:::     :::

ความอดทน,ความสามารถ และ ลูกล่อลูกชน ของ ลาปอร์ต้า

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
สำหรับการทำงานในตลาดนักเตะซัมเมอร์นี้ซึ่งมันไม่มีอะไรง่ายเลยแม้แต่น้อย ยิ่งอยู่ภายใต้ข้อจำกัดมากมายของ บาร์เซโลน่า ด้วยแล้ว โจน ลาปอร์ต้า บอกว่าต้องใช้ 3 อย่าง....

  ผ่านมา 135 วันแล้ว นับตั้งแต่ที่ โจน ลาปอร์ต้า ชนะการเลือกตั้ง ได้เป็นประธานสโมสรบาร์เซโลน่า 

ซึ่งอาจพูดได้ว่านี่คือช่วง 135 วัน ที่ยุ่งแล้วก็วุ่นวายมากที่สุดของเขาในรอบ 11 ปี นับแต่ก้าวลงจากตำแหน่งประธานสโมสรสมัยแรกเมื่อปี 2010 

หลังผ่านช่วงฮันนีมูน ดื่มด่ำกับชัยชนะอันท้วมท้นได้รีเทิร์นสู่ตำแหน่งหัวเรือใหญ่ ‘อาซูลกราน่า’ ต่อมาก็คือความตึงเครียดจากการแก้ปัญหาต่างๆที่ โจเซป มาเรีย บาร์โตเมว ประธานคนก่อนทิ้งไว้ให้ 


แม้จะเต็มไปด้วยความยุ่งยาก แต่ถึงตรงนี้คงต้องบอกว่า ลาปอร์ต้า รับมือและจัดการกับปัญหาได้มาก อีกทั้งโปรเจคต์ใหม่ก็ดูจะคืบหน้าไปได้มาก 

ความสำเร็จชิ้นโตที่ทุกคนต้อง standing ovation ให้ก็คือการบรรลุข้อตกลงต่อสัญญากับ เมสซี่ แม้วันนี้จะยังไม่อาจเซ็นสัญญากันอย่างเป็นทางการได้ก็ตาม เนื่องจากสโมสรยังติดปัญหากฏเพดานค่าเหนื่อยของ ลา ลีกา 


ในหลายๆครั้งมีเสียงวิพากษ์ ลาปอร์ต้า ว่าจัดการอะไรเชื่องช้าไม่ทันใจ ทว่าเหตุผลก็มีอยู่ เพราะเรื่องบางเรื่องภายในสโมสรมันมีคราบสกปรก ซึ่งเขาไม่ต้องการแตะต้องมันมากเกินไป บางเรื่องของปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการ แล้วหันไปเร่งมือทำในสิ่งที่สามารถทำได้ 

ในส่วนของโปรเจคต์ใหม่ ซึ่งเป็นสิ่งที่ ลาปอร์ต้า ทุ่มเทกับมันอย่างมากไม่แพ้ดีลของ เมสซี่ กำลังค่อยๆเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้นเรื่อยๆในรูปแบบที่เขาหวังอยากให้เป็น


ไม่เพียงแค่ชุดใหญ่เท่านั้น หากแต่ชุด เบ การเปลี่ยนแปลงในตำแหน่งเทรนเนอร์จาก การ์เซีย ปิเมียนต้า มาเป็น เซร์จี้ บาร์ฆวน ก็ถือเป็น บาร์เซโลน่า ในแบบที่ ลาปอร์ต้า ต้องการด้วยเช่นกัน

แม้จะกลายเป็นประเด็นดราม่า ถูกวิจารณ์ในแง่ลบว่าเป็นการกระทำที่ไร้ซึ่งเหตุผล (กดดัน ปิเมียนต้า จนลาออก) แต่นี่แหละคือสไตล์ของ ลาปอร์ต้า เขานิยมเอาอดีตนักเตะเข้ามาช่วยงานสโมสร โดยเฉพาะเด็กปั้นของ โยฮัน ครัฟฟ์ ในยุคดรีมทีมซึ่ง บาร์ฆวน ก็คือหนึ่งในนั้น 

บาร์ฆวน มีเลือดกาตาลันเข้มข้น เกิดและโตที่ บาร์เซโลน่า เข้าสู่ทีมตั้งแต่อายุ 19 ไต่เต้าจากชุด เซ , ชุด เบ ก่อนได้รับโอกาสจาก โยฮัน ครัฟฟ์ ให้ประเดิมทีมชุดใหญ่เมื่อปี 1993  


ในตำแหน่งแบ็กซ้ายของทีม บาร์ฆวน ลงเล่นให้ บาร์เซโลน่า ทั้งสิ้น 386 (11 ประตู) เกมก่อนจะย้ายไป แอตเลติโก ในปี 2002 และแขวนสตั๊ดที่นั่นในปี 2005 จากนั้นหันมาจับงานโค้ช ในปี 2009 โดยเริ่มจากทีมเยาวชนของ บาร์เซโลน่า ก่อนตระเวนไปหลายต่อหลายทีม ทั้ง อัลมเรีย (2015), เรอัล มายอร์ก้า (2017) , เจ้อเจียง กรีนทาวน์ (2017–2019) และสุดท้ายเซ็นสัญญาคุม บาร์เซโลน่า เบ ถึงปี 2023

ว่ากันตามโปรไฟล์ในฐานะโค้ชแล้ว บาร์ฆวน ก็ไม่ได้ดูเหนือกว่า ปิเมียนต้า เท่าไหร่นัก แต่สิ่งที่กุนซือชุด เบ คนปัจจุบันมีมากกว่าชัดเจนก็คือความเป็นตำนานนั่นเอง


วกกลับมาที่โปรเจคต์ใหม่ในทีมชุดใหญ่ ลาปอร์ต้า กำลังพยายามทำให้บัญชีรายรับ-รายจ่ายของสโมสรกลับมาสมดุลอีกครั้ง ซึ่งเวลานี้ปัจจัยสำคัญขึ้นอยู่กับการปล่อยนักเตะออกจากทีม 

อองตวน กริซมันน์ คือเป้าใหญ่ ตามมาด้วยนักเตะอย่าง มิราเลม ปานิช,มาร์ติน เบรทเวต และ ซามูแอล อุมตีตี้ นอกจากนี้แล้ว หากได้ราคาดี เกลม็องต์ ล็องเล่ต์ กับ เซอร์จินโญ่ เดรสต์ ก็อยู่ในข่ายเช่นกัน 


สำหรับ ล็องเล่ต์ เขาไม่ต้องการย้ายออกจาก คัมป์ นู แต่เบื้องต้น ลาปอร์ต้า ได้แจ้งกับคนใกล้ชิดของปราการหลังฝรั่งเศสแล้วว่าหากมีข้อเสนอเข้ามาเขาอยากให้ ล็องเล่ต์ ตอบรับ ไม่ว่าจะย้ายขาด หรือ ยืมตัวพร้อมอ๊อปชั่นซื้อขาด 

การเจราจาแบบตัวต่อตัวยังไม่เกิดขึ้น แต่คาดว่าทันทีที่ ล็องเล่ต์ กลับจากพักร้อนในสัปดาห์นี้ ทั้งสองฝ่ายจะประชุมร่วมกัน และจะมีการยืนยันอีกครั้งว่าหากมีข้อเสนอที่ดี สโมสรจะตอบรับ และอยากให้ตัวนักเตะตอบรับเช่นกัน 


ด้าน เดรสต์ แม้จะดูเป็นเรื่องน่าตกใจ เพราะเจ้าตัวเพิ่งย้ายมาได้แค่ซีซั่นเดียว แต่ด้วยสถานการณ์การเงินก็ทำให้ไม่มีทางเลือกมากนัก 

ลาปอร์ต้า ได้จัดการให้ทีมงานแจ้งกับ เดรสต์ แล้วเช่นกันว่าประตูทางออกเปิดกว้างสำหรับเขาเสมอ หากว่ามีข้อเสนอที่ดีสำหรับทุกฝ่ายยื่นเข้ามา

ล่าสุดมี บาเยิร์น มิวนิค ที่แสดงความสนใจ ทว่ายังไม่ลงตัว เพราะยักษ์ใหญ่เยอรมันต้องการยืมตัว ขณะที่ บาร์เซโลน่า อยากขายขาด 

เดรสต์ อายุยังน้อย ยังพัฒนาได้ ข้อนี้คือความจริง แต่ดูเหมือนว่าสโมสรเลือกที่จะเดิมพันกับ เอแมร์ซอน มากกว่า ซึ่ง เดรสต์ เอง ก็คงไม่ถึงกับแย่นัก เพราะนอกจาก บาเยิร์น มิวนิค แล้ว ก็แว่วข่าวว่า อินเตอร์ มิลาน เองก็แอบเหล่เขาอยู่เช่นกัน ดังนั้นจึงอาจพูดได้ว่า แม้จะต้องออกจาก บาร์เซโลน่า ไป แต่เขาก็ยังมีทีมใหญ่ที่พร้อมจะดึงตัวไปอยู่ด้วย 


ในรายของ อุมตีตี้ สโมสรแสดงท่าทีชัดเจนว่าไม่ต้องการเก็บไว้ ทว่าตัวนักเตะเองก็ดูจะนิ่งๆ แม้จะไม่ค่อยได้ลงสนาม แต่เขาก็แฮปปี้กับค่าเหนื่อยที่ตัวเองได้รับ 

หากไม่นับ เมสซี่ ปัจจุบัน อุมตีตี้ คือนักเตะที่รับค่าเหนื่อยสูงสุดลำดับที่ 6 ของทีมปีละ 12,787,840 ยูโร ซึ่งถือว่าแพงมากเมื่อเทียบกับคุณภาพงานที่ ‘บิ๊กแซม’ ตอบแทนให้สโมสรในช่วง 2 ฤดูกาลหลัง 

อุมตีตี้ ปฏิเสธที่จะลดค่าเหนื่อยตามคำขอร้องของสโมสร นั่นทำให้ ลาปอร์ต้า ยิ่งต้องเร่งหาทางปล่อยเขาออกจากทีมให้เร็วที่สุด 

โอลิมปิก ลียง ต้นสังกัดเก่าของ อุมตีตี้ สนใจที่จะดึงปราการหลังฝรั่งเศสกลับไปใช้งานในรูปแบบยืมตัว ซึ่งสำหรับ บาร์เซโลน่า แค่นี้ก็ถือว่าดีมากๆแล้ว แต่สุดท้ายแล้วทุกอย่างก็ยังขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของ อุมตีตี้ อยู่ดี 


อุมตีตี้ ยังมีสัญญากับทีมถึงปี 2023 หากเขาไม่ยอมย้าย บาร์ซ่า ก็คงทำอะไรลำบาก และที่ดูเป็นปัญหาใหญ่ในเคสนี้ก็คือค่าเหนื่อยมหาศาลเฉียด 13 ล้านของเขานั่นเอง

คิดง่ายๆเลย ลียง จะยอมจ่ายค่าเหนื่อยปีละเฉียด 13 ล้านยูโรให้ อุมตีตี้ ที่เจ็บออดๆแอดๆ ?? 

คิดในมุมของ ฌอง มิเชล โอลาส ประธานลียงที่ขึ้นชื่อเรื่องความเขี้ยวในการดีลธุรกิจแล้ว ก็ไม่เห็นว่ามันจำเป็นจะต้องลงทุนขนาดนั้น 

ทางออกสำหรับเคสนี้น่ะหรือ ? บาร์ซ่า อาจจะต้องยอมแบกค่าเหนื่อยคนละครึ่งกับ ลียง แบบนี้อาจจะเป็นไปได้อยู่ 


มาถึงรายของ กริซมันน์ เห็นทีว่าดีลสลับตัวกับ ซาอูล ญิเกซ น่าะล่มซะแล้ว เพราะถูก ลา ลีกา จับตามองอย่างมากเรื่องค่าตัว ค่าเหนื่อย ซึ่งหากทำอะไรไม่โปร่งใส ก็คงไม่แคล้วงานเข้าอีก แต่ถึงยังไง ลาปอร์ต้า ก็ยังพยายามที่จะปล่อยเขาออกจากทีมอยู่ดี 

เชลซี หากสุดท้ายตัดสินใจถอยหลังไม่สู้ราคา เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ อาจเบนเป้ามาที่ กริซมันน์ ในแบบยืมตัวพร้อมอ๊อปชั่นซื้อขาด ซึ่งก็น่าจะเป็นทางออกที่ บาร์ซ่า อาจจำต้องยอมรับ เพราะอาจขายขาดในซัมเมอร์นี้ไม่ได้ 


ลาปอร์ต้า เร่งเคลียร์สต็อคยกใหญ่ ไม่ใช่แค่เพื่อ เมสซี่ เท่านั้น แต่เพราะ บาร์เซโลน่า ยังมีเป้าหมายในการเสริมทัพภายใต้โปรเจคต์ใหม่ของเขาอีกด้วย 

ท่านประธานบาร์ซ่าวางแผนที่จะดึงแข้งใหม่เข้าทีมอีก 3 ราย ตำแหน่งกองหลัง 1 อัตรา,กองกลาง 1 อัตรา และกองหน้าอีก 1 อัตรา หลายคนว่าจะเอาเงินที่ไหน ?!  

ก็ต้องบอกว่าทั้ง 3 ตำแหน่งที่จะเข้ามาจะต้องมาฟรี หรือไม่ก็เป็นการส่งนักเตะที่ทีมไม่ต้องการไปแลกเอามา 

หนึ่งในนั้นคือ อเลสซิโอ โรมาโญลี่ เซนเตอร์ฮาล์ฟเอซี มิลาน ที่ยืนยันว่าจะไม่ต่อสัญญากับทีม ซึ่งฝ่าย ปีศาจแดงดำเองก็สนใจในตัว ปานิช กับ ฟิลิเป้ กูตินโญ่ อยู่ ดีลนี้จึงมีความเป็นไปได้ไม่น้อยที่จะเกิดขึ้น 


ส่วนมิดฟิลด์นั้น มาจากคำขอของ โรนัลด์ คูมัน ที่ต้องการมิดฟิลด์ที่มีสถิติทำประตูได้ดีเพื่อเพิ่มศักยภาพในเกมรุกให้ทีม โดยนายใหญ่ดัตช์มีความคิดว่าหากบรรดากองกลางของทีมยิงประตูได้คนละ 3-6 ประตูในการเล่นตลอดทั้งซีซั่น ก็น่าจะช่วยเพิ่มเปอร์เซนต์ชัยให้กับทีมได้มากกว่าเดิม ส่วนจะเป็นใคร เวลานี้ยังไม่มีความชัดเจน 


เช่นเดียวกับกองหน้าอีกรายซึ่งก็คงต้องผ่านการเฟ้นหาพูดคุยอีกหลายยก แต่ก็ไม่อาจรับประกันได้ว่าจะมีเข้ามาตามเป้า 

ลาปอร์ต้า ยอมรับว่าการทำงานในตลาดนักเตะปีนี้ ไม่ใช่เรื่องง่าย ไม่ว่าจะเป็นการขายนักเตะออก หรือการหานักเตะใหม่ เพราะสโมสรถูกจำกัดด้านการใช้จ่าย อีกทั้งทีมอื่นๆต่างก็รัดเข็มขัด ซึ่งการจะทำภารกิจสุดหินนี้ให้ลุล่วงไปได้ ท่านประธานบอกว่าต้องใช้ 3 อย่างคือ ความอดทน,ความสามารถ และ ลูกล่อลูกชน 


เจมส์ ลา ลีกา 

 



ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})