โรดรีโก้ เด ปอล กลายเป็นนักเตะใหม่ของ แอต.มาดริด อย่างเป็นทางการ หลังแอคเคาท์ออนไลน์ของ แชมป์ลา ลีกา ประกาศการคว้าตัวเมื่อช่วงค่ำวันจันทร์ที่ 12 กรกฏาคมที่ผ่านมา (เวลาสเปน) 

ต้องบอกว่า แอตเลติโก ปิดดีลนี้สำเร็จเล่นเอาหลายสโมสรตาลุกด้วยความอิจฉา เพราะฟอร์มของมิดฟิลด์อาร์เจนไตร์กำลังร้อนแรงสุดขีด 

ใครที่ติดตามดู โกปา อเมริกา 2021 ศึกชิงเจ้าทวีปอเมริกาใต้ซึ่งจัดขึ้นที่ บราซิล ที่เพิ่งรูดม่านไปหมาดๆเมื่อเช้าวันอาทิตย์ ก็คงจะได้ยลฟอร์มของ เด ปอล กันไปแล้วว่ายอดเยี่ยมแค่ไหน 

ไม่เพียงแค่ลูกวางยาวให้ อังเคล ดิ มาเรีย หลุดไปกระดประตูชัยให้ อาร์เจนติน่า คว้าแชมป์เท่านั้น หากแต่ตลอดทั้งทัวร์นาเมนท์ เด ปอล ยังเล่นได้โดดเด่น เป็นหัวใจสำคัญในแดนกลางอย่างขาดไม่ได้ 

ในโกปา อเมริกา หนนี้ของ เด ปอล ลงเล่น 6 เกม ยิง 1 ประตู ทำ 1 แอสซิสต์ เปิดบอลสำเร็จ 88% ใบเหลือง 1 ใบ คะแนนความสามารถเฉลี่ยอยู่ที่ 7.5 

ในแง่ของประตูกับแอสซิสต์ อาจไม่ใช่จุดเด่นของ เด ปอล มากนัก หากแต่เป็นการตัดบอล ไล่ทำลายเกมคู่ต่อสู้ ซึ่งเขาทำมันได้อย่างสุดยอด นอกจากนี้ยังเก็บบอลได้ดี ไปกับบอลได้ ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ได้ไม่ง่ายนักสำคัญสำหรับมิดฟิลด์ตัวรับ หรือประเภท box to box  

เด ปอล โชว์ฟอร์มได้โดดเด่นตลอด 2 ฤดูกาลหลังมานี้กับ อูดิเนเซ่ ซึ่งเป็นต้นสังกัดที่ 2 ในการค้าแข้งบนเวทียุโรปของเขา โดยเจ้าตัวเริ่มต้นกับ ราซิ่ง กลุ๊บ ในอาร์เจนติน่า บ้านเกิด จากนั้นในปี 2014 ก็ย้ายมา บาเลนเซีย ในราคา 4.7 ล้านยูโร 

กับ ‘ไอ้ค้างคาว’ ซึ่งน่าจะเป็นที่ที่ทำให้คอลูกหนังคุ้นชื่อและเห็นลีลาการเล่นของเขามากที่สุด แต่ผลงานกลับไม่เป็นอย่างที่คาดหวัง เด ปอล ในวัย 20 ปี ค่อนข้างโชคไม่ดีนักกับการค้าแข้งในช่วงแรกที่ยุโรป 

เขาย้ายมาในยุคของ นูโน่ เอสปิริตู ซานตู และประเดิมสนามให้ บาเลนเซีย เกมแรกเมื่อ 23 สิงหาคม 2014 ในเกมเยือน เซบีย่า ที่ ซานเชซ ปิซฆวน โดยลงเป็นตัวสำรองแทน ปาโก้ อัลกาเซร์ ในช่วงนาทีที่ 67 ของการแข่งขัน แต่แค่ 62 วินาที เขาก็พลาดมหันต์ 

เด ปอล รับจากตรงกลางสนามและพยายามพาบอลหนี อเล็กซ์ บีดัล แบ็กขวาเจ้าถิ่นที่เข้ามาไล่บี้จากทางด้านหลัง เขายกแขนขึ้นกัน และกลายเป็นว่าศอกไปกระแทกเข้าโหนกแก้มของ บีดัล อย่างจัง 

ทำให้ผู้ตัดสินชักใบแดงไล่เขาออกจากสนาม สร้างสถิติกลายเป็นนักเตะที่โดนใบแดงเร็วที่สุดใน ลา ลีกา ทันที ด้วยเวลา 62 วินาทีที่อยู่ในสนาม ทำลายสถิติเดิมของ เอสเตบัน กราเนโร่ ที่โดนไล่ออกในเกมระหว่าง เคตาเฟ่ กับ เอสปันญ่อล เมื่อปี 2007 ในเวลา 4 นาที ลงอย่างราบคาบ 

ด้วยความที่ยังเด็กเขาจึงต้องปรับตัวค่อนข้างเยอะมาก แม้จะมีเพื่อนร่วมชาติในทีมบาเลนเซียเวลานั้นอย่าง นิโกลัส โอตาเมนดี้,ปาโบล ปิอัตติ,ลูกัส ออร์บาน และ บรูโน่ ซูกูลินี่ คอยช่วยเหลือก็ตาม 

นอกจากนี้จังหวะชีวิตของ เด ปอล กับ บาเลนเซีย ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก เพราะหลังจากที่ นูโน่ มีปัญหางัดข้อกับกลุ่มนักเตะแกนหลักของทีมจนลาออกไป สโมสรก็ไปดึงเทรนเนอร์หน้าใหม่อย่าง แกรี่ เนวิลล์ เข้ามาแทน 

บาเลนเซีย ในมือของ เนวิลล์ เต็มไปด้วยปัญหา ความเป็นกุนซือไร้ประสบการณ์ของเขาที่ต้องมาทำงานในลีกที่ไม่คุ้นเคย ทั้งสไตล์การทำงานและกำแพงภาษาทำให้ฟอร์มการเล่นของทีมตกลงอย่างน่าใจหาย เป็นเหตุให้สโมสรจำต้องพยายามเปลี่ยนแปลงทีม 

ตลาดนักเตะเดือนมกราคมปี 2016 เวลานั้น โรดรีโก้ เป็นหนึ่งในดีลที่ บาเลนเซีย มองเอาไว้ แรกทีเดียว เคตาเฟ่ อีกหนึ่งสโมสรใน ลา ลีกา แสดงความสนใจยืมตัวเขาไปร่วมทีม แต่ เด ปอล ปฏิเสธ และเลือกที่จะกลับไปยัง ราซิ่ง ต้นสังกัดเดิมใน อาร์เจนติน่า ในรูปแบบยืมตัว 

เมื่อหมดสัญญายืมตัว ในเดือนกรกฏาคม 2016 ปาโก้ อาเยสเตราน กุนซือบาเลนเซียคนใหม่ตัดสินใจไม่ใช้งาน เด ปอล และขายออกมาในราคา 3.5 ล้านยูโรบวก add-on 1.5 ล้านให้ อูดิเนเซ่ 

เด ปอล เซ็นสัญญา 5 ปี กับ อูดิเนเซ่ และที่นั่นในเวที กัลโช่ เซเรีย เขาก็ค่อยเติบโตขึ้น สั่งสมประสบการณ์จนแกร่งขึ้นจนเล่นได้โดดเด่นในห้วง 2 ฤดูกาลมานี้ 

เด ปอล ตกเป็นเป้าหมายของหลายสโมสรใหญ่ แต่สุดท้ายเป็น แอตเลติโก ที่หยิบชิ้นปลามันคว้าตัวมาครองในราคา 35 ล้านยูโร ภายใต้สัญญา 5 ปี ซึ่งราคานี้ถือเป็นราคาที่ไม่แพงเลย เมื่อเทียบกับฟอร์ม ฝีเท้า และอายุที่กำลังอยู่ในช่วงพีค 27 ปี 

ฤดูกาลที่ผ่านมา เด ปอล ลงเล่น 36 เกมใน เซเรีย อา ฤดูกาล ผลงานน่าประทับใจมาก โดยทำไป 9 ประตู กับ 10 แอสซิสต์ นอกจากนี้ยังมีสถิติเลี้ยงบอลสำเร็จมากที่สุดในลีก 122 ครั้ง และ ปะทะตัวต่อตัวสำเร็จมากที่สุดในลีกอีก 294 ครั้ง

ทั้งนี้กุญแจสำคัญที่ทำให้ เด ปอล เลือก แอตเลติโก ก็คือเอเยนต์ของเขา เอากุสติน ฮิมิเนซ ซึ่งมีความสัมพันธ์อันดีกับ ‘ตราหมี’ มาช้านาน ตั้งแต่ดีลของ ซัลวิโอ เมื่อปี 2009 แม้ดีลนี้จะไม่ค่อยประสบความสำเร็จ ซัลวิโอ ไม่สามารถยึดตำแหน่งในทีม ตราหมี ได้ และวันนี้ตัวนักเตะได้ย้ายกลับไปเล่นกับ โบคา จูเนียร์ส แล้ว แต่ความสัมพันธ์เมื่อครั้งนั้นยังคงอยู่

นอกจากนั้นแล้ว ส่วนตัวของ เด ปอล ยังชื่นชมในตัวของ โชโล่ ซิเมโอเน่ อย่างมาก นอกจากจะเป็นคนชาติเดียวกันแล้ว โชโล่ ยังสร้างทีมได้น่าตื่นตื่นใจอย่างมากอีกด้วย 

เด ปอล บอกว่า “ผมมีความสุขที่ได้ย้ายไปเล่นกับทีมแชมป์ ลา ลีกา และผมรู้ดีว่ามันมีความรับผิดชอบที่รออยู่” 

“ผมมีความสุขที่จะได้โอกาสทำงานร่วมกับ ซิเมโอเน่ ด้วยคลาสที่เขามี เขาคือหนึ่งในเทรนเนอร์ที่เก่งที่สุดในโลก ผมรักฟุตบอล และอะไรที่คนอย่าง ซิเมโอเน่ บอกกับคุณ มันนับเป็นเกียรติและความภาคภูมิใจ” 

เด ปอล มาแล้ว คำถามสำคัญคือเขาจะประสบความสำเร็จ และยกระดับ แอตเลติโก ให้ดียิ่งขึ้นได้หรือไม่ ? ตรงจุดนี้ไม่อาจมีใครการันตีได้ แต่จากสไตล์การเล่นของเขาที่วิ่งพล่านไปทั่วสนาม บวกกับร่างกายที่แข็งแกร่ง วิ่งไม่มีหมด เทคนิคการเล่นที่ไม่ธรรมดา ทำให้เด ปอล  ถูกมองว่าเหมาะกับสไตล์ของ แอต.มาดริด อย่างยิ่ง

ตลอดยุคของ โชโล่ เขาจะมีมิดฟิลด์ประเภทนักบู๊สู้ไม่ถอยคอยวิ่งพล่านช่วยเหลือทีม ทำหน้าที่เป็นตัวแทนของเขาในสนามอยู่เสมอ เช่น ตีอาโก้ เมนเดส, กาบี เรื่อยมาจนถึง โกเก้ และ ซาอูล ญิเกซ ในยุคปัจจุบัน 

หากมองกันที่สไตล์ของ โชโล่ และสไตล์การเล่นของ เด ปอล สามารถพูดได้ว่าเหมาะสมกันอย่างมาก และน่าจะปรับเข้ากันได้ไม่ยาก และ เด ปอล คือหนึ่งในส่วนเติมเต็มที่น่าจะยกระดับ แอตเลติโก ให้ยิ่งแกร่งขึ้นกว่าเดิม 

ด้วยเป้าหมายของทีมแล้ว ฤดูกาลนี้ไม่เพียงแค่การป้องกันแชมป์ ลา ลีกา ให้ได้เท่านั้น หากแต่ทีมยังหวังไปได้ไกลกว่าเดิมในเวทีแชมเปี้ยนส์ลีกอีกด้วย 

อย่างไรก็ตาม การมาของ เด ปอล อาจทำให้ แอตเลติโก ต้องยอมปล่อยสตาร์ดังของตัวเองออกไปอย่างไม่มีทางเลือก เพราะนอกจาก เด ปอล แล้ว ทีมยังวางแผนดึงกองหน้าตัวเป้าระดับท็อปเข้ามาเพื่อช่วยเหลืองานของ หลุยส์ ซัวเรซ อีกด้วย

นั่นทำให้ ซาอูล ญิเกซ ซึ่งเสียตำแหน่งตัวจริงในทีมเมื่อฤดูกาลที่แล้ว ถูกพิจราณาปล่อยออกไปจากทีม ซึ่งนับได้ว่าเป็นการเดิมพันครั้งสำคัญอีกครั้งนึงของ โชโล่ และ แอตเลติโก เลยทีเดียว 

แต่จะสำเร็จตามที่วางหวังๆไว้หรือไม่ ฟอร์มของ เด ปอล จะเป็นส่วนหนึ่งในคำตอบนี้อย่างแน่นอน

เจมส์ ลา ลีกา