:::     :::

It's Coming Home?

วันอาทิตย์ที่ 04 กรกฎาคม 2564 คอลัมน์ ฟุตบอลข้างถนน โดย โกสุ่ย
1,300
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
วินาทีสิ้นเสียงนกหวีดที่ สตาดิโอ โอลิมปิโก้ แฟนบอลสิงโตคำรามโห่ร้องด้วยความยินดี เพราะมันหมายถึงการเข้ารอบรองชนะเลิศรายการใหญ่ได้ถึง 2 ครั้งติดต่อกัน

สายตาที่เต็มไปด้วยประกายความหวัง เสียงที่เปล่งออกมาพร้อมความรื่นเริง มันแดงให้เห็นอีกครั้งว่าแฟนบอล ทรี ไลออนส์ กลับมามีความมั่นใจอีกครั้งว่าทีมรักของพวกเขาจะไปถึงจุดหมายที่รอคอยมานานแสนนาน

นับตั้งแต่ฟุตบอลโลก 2018 ที่ อังกฤษ ไปได้ไกลถึงรอบตัดเชือก พัฒนาการของ สิงโตคำราม ถือว่ารุดหน้าและสมควรได้รับการจับตามอง 

การเข้ามาในตอนแรกของ แกเร็ธ เซาธ์เกต อาจจะถูกตั้งคำถามอย่างมากจากทั้งสื่อและแฟนบอล แต่ผู้จัดการทีมวัย 50 ปีค่อยๆ สร้างทีมในแบบที่ต้องการ ตอบโต้เสียงวิจารณ์ด้วยผลงานในสนาม ซึ่งมันพิสูจน์แล้วว่าทีมพัฒนาขึ้นอย่างมาก

เหลือเพียงแค่ความสำเร็จที่เป็นรูปธรรมนั่นหมายถึง 'แชมป์' ที่พวกเขาถวิลหา อย่างที่ทราบไปว่าถึง อังกฤษ จะถูกสื่อบ้านตัวเองยกย่องสารพัดและถูก 'สปอยล์' เสมอเมื่อมาถึงรายการใหญ่ๆ แต่สิ่งที่ขาดหายไปและต่างจากทีมอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น เยอรมนี, อิตาลี, ฝรั่งเศส หรือ สเปน คือความสำเร็จที่จับต้องได้

1966 คือปีที่พวกเขายังคงพูดถึงมาจนถึงรุ่นหลาน แต่ในช่วงเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมา อังกฤษ มีโอกาสสร้างเรื่องราวบทใหม่ 





แม้จะพลาดหวังในปี 2018 แต่ผลงานที่ถูกสร้างขึ้นได้ถูกสานต่อมาจนถึง ยูโร หนนี้ที่ปฏิเสธไม่ได้ว่า อังกฤษ มีโอกาส 'อีกครั้ง'

เริ่มต้นรายการแบบกระท่อนกระแท่น แม้จะเข้ารอบมาในฐานะอันดับ 1 ของกลุ่ม ดี แต่ผลงานในสนามกลับถูกวิจารณ์พร้อมถูกตั้งคำถามจากสื่ออย่างมาก

เป็นเรื่องธรรมดาของสื่อเมื่องผู้ดี 'ชมเมื่อทำดีและพร้อมขยี้เมื่อผิดพลาด' พวกเขาตั้งคำถามหลายๆ อย่างไปยัง เซาธ์เกต และลูกทีมโดยเฉพาะผลงานแนวรุกที่ฝืดเคืองทำได้เพียง 2 ประตูจากเกม 3 แรก ซึ่งแน่นอนว่าเป้าหมายพุ่งไปที่ แฮร์รี่ เคน ศูนย์หน้ากัปตันทีม

ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ เพราะ 'เคน' คือหนึ่งในตัวความหวังของอังกฤษ และที่สำคัญคือเรื่องราวของหัวหอกจาก ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ขายได้เสมอและเป็นที่น่าสนใจของแฟนบอล

ฝั่งนักเตะก็คงไม่สามารถหลีกเลี่ยงหรือหนีจากเสียงวิจารณ์ไปได้ พวกเขาต้องปรับตัวอยู่กับมัน การตอบโต้ที่ดีที่สุดคือการสร้างผลงานในสนาม เราจึงได้เห็น เคน ที่ค่อยๆ กลับมาเข้ารูปเข้ารอบด้วยการทำ 3 ประตูจาก 2 เกมในรอบน็อคเอาท์ ซึ่งเป็นผลงานที่มาได้ถูกจังหวะเวลาอย่างมาก





การกลับมาทำผลงานที่ดีของแนวรุก สิงโตคำราม ช่วยขับเน้นให้ฟอร์มของ สิงโตคำราม เด่นชัดมากขึ้น เพราะก่อนหน้านี้แทบไม่มีใครพูดถึงผลงานในแนวรับของ ทรี ไลออนส์ เท่าไหร่ ซึ่งหากพิจารณาดีๆ แล้วพวกเขาไม่เสียสักประตูเลยในรอบสุดท้าย 

ผลงานของทีมชาติอังกฤษค่อยๆ ไต่ระดับขึ้นมา มันจึงไม่แปลกใจที่เราเห็นแฟนบอลฉีกยิ้มจนเห็นฟันมากขึ้นขึ้นทีละน้อย ฟอร์มการเล่นอาจจะสะดุดไม่ปะติดปะต่อ แต่ตอนนี้มันกำลังจะไปถึงจุดที่ดีที่สุดของพวกเขา

นี่เป็นปัจจัยสำคัญของการลงสนามในรอบสุดท้าย หลายรายการก่อนหน้านี้เราอาจจะเคยเห็นทีมตัวเต็งที่มักจะทำผลงานในเกมแรกๆ ไม่ดีเท่าไหร่ แต่หลังจากเอาตัวรอดผ่านรอบแรกไปได้ พวกเขาค่อยๆ พัฒนาผลงานและเข้าไปถึงรอบชิงชนะเลิศได้ตามเป้าหมาย

ที่พิมพ์มาไม่ได้มีเจตนามองข้าม เดนมาร์ก คู่แข่งในรอบต่อไปของ อังกฤษ เพราะส่วนตัวเชื่อเหลือเกินว่าสถานการณ์ของ โคนม ไม่ได้ต่างจาก สิงโตคำราม เลยแม้แต่น้อย




จากทีมที่เจอเรื่องราวกระทบจิตใจคนในทีมตั้งแต่นัดแรก ผ่านไป 2 นัดไม่มีสักคะแนนเดียว แต่พวกเขาพลิกสถานการณ์เข้ารอบในเกมที่ 3 และมาไกลจนเป็นผู้เหลือรอด 4 ทีมสุดท้าย

ทำให้รอบตัดเชือกที่ เวมบลีย์ จะเต็มไปด้วยความมันและเดิมพันที่สูงมาก เดิมพันที่สามารถออกหน้าไหนก็ได้แม้ว่าตามหน้าเสื่อ อังกฤษ ดูจะเป็นต่อก็ตาม แต่ เดนมาร์ก พิสูจน์ให้เห็นว่าพวกเขา 'มีของ' และพร้อมสร้าง 'เทพนิยาย' บทใหม่ขึ้นมาเช่นเดียวกัน

ถือเป็นเกมที่น่าสนใจไม่แพ้ อิตาลี กับ สเปน ที่จะลงเจะก่อนหน้านั้น 1 วัน (อังคารที่ 6 กรกฎาคม) เพราะในมุมของ อังกฤษ หรือ เดนมาร์ก พวกเขาต่างต้องการสร้างเรื่องราวที่น่าประทับใจให้กับตนเอง

เดนมาร์ก หวังจะเดินรอยตาม ยูโร 1992 อีกครั้ง จากทีมนอกสายตาและเรื่องราวที่เกิดขึ้นมากมายทำให้หลายๆ คนพร้อมส่งกำลังใจให้กับขุนพลเดนิช ไดนาไมท์

ฝั่ง ทรี ไลออนส์ พวกเขาอยากประสบความสำเร็จในเวทีนานาชาติ ความสำเร็จที่ต้องการและตามหามานานแสนนาน ที่สำคัญคือการพิสูจน์ต่อสาธารณชนว่าพวกเขาไม่ใช่ 'ตัวตลก' อีกต่อไป





ถึงตรงนี้บรรดา 4 ทีมที่เหลือรอดต่างมองไปถึงการชูถ้วยแชมป์ในบั้นปลาย โดยเฉพาะแฟนบอลอังกฤษที่มั่นใจและเชื่อว่านี่คือโอกาสที่ดีที่จะเดินไปให้ถึงจุดหมาย ปัจจัยต่างๆ เอื้ออำนวยอย่างยิ่ง ทั้งการเล่นในสนาของตนเอง ไหนจะแฟนบอลที่มากกว่าทีมอื่นๆ และผลงานที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ภารกิจสำคัญคือการผ่านรอบรองชนะเลิศไปให้ได้ ซึ่งจะเป็นด่านหินที่วัดจิตใจของนักเตะสิงโตคำรามว่าจะสามารถก้าวผ่านไปได้หรือไม่ เพราะที่ผ่านมารอบรองชนะเลิศกับอังกฤษถือเป็นของแสลงที่ไม่ค่อยจะถูกกัน

ทุกๆ คนทราบดี ทั้งตัวกุนซือ, นักเตะ และแฟนบอลต่างเคยผ่านประสบการณ์ดังกล่าวมาแล้ว จึงทำให้นัดต่อไปคือเกมที่พวกเขาต้องการทำลายอาถรรพ์เพื่อเข้าชิงชนะเลิศให้ได้เป็นครั้งที่สองในประวัติศาสตร์

หลังจบเกมในวันพุธนี้พวกเราจะได้ทราบกันแล้วว่าคู่ชิงชนะเลิศ ยูโร 2020 จะเป็นใคร 

แฟนบอลอังกฤษจะได้เข้าไปร้อง Football's Coming Home ในรอบชิงชนะเลิศหรือไม่ หรือจะหยุดเพียงแค่รอบตัดเชือกอีกครั้ง อีกไม่นานคงได้รู้กัน ... 



ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด