:::     :::

กำไรมหาศาล

วันจันทร์ที่ 02 สิงหาคม 2564 คอลัมน์ เด็กเก็บบอล โดย ยักษ์เดนส์
1,782
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ตอนนี้ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ น่าจะได้รับการยกย่องให้เป็นทีมที่ "จ่ายถูก ขายแพง" ทำกำไรเข้าสู่สโมสรเป็นกอบเป็นกำในช่วง 4-5 ปีผ่านมา

         เรียกได้ว่าในเวลานี้ยักษ์ใหญ่แห่งบุนเดสลีกา เยอรมัน ถือเป็นทีมที่มีแมวมองดีที่ดีสุดแห่งหนึ่งของยุโรป ในการค้นหาแข้งพรสวรรค์อายุน้อยแล้วดึงมาสู่ทีม แทนที่จะจ่ายเงินมหาศาลดึงแข้งชื่อดังมาร่วมทีม

         ก็อย่างที่บอกว่าพวกเขาต้องมีทีมแมวระดับเซียนที่จะมองเห็นเพชรเม็ดงามที่จะนำมาขัดเกลาตั้งแต่อายุยังน้อย และปลุกปั้นขึ้นมาเป็นดาวเด่น


         จริงอยู่ว่ามันไม่ใช่ว่าจะสำเร็จเสมอไป แต่ในช่วงที่ผ่านมาทาง "เสือเหลือง" ก็แสดงให้เห็นแล้วว่ามันเป็นไปได้ด้วยดี

         และหลังจากที่บรรดาแข้งอายุน้อยทั้งหลายแสดงฝีเท้าเป็นที่ประจักษ์เป็นที่ต้องการของเหล่ายักษ์ใหญ่ทั้งหลาย ก็ถึงเวลาที่จะขายออกจากทีมและมันคือกำไรมหาศาลที่เข้าสู่สโมสร

         และจากนั้นพวกเขาก็นำเงินเหล่านั้นไปลงทุนค้นหาแข้งพรสวรรค์ใหม่ๆและวัฏจักรก็ดำเนินต่อไป และนี่คือ 5 คนที่ทีมขายได้สุดแพง แต่บางคนได้มาแบบไม่ต้องเสียเงินด้วยซ้ำ

เฮนริค มคิทาร์ยาน

ซื้อมา : 22 ล้านยูโร

ขายไป : 42.5 ล้านยูโร


         นักเตะทีมชาติอาร์เมเนียที่ค่อยๆไต่เต้ามาจากทีมระดับล่างมาสู่ทีมระดับแถวหน้าของพวกลีกรอง กระทั่งได้ย้ายมาอยู่กับ ดอร์ทมุนด์ 

         ผลงานที่สร้างไว้กับ ชัคตาร์ โดเน็ตส์ค สโมสรในยูเครนต้องบอกว่าดีขึ้นเรื่อยๆ โดยในปี 2012/13 ก่อนย้ายมาค้าแข้งกับ "เสือเหลือง" คือการกด 29 ประตูกับ 12 แอสซิสต์จากการลงเล่น 42 เกม โดย 25 ลูกมาจากเกมลีกที่ทำให้เจ้าตัวคว้าตำแหน่งดาวซัลโวแม้ไม่ใช่กองหน้า

        ด้วยฟอร์มที่ยอดเยี่ยมนี่เองทำให้ ดอร์ทมุนด์ จ่าย 22 ล้านยูโรซื้อมาร่วมทีม ซึ่งผลงานในการค้าแข้งที่เยอรมันก็ไม่ธรรมดาเหมือนกันตลอด 3 ปีทำ 41 ลูกกับ 49 แอสซิสต์จาการลงเล่น 140 เกม 

         โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปี 2015/16 ที่ระเบิดฟอร์มสุดยอดกด 23 ประตูกับ 32 แอสซิสต์ จน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อดใจไม่ไหวทุ่ม 42.5 ล้านยูโร ดึงตัวมาร่วมทีม เรียกได้ว่ากำไรเกือบเท่าตัวเลยทีเดียว

         อย่างไรก็ตามผลงานในการค้าแข้งกับ "ปีศาจแดง" กลับน่าผิดหวัง ลงเล่นไป 63 เกม ทำไป 13 ประตูกับ 11 แอสซิสต์ก่อนโดนปล่อยไป อาร์เซน่อล

ปิแอร์-เอเมอริก โอบาเมย็อง

ซื้อมา : 13 ล้านยูโร

ขายไป : 63.8 ล้านยูโร


         กองหน้าที่ได้รับการยอมรับในเรื่องของฝีเท้าในสมัยค้าแข้งในบุนเดลีกา เยอรมัน ด้วยสถิติยิงประตูเป็นกอบเป็นกำแถมยังช่วยให้ ดอร์ทมุนด์ มีแชมป์ติดมือด้วย

         เรียกได้ว่าจำนวนประตู 141 ลูกกับ 36 ประตูที่ทำให้ทีมตลอด 213 เกมทำให้เงิน 13 ล้านยูโรที่จ่ายไปให้กับ แซงต์-เอเตียน กลายเป็นถูกไปเลย โดยเฉพาะสถิติในบุนเดสลีกาที่ทำไป 98 ลูกในตอนนั้นมีเพียงแค่ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ที่สอยตาข่ายให้ "เสือเหลือง" มากกว่า

         โดยปกติแล้วนักเตะระดับนี้จะไม่ค่อยย้ายทีมช่วงตลาดหน้าหนาว แต่ด้วยค่าตัวระดับ 63.8 ล้านยูโร ก็อดใจไม่ได้ที่จะขายไปให้กับ อาร์เซน่อล โดยทิ้งผลงาน 21 ประตูจาก 24 เกมก่อนโยกไปสู่พรีเมียร์ลีกใรกลางซีซั่น 2017/18

         สถิติ 85 ประตูกับ 19 แอสซิสต์ใน 148 เกมต้องบอกว่าดีเลยในการค้าแข้งในถิ่นเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม โดยในปี 2018/19 ยังได้ดาวซัลโวพรีเมียร์ลีกอีกต่างหาก แต่ด้วยองค์ประกอบทีมโดยรวมทำให้ความสำเร็จมีเพียงแค่แชมป์เอฟเอ คัพเท่านั้น ซึ่งดูว่าน้อยไปหน่อย น่าเสียดายที่การเข้าชิงถ้วยคาราบาว คัพ (2017/18) และ ยูโรปา ลีก (2018/19) ลงเอยด้วยความพ่ายแพ้ไป

         แต่อย่างน้อยก็ถือว่าน่าพอใจด้วยกันทั้งสองฝั่ง ดอร์ทมุนด์ เสียกองหน้าตัวเก่งแต่กำไรมหาศาล ส่วน อาร์เซน่อล จ่ายแพงแต่ก็ได้ดาวยิงที่ไว้ใจได้ไปครอบครอง

คริสเตียน พูลิซิช

ซื้อมา : ฟรี

ขายไป : 64 ล้านยูโร


         หนึ่งในแข้งที่มีพรสวรรค์ที่ดีที่สุดเท่าที่ทีมชาติสหรัฐ อเมริกาเคยมีมา, คริสเตียน พูลิซิช มาอยู่กับ ดอร์ทมุนด์ ตั้งแต่อายุเพียง 15 ปีเท่านั้น

         และในวัย 17 ปี ตัวรุกอนาคตไกลก็เริ่มฉายแววด้วยการประเดิมสนามให้กับทีมครั้งแรกในบุนเดสลีกา เยอรมันในเกมที่ทีมชนะ อิงโกลสตัดท์ 2-0 และได้ลงเล่นในเกมยูโรปา ลีก รอบ 32 ทีมสุดท้ายในรังที่ทีมเปิดบ้านชนะ ปอร์โต้ 2-0 ปิดฉากซีซั่นแรกกับทีมด้วยการลงสนาม 12 เกมทำไป 2 ประตู

         หลังจากนั้นเจ้าตัวก็เริ่มเป็นขาประจำในทีมและลงเล่นอย่างต่อเนื่องโดยใน 3 ปีหลังที่ก้าวขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่เต็มตัวลงสนามไปถึง 115 เกม โดยรวมทำไป 19 ประตูกับ 26 แอสซิสต์

         ในเดือนมกราคม 2019 ทีมบรรลุข้อตงลงในการขายตัวให้กับ เชลซี ด้วยค่าตัว 64 ล้านยูโร ถือเป็นการฟันเงินก่อนนี้แบบเต็มๆหลังดึงมาตั้งแต่เป็นเด็กเท่านั้น

         ปัจจุบันในวัย 22 ปีถือว่าเส้นทางค้าแข้งยังอีกยาวไกล เรียกได้ว่าเป็นการลงทุนเพื่ออนาคต และฝีเท้าก็คุ้มค่าอย่างแน่นอน

เจดอน ซานโช่

ซื้อมา : 8 ล้านยูโร

ขายไป : 85 ล้านยูโร


         สดๆร้อนๆเลยสำหรับการขาย เจดอน ซานโช่ พร้อมกับฟันเงินเข้ากระเป๋ามหาศาลอีกครั้งของ ดอร์ทมุนด์ หลัง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทุ่มเงินดึงตัวไปร่วมทีม

         ตัวเลขน่าจะสูงกว่านี้ด้วยซ้ำหากเมื่อซัมเมอร์ที่แล้วทาง "ปีศาจแดง" ยอมจ่ายที่ 120 ล้านยูโร แต่สุดท้ายก็บรรลุข้อตกลงกันได้ในซัมเมอร์นี้แม้ค่าตัวจะตกลงไปเยอะเลยก็ตาม

         หนึ่งในตัวริมเส้นที่ดีที่สุดในช่วงอายุเดียวกันถูกดึงมาอยู่กับ ดอร์ทมุนด์ ตอนอายุ 17 ปีจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ หลังจากที่ไม่สามารถเบียดขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่ได้ โดยในตอนนี้ "เสือเหลือง" เสียค่าชดเชยไปราว 8 ล้านยูโร 

         ผลงานในการเล่นทีมชุดใหญ่เต็มตั้งเริ่มตั้งแต่ปี 2018/19 ต้องบอกว่าฉายแววเต็มๆด้วยการทำ  13 ประตูกับ 20 แอสซิสต์ ตามด้วยปีต่อมากด 20 ลูกกับ 20 แอสซิสต์จาก 44 เกมและปีล่าสุดแม้ได้รับผลกระทบจากการชวดย้ายทีมจนช่วงต้นซีซั่นเล่นไม่ออก แต่ก็ปิดฤดูกาลด้วยการทำ 16 ประตูกับ 20 แอสซิสต์ใน 38 เกม

         ต้องบอกว่าเป็นตัวเลขที่สุดยอดเหลือเกินโดยเฉพาะการแอสซิสต์ที่ต้องบอกว่าไม่แผ่วเลย รวมลงเล่น 137 เกมมีส่วนร่วมกับประตูของทีมถึง 114 ลูก (50 ประตูกับ 64 แอสซิสต์)

         ไม่แปลกใจที่ทำไม่ แมนฯ ยูไนเต็ด ถึงอยากได้มาร่วมทีมนัก เพราะนี่นอกจากจะช่วยปั้นเพื่อนร่วมทีมแล้วยังมีทีเด็ดจากการทำประตูอีกด้วย ส่วนจะคุ้มราคาค่าตัวมั้ยรอดูกันต่อไป

อุสมาน เดมเบเล่

ซื้อมา : 35 ล้านยูโร

ขายไป : 145 ล้านยูโร


         นักเตะที่ มิคาแอล ซิลแวสต์ ผู้อำนวยการสโมสรแรนส์ (ในเวลานั้น) ต้นสังกัดแรกของ อุสมาน เดมเบเล่ ยกขึ้นไปเปรียบเทียบกับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ต้องบอกว่าไม่ธรรมดาเพราะเคยอยู่ร่วมทีมกันมาแล้วที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

         เพียงแค่ปีเดียวที่ขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ของ แรนส์ พร้อมผลงาน 12 ประตูกับ 5 แอสซิสต์ ก็ถูก ดอร์ทมุนด์ ดึงตัวมาร่วมทีม แต่ก็อยู่กับทีมแค่สองปีลงเล่น 50 เกมมีส่วนร่วมกับประตูที่ 32 ลูก (10 ประตูกับ 22 แอสซิสต์) บาร์เซโลน่า ก็กล้าที่จะทุ่มถึง 145 ล้านยูโรดึงตัวไปร่วมทีม

         เหตุผลที่ "เจ้าบุญทุ่ม" ยอมจ่ายขนาดนั้นเพราะได้เงินจากค่าตัวของ เนย์มาร์ และเป้าหมายก็คือดึงไปแทนที่นั่นเอง

         ตลอด 4 ปีที่ค้าแข้งในถิ่นคัมป์ นูลงเล่นไปเพียง 118 เกม ทำไป 30 ประตูกับ 21 แอสซิสต์ เจอกับอาการบาดเจ็บเล่นงานเละเทะ โดยเฉพาะในปี 2019/20 ที่อยู่โรงหมอมากกว่าในสนาม

         จนถึงตอนนี้ "เจ้าบุญทุ่ม" พยายามที่จะขายออกจากทีมให้ได้ แน่นอนว่าค่าตัวเวลานี้หายไปเกินครึ่งถูกประเมินอยู่ที่ราว 50 ล้านยูโรเท่านั้น แถมยังขายไม่ออกอีกต่างหาก 

         นี่เป็นการทำธุรกิจที่ดีที่สุดของ ดอร์ทมุนด์ แต่นี่กลับเป็นการทำธุรกิจที่เลวร้ายที่สุดของ บาร์เซโลน่า 


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด