ทำความเข้าใจความคิด เซาธ์เกต
ยูโร 2020 รูดม่านเรียบร้อย แชมป์ตกเป็นของ อิตาลี รองแชมป์ อังกฤษ หลังตัดสินกันด้วยการดวลลูกโทษที่จุดโทษ
คู่นี้ สำหรับผมแล้ว ไม่ว่าใครได้ชูถ้วยก็คู่ควรเหมาะสมด้วยกันทั้งสองทีม ในมุมของ อังกฤษ แม้จะมีสไตล์การเล่นที่ต้องใช้คำว่า 'น่าขัดใจ' แต่หากลองเข้าไปศึกษาวิธีคิดของ แกเร็ธ เซาธ์เกต แล้ว คนที่ไม่ชอบ อย่างน้อยๆก็ได้ทราบถึงที่มาที่ไป ว่าทำไม เซาธ์เกต จึงให้ทีมเล่นออกมาแบบนี้
เซาธ์เกต ได้บทเรียนจากฟุตบอลโลกที่ รัสเซีย เมื่อ 3 ปีก่อน จากการเห็นสภาพทีมตั
เซาธ์เกต ใช้งานลูกทีมตัวหลักของเขาอย่
ด้านนึงก็แหงล่ะ..จะคิ
อังกฤษ ของ เซาธ์เกต ตะลุยไปถึงรอบรองฯ เจอกับ โครเอเชีย และขึ้นนำก่อนจาก ฟรีคิกของ คีแรน ทริปเปียร์ แต่จากนั้นก็ค่อยๆแผ่วลงในช่
ครั้งนั้น เซาธ์เกต รู้สึกว่าลูกทีมของเขาหลายคน อยู่ในสภาพร่างกายที่อ่อนล้าเกิ
คิดนัดต่อนัดมันก็ดี...แต่คิ
ยูโร หนนี้ เซาธ์เกต จึงคิดใหม่ทำใหม่ พยายามถนอมนักเตะตัวหลักไว้ มีโอกาสก็จะถอดมาพัก วางแผนให้นักเตะอยู่ในสภาพสดที่
อีกวิธีคิดนึงที่ เซาธ์เกต ปรับมาใช้ ก็คือการเล่นที่เน้นสไตล์เหนี
การที่ เซาธ์เกต คิดแบบนั้น มันก็บอกยากว่าผิดหรือไม่ แต่ถ้าย้อนมองกลับไปในประวัติ
นอกจาก ฝรั่งเศส แชมป์โลกปี 2018 ที่เน้นชัวร์ เล่นเอาผลแล้ว ยังมี บราซิลในบอลโลก 1994 ขณะที่ในยูโรที่ผ่านมา ไม่ว่าจะ เดนมาร์ก ปี 1992, กรีซ ปี 2004 หรือ โปรตุเกส 2016 ล้วนแล้วต่างยึดหลัก 'safety first' ด้วยกันทั้งนั้น
เหตุนี้มันจึงออกมาเป็น อังกฤษ ในรูปแบบที่ทุกคนเห็น เน้นผล ให้ความสำคัญกับกลไกเกมรับ รอบแรก อังกฤษ ยิงได้ 2 ประตูจาก 3 เกม แฟนๆบ่นอุบ แต่ เซาธ์เกต มองมันอย่างมีความหมาย เพราะเขาไม่เสียประตูเลย
จวบจนกระทั่งถึงนัดชิงกับ อิตาลี เมื่อคืนวันวันอาทิตย์ อังกฤษ เสียแค่ 2 ประตูเท่านั้นจากฟรีคิก 1 ,โอเพ่นเพลย์ 1 และการที่ บูกาโย่ ซาก้า ถูกเลือกก่อน ฟิล โฟเด้น หรือ เจดอน ซานโช่ ก็เพราะเขาเล่นได้สอดคล้องกั
ตลอดทัวร์นาเมนท์ 7 เกม เสียแค่ 2 ประตู..มันออกมาเป็นผลลัพธ์ที่
เซาธ์เกต ยอมแลกกับการโดนด่าว่า 'ปอดแหก' เล่นแบบปลอดภัย และไปได้ไกลถึงนัดชิง
ทว่าการจะเป็นแชมป์รายการใหญ่ บางทีมันก็ต้องการอย่างอื่
การตัดสินด้วยลูกโทษที่จุดโทษ มันก็ไม่มีอะไรการันตีได้ทั้งนั้
เขาบอกว่าเลือกคนยิงจากการดู
บางคนว่า สนามซ้อมกับสนามจริงไม่เหมือนกั
คนที่ เซาธ์เกต มั่นใจและตั้งใจส่งลงไปยิง ทั้ง แรชฟอร์ด ทั้ง ซานโช่ เรียกว่าลงไปเพื่อการนี้
ผมว่ามันมีผลมากเลยนะ การเห็นเพื่อน 2 คนยิงไม่เข้าติดๆกัน นาทีนั้น บูกาโย่ ซาก้า จึงเหมือนโดนเทือกเขาแห่
เซาธ์เกต ไม่ควรให้ ซาก้า ยิง เลย !! หลายเสียงตำหนิตรงนี้ กรีลิช ก็มี, สเตอร์ลิ่ง ก็มี ทำไมไม่ให้ยิง
อันนี้ก็ตอบยาก มันอาจเป็นแผนที่ผิดพลาดของ เซาธ์เกต ที่ไม่เลือก 2 คนนี้ หรืออาจมาจากตัวนักเตะปฏิเสธเอง แต่ไม่ว่าอย่างไร เซาธ์เกต ก็ต้องรับผิดชอบไปทุกอย่าง
เมื่อเข้ามารับตำแหน่งนี้ ทุกการตัดสินใจล้วนมีราคา และที่สำคัญมันแพงมากเสียด้วย
ทำได้คือฮีโร่...ทำไม่ได้คุณก็
เจมส์ ลา ลีกา