:::     :::

8 ทีมสุดท้ายเป็นอย่างน้อย

วันศุกร์ที่ 18 มิถุนายน 2564 คอลัมน์ เด็กเก็บบอล โดย ยักษ์เดนส์
1,187
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ทันทีที่ผ่านเข้ารอบน็อคเอาท์สำเร็จ บ่อนรับพนันต่างประเทษพร้อมใจกันขยับให้ อิตาลี ขยับขึ้นมาเป็นอันดับ 3 สำหรับการคว้าแชมป์ยูโรหนนี้เป็นรองแค่ ฝรั่งเศส กับ อังกฤษ สองทีมเท่านั้น

        ก็ถือเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นเพราะราคาเหล่านี้ปรับอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว และการเข้ารอบทำให้เพิ่มโอกาสได้แชมป์ก็ย่อมปรับเป็นธรรมดา เหมือนอย่าง เยอรมัน ที่แพ้เกมแรกก็โดนขึ้นเช่นเดียวกันแม้ยังไม่ตกรอบ

        เป็นอีกครั้งที่ทีมของ โรแบร์โต้ มันชินี่ แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งทั้งในเกมรุกและเกมรับ แม้ว่า จานลุยจิ ดอนนารุมม่า จะแทบไม่ได้ต้องออกแรงอะไรมากมายเลย

        แต่การที่ผู้รักษาประตูไม่ต้องลงมือมากนักเท่ากับว่าเกมรับของทีมทั้งกองหลังและกองกลางทำหน้าที่ได้อย่างดีเยี่ยม ไม่เปิดโอกาสให้คู่แข่งได้มีโอกาสสับไกนั่นแหละ


        ที่สำคัญคือทีมนี้ไม่ได้มีสตาร์คนไหนที่โดดเด่นเป็นพิเศษ แต่ละคนสามารถช่วยส่งเสริมซึ่งกันและกันไม่เว้นแม้กระทั่งตัวสำรอง กนั่นถือเป็นอีกหนึ่งความได้เปรียบที่ทำให้คู่แข่งจับทางยาก

        2 นัด 6 ประตู 3 คนยิง ถือว่าเกมมีความหลายหลากทีเดียว

        โดยเฉพาะ มานูเอล โลคาเตลลี่ ที่กดเบิ้ลในเกมล่าสุดที่ชนะ สวิตเซอร์แลนด์ 3-0 แสดงให้ถึงการอ่านเกมที่ไม่ธรรมดาทั้งการสอดมายิงในเขตโทษหรือการสับไกจากนอกกรอบ โดยเฉพาะลูกที่สองที่ยิงได้เฉียบขาดเหลือเกิน

        นั่นทำให้เห็นว่า "อัซซูรี่" ไม่จำเป็นต้องเจาะเข้าเขตโทษจากตัวรุกริมเส้นอย่าง โดเมนิโก เบราร์ดี้ กับ ลอเรนโซ่ อินซินเย่ เพียงอย่างเดียวเท่านั้น การยิงจากนอกกรอบก็มีเหมือนกัน


        อย่างที่เห็นได้จากลูกปิดท้าย ชิโร่ อิมโมบิเล่ เองก็ยิงไกลเช่นกัน ไม่ได้รอจังหวะเพื่อให้เพื่อนเปิดป้อนในเขตโทษเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

        และอย่างที่เห็นจากผลงานในช่วงที่ผ่านมาจนถึงตอนนี้ อิตาลี ไม่เสียประตูมาแล้ว 10 เกมติดต่อกันทุกรายการ แสดงให้เห็นถึงความเหนียวแน่นหาตัวจับยาก

        ไม่เว้นแม้แต่อุ่นเครื่องพวกเขาก็ไม่ยอมปล่อยให้คู่แข่งเจาะเข้าไปได้เลย เรียกได้ว่าถือเป็นการซ้อมใหญ่ไปในตัวกันไปเลย

        จุดแข็งคือคู่ปราการหลังอย่าง จอร์โจ คิเอลลินี่ กัปตันทีมและ เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่ ซึ่งคู่นี้ประสานงานกันมานานกว่า 10 ปีแล้ว

        

        คิเอลลินี่ อยู่กับ ยูเวนตุส มาตั้งแต่ปี 2005 และอยู่โยงมาจนถึงทุกวันนี้ ส่วน โบนุชชี่ ย้ายมาค้าแข้งกับ "ม้าลาย" เมื่อปี 2010 แม้จะมีช่วงไปเล่นกับ เอซี มิลาน หนึ่งในซีซั่นในปี 2017/18 แต่ปีเดียวกับกลับสู่รังตูริน

        เท่ากับว่าทั้งคู่ประสานงานกันมาแล่วร่วม 10 ปีในสโมสร และยังมาเป็นกำลังหลักในทีมชาติด้วย แม้ปัจจุบันจะอายุอยู่ในช่วงปลายอาชีพค้าแข้งแล้วแต่ยังคงความแข็งแกร่งเอาไว้ได้ไม่เสื่อมคลาย ส่วนในทีมชาติก็ประสานงานกันมาตั้งแต่สมัยชุดรองแชมป์รายการนี้เมื่อปี 2012 แล้ว

        นั่นเป็นที่มาว่าทำไมอาการบาดเจ็บของ จอร์โจ้ คิเอลลินี่ ในเกมกับ สวิตเซอร์แลนด์ โรแบร์โต้ มันชินี่ ต้องรับเปลี่ยนตัวออกตั้งแต่นาทีที่ 24 แม้จะไม่ได้ดูน่ากังวลอะไรมากแต่เพื่อเป็นการป้องกันไว้ก่อน


        เพราะนี่คือคนสำคัญในเกมรับที่ประสบการณ์ไม่เป็นรองใครในทัวร์นาเม้นต์ในครั้งนี้

        ดีหน่อยตรงที่ทีมเข้ารอบไปแล้ว ในเกมสุดท้ายที่ทีมจะพบกับ เวลส์ นั้นไม่มีความจำเป็นที่จะต้องส่งลงสนาม ไม่ว่าจะฟิตหรือไม่ฟิตก็ตาม ให้พักไปเลยดีกว่าเช่นเดียว เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่

        แต่ถึงกระนั้นในผลงานอันยอดเยี่ยมนี้ยังมีเสียงวิจารณ์ให้ระคายหูอยู่บ้างว่าพวกเขายังไม่ดีพอที่จะไปถึงตำแหน่งแชมป์ยูโรหนนี้

        เหตุผลง่ายๆก็คือเพื่อนร่วมกลุ่มไม่แกร่งพอที่จะยกย่องผลงานขึ้นขนาดนี้ และทีมก็ยังไม่เจอบททดสอบอะไรเลยจากสองเกมแรกทั้ง ตุรกี และ สวิตเซอร์แลนด์

        

        อย่างที่บอกว่าเกมที่เหนือกว่าและไม่โดนคู่แข่งบุกมากเท่าไรนักนั่นแหละ ทำให้ถูกมองว่าทีมยังไม่แสดงศักยภาพครบทุกองค์ประกอบ

        โดยเฉพาะทาง ปาทริค วิเอร่า จำนานกองกลางทีมชาติฝรั่งเศสที่เปิดตัวทำหน้าที่วิเคราะห์ศึกยูโรหนนี้ทางไอทีวีที่มองข้าม อิตาลี ว่ายังไม่ถึงแชมป์

        เช่นเดียวกันกับ แกรี่ เนวิลล์ ที่แสดงความเห็นว่าทีมของ โรแบร์โต้ มันชินี่ ยังไม่ได้เจอกับของแข็งอย่างแท้จริง

        มองข้ามชอตไปหากทีมเข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่มในรอบ 16 ทีมสุดท้ายก็จะไปเจอกับรองแชมป์กลุ่มซีที่มี ฮอลแลนด์, ออสเตรีย, ยูเครน และ นอร์ท มาซิโดเนีย อยู่


        หากมองตามหน้าเสื่อแล้ว "อัศวินสีส้ม" เป็นแชมป์กลุ่ม ส่วนทีมอันดับสองไม่ว่าสามทีมที่เหลือจะเป็นใครก็อ่อนชั้นกว่าอยู่ดี หรือจะบอกว่าอ่อนกว่าทีมที่อยู่ร่วมกลุ่มตอนนี้ด้วยซ้ำ

        หากไม่มีอะไรผิดพลาดก็มองข้าม (อีก) ไปรอบ 8 ทีมสุดท้ายไปได้เลย นั่นแหละ เพราะฉะนั้นอย่าแปลกที่ราคาการคว้าแชมป์จะถูกปรับลดเพราะบ่อนมองว่าโอกาสเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศเป็นอย่างน้อยนั้นสูงปรี๊ด

        รอดูเกมสุดท้ายกับ เวลส์ ที่น่าจะปรับทัพเพราะทีมเข้ารอบไปแล้ว ดูว่าใครจะลงเล่นบ้าง และจะทำได้ดีมากน้อยแค่ไหนกัน


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด