แสงแดดสาดส่องเหนือสแตมฟอร์ด บริดจ์กับเกมเปิดสนามพรีเมียร์ลีกนัดแรกของฤดูกาลที่เติมไปด้วยชีวิตชีวาของเหล่าพลลพรรค เชลซี หลังจากที่เพิ่งคว้าแชมป์ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพมาครอง
ความกังวลเรื่องสภาพร่างกายที่ดูจะยังไม่เข้าที่เข้าทางจากเกมเมื่อกลางสัปดาห์ถูกแทนที่ด้วยการอย่างมีสไตล์และครองเกมเหนือกว่าคู่แข่งอย่าง คริสตัล พาเลซ
สกอร์ 3-0 ที่ได้มาจาก มาร์กอส อลอนโซ่, คริสเตียน พูลิซิช และ เทรเวอร์ ชาโลบาห์ ไม่ได้เซอร์ไพรส์แต่อย่างใดกับรูปเกมที่ออกมา
ถือเป็นการต้อนรับการกลับมาของแฟนบอลเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2020 ได้อย่างสุขใจจริงๆ
การจัดทีม
โธมัส ทูเคิ่ล ทำการเปลี่ยนแปลงทีมจากนัดชิงชนะเลิศยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ 5 ตำแหน่ง โดยในเกมดังกล่างทีมต้องเล่นถึง 120 นาทีและดวลจุดโทษ
เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า, อันเดรียส คริสเตนเซ่น, จอร์จินโญ่, เมสัน เมาท์ และ คริสเตียน พูลิซิช คือกลุ่มที่กลับมา โดนทาง เอ็นโกโล่ ก็องเต้ กับ ฮาคิม ซิเย็ค บาดเจ็บ ส่วน เทรเวอร์ ชาโลบาห์ ได้ลงเล่นต่อและเป็นการประเดิมสนามพรีเมียร์ลีกเกมแรกด้วย
ส่วนคนที่เหลือมี เอดูอาร์ เมนดี้, อันโตนิโอ รือดิเกอร์, มาเตโอ โควาซิช, มาร์กอส อลอนโซ่ และ ติโม แวร์เนอร์
ขณะที่ทาง ปาทริค วิเอร่า กุนซือคนใหม่ของ คริสตัล พาเลซ ส่ง มาร์ค เกฮี กองหลังที่ดึงมาจาก "สิงห์บลูส์" ลงเป็น 11 ตัวจริง ส่วนแนวรุกฝากความหวังกับ จอร์แดน อายิว กับ วิลฟรีด ซาฮา
ฤดูกาลใหม่ ภาพเก่า
นี่คือฟุตบอลในแบบที่ควรจะเป็น แสงแดดส่องถึงและสแตมฟอร์ด บริดจ์เต็มไปด้วยแฟนบอลที่เปี่ยมด้วยความหวังในวันเปิดฤดูกาลใหม่ โดนก่อนเกมมีการยืนไว้อาลัยให้กับผู้เสียชีวิจจากไวรัสโควิด-19ด้วย
แชมป์ยุโรปมาในระบบการเล่น 3-4-2-1 ตามถนัด โดยจังหวะแรกเป็นการทักทายของ เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า ที่เติมมายิงในเขตโทษด้านขวาแต่บอลข้ามคานออกไปไกล
เช่นเดียวกับเกมทางซ้ายที่ มาร์กอส อลอนโซ่ และ คริสเตียน พูลิซิช ประสานงานในเกมรุกเล่นงานเกมรับทีมเยือนได้ดีและได้ลุ้นจากแบ็กซ้ายชาวสเปนที่เปิดให้แข้งทีมชาติอเมริกาโหม่งบอลไปตรง บีเซนเต้ ไกวต้า
มหัศจรรย์ อลอนโซ่
ในขณะที่ บีเซนเต้ ไกวต้า เซฟลูกฟรีคิกของ เมสัน เมาท์ ได้อย่างไม่ยากเย็น แต่พอเจอกับจังหวะของ มาร์กอส อลอนโซ่ กลับยืนแข้งไม่ขยับเลย
ฟรีคิกหน้าเขตโทษเยื้องมาทางขวา แบ็กชาวสเปนปั่นบอลข้ามกำแพงบอลพุ่งเสียบสามเหลี่ยมอย่างสวยงาม สามารถส่งเข้าประกวดประตูสุดสวยประจำสัปดาห์หรือในฤดูกาลได้เลย
สิ่งที่น่าประทับใจที่สุดคือเสียงเชียร์ของแฟนบอลที่เฮกันสนั่นสแตมฟอร์ด บริดจ์เป็นครั้งแรกในรอบ 17 เดือน เป็นอะไรที่สวยงามจริง
เดินหน้าลุยต่อ
ในขณะที่ คริสตัล พาเลซ ทำได้แค่ตัดฟาวล์เพื่อหยุดเกมรุกของทาง เชลซี เกมรุกของพวกเขาก็ไม่ได้มีความคืบหน้าหรือดูเป็นอะไรตรายอะไรต่อคู่แข่งเลย
กระทั่ง 5 นาทีสุดท้ายของครึ่งแรกสกอร์ขยับเป็น 2-0 จังหวะที่ เมสัน เมาท์ หลุดไปสุดเส้นด้านขวาก่อนเปิดเข้ากลาง บีเซนเต้ ไกวต้า ล้มตัวปัดแต่ก็ต้องมีกั๊กบ้างเพราะ ติโม แวร์เนอร์ พุ่งเข้ามาบอลไม่ไปไหน คริสเตียน พูลิซิช ที่อยู่ตรงนั้นแล้วได้ยิงตุงตาข่าย
สกอร์น่าจะขยับเพิ่มในนาทีสุดท้ายที่ มาร์กอส อลอนโซ่ ตวัดบอลจากทางซ้ายเข้าเขตโทษ ติโม แวร์เนอร์ ยิงที่เสาแรกบอลไปเข้าข้างตาข่าย
รักษาโมเมนตัม
เปิดฉากครึ่งหลัง โธมัส ทูเคิ่ล ยังให้ทีมเดินหน้าลุยทันทีไม่ได้เน้นการครองบอลอะไรและน่าได้ประตูอีกครั้งนาทีที่ 47 จังหวะที่ จอร์จินโญ่ เปิดบอลลึกไปเขตโทษด้านซ้าย มาร์กอส อลอนโซ่ วิ่งมาหวดด้วยซ้าน บีเซนเต้ ไกวต้า ต้องออกแรงปัดเอาไว้
นาทีเดียวให้หลัง มาร์กอส อลอนโซ่ เจ้าเก่าได้โอกาสยิงฟรีคิกอีกครั้งซึ่งคราวนี้ไกลกว่าเดิมนิดหน่อย แต่ปั่นบอลข้ามคานออกไป
คริสตัล พาเลซ พยายามบุกโดยอาศัยความเร็วของตัวรุกทั้ง วิลฟรีด ซาฮา และ จอร์แดน อายิว ที่ทำให้ ซาฮา ได้หลุดไปยิงในเขตโทษด้านขวาแต่ อันโตนิโอ รือดิเกอร์ ตามไปบล็อคไว้ได้เยี่ยม
ชาโลบาห์!!!
หลังจากที่ลงสนามในเกมยูฟ่า ซูเปอร์ คัพให้แฟนบอลสงสัยว่า เทรเวอร์ ชาโลบาห์ คือใคร ก็ถึงเวลาทำให้แฟนบอลทั่วโลกได้รู้จักกันสักที
กองหลังวัย 22 ปีที่อยู่กับสโมสรมาตั้งแต่ 8 ขวบจนขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่เมื่อปี 2018 แต่ที่ผ่านมาโดยปล่อยให้ทีมอื่นยืมตัวมาตลอด 3 ปีที่ผ่านมากับ อิปสวิช, ฮัดเดอร์สฟิลด์ และ ลอริย็องต์
ได้บอลในแดนคู่แข่ง พาบอลมาเองถึงหน้าเขตโทษแล้วสับไกในระยะเกือบ 30 หลาบอลพุ่งเสียบเสาอย่างสวยงามและแน่นอนว่าเพื่อนร่วมทีมต่างเข้ามาร่วมแสดงความยินดีด้วยความสุข แถมเจ้าตัวก็หลั่งน้ำตาที่ทำสำเร็จด้วย
ช่วงที่เหลือ เชลซี ก็ปล่อยให้ คริสตัล พาเลซ ได้ลุ้นบ้างแต่ก็ไม่ได้สร้างความอันตรายอะไรเพราะทีมก็มีเกมรับที่เหนียวแน่นอยู่แล้ว จบเกมคว้าชัย 3-0 ประเดิมเกมแรกด้วยสามคะแนให้แฟนๆที่เข้ามาชมเกมได้ยิ้มกลับบ้านกัน
เกมถัดไป
เชลซี จะทำศึก "ลอนดอน ดาร์บี้" อีกครั้ง คราวนี้ไปเยือน อาร์เซน่อล หนึ่งในคู่ปรับที่เกมแรกไปโดนน้องใหม่อย่าง เบรนท์ฟอร์ด กดมา 2-0
เรียกได้ว่า "ปืนใหญ่" กำลังอยู่ในสถานการณ์ลำบากและหวังกู้หน้ากลับมา แม้ตามหน้าเสื่อแล้วทีมจะเหนือกว่าแต่ประมาทไม่ได้เหมือนกัน
