:::     :::

แก่นชีวิตของ "ราฮีม สเตอร์ลิ่ง"

วันอังคารที่ 13 กรกฎาคม 2564 คอลัมน์ Zero to Hero โดย บังคุง
1,908
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ยูโร 2020 จบลงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ทีมชาติอังกฤษ เข้าป้ายเพียงแค่ตำแหน่งรองแชมป์ เมื่อเสมอกับอิตาลี 1-1 และพ่ายในช่วงดวลจุดโทษ พลาดแชมป์ระดับเมเจอร์ครั้งแรกในรอบ 55 ปีไปอย่างน่าเสียดาย แน่นอนว่า ความเสียดายมากขึ้นไปอีก เมื่อพลพรรคสิงโตคำรามลงเล่นนัดชิงในบ้านของตัวเองด้วย 


ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า หนึ่งในนักเตะที่ถูกพูดถึงมากที่สุดของทีมชาติอังกฤษ นั่นคือราฮัม สเตอร์ลิ่งที่ถูกวิจารณ์ตั้งแต่รอบแรก จนถึงรอบชิงชนะเลิศ ความเห็นส่วนมากบอกว่า ดาวเตะจากแมนเชสเตอร์ ซิตี้ รายนี้ เล่นได้ไม่ตามมาตรฐานที่ควรจะเป็น และไม่ได้อยู่ในฟอร์มการเล่นที่น่าพอใจ


อย่างไรก็ตาม เมื่อดูจากสถิติทางตัวเลขแล้ว ผลงานส่วนตัวของสเตอร์ลิ่ง ในยูโร 2020 รอบสุดท้าย ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีเลย เมื่อยิง 3 ประตู 1 แอสซิสต์ และมีความแม่นยำในการผ่านบอลถึง 84 เปอร์เซนต์ พร้อมกันนี้ เขายังเลี้ยงบอลฝ่าคู่แข่ง 34 ครั้ง ซึ่งถือว่าเป็นอันดับ 1 ในทัวร์นาเมนต์เลยทีเดียว 


ช่วงนี้ เราลองไปย้อนดูปูมหลัง และชีวิตของสเตอร์ลิ่ง กันหน่อยว่า กว่าจะมาเป็นซูเปอร์สตาร์ลูกหนังเหมือนทุกวันนี้ เขาต้องฝ่าฟันอุปสรรคอะไรมาบ้าง พร้อมกับในแง่มุมของครอบครัว ที่เปรียบเหมือนกับแรงผลักดันชั้นดี ในการพาเขามาถึงจุดนี้ เพื่อไม่เป็นการเสียเวลา เราไปติดตามชีวิตบางตอนของเขากันเลย  

วันที่ผมสามารถซื้อบ้านให้กับคุณแม่ได้ ... นั่นอาจเป็นวันที่ผมมีความสุขมากสุดในชีวิต


เรื่องราวที่หลายคนอาจจะยังไม่เคยทราบมาก่อนคือ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ไม่ได้เป็นคนอังกฤษ โดยกำเนิด โดยเขาลืมตาดูโลกที่ "คิงส์ตัน" เมืองหลวงของประเทศจาไมก้า จากจุดเริ่มต้น ที่คุณพ่อของเขาเสียชีวิตไป จากการโดนฆาตกรรม ทำให้ชีวิตของเขาเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล


จากการสูญเสียครั้งนั้น ส่งผลให้คุณแม่ต้องตัดสินใจครั้งสำคัญ ด้วยการออกเดินทางมายังประเทศอังกฤษ เพราะอยากจะยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น รวมถึงหาหนทางใหม่ในการดำรงชีพ ซึ่งเวลานั้น สเตอร์ลิ่ง มีอายุเพียงแค่ 5 ขวบเท่านั้น นอกจากนี้เธอยอมทำทุกวิถีทางในการผลักดันลูกชายคนนี้ ที่มีความฝันอยากเป็นนักฟุตบอลอาชีพด้วย


ย้อนเวลากลับไปในวันวาน คุณแม่ของสเตอร์ลิ่ง รับบทบาท และทำหน้าที่เป็นพนักงานทำความสะอาด โดยเธอทำควบคู่ไปกับการเรียนหนังสือ นี่คือสิ่งที่เธอต้องอดทนลงมือทำ โดยมีลูกๆเป็นกำลังใจอยู่ไม่ห่าง แม้การเอาตัวรอดในแต่ละวัน จะยากเย็นมากก็ตามที


จากการที่รายได้ต่อเดือนไม่เพียงพอ ส่งผลให้ครอบครัวมีความจำเป็นต้องย้ายบ้านบ่อยครั้ง อันเนื่องมาจากไม่มีเงินค่าเช่า แม้ว่าจะทำงานอย่างหนักหน่วง และเต็มไปด้วยอุปสรรคที่ขวางหน้า ทว่าคุณแม่ไม่เคยปล่อยเขาไปฝึกซ้อมฟุตบอลคนเดียวเลย โดยจะคอยไปส่งอยู่เสมอ กระทั่งได้เขาอะคาเดมี่ของทีมดังในลอนดอนอย่างคิวพีอาร์ 

สเตอร์ลิ่ง เริ่มเล่าว่า เขาไม่อยากเป็นภาระของคุณแม่ จึงอาสาไปช่วยงานทุกครั้งด้วยความเต็มใจ โดยบอกว่า “คุณแม่ของผมเป็นพนักงานทำความสะอาดตามโรงแรมต่างๆ เพื่อเป็นการหาเงินพิเศษมาช่วยเหลือในเรื่องของการเรียนของท่าน ผมจำไม่เคยลืมเลือนว่า ผมต้องตื่นนอนตั้งแต่ตี 5 ซึ่งเป็นช่วงเช้าก่อนไปเรียนหนังสือ


“สาเหตุที่ต้องทำเช่นนั้น เพราะว่าผมต้องไปช่วยคุณแม่ทำความสะอาดห้องน้ำที่โรงแรม ที่ตั้งอยู่ในสโตนบริดจ์ ผมอยากบอกว่า ผมมีเรื่องต้องถกเถียงกับพี่สาวเสมอแหล่ะ ในเรื่องเกี่ยงกันทำความสะอาด อาทิเช่น -เธอต้องไปขัดห้องน้ำเดี๋ยวนี้ เพราะฉันเปลี่ยนผ้าปูที่นอนแล้ว เป็นต้น-”


ดาวเตะวัย 26 ปี กล่าวต่อไปว่า เขาเต็มใจทำแบบนั้น เพราะอยากจะให้ครอบครัวหลุดพ้นจากชีวิตความเป็นอยู่แบบนั้นเสียที แม้บางเวลา เขาจะรู้สึกว่าโลกใบนี้มันไม่ยุติธรรม จากการต้องคอยฝ่าฟันต่อไปอีกเรื่อยๆ โดยมีฟุตบอลเป็นเครื่องมือนำทาง ท้ายที่สุด มันก็ตอบแทนความฝันของเขา เมื่อกลายมาเป็นนักเตะอาชีพเป็นผลสำเร็จ 

สเตอร์ลิ่ง ทิ้งท้ายถึงแรงบันดาลใจให้เขาเก็บเงินจากการเล่นฟุตบอล จนสามารถซื้อบ้านให้คุณแม่ได้สำเร็จว่าผมยังจำช่วงเวลาตอนเป็นเด็กได้ดี ขณะที่ผมเสร็จสิ้นการฝึกซ้อมฟุตบอล และกำลังนั่งรถบัสกลับบ้าน คุณแม่จะส่งข้อความมาหาผมว่าครอบครัวของเราต้องย้ายบ้านอีกแล้ว 


ย้อนกลับไป 15 ปีที่แล้ว ครอบครัวของเรายังมีหน้าที่ทำความสะอาดห้องน้ำในสโตนบริดจ์ และต้องกินอาหารจากตู้หยอดเหรียญอยู่เลย หากจะต้องมีใครสักคนที่สมควรมีความสุข มันก็ต้องเป็นคุณแม่ของผมนี่แหล่ะ"


"ท่านมาอังกฤษ โดยที่ไม่มีอะไรติดตัวมาเลย แถมต้องคอยล้างห้องน้ำ และเปลี่ยนผ้าปูที่นอนด้วย ดูตอนนี้ซิ ท่านช่วยให้ลูกชายคนนี้ก้าวมาเล่นทีมชาติอังกฤษ ชุดใหญ่เป็นที่เรียบร้อย


นี่คือเรื่องราวการสู้ชีวิตของเด็กล้างห้องน้ำ สู่นักเตะสิงโตคำราม และเรือใบสีฟ้า ... ราฮีม สเตอร์ลิ่ง

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด