ทีมชาติไทยยังมีภารกิจสุดท้ายในยูเออี ในการลงสนามพบ มาเลเซีย ทิ้งทวน
ทั้ง “เสือเหลือง” และ “ช้างศึก” ควงแขนกันไม่ได้ไปต่อในรอบ 12 ทีมสุดท้ายก็จริง หากแต่ยังมีอันดับ 3 ให้แก่งแย่งชิงดีกัน
ความสำคัญของอันดับ 3 คือ จะได้บัตรผ่านคว้าสิทธิไปเล่นรายการ เอเชียน คัพ 2023 รอบคัดเลือกทันที
สถานการณ์ปัจจุบัน ไทย มี 9 คะแนน เท่ากับ มาเลเซีย การมาพบกันในนัดสุดท้าย จึงเปรียบเสมือน “เกมเดิมพันตั๋ว” ที่ทั้งสองฝ่ายไม่มีใครอยากปล่อยให้หลุดจากมือ
หากเป็นสถานการณ์ปกติตามโปรแกรม เราคงไม่หนักใจมาก เพราะจะได้เล่นในบ้านตัวเอง ทว่าเมื่อถูกโควิดทำให้ชั่วโมงลูกหนัง “ไม่ปกติ” การเตะสนามกลาง ขนาบด้วยแวดล้อมที่ไม่คุ้นชิน จึงทำให้เราถูกลดทอนความได้เปรียบไป
ถึงเป็นมาเลเซีย แต่ก็ “ไม่ง่าย”
อีกทั้งชั่วโมงนี้สิ่งหนึ่งที่ต้องยอมรับคือชาติในอาเซียนไม่ได้กลัว “ทีมไทย”
เวียดนาม เขาก้าวไปสูงกว่าเราแล้ว อินโดนีเซีย ก็เพิ่งสร้างบาดแผลให้ ส่วน มาเลเซีย ยังสถาปนาตนเป็นเพื่อนบ้านที่น่ารำคาญ เป็นเสือ(เหลือง)ที่ยังเคี้ยวยากเสมอ ยามเจอกัน
คนรับบทหนักสุดในภารกิจนี้ นอกจากนักเตะทั้งหมดแล้ว คงหนีไม่พ้น อากิระ นิชิโนะ ที่การบ้านมากมายก่ายกอง
เฮดโค้ชพันธุ์ซามูไร จะจัดการกับปัญหาของช้างศึกเชือกนี้อย่างไร
โดยเฉพาะ “เกมรับ” ที่เห็นภาพชัดตลอดกับ 2 เกมล่าสุด นัดเสมอ อินโดนีเซีย และแพ้ ยูเออีไม่ว่าจะเป็นวิธีสื่อสารภายในทีม การยืนตำแหน่ง หรือ สมาธิ การเสียประตูให้คู่แข่งง่าย ๆ ที่นอกจากไม่ได้ส่วนบุญแล้ว ยังส่งผลกับรูปเกม และสภาพจิตใจของทีม
รูโหว่ใหญ่ในเกมรับที่แฟนบอลคีย์บอร์ดไลเซนส์ตาสีตาสายังมองเห็น คิดหรือว่า มาเลเซีย จะไม่เห็น ?
หากยังจัดการกับปัญหานี้ไม่ได้ มีโอกาสสูงที่ผลลัพธ์จะออกอิหรอบเดิม
อีกประเด็นคือ เกมนี้ นิชิโนะ ต้องจัดตัวที่ดี และสมบูรณ์สุดลงสนาม หมดเวลาโรเตชั่น หมดเวลาให้โอกาสคนโน้นคนนี้ เราให้โอกาสกันมาพอแล้ว นัดนี้ต้องจัดเต็มที่สุด เลือกผู้เล่นที่คิดว่าจะลงสนามไปแล้วขยี้มาเลเซียได้
เกมรุกต้องเชื่อม และเล่นร่วมกันได้ เกมรับต้องลดรายละเอียดข้อผิดพลาดให้ได้มากที่สุด รวมถึงสภาพจิตใจที่ต้องขุดกันกลับมาให้เร็ว นักเตะซีเนียร์ต้องเป็นศูนย์รวมจิตใจให้คนอื่นในทีม คอยช่วยประคองกัน
เพราะสิ่งที่ควรทำตอนนี้คือการ “เรียกศรัทธา” แฟนบอลกลับมา รวมถึงเรียกความมั่นใจของตัวเอง โดยใช้เกมพบ มาเลเซีย นี้เป็นจุดเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง
เดินหน้าชน ทำให้ดีที่สุด นี่คือสมรภูมิสุดท้ายในฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก 2020 ของทีมชาติไทย
บางทีผลการแข่งขันในเกมนี้ อาจเป็นการประเมิน นิชิโนะ อีกทาง ว่าเขายังคงเหมาะสมกับการนั่งบนหลังช้างศึกอีกหรือไม่ ?
