:::     :::

เป้าหมายซีซั่นใหม่ของ'รอยส์'

วันอังคารที่ 20 กรกฎาคม 2564 คอลัมน์ เล่าเก่าก้าวใหม่ โดย Latino
1,367
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
มาร์โค รอยส์ กำลังเข้าสู่การค้าแข้งฐานะ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ฤดูกาลที่ 10 ซึ่งแนวรุกวัย 32 ปีตั้งเป้าหมายนำทีมเสือเหลืองโค่นบัลลังก์แชมป์ทัพเสือใต้ในซีซั่นหน้า

มาร์โค รอยส์ กำลังเข้าสู่ฤดูกาลที่ 10 ฐานะแข้ง โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ซึ่งกัปตันทีมเสือเหลืองหวังต่อยอดจากผลงานช่วงท้ายซีซั่นที่ผ่านมาเพื่อก้าวไปสู่เป้าหมายนั่นคือการคว้าแชมป์ บุนเดสลีกา และ เดเอฟเบ โพคาล สำหรับฤดูกาล 2021-2022 

ดอร์ทมุนด์ คว้าชัยชนะตลอด 6 เกมสุดท้ายของซีซั่น 2020-2021 ซึ่งทำให้ทีมเสือเหลืองไต่เต้าจากอันดับ 5 จบฤดูกาลอันดับ 3 คว้าตั๋วไปเล่นรายการแชมเปี้ยนส์ลีกสมความปรารถนา และยังปิดฉากอย่างน่าประทับใจด้วยการคว้าแชมป์ เดเอฟเบ โพคาล หลังการยิงสลุต แอร์เบ ไลป์ซิก 4-1 

นั่นคือการคว้าแชมป์รายการเมเจอร์ที่ 2 ฐานะนักเตะอาชีพของ รอยส์ แต่กัปตันทีมเสือเหลืองคาดหวังว่ามันจะไม่สิ้นสุดเพียงเท่านี้ 


'มันเป็นปีที่ยากลำบากมากกับฟอร์มขึ้นๆลงๆในสนาม' รอยส์ กล่าวถึงผลงานของทีมเสือเหลืองในซีซั่นที่ผ่านมากับ เบเฟาเบทีวี 

'ช่วงเริ่มต้น เราเสียคะแนนมากเกินไป ซึ่งทำให้การคว้าแชมป์เป็นไปไม่ได้ แต่ท้ายที่สุดเราก็เซฟฤดูกาลของเราไว้ได้ คุณเห็นว่าเรายากที่จะเอาชนะ หวังว่าเราจะสามารถแสดงผลงานในระดับเดียวกันอีกครั้ง'

'บาเยิร์น เป็นทีมเต็ง แต่เราจะรอดูว่าสโมสรอื่นจะอยู่ตรงไหนในระยะยาว และถ้าเราสามารถไปต่อจากจุดที่เราค้างไว้ได้ เป้าหมายของเราคือการคว้าแชมป์ บุนเดสลีกา และ เดเอฟเอ คัพ เสมอ' 

ดอร์ทมุนด์ คว้าแชมป์บุนเดสลีกาครั้งสุดท้ายตั้งแต่ซีซั่น 2011-2012 ก่อน รอยส์ จะย้ายมาจาก มึนเช่นกลัดบัค หลังจบฤดูกาลดังกล่าว ซึ่ง บาเยิร์น มิวนิค กวาดแชมป์ลีกเมืองเบียร์ 9 ปีติดต่อกันนับจากนั้น 


ขณะที่ทีมเสือเหลืองรับบทพระรองถึง 5 ครั้งในซีซั่น 2012–2013, 2013–2014, 2015–2016, 2018–2019 กับ 2019–2020 และยังเป็นรองแชมป์ เดเอฟเบ โพคาล อีก 3 ครั้ง ในฤดูกาล 2013–2014, 2014–2015 กับ 2015–2016 รวมถึงรองแชมป์ยุโรปในซีซั่น 2012-2013

ทั้ง ดอร์ทมุนด์ กับ รอยส์ ร่วมกันปลดล็อคด้วยการคว้าแชมป์ เดเอฟเบ โพคาล ในฤดูกาล 2016-2017 จากการเชือด ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต 2-1 หลังการโค่น บาเยิร์น มิวนิค ในรอบตัดเชือกด้วยสกอร์ 3-2 ก่อนจะคว้าแชมป์รายการเดียวกันอีกครั้งในซีซั่นที่ผ่านมา 

รอยส์ เป็นนักเตะที่มีประสบการณ์มากสุดอันดับ 3 ของ ดอร์ทมุนด์ ชุดปัจจุบันจากการลงเล่นทุกรายการ 315 เกม เป็นรองเฉพาะ มาร์เซล ชเมลเซอร์ (367) กับ มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์ (398) เท่านั้น 

แนวรุกวัย 32 ปี ทำรวมกัน 140 ประตู ไล่หลัง ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมย็อง เพียงประตูเดียว เขายังมีโอกาสทำสถิติแซงหน้า ติโม โคเนียตซ์ก้า (148), โลธ่าร์ เอ็มเมอริค (158), มานเฟร็ด บวร์กส์มุลเลอร์ (158) และ มิชาเอล ซอร์ค (158, ผู้อำนวยการฝ่ายกีฬาคนปัจจุบัน) ด้วย 


'มันมีความหมายมาก' รอยส์ กล่าวถึงการทำสถิติดังกล่าว

'นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้ยินเกี่ยวกับสถิติเหล่านั้น แต่ผมอยู่ในฐานะนักล่า มันมีความหมายมากเพราะพวกเขาต่างเป็นตำนานของ เบเฟาเบ ผมจะภูมิใจอย่างไม่น่าเชื่อ แล้วผมจะพยายามและแซงหน้า มิชาเอล (ซอร์ค)' 

รอยส์ ตั้งเป้านำทีมเสือเหลืองโค่นทีมเสือใต้ในฤดูกาลหน้า นอกจากจะเป็นการสกัดทีมดังแคว้นบาวาเรียคว้าถาดแชมป์บุนเดสลีกา 10 ปีติดต่อกันแล้วยังอาจหมายถึงความสำเร็จของ เดเฟาเบ ในเวลาเดียวกันด้วย

'มันขึ้นอยู่กับเรา' รอยส์ กล่าว 'เราต้องแสดงให้เห็นถึงความสม่ำเสมอเพราะ บาเยิร์น เป็นทีมที่ต้องเอาชนะ และทุกอย่างต้องเข้าที่เข้าทางตลอดฤดูกาลเพื่อโค่นพวกเขา พวกเขาชนะการแข่งขันแม้ว่าพวกเขาจะเล่นไม่ดีก็ตาม'

'เราไม่สามารถทำอย่างนั้นได้ในฤดูกาลที่แล้ว เราต้องเริ่มชนะแบบน่าเกลียดบ้าง หาวิธีการเอาชนะตอนที่เราเล่นไม่ดี บาเยิร์น ทำได้อยู่แล้ว นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้พวกเขาคว้าแชมป์มากมายในช่วงหลายปีที่่ผ่านมา'


ดอร์ทมุนด์ เป็นผู้ท้าชิงสำคัญของ บาเยิร์น มิวนิค ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ก่อน แอร์เบ ไลป์ซิก จะก้าวขึ้นมามีเอี่ยวอีกหนึ่งทีม ทั้งสามสโมสรจะต่อสู้กันเพื่อช่วงชิงความสำเร็จ ซึ่งจะทำให้ลีกเมืองเบียร์สนุกตื่นเต้นมากขึ้น 

ทั้งสามค่ายต่างปรับเปลี่ยนเทรนเนอร์ในช่วงซัมเมอร์นี้ หลัง บาเยิร์น มิวนิค ดึง ยูเลียน นาเกลส์มันน์ จาก แอร์เบ ไลป์ซิก มาทำงานต่อจาก ฮันซี่ ฟลิค ขณะที่ทีมกระทิงแดงเมืองเบียร์ดึง เจสซี่ มาร์ช กุนซือชาวมะกันจาก ซัลซ์บวร์ก เข้ามาเป็นเทรนเนอร์คนใหม่ ส่วน ดอร์ทมุนด์ แต่งตั้ง มาร์โก โรเซ่อ จาก มึนเช่นกลัดบัค เป็นนายใหญ่คนใหม่

นอกจากนี้ยังมีการเปลี่ยนแปลงขุมกำลังบางส่วนเช่นเดียวกัน ดอร์ทมุนด์ ปล่อย เจดอน ซานโช่ ปีกทีมชาติอังกฤษย้ายไปค้าแข้งกับ แมนฯยูไนเต็ด ด้วยค่าตัว 85 ล้านยูโร ก่อนทีมเสือเหลืองกำลังพยายามดึง ดอนเยลล์ มาเลน แนวรุกทีมชาติเนเธอร์แลนด์สจาก พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น เข้ามาเป็นตัวแทน 


อย่างไรก็ตาม ดอร์ทมุนด์ ยืนกรานชัดเจนว่า เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ กองหน้าคนสำคัญยังอยู่ในแผนงานสำหรับซีซั่น 2021-2022 นั่นจะทำให้ทีมเสือเหลืองยังมีอาวุธหนักในการต่อกรกับ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ เจ้าของรางวัลดาวซัลโวบุนเดสลีกา 4 สมัยติดต่อกันของ บาเยิร์น มิวนิค นอกจากนี้ เบเฟาเบ ยังมีแผนเสริมความแข็งแกร่งเพิ่มเติมทั้งแนวรับและแดนกลางในช่วงซัมเมอร์นี้ด้วย 

ขณะที่ บาเยิร์น มิวนิค เสีย 3 ผู้เล่นประสบการณ์ในช่วงซัมเมอร์นี้ทั้ง ดาวิด อลาบา, เยโรม บัวเต็ง และ ฆาเบียร์ มาร์ตีเนซ แม้ทีมเสือใต้จะเซ็นสัญญากับ ดาโยต์ อูปาเมกาโน่ จาก แอร์เบ ไลป์ซิก ก็ตาม แต่ก็ยังมีเครื่องหมายคำถามต่อเกมป้องกันของทีมดังแคว้นบาวาเรียยุค นาเกลส์มันน์ ซึ่งคาดว่าอาจจะปรับทัพมาเล่นระบบ 3 เซนเตอร์ 

ส่วนสถานการณ์ของ แอร์เบ ไลป์ซิก แทบจะไม่ต่างกันหลังการปล่อยทั้ง อูปาเมกาโน่ และ อิบราฮิม่า โกนาเต้ แม้จะมีการสัญญาล่วงหน้ากับ โมฮาเหม็ด ซีมาก็อง กองหลังชาวฝรั่งเศสจาก สตราส์บูร์ก รองรับไว้ก่อนหน้านี้ก็ตาม 


ไลป์ซิก ยังเติมอาวุธแดนหน้าด้วยการเซ็นสัญญากับ อันเดร ซิลวา กองหน้าทีมชาติโปรตุเกสที่ทำผลงานโดดเด่นกับ ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต พร้อมกับ ไบรอัน บร็อบบี้ย์ แนวรุกวัยรุ่นชาวดัตช์จาก อาแจ็กซ์ อัมส์เตอร์ดัม แต่ทีมกระทิงแดงเมืองเบียร์อาจจะเสียผู้เล่นสำคัญอย่าง มาร์เซล ซาบิตเซอร์ มิดฟิลด์กัปตันทีม รวมถึง มาร์เซล ฮัลสเตนแบร์ก ที่เหลือสัญญาเพียงปีเดียวเพิ่มเติมในช่วงซัมเมอร์นี้ 

นอกจากนี้การเริ่มต้นนับหนึ่งกับ เจสซี่ มาร์ช อาจต้องใช้เวลาปรับจูนอีกพอสมควร แอร์เบ ไลป์ซิก จึงอาจจะไม่ใช่คู่ต่อกรที่สมน้ำสมเนื้อในฤดูกาลหน้ากับ บาเยิร์น มิวนิค หรือ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ 

ดังนั้นคาดว่าการแย่งถาดแชมป์บุนเดสลีกาซีซั่น 2021-2022 น่าจะเป็นการดวลกันระหว่างเสือใต้กับเสือเหลือง แต่มันจะเป็นไปตามความคาดหวังของ มาร์โค รอยส์ หรือไม่ เราคงต้องติดตามกันต่อไป


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด