:::     :::

FSG กับสัญญาของเฮนโด้ และเหตุผลที่ปีนี้ยังไม่เสริมทัพด้วยสตาร์ดัง

วันเสาร์ที่ 07 สิงหาคม 2564 คอลัมน์ ศาสดา On The Ball โดย ศาสดาลูกหนัง
1,282
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
นับตั้งแต่ FSG เข้ามาบริหารทีม มีเพียงครั้งเดียวเท่านั้นที่ผมรู้สึกว่าพวกเขาทำผิดพลาดอย่างรุนแรงในเรื่องการจัดการนักเตะ นั่นก็คือเคสของ สตีเว่น เจอร์ราร์ด

ในฤดูกาลนี้ ไมเคิ่ล เอ็ดเวิร์ดส์ มีงานล้นมือมากมายให้ทำเหมือนทุกปี นอกเหนือไปจากการบริหารจัดการงบดุลของสโมสรในสถานการณ์โรคระบาด เขายังมีเรื่องสัญญาของนักเตะในทีมอีกมากมายที่ต้องจัดการ ซึ่งในเรื่องนี้นี่แหละครับที่เป็นเหตุผลสำคัญของตลาดขาเข้าซึ่ง ลิเวอร์พูล ยังไม่มีสตาร์ดังเข้ามาสู่ทีมให้ได้ชื่นใจเหมือนทีมอื่น ๆ เขาเลย


ผมขอย้อนกลับไปให้เห็นภาพอย่างนี้ละกันนะครับ เมื่อ 3 ฤดูกาลก่อน (2018/19) ถ้ายังจำกันได้นั่นคือฤดูกาลที่ ลิเวอร์พูล เสริมทัพค่อนข้างหนักหน่วงในตลาดหลังจากพลาดท่าพ่ายแพ้ต่อ เรอัล มาดริด ถึง 1-4 ในรอบชิงฯ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก โดยมีนักเตะชื่อดังถึง 4 รายเข้ามาสวมเสื้อหงส์แดงเพื่อยกระดับทีม ได้แก่ นาบี เกอิต้า, ฟาบินโญ่, เซอร์ดาน ชากิรี่ และ อลีสซง เบ็คเกอร์ อีกทั้งปีนั้นยังเป็นปีที่สโมสรตบรางวัลนักเตะตัวหลัก 6 คนด้วยการต่อสัญญาและเพิ่มค่าเหนื่อยให้อย่างงาม


โม ซาลาห์ ได้สัญญาใหม่จาก 120,000 เป็น 200,000 ปอนด์, โรแบร์โต้ ฟิร์มีโน่ ได้สัญญาฉบับใหม่จาก 100,000 ปอนด์เป็น 180,000 ปอนด์, ซาดิโอ มาเน่ เปลี่ยนจาก 100,000 ปอนด์มารับ 180,000 ปอนด์, เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ จากแค่ 9,000 ปอนด์ทะลุมาเป็น 72,000 ปอนด์ (ในเวลานั้น), แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน อัพจาก 43,000 ปอนด์เป็น 83,000 ปอนด์ และ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ปรับสัญญาจาก 105,000 ปอนด์มาเป็น 140,000 ปอนด์


จากวันนั้นมาถึงวันนี้ เป็นอีกครั้งที่ ลิเวอร์พูล ต้องเดินหน้าไล่เรียงจัดการสัญญาของเหล่านักเตะทั้ง 6 คนอีกครั้ง ทว่า สิ่งที่แตกต่างจากเดิมก็คืออายุการใช้งานของนักเตะที่มากขึ้น ซึ่งนั่นคือเหตุผลสำคัญที่ทำให้สัญญาของ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน จึงล่าช้าที่สุดและยังคงค้างคามาจนถึงตอนนี้ นัยหนึ่งคือเรื่องของอายุซึ่งย่างเข้า 31 และอีกนัยหนึ่งอาจเป็นเรื่องของสภาพร่างกายที่ทางสโมสรพยายามประเมินความคุ้มค่าอย่างละเอียดถี่ถ้วน การเจรจาเบื้องต้นเกิดขึ้นไปแล้วนะครับ แต่ดูเหมือนว่าทุกอย่างไม่คืบหน้าไปอย่างที่ทุกฝ่ายอยากเห็น โดยหงส์แดงยื่นข้อเสนอมาให้ เฮนโด้ ตั้งแต่ปลายฤดูกาลก่อน แต่ยังไม่มีการตอบรับจากฝั่งนักเตะ ซึ่งเดาไม่ยากเลยว่าข้อเสนอนั้นยังไม่น่าพอใจสำหรับ เฮนโด้ ส่วน ไมเคิ่ล เอ็ดเวิร์ดส์ เอง ผมเดาเอาว่าเขาเลยหันไปง่วนในส่วนอื่นให้จบก่อน เพราะเอาเข้าจริงสัญญาของ เฮนโด้ จะหมดลงในปี 2023 บางที เขาอาจวางเรื่องนี้ไว้ในลำดับท้าย ๆ ของลิสต์ที่ต้องจัดการก่อนเปิดฤดูกาลเลยด้วยซ้ำ

ผลกระทบของอายุนักเตะตัวหลักที่มากขึ้น หลายคนเริ่มใกล้เลข 3 จึงทำให้ ลิเวอร์พูล ไม่สามารถต่อสัญญานักเตะทั้ง 6 คนได้ง่ายเหมือนเมื่อ 3 ฤดูกาลก่อนอีกแล้ว นี่ยังไม่รวมผลกระทบจากโควิดที่ทำให้รายได้น้อยลงอีกนะครับ ดังนั้น ผมเองจึงไม่ค่อยแปลกใจเลยกับการที่สัญญาของ เฮนโด้ จะยังนิ่งเงียบแบบนี้ และแน่นอนก็ไม่แปลกใจอีกเช่นกันหากจะเห็น ลิเวอร์พูล ลงทุนแต่นักเตะดาวรุ่งมาเสริมทัพในซัมเมอร์นี้

 

ว่ากันตามตรง งบดุลสโมสรในเวลานี้ค่อนข้างบีบรัดมากนะครับ ในมุมมองของแฟนบอลอาจคิดว่าทำไมไม่ต่อสัญญาให้นักเตะตัวหลักตามที่พวกเขาร้องขอไปเลยล่ะ เป็นการตอบแทนที่นักเตะเหล่านั้นอยู่ล่มหัวจมท้ายกับสโมสรมาตลอด แต่ในมุมของสโมสรก็มีอีกด้านที่มองว่า ต่อสัญญาในเรตที่สูงกว่าเดิมให้นักเตะตัวหลักที่เริ่มเข้าสู่ปลายอาชีพน่ะได้นะ เพียงแค่แฟนบอลอาจต้องยอมรับด้วยว่าถ้าจะเอาอย่างนั้น เราอาจไม่ได้มีเงินในการซื้อสตาร์ค่าตัวระดับ 50 ล้านปอนด์ขึ้นไปเข้ามาสู่ทีมเหมือนอย่างที่ แมนฯยูไนเต็ด หรือ แมนฯซิตี้ ทำ


เจมส์ เพียร์ซ กูรูข่าวของหงส์แดงระบุว่าการต่อสัญญากับนักเตะในครั้งนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อนกว่าเมื่อ 3 ฤดูกาลก่อนมาก เพราะสำหรับบางคนนี่อาจเป็นสัญญษฉบับสุดท้ายในอาชีพการค้าแข้งของเขาแล้ว ดังนั้น ในมุมนักเตะอาจไม่ต้องการค่าเหนื่อยที่ลดลง และโบนัสต่าง ๆ ที่ไม่ต้องการถูกตัดออก ซึ่งก็ไม่ผิด แต่ในมุมสโมสรล่ะ คนจ่ายเงินต้องประเมินความเสี่ยงหลายอย่างทั้งอายุที่มากขึ้น อาการบาดเจ็บ และระยะเวลาของสัญญา ด้วยเหตุนี้แหละครับ จึงทำให้ดีลของ เฮนโด้ ยังไม่ลุล่วงเพราะทั้ง 2 ฝ่ายต่างยังไม่เจอจุดสมดุลที่ทั้งคู่รู้สึก วิน-วิน


ในกรณีที่เลวร้ายที่สุด ลิเวอร์พูล ก็มีเวลามากพอสำหรับการปล่อยตัวนักเตะในแบบที่ไม่ต้องเสียฟรีแบบเคสของ ไวจ์นัลดุม เพราะสัญญาของ เฮนโด้ จะหมดลงในอีก 2 ปี ซึ่งข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์ในเวลานี้มีม้าอยู่ 2 ตัวที่จับตามองอยู่ ม้าตัวแรกคือ เปแอสเช ของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ โดยพอชนั้นชื่นชอบ เฮนโด้ มาตั้งแต่สมัยที่คุม สเปอร์ส แล้ว และ เพียร์ซ ก็เชื่อว่าหากหงส์แดงต่อสัญญาไม่สำเร็จ พอชน่าจะรีบส่งขันหมากมาสู่ขออย่างแน่นอน ม้าอีกตัวคือ แอตเลติโก มาดริด ครับ ด้วยสไตล์ของ เฮนโด้ นี่คือตัวเลือกในแดนกลางแบบที่ ซิเมโอเน่ นิยมใช้งานเลยล่ะ ขยัน เล่นได้หลากหลาย มีความเป็นผู้นำ และไม่สร้างปัญหาให้ทีม อีกทั้งในทีมยังมีนักเตะอังกฤษอยู่ด้วย และยังมี หลุยส์ ซัวเรซ ที่เป็นอีกหนึ่งในคีย์สำคัญสำหรับการโน้มน้าวใจอดีตเพื่อนร่วมทีมให้มาอยู่ด้วยกันที่สเปน

ว่ากันตามตรง เราไม่รู้หรอกครับว่าในข้อเสนอที่หงส์แดงยื่นไปให้ เฮนโด้ พิจารณานั้นมีรายละเอียดอย่างไรบ้าง ค่าเหนื่อยมากขึ้นหรือลดลง โบนัสต่าง ๆ มีอะไรบ้าง แต่ที่แน่ ๆ คือข้อเสนอนั้นไม่ทำให้ เฮนโด้ รู้สึกพอใจที่จะลงนาม แต่ที่ทุกอย่างเงียบกริบนั่นเป็นเพราะว่าการวางตัวของ เฮนโด้ ที่ค่อนข้างเป็นสุภาพบุรุษเหมือนที่เป็นมา เขาไม่เคยออกมาโวยวาย ไม่เคยกดดันสโมสรในทางอ้อม ที่เขายังคงทำก็คือก้มหน้าก้มตาทำงานของตัวเองทั้งในและนอกสนามต่อไป


ผมเองเข้าใจทั้งในมุมของสโมสรและมุมของแฟนบอลนะ และยังคงแอบเชื่อมั่นว่าสุดท้ายแล้ว เฮนโด้ จะได้สัญญาฉบับสุดท้ายในอาชีพการค้าแข้งด้วยหัวกระดาษที่เป็นชื่อของ ลิเวอร์พูล ไม่ใช่ของ เปแอสเช หรือ แอตเลติโก มาดริด เพราะสิ่งที่ เฮนโด้ ทำเพื่อทีมมาตลอดนั้น มันคือสิ่งหาได้ยากมากจริง ๆ สำหรับนักฟุตบอลในยุคปัจจุบัน

ลิเวอร์พูล เคยทำพลาดมาแล้วกับเคสของ เจอร์ราร์ด...

และผมหวังว่าในเคสของ เฮนโด้ จะไม่มีอะไรแบบนั้นเกิดขึ้นอีก เพราะนี่คือมิสเตอร์ลิเวอร์พูลที่สมควรได้รับการอวยยศที่แอนฟิลด์ แม้จะไม่ได้เป็นลูกหม้อก็ตาม



ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด