:::     :::

การเติบโตในแบบฉบับ "จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม"

วันอังคารที่ 22 มิถุนายน 2564 คอลัมน์ Zero to Hero โดย บังคุง
1,480
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ถือว่ากลับมาโชว์ฟอร์มได้อย่างมีชีวิตชีวาอีกครั้ง

สำหรับจอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุมที่ฝากผลงานเอาไว้กับทีมชาติเนเธอร์แลนส์ ในศึกยูโร 2020 รอบสุดท้าย โดยเขาสามารถยิงประตูในรอบแรก 3 ลูกด้วยกัน พร้อมกับพาทีมอัศวินสีส้มผ่านเข้าไปเล่นในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ในฐานะแชมป์ของกลุ่มซี (ชนะ 3 เกมรวด)


ช่วงนี้ เราไปย้อนดูจุดเริ่มต้นการเล่นฟุตบอลของกัปตันทีมชาติเนเธอร์แลนด์ คนนี้กันหน่อยดีกว่า นี่ถือเป็นนักฟุตบอลอีกหนึ่งคนที่ผ่านอุปสรรคมาอย่างโชกโชน กว่าจะก้าวมาเล่นในเวทีระดับโลกเป็นผลสำเร็จ ไม่แน่เลยว่า หากอ่านจบแล้ว เราอาจจะได้รับแรงบันดาลใจจากเขาไปไม่มากก็น้อย

จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม เกิด และเติบโตที่เมืองร็อตเธอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ส โดยเขาสืบเชื้อสายมาจากชาวซูรินาม เฉกเช่นตำนานนักเตะอย่างเอ็ดการ์ ดาวิดส์ และคลาเรนซ์ เซดอร์ฟ ที่ถือว่าเป็นแกนหลักของทีมชาติในยุคหนึ่งเลยทีเดียว โดยว่ากันว่า นี่คือสายเลือดที่ผลิตนีกกีฬาชื่อดังมาอย่างมากมาย


กระทั่งอายุ 6 ขวบ  ไวจ์นัลดุมต้องเจอกับความเปลี่ยนแปลงในชีวิต เนื่องจากคุณพ่อ และคุณแม่ตัดสินใจหย่าร้างกัน ทำให้เขาต้องมาอาศัยอยู่กับคุณยาย แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เขาขาดความอบอุ่น หรือรู้สึกว่าไม่เพียบพร้อมเหมือนคนอื่นเลย เพราะคุณยายคอยดูแลเขาเป็นอย่างดีนั่นเอง 


เรื่องราวในวัยเด็กคือ เขาเริ่มต้นเส้นทางลูกหนังช้ากว่าเด็กรุ่นเดียวกัน โดยไม่เคยเล่น หรือว่าชมการถ่ายทอดสดฟุตบอลทางโทรทัศน์ เพราะมีความฝันอย่างเดียวคือการเป็นนักยิมนาสติก โดยจุดเปลี่ยนสำคัญคือ โอกาสคัดตัว และได้ร่วมทีมเยาวชนของสโมสรสปาร์ต้า ร็อตเทอร์ดัม จนเป็นแรงบัลดาลใจให้เขาสนใจกีฬาประเภทนี้ 


ผมมีทุกวันนี้ .... เพราะคุณยายเขาเริ่มเกริ่นนำถึงชีวิตของตัวเอง 

ย้อนกลับไปปี 1997 ที่เมืองร็อตเทอร์ดัม ช่วงเช้าที่หลายคนยังไม่ลุกขึ้นจากเตียงนอน ทว่าไวจ์นัลดุม ในวัยเพียง 7 ขวบ กำลังเดินฝ่าความหนาวเหน็บอยู่บริเวณข้างถนน พร้อมกับได้ถือชุดฟุตบอลเอาไว้อย่างแนบแน่น โดยที่มีคุณยายเดินเคียงข้างไม่ห่างพร้อมกับคอยดูแลอย่างใกล้ชิดเลยทีเดียว 


ยายหลานกำลังเดินไปสนามซ้อมของทีมสปาร์ต้า ร็อตเธอร์ดัม ซึ่งเป็นสโมสรแรกที่เปิดโอกาสรับไวจ์นัลดุม เข้าร่วมอะคาเดมี่ ระยะทางหลายไมล์ที่กินความเมื่อยล้า ภายใต้บรรยากาศช่วงเช้าตรู่ ครอบครัวของเขาไม่มีรถยนต์เหมือนบ้านอื่น ขณะที่พวกขนส่งสาธารณะอย่างรถไฟ และรถราง ก็ยังไม่ออกวิ่ง ทั้งสองจึงต้องเดินผ่านความเยือกเย็นไป


อาจกล่าวได้ว่า ไวจ์นัลดุม ใช้ชีวิตกับคุณยายมาตั้งแต่จำความได้ จากการที่ครอบครัวเขาต้องเจอกับปัญหากับการแยกทางกัน โดยคุณแม่เตรียมย้ายบ้านไปอยู่ที่กรุงอัมสเตอร์ดัม และอยากนำเขาไปอยู่ด้วย


อย่างไรก็ตาม เขาตัดสินใจไม่ย้ายตามไป เพราะอยากอยู่กับคุณยายมากกว่า ก่อนที่สุดท้าย คุณยายจะสนับสนุนเขาเข้าสู่วงการลูกหนัง ไล่ตั้งแต่ทีมเยาวชน จนส่งถึงฝั่งด้วยการเป็นนักฟุตบอลอาชีพของเฟเยนูร์ด และพีเอสวีฯ


สิ่งที่คุณยายทำเพื่อผม มันไม่น่าเชื่อเลยไวจ์นัลดุม กล่าวทั้งน้ำตา ตอนได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของลีกเนเธอร์แลนด์ส ก่อนจะบอกความในใจต่อว่าคุณยายสนับสนุนผมเสมอมา ท่านนำผมเข้าสู่โลกของฟุตบอล ท่านคือลมหายใจ, จิตใจ, ร่างกาย, ดวงตา และศีรษะของผม ท่านเป็นทุกสิ่งทุกอย่างจริงๆ

คุณยายไม่เพียงเลี้ยงดูไวจ์นัลดุม จนเติบใหญ่ และไม่ปล่อยให้อดอยากเท่านั้น เธอยังคงหล่อเลี้ยงความฝันของหลานชายคนนี้ จนก้าวมาประสบความสำเร็จในที่สุด 


โดยเขากล่าวต่อว่าครอบครัวของเราไม่ได้ร่ำรวยแต่ก็ไม่ถึงขั้นยากจนมากเท่านัก แน่นอนว่า เราไม่มีรถยนต์เป็นของตัวเอง ดังนั้น เราจึงต้องโดยสารโดยรถไฟ หรือไม่ก็รถราง


เมื่อคุณเล่นให้กับสปาร์ต้า ร็อตเธอร์ดัม รุ่นอายุต่ำกว่า 7 ขวบ บางครั้ง คุณก็ต้องไปถึงสโมสรในเวลา 7 โมงเช้า มันอาจกินเวลานานกว่า 45 นาที ในการเดินจากบ้านไปยังสโมสร"


"แม้แต่ในฤดูที่หนาวจับใจ คุณยายก็ไม่เคยปล่อยให้ผมเดินไปคนเดียวเลย ท่านคอยเดินไปกับผมเสมอ ท่านอายุมากแล้ว แต่ก็ยังเป็นคนที่แข็งแรงดี


ไวจ์นัลดุม กล่าวทิ้งท้ายว่าสำหรับผม ฟุตบอลไม่ใช่เป็นเพียงแค่ฟุตบอลเท่านั้น สำหรับคนจำนวนมาก ฟุตบอลอาจเป็นเรื่องของธุรกิจ แต่คุณยายบอกผมเสมอว่า อย่าสูญเสียตัวตนไป ในสถานการณ์เหล่านั้น พยายามมีความสุขกับการเล่นฟุตบอล แม้ว่าชีวิตผมเปลี่ยนแปลงไป ทว่าผมก็ยังเป็นคนเดิมเหมือนที่เคยเป็นมา 


2 ทศวรรษผ่านพ้นไป ภาพเด็กที่เดินฝ่าความหนาวเหน็บที่ร็อตเทอร์ดัม ร่วมกับคุณยายที่แสนน่ารัก วันนี้ ไวจ์นัลดุม กลายมาเป็นนักฟุตบอลอาชีพอย่างเต็มตัว ผ่านการลงเล่นกับสโมสรชั้นนำมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเฟเยนูร์ด, พีเอสวี สองทีมดังในบ้านเกิด รวมถึงนิวคาสเซิ่ล และลิเวอร์พูล จากเกาะอังกฤษ 


โดยฤดูกาลหน้า เปแอสเช จากลีกเอิง รอให้เขาไปพิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง 

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด