:::     :::

การตัดสินใจที่สะเทือนวงการ

วันพฤหัสบดีที่ 01 กรกฎาคม 2564 คอลัมน์ ฟุตบอลข้างถนน โดย โกสุ่ย
2,949
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
เมื่อช่วงดึกวันพุธที่ผ่านมา เลกิ๊ป สื่อดังจากฝรั่งเศสลงข่าวที่สะเทือนวงการฟุตบอลทั่วยุโรปและอาจจะทั่วโลก เกี่ยวกับกรณีไม่ต่อสัญญาของ คีลียัน เอ็มบั๊ปเป้

แฟนบอลคงทราบดีถึงสถานการณ์ปัจจุบันของหัวหอกวัย 22 ปีที่สัญญาในตอนนี้กำลังเข้าสู่ปีสุดท้าย และไม่มีความชัดเจนแม้ว่า ปารีส แซงต์-แชร์กแม็ง พยายามเจรจาอย่างต่อเนื่อง

ย้อนกลับไปในช่วงก่อนหน้านี้ เปแอสเช พยายามอย่างมากที่จะให้ เอ็มบั๊ปเป้ ตกลงต่อสัญญาฉบับใหม่ออกไปให้เรียบร้อยก่อนศึกยูโร 2020 เริ่มต้น ซึ่งอันที่จริงการเจรจาเกิดขึ้นมานานแล้วตั้งแต่ปิดฤดูกาล 2019/20 แต่ทุกอย่างดูเหมือนไม่มีความคืบหน้าใดๆ 

ตัวนักเตะยังคงนิ่งเฉยไม่มีการตอบรับใดๆ มีเพียงคำพูดสั้นๆ ว่า 'ขอมุ่งมั่นกับผลงานในสนาม ปิดฤดูกาลค่อยมาว่ากัน' ทำให้ข่าวลือต่างๆ พรั่งพรูออกมาเป็นระยะ ฝั่งสโมสรพยายามแสดงความมั่นใจตลอดโดยเฉพาะบรรดาบอร์ดบริหารและนักเตะในทีมที่คอยกล่อมผ่านสื่อเมื่อมีโอกาส

สถานการณ์ที่เกิดขึ้นดำเนินไปพร้อมกับข่าวลือมากมาย เรอัล มาดริด ถือเป็น 'ตัวเต็ง' ที่ถูกโยงว่ามีโอกาสได้หอกทีมชาติฝรั่งเศสรายนี้ไปเสริมมากที่สุด รวมไปถึง ลิเวอร์พูล อีกหนึ่งทีมที่กลายเป็นจุดสนใจในช่วงหลังเพราะมีสื่อหลายๆ เจ้าที่โยง หงส์แดง กับแข้งรายนี้




จะว่าไปแล้ว เรอัล มาดริด ไม่ได้ปิดบังความต้องการที่จะดึง เอ็มบั๊ปเป้ ไปร่วมทีม แม้ทาง ฟลอเรนตีโน่ เปเรซ ประธานโลส บลังโกส จะสงวนท่าทีไม่พูดถึงแบบโจ่งแจ้ง แต่ลึกๆ แล้วหัวเรือใหญ่จาก ซานติอาโก้ เบร์นาเบว คนนี้คงกระสันอยากได้นักเตะของเปแอสเชไปร่วมทีมใจจะขาด

ไม่ต่างจากทีมอื่นๆ ที่พร้อมลงสนามหลังจากมีข่าวหลุดออกมาว่า เอ็มบั๊ปเป้ ไม่ต่อสัญญา เพราะถึงขั้นนี้แล้วความเป็นไปได้ใดๆ ก็สามารถเกิดขึ้นได้นั้น

กระนั้นหากดูจากรายงานของสื่อดังแดนน้ำหอม กรณีนี้ของ เอ็มบั๊ปเป้ เขาไม่ได้พยายามแตกหักหรือพยายามย้ายหนี เปแอสเช ทันทีในหน้าร้อนนี้ เพราะด้วยสัญญาที่เหลืออีก 1 ฤดูกาลทำให้นักเตะพร้อมอยู่กับทีมต่อไปจนถึงวันสุดท้ายและจากกันด้วยดีหลังหมดสัญญา

หรือหากมองในอีกมุมหนึ่งคือ เอ็มบั๊ปเป้ ยกการตัดสินใจเรื่องสัญญาที่เหลือให้ เปแอสเช เป็นผู้กำหนดว่าจะให้เขาอยู่ต่อจนครบกำหนดหรือจะขายออกไปในหน้าร้อนนี้ ซึ่งหากเลือกได้จริงๆ เปแอสเช คงไม่ต้องการทางเลือกทั้งสองกรณีอย่างที่กล่าวมา เพราะทางออกที่ดีที่สุดของพวกเขาคือการต่อสัญญากับอดีตนักเตะโมนาโกรายนี้ออกไป 

สโมสรดังของกรุงปารีสพยายามมัดใจนักเตะในหลายๆ ด้าน ทั้งการต่อสัญญากับ เนย์มาร์ หัวหอกเพื่อนร่วมทีม เอ็มบั๊ปเป้ ไหนจะหากำลังเสริมทั้ง จอร์จินโย่ ไวนัลดุม ที่ได้มาแบบฟรีๆ ไม่เสียค่าตัว นอกจากนั้นพวกเขากำลังจะปิดดีลดึงตัว อาชราฟ ฮาคีมี่ กับ จานลุยจิ ดอนนารุมม่า สองสตาร์จาก เซเรีย อา ในเร็วๆ นี้

ที่สำคัญที่สุดคือการที่สโมสรต่อสัญญากับ เอธาน น้องชายสุดที่รักของ เอ็มบั๊ปเป้ ออกไป ทำให้หลายๆ คนมองว่านี่จะเป็นอีกหนึ่งกุญแจสำคัญที่ (อาจจะ) ทำให้แข้งวัย 22 ปี ตัดสินใจฝากอนาคตไว้ใน ปาร์ก เดส์ แพร็งซ์ ต่อไป





แต่ทุกอย่างดูไม่เป็นไปตามที่ต้องการเพราะจากสถานการณ์ล่าสุด เอ็มบั๊ปเป้ พร้อมออกไปผจญภัยในโลกใหม่และโลกที่กว้างกว่าเดิม

แน่นอนว่าทุกเรื่องย่อมมีสาเหตุและที่มาที่ไป ซึ่งทาง เลกิ๊ป ระบุตอนหนึ่งว่าสาเหตุสำคัญและอาจจะเป็นปัจจัยที่ทำให้การเจรจาต่อสัญญาชะงักและไม่มีความคืบหน้ามาจาก เลโอนาร์โด้ ผู้อำนวยการกีฬาของเปแอสเช

แม้ที่ผ่านมา เลโอนาร์โด้ จะทำความดีความชอบมากมายจนได้รับความไว้วางใจจาก นาสเซอร์ อัล-เคไลฟี่ ประธานสโมสรให้ดำเนินงานและจัดการเรื่องนักเตะในทีม แต่ดูเหมือนว่ากรณีของ เอ็มบั๊ปเป้ จะไม่เป็นไปตามนั้น และดูเหมือนว่าบรรยากาศจะแย่ลงไปเรื่อยๆ 

การเจรจาของทั้งสองฝ่ายมาถึงจุดที่ต้องตกลงเรื่องรายละเอียดทางการเงิน แน่นอนว่าฝั่ง เอ็มบั๊ปเป้ ต้องการได้สัญญาที่ดีกว่าเดิม นั่นหมายถึงจำนวนเงินหรือเงื่อนไขต่างๆ ที่ต้องถูกพัฒนาขึ้นและดูน่าพอใจเพื่อให้สอดคล้องกับผลงานตลอดช่วง 4 ซีซั่นที่ผ่านมา

แต่ทางฝั่ง เปแอสเช ที่นำโดย เลโอนาร์โด้ กลับพยายามรักษาสถานะการเงินของสโมสร ทำให้ไม่สามารถตอบรับความต้องการของนักเตะได้ ซึ่งหากมองในมุมของผู้อำนวยการรายนี้ก็คงไม่ผิดอะไรเพราะเขาพยายามรักษาสมดุลทางการเงินของสโมสร และกังวลว่าการมอบสัญญาก้อนโตหรือทำตามที่นักเตะต้องการอาจจะส่งผลกับการเงินในอนาคตของสโมสร และอาจจะเสี่ยงถูก ยูฟ่า ลงโทษผ่าน 'กฎการเงิน' หรือ ไฟแนนเชี่ยล แฟร์ เพลย์ 





ในเมื่อทั้งสองฝ่ายต่างมีความต้องการของตนเอง ซึ่งความต้องการที่ว่าไม่สามารถมาบรรจบกันได้ทำให้การเจรจาต้องชะงักและกินเวลาอย่างที่เห็น 

นอกจากนั้น เลกิ๊ป แฉต่อไปว่าเรื่องนี้ทำเอาเจ้าของสโมสรควันออกหูและต้องลงมาดูแลด้วยตนเองเพราะ อัล-เคไลฟี่ วางให้ เอ็มบั๊ปเป้ เป็นหนึ่งใน 'คีย์แมน' คนสำคัญสำหรับแผนงานในอนาคตของสโมสร

เรื่องดังกล่าวดูจะช้าเกินไป เพราะอย่างที่ทราบกันไปแล้วว่า เอ็มบั๊ปเป้ ตัดสินใจอนาคตของตนเองลงไปแล้ว 

ถือเป็นความเสียหายที่ เปแอสเช ต้องแบกรับ และคำถามสำคัญคือหลังจากนี้คือ 'พวกเขาจะทำอย่างไรต่อไป?' 

การเก็บนักเตะไว้จะส่งผลดีกับผลงานในสนามเพราะเป็นที่ชัดเจนว่า เอ็มบั๊ปเป้ พร้อมมุ่งมั่นเต็มที่เพื่อแสดงความเป็นมืออาชีพออกมาจนกว่าสัญญาจะหมดลง นอกจากนั้นอาจจะทำให้ เปแอสเช มีเวลาลองกล่อมนักเตะอีกครั้งเผื่อจะเปลี่ยนใจได้ แต่ท้ายที่สุดหากสถานการณ์ยังคงเหมือนเดิม สิ้นฤดูกาล 2021/22 เอ็มบั๊ปเป้ ก็จะกลายเป็น 'ฟรีเอเย่นต์' 

หรือในกรณีที่ เปแอสเช พร้อมปล่อยนักเตะออกไปในหน้าร้อนนี้เพื่อนำเงินมาหมุนเวียนในการมองหาตัวแทน แต่โจทย์สำคัญคือจำนวนเงินที่พวกเขาต้องการอาจจะสวนทางกับที่บรรดาสโมสรซึ่งแสดงความสนใจจ่ายมาให้ เพราะอย่าลืมว่าสถานการณ์ต่างๆ เปลี่ยนไปแล้ว และพวกเขาไม่ได้ถือไพ่เหนือกว่าเหมือนที่เกิดขึ้นในอดีต





ถือเป็นทางแยกสำคัญของ เปแอสเช ว่าจะตัดสินใจเรื่องนี้เช่นไรให้ออกมาเป็นประโยชน์กับพวกเขามากที่สุด 

ต่างจาก เอ็มบั๊ปเป้ ที่คงมองถึงอนาคตของตนเองว่าถึงเวลาในการสยายปีกสู่โลกภายนอก โลกที่จะทำให้วงการฟุตบอลพูดถึงเขามากเดิมและถูกจับจ้องมากขึ้นกว่าตอนเล่นในฝรั่งเศส

เรื่องราวของ เอ็มบั๊ปเป้ และ เปแอสเช ทำให้ตลาดหน้าร้อนปีนี้น่าสนใจมากขึ้นว่าท้ายที่สุดทางออกเรื่องดังกล่าวจะไปจบลงที่จุดไหน

สำหรับ เอ็มบั๊ปเป้ นี่จะถือเป็นการเดินทางครั้งสำคัญอีกครั้งของเขา และใครจะเป็นผู้โชคดีได้กองหน้ารายนี้ไปครอบครอง เรื่องนี้น่าติดตามเป็นอย่างยิ่ง ... 




ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด