นิชิโนะ : สู้กันต่อ หรือ ซาโยนาระ
พยายามมองโลกในแง่ดีว่ามันคือ “อุบัติเหตุลูกหนัง” และ 2 เกมที่ผ่านมาเราน่าจะเห็น “ข้อผิดพลาด” ของตัวเองอย่างชัดเจน และทำการบ้านแก้ไขให้ได้ในเกมฟัดเสือเหลือง
อย่างน้อยให้ชนะ มาเลเซีย จบอันดับ 3 เป็น “รางวัลปลอบใจ” แฟนบอลหน่อย
แม้จะแข่งขันที่สนามกลาง ทว่าทีมชาติไทย “เป็นต่อ” คู่แข่งทุกมุม ไล่ตั้งแต่การได้พักถึง 8 วัน มากกว่า มาเลเซีย ถึง 4 วัน
ที่สำคัญพลพรรคเสือเหลืองไม่มี 3 แข้งสำคัญอย่าง ซยามีร์ อับบา, โมฮามาดู ซูมาเรห์ รวมถึง ลาเวียร์ คอร์บิน-ออง
แต่ 8 วันที่ได้พักหลังแพ้ ยูเออี ปัญหาเดิมของทีมชาติไทยยังคงอยู่
แนวรับที่มีแต่หล่อเฟี้ยว ถูกคู่แข่งบุกมาเล่นเสียวได้ตลอด
เป็นอีกครั้งที่ เอร์เนสโต ภูมิภา แสดงความผิดพลาดให้เห็น จากการทำเสียจุดโทษที่ไม่สมควรเสีย
ผู้เขียนไม่แน่ใจว่า นิชิโนะ พิศวาสอะไรในตัว เอร์เนสโต แฟนบอลโปรไลเซนส์ หรือ คนมองฟุตบอลบ้าน ๆ ไม่ได้ลึกซึ้ง ยังเห็น “ความผิดพลาด” เขาอย่างเด่นชัดในเกมที่ผ่าน ๆ มา
ตัวเลือกคนอื่นใช่ว่าจะไม่มี ศศลักษณ์ ไหประโคน, จตุรพัช สัทธรรม หรือแม้แต่ ฉัตรมงคล เรืองฐณโรจน์ ก็ชวนขึ้นเครื่องมายูเออีด้วยนี่
จุดนี้ นิชิโนะ เป็นผู้จัดการนักเตะลงสนาม ต้องรับผิดชอบไปเต็ม ๆ
ยังไม่นับถึงจังหวะอื่น ๆ ในแนวรับ (ไม่ใช่แค่ เอร์เนสโต) ที่สารภาพตามตรงว่า หากแนวรุกมาเลเซียนิ่ง ๆ กว่านี้ สกอร์หลังจบ 90 นาที จะไม่ถูกหยุดที่ 0-1
ขณะที่แนวรุก แม้จะจัดเต็มลงสนาม ทว่าสิ่งที่เห็นคือ “ความไม่เข้าใจ” ในเกม ที่ทำเหมือนเราไม่เคยเล่นร่วมกันเลย
จากวันที่เสมอ อินโดนีเซีย และแพ้ ยูเออี ผ่านมา 1 สัปดาห์ เราคาดหวังอย่างมากว่า “ปัญหา” ที่เกิดขึ้นในเกมรับ-เกมรุก นิชิโนะ จะสามารถแก้ไขมันได้
แต่สิ่งเหล่านั้นยังคงไม่หายไป แฟนบอลไทยยังเห็น “แฟลชแบ็ค” ในเกมกับ มาเลเซีย
สิ่งที่เปลี่ยนไปบ้างคือ “การตื่นตัว” โค้ชเลือกแก้เกมไวหลังถูกออกนำได้ 3 นาที แต่จนแล้วจนรอด 5 ผู้เล่นที่ถูกเปลี่ยนลงมา กลับไม่สามารถสร้างความต่างอะไรในเกมได้ รูปแบบการเข้าทำที่ชัดเจนแทบไม่มีให้เห็น สมดุลเกมที่หายไป สุดท้ายก็พลาดเสียบอลให้คู่แข่ง
เราอาจจะสู้สุดหัวใจ แต่เราเล่นกันด้วยความไม่เข้าใจ
สิ่งเดียวที่เราเหนือกว่า มาเลเซีย คือ “การครองบอล” แค่นั้นจริง ๆ
จากที่ตั้งเป้าหมายว่า จะจบ 8 นัดด้วยการแชมป์กลุ่ม เพราะศักยภาพสามารถต่อกรได้ทุกทีม หรืออย่างขี้เหร่เกาะเป็นรองแชมป์กลุ่มสู่รอบ 12 ทีมสุดท้ายได้
แต่ความจริงเราพบตัวเองอยู่ในอันดับ “รองบ๊วย”
เราเก็บแต้มจาก อินโดนีเซีย และ มาเลเซีย ทีมจากโถ 4-5 ไปกลับได้เพียง 4 คะแนน ทั้ง ๆ ที่มันควรเป็น 10-12 คะแนน เราควรมี 4 คะแนนอย่างน้อยจาก เวียดนาม แต่เราทำไม่ได้
ปิดฉากฟุตบอลโลก 2022 แบบเหงา ๆ
จากนี้ สมาคมฟุตบอลเตรียมพิจารณาภาพรวมผลงาน ในช่วงเดือนกรกฎาคม ว่าจะเอาอย่างไรต่อ
หากยังต้องการเข็นให้ นิชิโนะ ทำงานต่อ ก็ควรหาผู้ช่วยโค้ชชาวญี่ปุ่นนอกจากผู้ช่วยคนไทยมาเป็น “เพื่อนคู่คิด” แบ่งเบาภาระและสมองกุนซือ หาคนไทยสักคนที่พอมีพาวเวอร์นักเตะเคารพนับถือ เป็นคนกลางไว้คอย “กราวใจ” สื่อสารปัญหาระหว่างผู้เล่นในทีมและโค้ช ว่าอีกฝ่ายต้องการอะไร
นิชิโนะไม่ใช่เทพเจ้า!!! เขาแบกทุกอย่างไว้กับตัวคนเดียวไม่ไหว
หรือหากมองว่าหมดเวลา นิชิโนะ บนหลังช้างศึกแล้ว ก็สุดแล้วแต่ที่สมาคมฟุตบอลจะทุบโต๊ะพิพากษา