้งสองคนพยายามลดแรงกดดันจากภายนอกที่กำลังพุ่งตรงมาสู่ทีม เพราะอย่าลืมว่าการเล่น ยูโร หนนี้ โปรตุเกมา มาในฐานะแชมป์เก่าของรายการ

"ความแตกต่างเดียวที่เราลงเล่นหนนี้คือเรามาในฐานะแชมป์เก่า แต่ภารกิจของเรายังคงเหมือนเดิม คือการเอาชนะและไปให้ได้ไกลที่สุด" กุนซือใหญ่ของโปรตุเกสระบุ

เช่นเดียวกับ โรนัลโด้ ที่ออกมาลดกระแสก่อนเดินทางไปฮังการี พยายามให้ทุกๆ คนอยู่กับความเป็นจริง และอย่ามองไปไกลว่าเกมนัดประเดิมสนาม

"ไม่มีคำมั่นสัญญาเรื่องการคว้าแชมป์หรือการคาดหมายล่วงหน้า

"สิ่งที่ผมสัญญาได้คือเราจะลงเล่นทุกๆ เกมเพื่อชัยชนะ ผมรู้สึกกระตือรือร้นมากกว่าปี 2004 ซึ่งเป็นครั้งแรกในเวที ยูโรเปี้ยน แชมเปี้ยนชิพ ของผม เรามาในฐานะแชมป์เก่า และเป็นอีกครั้งที่เราคือหนึ่งในทีมที่ถูกยกเป็นตัวเต็งของรายการ"




ในฐานะแชมป์เก่า แน่นอนว่า โปรตุเกส ถูกยกให้เป็นหนึ่งในตัวเต็งหนนี้ แม้ตามหน้าเสื่อจะถูกมองว่าเป็นรอง ฝรั่งเศส, เบลเยียม, อังกฤษ หรือแม้แต่ อิตาลี กระนั้นพวกเขาแสดงให้เห็นเมื่อ 5 ปีก่อนแล้วว่า 'ม้านอกสายตา' ก็สามารถกลายร่างเป็นแชมป์ได้เช่นกัน

วันเวลาผ่านไป 5 ปี โปรตุเกส พัฒนาเป็นทีมที่แข็งแกร่งขึ้น คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ในวัย 36 ปียังห้อตะบึงบนสนามหญ้าและเป็นแกนหลักให้ทัพ 'เซเลเซา' ผสมผสานกับตัวเก๋าคนอื่นๆ และยังมีแข้งหน้าใหม่ที่พุ่งขึ้นมาเป็นแกนหลัก

ปัจจัยสำคัญหนนี้คงหนีไม่พ้นรอบแบ่งกลุ่มที่หนักกว่าหนที่ผ่านมา เพราะพวกเขาอยู่ร่วมสายกับ ฝรั่งเศส และ เยอรมนี แถมยังมี ฮังการี เป็นอีกด่านสำคัญ แต่นั่นคืองานที่พวกเขาต้องผ่านไปให้ได้หากว่าอยากไปถึงจุดหมายที่ต้องการ

อย่างที่เรียนไปว่าความคาดหวังจากแฟนบอลมีมากกว่า 5 ปีที่แล้ว มันมาพร้อมกับความต้องการที่อยากให้ทีมรักษาแชมป์ และที่สำคัญคือความผิดหวังในฟุตบอลโลก 2018 ได้กลายมาเป็นแรงผลักดันจากภายนอก ซึ่งประการหลังคงไม่ต่างกันในความคิดของบรรดานักเตะ พวกเขาอยากแก้ตัวจากฟุตบอลโลกที่รัสเซีย หลังไปได้เพียงรอบ 16 ทีมสุดท้ายเท่านั้น





มาหนนี้ทุกๆ อย่างดูเหมือนจะลงตัวมากขึ้น แข้งเก๋ามากประสบการณ์ยังคงทำหน้าที่พี่ใหญ่ บวกกับแกนหลักหน้าใหม่ที่ก้าวขึ้นมา ไหนจะทางเลือกบนม้านั่งสำรองที่เชื่อกันว่าแข็งแกร่งกว่าในออดีต

โดยเฉพาะแนวรุกที่มักจะเป็นปัญหาในช่วงหลายปีก่อนหน้านี้ แม้จะมี โรนัลโด้ เป็นสตาร์เด่นของทีม แต่ในยามที่หอกลายครามคนนี้ทำผลงานไม่ออก ก็มักจะทำให้ โปรตุเกส ไปไม่เป็นเช่นกัน

แต่หนนี้ ซานโต๊ส มีทางเลือกมากมายกว่าเดิมทั้ง แบร์นาร์โด้ ซิลวา, บรูโน่ แฟร์นันด์ส, ชูเอา เฟลิกซ์ และ ดีโอโก้ โชต้า ไหนจะทางเลือกอื่นๆ อาทิ อันเดร ซิลวา หรือ กอนซาโล่ เกเดส ที่พร้อมก้าวขึ้นมายามจำเป็น

แนวรับก็ถือว่าน่าสนใจไม่น้อย โดยเฉพาะชื่อ รูเบน ดีอาส ที่ระเบิดผลงานกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้กลายมาเป็นทางเลือกลำดับแรกในแผงหลังของทีมชาติ และยังแบ็กซ้ายดาวรุ่งอย่าง นูโน่ เมนเดส ที่น่าจับตามอง

แดนกลางไม่ต้องพูดถึงเพราะมีทั้งตัวเก๋า, ตัวสด และหน้าใหม่ฝีเท้าดี ซึ่งจะคอยเป็น 'แบ็กอัพ' ชั้นยอดให้กัมทีม

มองไปที่ขุนกำลังถือว่าไม่ได้เป็นรองทีมอื่นๆ เลย กระนั้นปัญหาสำคัญของ โปรตุเกส คือการยืนระยะและผ่านแรงกดดันไปให้ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเจอกับทีมที่เป็นรองซึ่งมักจะเล่นรัดกุม ซึ่งสร้างปัญหาให้พวกเขามากกว่าการดวลกับทีมใหญ่ด้วยกันเสียอีก

นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าแม้เกมแรกจะเจอกับ ฮังการี ที่ถูกยกให้เป็นรองบ่อนของกลุ่ม แต่การบ้านสำคัญของ ซานโต๊ส และลูกทีมคือการเจาะตาข่ายทีม แม็กยาร์ ให้ได้โดยเร็วที่สุด เพราะหากเวลาผ่านไปรื่อยๆ และยังไม่สามารถทำประตูได้ ความกดดันก็จะพุ่งตรงไปยังแข้งโปรตุเกสทีละน้อย





กระนั้นหากย้อนไปดูการให้สัมภาษณ์ของ โรนัลโด้ ก็อาจจะทำให้แฟนบอลอุ่นใจว่า โปรตุเกส มีความพร้อมมากกว่ารายการที่ผ่านๆ มาก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะกองหน้าดาวซัลโววัย 36 ปีที่คงเล่น ยูโร ครั้งนี้เป็นหนสุดท้าย

ความกระหายอยาก ความปรารถนาในการทิ้งทวน และความพยายามที่อยากให้แฟนบอลมีความสุข จะเป็นตัวกระตุ้นนักเตะโปรตุเกสให้เดินหน้าแบบลืมเหนื่อย

นอกจาก โรนัลโด้ ยังมีอีกหลายๆ คนที่คงจะเล่น ยูโร 2020 เป็นรายการสำคัญในระดับนานาชาติให้โปรตุเกสเป็นการทิ้งทวน ซึ่งพวกเขาหวังว่าจะใส่ความพยายามเฮือกสุดท้ายลงไปอย่างเต็มที่เพื่อขับเคลื่อนทีมให้เดินหน้าไปได้ไกลที่สุด

ถึงตรงนี้ขุนพลโปรตุเกสกำลังนับเวลาถอยหลังในการลงสนามเกมแรกของ ยูโร 2020 ที่จะหวดกับ ฮังการี วันอังคารนี้ 

อย่างที่กุนซือหรือนักเตะมากมายเคยกล่าวออกมาว่า เกมแรกถือเป็นเกมสำคัญเป็นอย่างมากในการกำหนดทิศทางของพวกเขา แม้มันจะไม่ได้ช่วยทีมให้ทีมเข้ารอบต่อไปในทันที แต่มันจะเพิ่มโอกาสและความมั่นใจให้กับพวกเขา





บางคนอาจจะแย้งว่าเมื่อ 5 ปีก่อน โปรตุเกส จบรอบแบ่งกลุ่มด้วยผลเสมอทั้งสามนัดด้วยผลงานกระท่อนกระแท่น ก่อนจะค่อยๆ ผ่านด่านจนเข้าไปชิงชนะเลิศแบบทุลักทุเลและคว้าแชมป์ในบั้นปลาย ทว่าเรื่องแบบนั้นก็ไม่ได้เกิดขึ้นเสมอไป

หากเลือกได้ ซานโต๊ส และลูกทีมคงอยากเดินหน้าคว้าชัยไปเรื่อยๆ สั่งสมความมั่นใจ ดีกว่าต้องลุ้นแบบหืดจับชนิดไปตายเอาดาบหน้า โดยที่ไม่สามารถกำหนดชะตาของตนเองได้

บ่อยครั้งที่เส้นทางของแชมป์เก่ามักจะจบลงแบบไม่งดงาม เพราะพวกเขาต้องลงสนามด้วยแรงกดทับที่หนักกว่าทีมอื่นๆ แต่มันเป็นสิ่งที่ โปรตุเกส ไม่อาจหนีไปได้กับการถูกตีตราในฐานะ 'แชมป์เก่า' แต่หากพวกเขามองความกดดันให้มันเป็นแรงผลักดันก็อาจจะส่งผลดีในทางตรงกันข้าม

ไหนๆ ก็ถูกจับจ้อง จับตามองอย่างใกล้ชิด ทางที่ดีที่สุดของ โปรตุเกส คือการทำผลงานอันยอดเยี่ยมให้คนอื่นๆ ได้ประจักษ์

จุดเริ่มต้นของ 'แชมป์เก่า' กำลังจะเกิดขึ้น สำหรับแฟนบอลโปรตุเกสพวกเขาคาดหวังว่าทีมจะเริ่มต้นด้วยการทำผลงานได้ดีกว่าครั้งก่อน และจบลงด้วยการคว้าแชมป์อีกครั้ง



ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด