สเตฟาน โยเวติช มีโอกาสย้ายกลับไปค้าแข้งในอิตาลีอีกครั้ง แต่ ลาซิโอ มีงบไม่มากพอสำหรับการจ่ายค่าเหนื่อยนักเตะ ก่อนกองหน้าทีมชาติมอนเตเนโกรวัย 31 ปีจะลงเอยกับ แฮร์ธ่า เบอร์ลิน โดยเซ็นสัญญาจนถึงช่วงซัมเมอร์ปี 2023 พ่วงอ็อปชั่นอีกหนึ่งปี
'สเตวาน เป็นกองหน้าสุดคลาสสิค มีประสบการณ์มากมายจากลีกชั้นนำของยุโรป เขาทำประตูใน พรีเมียร์ลีก, เซเรีย อา, ลีก เอิง และ ลา ลีกา คุณสมบัติการเล่นฟุตบอลของเขา บวกกับบุคลิกของเขาจะช่วยเราในทันที เรากำลังตั้งตารอดูเขา' เฟรดี้ โบบิช ผู้อำนวยการฝ่ายฟุตบอลของทีมหญิงชรากล่าวถึงกองหน้าคนใหม่
ขณะที่ โยเตวิช กล่าวเสริมว่า 'ผมมีบทสนทนาที่ดีกับสโมสร โดยเฉพาะกับ เฟรดี้ โบบิช ผมสนใจมากกับโอกาสที่มาได้เบอร์ลินในทันที ตอนนี้ผมตั้งตารอสโมสรนี้, เมือง, เพื่อนร่วมทีมใหม่ของผม และบุนเดสลีกา'
โยเวติช เป็นอีกหนึ่งนักเตะที่กำลังจะค้าแข้งครบทั้ง 5 ลีกใหญ่ยุโรป หลังผ่านมาแล้วทั้ง เซเรีย อา, พรีเมียร์ลีก, ลา ลีกา, ลีก เอิง มาจนถึง บุนเดสลีกา หลังการย้ายซบทีมหญิงชรา
เขาเริ่มต้นเล่นฟุตบอลกับ ปาร์ติซาน เบลเกรด และลงประเดิมสนามกับทีมชุดใหญ่เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2006 ด้วยวัยเพียง 16 ปีและทำแฮตทริคแรกในอาชีพตอนอายุ 17 ปีและกลายเป็นกัปตันทีมอายุน้อยสุดในประวัติศาสตร์ของสโมสรด้วยวัยเพียง 18 ปี โดยมีส่วนช่วยต้นสังกัดคว้าดับเบิ้ลแชมป์ในซีซั่น 2007-2008
หลังย้ายจาก ปาร์ติซาน เบลเกรด เมื่อปี 2008 เขาสร้างชื่อจนเป็นที่รู้จักของวงการลูกหนังกับ ฟิออเรนติน่า ซึ่งเป็นช่วงพีคสุดในอาชีพค้าแข้งของดาวดังมอนเตเนโกร ตลอด 4 ฤดูกาลในฟลอเรนซ์ทำ 41 ประตูและทำ 21 แอสซิสต์จากการลงเล่นทุกรายการ 135 เกม โดยพลาดการลงเล่นตลอดซีซั่น 2010-2011 เนื่องจากเอ็นเข่าขวาฉีกขาดก็ตาม
ช่วงท็อปฟอร์มของ โยเวติช ทำให้เขาถูกนำไปเปรียบเทียบกับยอดนักฟุตบอลหลายคนอย่าง โยฮัน ครัฟฟ์, ริคาร์โด้ กาก้า กับ ลิโอเนล เมสซี่ แต่แนวรุกชาวมอนเตเนโกรอาจใกล้เคียงกับ โรแบร์โต้ บาจโจ้ ตำนานกองหน้าทีมชาติอิตาลีและทีมวิโอล่ามากสุด
แฟนๆฟิออเรนติน่าตั้งนิคเนมเขาว่า 'โย-โย' เขาไว้ผมทรงคล้ายกับ บาจโจ้ แต่ความคล้ายคลึงกันของพวกเขาไม่ได้มีเพียงแค่นั้น โยเวติช ยังเป็นกองหน้าที่สง่างามและมีทักษะสูง เก่งกาจและชอบเป็นผู้นำทีมในบทบาทเพลย์เมกเกอร์ ตามแนวทางการเล่นที่พร้อมเป็นภัยคุกคามผู้รักษาประตูฝ่ายตรงข้ามไม่ต่างจากตำนานเปียทองคำ
โยเวติช ยังเป็นคนที่น่ารักของทุกคนในทุกสโมสรและมันง่ายที่จะเข้าใจว่าทำไม ในปี 2015 เขาจ่ายค่าผ่าตัดเข่าของ มิลิโวเย่ ไรเชวิช แข้งเพื่อนร่วมชาติเนื่องจากสโมสรต้นสังกัดไม่สามารถจ่ายรักษาในเยอรมันได้
'เมื่อเขาได้ยินสิ่งที่เกิดขึ้นและพบว่าสโมสรของผมไม่มีเงินพอที่จะส่งผมไปที่ เอาก์สบวร์ก หลังการวินิจฉัยผิดพลาดในมอนเตเนโกร, โยเวติช โทรหาผมและเสนอความช่วยเหลือของเขา'
'เขานัดพบแพทย์ที่เคยช่วยเขาตอนที่เขาบาดเจ็บคล้ายกัน (ในปี 2010) โยเวติช จ่ายค่าตรวจทั้งหมดและจ่ายค่าผ่าตัดด้วย ซึ่งผมมีเวลา 2-3 วันในเซอร์เบีย ทั้งหมดที่ผมสามารถทำได้คือกล่าวขอบคุณมากๆ และสัญญากับ สเตวาน ว่าผมจะกลับมาในฤดูกาลหน้าและทำประตูเพื่อเขา' ไรเชวิช กล่าวถึงน้ำใจของ 'โย-โย' ณ ตอนนั้น
โยเวติช ย้ายจาก ฟิออเรนติน่า มาค้าแข้งกับ แมนฯซิตี้ ในช่วงซัมเมอร์ปี 2013 แต่เขามีบทบาทกับทีมเรือใบไม่มากนัก เนื่องจากสภาพร่างกายไม่ค่อยสมบูรณ์และยังมีปัญหากับ มานูเอล หลุยส์ เปเยกรีนี กุนซือซิตี้ในขณะนั้นด้วย
กองหน้ามอนเตเนโกรแสดงปฏิกิริยาหลังถูกเปลี่ยนตัวออกจากสนามในเกมแชมเปี้ยนส์ลีกว่า 'ผู้จัดการทีมฆ่าผมด้วยการตัดสินใจของเขา' นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้ทีมเรือใบปล่อยตัวออกจากทีมหลังจบฤดูกาล 2014-2015 โดยลงเล่นรวมกันเพียง 44 เกมและยิง 11 ประตูตลอดช่วง 2 ปีในถิ่น 'เอติฮัด สเตเดี้ยม'
โยเวติช ย้ายมาเล่นกับ อินเตอร์ มิลาน ด้วยสัญญายืมตัวในฤดูกาล 2015-2016 ก่อนทีมเนรัซซูร์รี่จะเซ็นสัญญาถาวรกับนักเตะในช่วงซัมเมอร์ปีถัดมา ทว่ากองหน้าชาวมอนเตเนโกรได้โอกาสลงเล่นเพียง 5 เกม ในยุคของเทรนเนอร์ แฟร้งค์ เดอ บัวร์ ต่อด้วย สเตฟาโน่ ปิโอลี่ ก่อนถูกปล่อยไปเล่นกับ เซบีย่า ด้วยสัญญายืมตัว 6 เดือนในช่วงเดือนมกราคมปี 2017
แม้นักเตะจะทำผลงานได้ดีในระดับหนึ่งด้วยการทำ 7 ประตูจากการลงเล่น 33 เกม แต่ทีมดังแคว้นอันดาลูเซียไม่สนใจเซ็นสัญญาถาวรกับกองหน้ามอนเตเนโกร
โมนาโก ดึง โยเวติช มาเซ็นสัญญา 4 ปีในช่วงซัมเมอร์ปี 2017 หลังการปล่อย คิลียัน เอ็มบั๊ปเป้ แนวรุกดาวโรจน์ย้ายไปค้าแข้งกับ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง เขาทำ 10 ประตูจากการลงเล่นทุกรายการ 21 เกม จากการลงเล่นเฉลี่ยเกมละ 50 นาทีในปีแรกสำหรับการค้าแข้งในลีกเมืองน้ำหอม
กองหน้าชาวมอนเตเนโกรยังมีปัญหาเรื่องสภาพร่างกายจนลงเล่นรวมกันเพียง 23 เกมและทำ 4 ประตูในช่วง 2 ปีถัดมา ก่อนจะกลับมามีร่างกายสมบูรณ์อีกครั้งและลงสนามทุกรายการรวมกัน 33 เกมและทำ 7 ประตูในฤดูกาล 2020-2021
แม้จะมีปัญหาเรื่องสภาพร่างกายตลอดช่วงปลายปีที่ผ่านมา แต่ โยเวติช ยังมีคุณค่าตามสายตาของ แฮร์ธ่า เบอร์ลิน และ เฟรดี้ โบบิช หลัง 'โย-โย' ทำ 103 ประตูและ 51 แอสซิสต์จากการลงเล่น 365 เกมกับทุกสโมสรของเขา
ดังนั้นทีมหญิงชราจึงทาบทามกองหน้าทีมชาติมอนเตเนโกรมาร่วมทีมด้วยสัญญา 2 ปีพ่วงอ็อปชั่นขยายสัญญาอีก 1 ปี เนื่องจาก โบบิช เชื่อมั่นว่า โยเวติช สามารถตอบโจทย์อย่างที่ทีมหญิงชราต้องการ หลังพลาดหวังในการเซ็นสัญญากับ มักซ์ ครูเซ่อ ในช่วงซัมเมอร์ปีก่อน
กัปตันทีมและเจ้าของสถิติทำประตูมากสุดในประวัติศาสตร์ของทีมชาติมอนเตเนโกรแสดงให้เห็นถึงคุณภาพฝีเท้าของเขา หลังลุกขึ้นมาจากม้านั่งสำรองลงมาทำ 2 ประตูในเกมอุ่นเครื่องช่วงปรีซีซั่นชนะ ลิเวอร์พูล 4-3
'เขาเป็นนักเตะที่เล่นได้หลากหลายจริงๆ ไม่ใช่แค่กองหน้าเท่านั้น' โบบิช กล่าวหลังเห็น โยเวติช โชว์ผลงานของเขาต่อหน้าแฟนบอล 12,000 ในเกมกระชับมิตรที่ออสเตรีย 'เขาสามารถเล่นได้ทุกพื้นที่ในแนวรุก, เข้าไปในที่ว่างและเรียกขอบอล เขามั่นใจในการเล่นกับบอลของเขาแน่นอนและนั่นเป็นสิ่งดีเสมอ'
ก่อนตัดสินใจย้ายมาค้าแข้งในเยอรมัน โยเวติช ยังทำการบ้านมาเป็นอย่างดีด้วยการขอคำปรึกษาจากผู้ที่มีประสบการณ์ในลีกเมืองเบียร์หลายต่อหลายคน ไม่ว่าจะเป็น นิโก้ โควัช กุนซือคนปัจจุบันของ โมนาโก ซึ่งเคยค้าแข้งกับ แฮร์ธ่า เบอร์ลิน และอีกหลายทีมอย่าง เลเวอร์คูเซ่น, ฮัมบูร์ก และ บาเยิร์น มิวนิค อีกทั้งยังเคยทำงานฐานะเทรนเนอร์ของ ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต และ ทีมเสือใต้ด้วย
ขณะที่คนใกล้ชิดอย่าง ฟาลี รามาดานี่ เอเยนต์ของเขายังอาศัยอยู่ในเมืองหลวงของเยอรมันนานหลายปีด้วย นอกจากนี้ โยเวติช ยังคุยกับ เควิน โฟลลันด์ กองหน้าชาวเยอรมันที่เคยเล่นกับ 1860 มิวนิค, ฮอฟเฟนไฮม์ และ เลเวอร์คูเซ่น ก่อนย้ายมาค้าแข้งกับ โมนาโก ในช่วงซัมเมอร์ปี 2020
โยเวติช ยังสอบถาม เนมานย่า ราดอนยิช เพื่อนร่วมทีมของเขาซึ่งเป็นอดีตแข้ง แฮร์ธ่า เบอร์ลิน เช่นเดียวกับ มาตีย่า นาสตาซิช กองหลังของ ชาลเก้ อดีตเพื่อนร่วมทีมที่ แมนฯซิตี้ ก่อนชั่งน้ำหนักจนกระทั่งตัดสินใจย้ายมาค้าแข้งกับทีมหญิงชรา
เจ้าของรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของ มอนเตเนโกร (2009 กับ 2015) จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในแนวรุกของ แฮร์ธ่า เบอร์น ร่วมกับ มาเธอุส กุนญ่า, เดวี่ เซลเค่อ, คริสตอฟ พิออนเท็ค, โดดี้ ลูเกบากีโอ และ เควิน-พรินซ์ บัวเต็ง ในการนำทีมหญิงชราสร้างเซอร์ไพรส์ในฤดูกาลหน้า
