นั่นเป็นปัจจัยที่เหนือการควบคุมของคนในวงการลูกหนัง แต่เอาเป็นว่าวันนี้ผมจะขอพากองเชียร์ในลีกรอง ไปค้นหาดาวรุ่งที่น่าจะเฉิดฉายได้ไม่น้อยในซีซั่น 2021/2022 ว่าจะมีคนไหนบ้างที่น่าสนใจ จนต้องถูกพูดถึงก่อนที่เกมลีกจะเริ่มเปิดฤดูกาล

อนันต์ ยอดสังวาลย์ (ลำพูน วอริเออร์)

 "ฌูเลียง โฟร์แบร์" เป็นชื่อของอดีตวิงซ้ายทีมชาติฝรั่งเศส ผู้ผ่านการค้าแข้งกับทีมอย่าง บอร์กโดซ์, เวสต์แฮม และ เรอัล มาดริด ก่อนจะพเนจรไปเล่นกับอีกหลายสโมสร แต่ที่จะกล่าวถึงวันนี้นั่นคือเจ้าหนูมหัศจรรย์แห่งวงการฟุตบอลเดินสายอย่าง "โฟร์" อนันต์ ยอดสังวาลย์ ซึ่งถูกตั้งฉายาว่าเป็น "โฟร์แบร์" ตามรอยอดีตตัวรุกแดนน้ำหอม 

"เจ้าโฟร์" เคยเป็นอดีตผู้เล่น จาก รร. ฐานปัญญา ชุดกีฬา 7 สี และ ดีกรีเยาวชนทีมชาติ อายุไม่เกิน 14 ปี ด้วยการเป็นผู้เล่นที่มีสไตล์การเล่นที่พริ้วไหว สวยงาม ทำให้เขาพาทีม "บิ๊กแจ๊ค" คว้าแชมป์ FUNMAGG 4 ก่อนสถาปนาตัวเองเป็นนักเตะยอดเยี่ยม ทำให้ ธีราทร บุญมาทัน แบ็คซ้ายทีมชาติไทย แนะนำเป็นการส่วนตัวให้เขาไปเจียระไนฟุตบอลอาชีพของตัวเองที่ ลำพูน วอริเออร์ ในซีซั่นก่อน ด้วยการสวมหมายเลข 66

 แม้ในไทยลีก 3 เขาจะส่งชื่อไม่ทัน แต่เขาก็ได้ลงเล่นในเกม เอฟเอ คัพ ไป 2 นัด ก่อนที่ปีนี้จะได้เริ่มต้นเล่นในลีกพระรองครั้งแรก หลายสายตาคงกำลังจับจ้องเขาทั้งผลงานในลีกและบอลถ้วยจากนี้ตลอดไป 1 ฤดูกาลเต็มๆ

กฤษฎา ศรีวนิตย์ (ชัยนาท ฮอร์นบิล)

 การตกชั้นไปสู่ไทยลีก 2 เมื่อปี 2020 ทำให้ ชัยนาท ฮอร์นบิล ค้นพบเพชรเม็ดใหม่ ที่ดันขึ้นมาจากระบบอคาเดมี่ที่พวกเขาสร้างเอาไว้หลายคน จากโค้ชที่ชื่อ สุเมธ อยู่โต ซึ่งได้ร่วมสร้างเยาวชนเหล่านั้นมาตั้งแต่อายุน้อยๆ ซึ่งบางคนก็ดึงมาจากฟอร์มการเล่นในรายการสำคัญๆต่างๆ หนึ่งในนั้นก็คือ "เจ้าเคส" กฤษฎา ศรีวนิตย์

 ก่อนเริ่มซีซั่นเขาได้แชมป์ประเพณีวิ่งวัดใจ 2020 ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี อีกทั้งกิจกรรมนี้ยังเป็นการเช็กความฟิตของนักเตะไปในตัว ตลอดจนยังการเป็นวัดใจของนักเตะว่าจะสามารถก้าวขึ้นไปถึงจุดหมายได้หรือไม่ โดยนักเตะทุกคนจะต้องวิ่งขึ้นเขาธรรมมูล จำนวน 565 ขั้น ปรากฎว่า "เจ้าเคส" ทำสถิติเวลาเพียง 2.51 นาที รับเงินรางวัล 100,000 บาท นั่นอาจตอบโจทย์ว่าเขามีความฟิตขนาดไหน และเมื่อเข้าสู่การซ้อมเขาก็ได้รับโอกาสลงสนามเป็น 11 ผู้เล่นตัวจริงให้กับทีมในเกมที่พบกับ แพร่ ยูไนเต็ด ที่สำคัญสามารถเรียกจุดโทษให้กับ ชัยนาท ฮอร์นบิล ได้อีกด้วย

 การปั้นเกมที่ชาญฉลาด, ความเร็วหาตัวจับยาก, กล้าเล่น และไม่หวั่นเกรงคู่แข่ง นี่คืออีกจุดข้อดีของดาวรุ่งวัย 20 ปีรายนี้ จนสามารถพา ชัยนาท ฮอร์นบิล ไปเล่นในรอบเพลย์ออฟ ไทยลีก 2 เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมาได้สำเร็จ แต่เสียดายที่พวกเขาพลาดท่า แพ้ให้กับ นครปฐม ยูไนเต็ด ไปทั้งสองนัด

 ถึงเวลานี้อาจจะบอกได้เลยว่า เขาได้ก้าวมาเป็นตัวหลักของ "นกใหญ่พิฆาต" แบบสง่าผ่าเผยแล้ว แน่นอนว่าด้วยฟอร์มการเล่นในซีซั่นที่ผ่านมา หากว่าเขาสามารถต่อยอดตัวเอง และพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง มีโอกาสเหลือเกินที่จะได้เห็นเขาย้ายไปเล่นให้กับทีมใหญ่ๆ แต่กว่าวันนั้นจะมาถึง คงจะต้องอัพเกรดเลเวลของตัวเองขึ้นไปให้พร้อมเต็มที่เสียก่อน 

ณัฐพล วรสุทธิ์ (นครปฐม ยูไนเต็ด)

 หลังแจ้งเกิดในฟุตบอลขาสั้นจนได้เข้ามาอยู่ในอคาเดมีของ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด รุ่นเดียวกับ วิศรุต อิ่มอุระ แต่ปลายทางของเขากลับไม่ได้ตรงขึ้นไปสู่ชุดใหญ่เหมือนกับเพื่อน เพราะด้วยการที่เขาต้องนั่งรถเมล์หลังเลิกเรียนจาก จุฬาฯ มาซ้อมแทบไม่ทันทุกวัน

 นั่นเป็นสาเหตุให้เขาต้องก้าวออกมา แต่ทว่าไม่ได้ทำให้เขาละทิ้งความฝัน เพราะเขายังเลือกเส้นทางนักฟุตบอลอาชีพต่อไป ก่อนตัดสินใจย่างเท้าเข้าสู่สโมสร นครปฐม ยูไนเต็ด ซึ่งเวลานั้นอยู่ในไทยลีก 3 พร้อมกับขอทดสอบฝีเท้า ภายใต้การคุมทีมของ "โค้ชธง" ธงชัย สุขโกกี ที่เขาเคยอยู่ในอคาเดมีตอน 8 ขวบ

"เจ้าเก๋า" พัฒนาฝีเท้าจนขึ้นมาเป็นนักฟุตบอลอาชีพแบบเต็มตัวได้สำเร็จ จากนั้นก็เริ่มเก็บประสบการณ์อย่างจริงจัง และทำผลงานได้ยอดเยี่ยมถึงขั้นเคยเกือบถูกเรียกไปติดทีมชาติไทย ชุดเตรียมลุยศึกเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 18 มาแล้ว จนกระทั่งมีส่วนร่วมสำคัญในการพาทีมเลื่อนชั้นสู่ไทยลีก 2 ในฤดูกาล 2020 

 ด้วยสไตล์วางบอลที่แม่นยำ ลงมาช่วยเกมรับพร้อมกับพาบอลเปลี่ยนสถานการณ์จากรับเป็นรุกฉับพลันได้เป็นอย่างดี ทำให้เขาได้รับการจับตามองอย่างมากในปีที่ผ่านมา แม้จะไม่สามารถพาทีมเลื่อนมาสู่ลีกสูงสุดก็ตาม หลังพ่าย ขอนแก่น ยูไนเต็ด ในเกมชิงตั๋วใบสุดท้าย ซึ่งซีซั่นใหม่เขาได้รับการต่อสัญญาออกไปเป็นที่เรียบร้อยและจะอยู่ช่วยทีม "เสือป่าราชา" ต่อไปแน่นอน

เพชรรัตน์ โชติปาละ (เกษตรศาสตร์ เอฟซี)

เพชรรัตน์ เริ่มเล่นฟุตบอลมาตั้งแต่เด็ก โดยการเข้าไปเริ่มฝึกหัดกับ Cover Coaching โครงการของ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ก่อนจะเล่นอย่างต่อเนื่องในช่วงประถมศึกษา ก่อนคว้าทุนไปเรียนที่ประเทศอังกฤษกับโรงเรียนเบรนท์วู้ด ที่มีความโดดเด่นทั้งในเรื่องการเรียนและกีฬา จนได้รับรางวัล 1st XI Players' Player of the Year 2015/16 นักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีทีมชุดใหญ่ ซึ่งมาจากการลงคะแนนโหวตของเพื่อนร่วมทีม จนเป็นนักเตะคนแรกที่ทำได้ในรอบราว 400 ปีประวัติศาสตร์ของโรงเรียน

 พร้อมกับได้รับเลือกให้ติดทีมนักเรียนของอังกฤษ England Independent Schools โดยสมาคมฟุตบอลโรงเรียนเอกชน (ISFA) เป็นตัวแทนหนึ่งเดียวของโรงเรียนเบรนท์วู้ด ร่วมกับนักเตะจากหลายโรงเรียนเช่น แฮร์โรว์, ไฮเกต, แฮมป์ตัน, อาร์ดิงลี่ ฯลฯ ซึ่งหนึ่งในเยาวชนที่ได้รับเลือกคือ ทอมมี่ สปีด ลูกชายของ แกรี่ สปีด อดีตดาวเตะและผู้จัดการทีมชาติเวลส์ ผู้ล่วงลับ และยิ่งไปกว่านั้น "อั้ม" เคยถูก เวสต์แฮม ยูไนเต็ด เรียกไปทดสอบฝีเท้ามาแล้ว ทว่าติดปัญหาเรื่องเวิร์คเพอร์มิต จึงพลาดโอกาสค้าแข้งในลีกแดนผู้ดีอย่างน่าเสียดาย

ฝีเท้าของ "เจ้าอั้ม" ยอดเยี่ยมถึงขนาดที่เคยถูกคัดเลือกติดทีมนักเตะระดับโรงเรียนยอดเยี่ยม เพื่อเป็นตัวแทนทีมชาติอังกฤษ ไปแข่งขันที่ประเทศสเปนด้วย

หลังจากกลับมาเมืองไทย "เจ้าอั้ม" ถูกปล่อยไปให้ จุฬา ยูไนเต็ด แล้วคัมแบ็คมาทำผลงานดีเยี่ยมในช่วงต้นซีซั่น 2020/2021 กับ เมืองทอง ยูไนเต็ด แต่เขาก็ถูกดร็อปไปเป็นสำรองหลังจากนั้น จนกระทั่ง เกษตรศาสตร์ เอฟซี ขอยืมตัวมาร่วมทีมในเลกสอง กระทั่งมีส่วนร่วมในการพาทีมรอดตกชั้น

 เมื่อฟอร์มที่คงเส้นคงวา "นาคามรกต" ก็พร้อมที่จะดึงตัวมาร่วมทีมอีกครั้ง ด้วยสัญญายืมตัว 1 ฤดูกาลเต็ม ทำให้ซีซั่นนี้น่าจับตามองการเล่นของ "เจ้าอั้ม"เพชรรัตน์ โชติปาละ ว่าจะมีพัฒนาการมากขึ้นเพียงใด หลังปรับตัวเข้ากับทีมได้เป็นอย่างดี

ลีออน เจมส์ พิชญ & มูฮัมหมัด นาเซ กอและ (สุโขทัย เอฟซี)

 ช่วงที่ผ่านมาแฟนบอลอาจได้เห็นรูปเกมอุ่นเครื่องของ สุโขทัย เอฟซี ที่น่าสนใจไปบ้างแล้วกับหมากที่ เดนนิส อมาโต้ เทรนเนอร์ใหญ่ชาวเยอรมันเลือกใช้ โดยเฉพาะการให้โอกาส 2 ดาวรุ่งในการลงเล่นร่วมกัน เพราะเป็นเป้าหมายที่เขาอยากจะพัฒนาเยาวชนที่มีอยู่ในทีมให้ได้มากที่สุด

 ดังนั้นการส่ง 2 ดาวรุ่งลงสู่สนามในการลับแข้ง "ลีออน เจมส์ พิชญ" อดีตเพลงแข้ง เลสเตอร์ซิตี้ จึงถูกเลือกใช้กับบทบาทในการปั้นเกมแดนกลางแบบเต็มตัว ขณะนี่ "มูฮัมหมัด นาเซ กอและ" ได้ใช้ความเร็วที่เป็นจุดแข็งคอยสร้างความวูบวาบในเกมรุก เพื่อเป็นหัวหมู่ทะลวงฟัน ไล่ล่า บดขยี้เกมรับฝั่งตรงข้าม ซึ่งถือว่าทำได้ไม่เลวทีเดียว

 ถ้าถามว่าปีนี้จะเป็นปีที่ดีของทั้งคู่หรือไม่ คงยังไม่มีใครสามารถตอบคำถามนี้ได้ แต่เวลาอีกเดือนเศษที่เหลืออยู่ก่อนไทยลีก 2 จะเปิดฤดูกาล พวกเขาก็ยังมีเวลาเตรียมความพร้อมเพื่อที่จะพิสูจน์ตัวเองให้กุนซือได้ประจักษ์กับตา ในการเบียดเป็น 11 ผู้เล่นตัวจริง เพื่ออัพเกรดการเล่นตัวเองให้กลายมาเป็นตัวหลักของทีม

 ยิ่งปีนี้มี ยู 23 ชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือก ด้วยแล้วน่าสนใจว่า ถ้าพวกเขาได้ลงสนามอย่างต่อเนื่อง อนุรักษ์ ศรีเกิด และ อิสสระ ศรีทะโร 2 ผู้ช่วยโค้ช ก็น่าจะมีโอกาสทอดสายตายลฟอร์มของทั้งคู่เพื่อมอบโอกาสเข้าไปติดทีมชาติไทยได้เช่นเดียวกัน 

ตะวัน โคตรสุโพธิ์ (เชียงใหม่ เอฟซี)

 ได้ลงสนามใน เจ 3 ของญี่ปุ่น ตั้งแต่ปี 2019 และ 2020 ไปทั้งสิ้น 25 เกม แบ่งออกเป็นปี 2019 จำนวน 13 นัด (ตัวจริง 3 เกม) และ ปี 2020 จำนวน 12 นัด (ตัวจริง 2 เกม) รวมทั้งเคยเล่นกับ มิตสึรุ มารุโอกะ อดีตรุกกี้ซามูไร บลู ที่เคยไปอยู่กับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ มาแล้ว 

 ก่อนจะจากลา เซเรโซ่ โอซาก้า ชุดอายุไม่เกิน 23 ปี เพื่อกลับมาอยู่กับ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ในเลกสองของซีซั่นก่อน แม้โอกาสในการลงเล่นจะไม่มากนัก เพราะเจอแนวรุกระดับพระกาฬทั้งนั้น แต่ว่าเขาก็ถูกบรรจุชื่อในการรับเหรียญกับโทรฟี่แชมป์ไทยลีก ฤดูกาล 2020/21 

 อย่างไรก็ตาม "เดอะ แรบบิท" อยากจะให้เขาได้สัมผัสเกมในเมืองไทยอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยก่อน จึงจัดการส่งเขาไปอยู่กับ เชียงใหม่ เอฟซี ทีมพันธมิตรในไทยลีก 2 แห่งภาคเหนือ ภายใต้การคุมทีมของ "โค้ชเบ๊" ไพโรจน์ บวรวัฒนดิลก ที่ขึ้นชื่อว่ามีรูปแบบในการปั้นเยาวชน และพร้อมให้โอกาสลงเล่นถ้าสามารถทำได้ตามแท็คติค

 จากหนูน้อย อ.ตระการพืชผล จ.อุบลราชธานี กระทั่งใช้ฝีเท้าเป็นกุญแจไขเข้ามาเป็นนักเตะในอคาเดมี่ของสโมสรบีจี ปทุม ยูไนเต็ด และอยู่ในชุดคว้าแชมป์ “ไทยแลนด์ยูธลีก” รุ่นอายุ 17 ปี ในฐานะกัปตันทีม ดังนั้นฤดูกาลใหม่ที่กำลังจะมาถึง คงต้องเฝ้าจับตาการเล่นแบบต่อเนื่องของ "เจ้าโจ"ตะวัน โคตรสุโพธิ์ ว่าจะสำแดงฤทธิ์เดชได้มากน้อยแค่ไหน