ไม่มีนักเตะคนไหน ใหญ่กว่าสโมสร
โดยต้นสังกัดเดิมคือ “เดอะ แรบบิท” บีจี ปทุม ยูไนเต็ด เปิดไฟเขียวให้เจ้าตัวย้ายทีมได้ หลังการเจรจาต่อสัญญาฉบับใหม่ไม่ลงตัว
ซึ่ง ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด จะยืมตัว ฐิติพันธ์ จาก บีจีพียู ไปจนจบสัญญาถึงสิ้นเดือนธันวาคม 2021 หลังจากนั้นเจ้าตัวจะจรดปากกาเซ็นสัญญาใหม่ต่อเนื่องกับทีม “แข้งเทพ” ไปอีก 3 ปีครึ่ง จนถึงสิ้นสุดฤดูกาล 2024/2025
ส่วน บีจีพียู ก็ต้องเดินหน้าต่อไป ตามวิถีลูกหนังของตัวเอง
แน่นอนว่าการจากไปของดาวเตะวัย 27 กะรัต ย่อมส่งผลกระทบต่อ “บีจีพียู” อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะบุตรชายของ “ไพโรจน์ พ่วงจันทร์” อดีตกองหลังตำนานทีมชาติไทย คือคีย์แมนสำคัญพาทีม บีจีพียู เถลิงแชมป์ลีกเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ เมื่อฤดูกาลที่แล้ว
แต่ถ้าใครจำได้นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ “บีจีพียู” ต้องเสียนักเตะชื่อดังที่โบกมืออำลาทีมกลางคัน
ย้อนไปเมื่อปี 2019 บีจีพียู ได้เริ่มต้นใหม่ในศึกเอ็ม-150 แชมเปี้ยนส์ชิพ (T2) แต่พวกเขายังกล้าปล่อย “ฐิติพันธ์” ไปล่าฝันในเจลีก กับ “โออิตะ ทรินิตะ” เพราะมองว่าเป็นโอกาสพัฒนาฝีเท้าของนักเตะ เพื่อประโยชน์ของทีมชาติไทยด้วย
หรือจะเป็นการปล่อย “ธนบูรณ์ เกษารัตน์” กองกลางเชิงสูงไปให้กับ “สิงห์เจ้าท่า” การท่าเรือ เอฟซี ด้วยมูลค่าที่สูง ในเวลาไล่เลี่ยกันก็เคยทำมาแล้ว
ทว่า “บีจีพียู” ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงเรื่อง “ทีมเวิร์ค” มาก่อนความสามารถของนักเตะเสมอ เมื่อผงาดคว้าแชมป์ลีกพระรองและเลื่อนชั้นขึ้นมาสูดอากาศบนลีกสุงสุดสำเร็จ โดยใช้เวลาเพียงแค่ปีเดียวเท่านั้น
ก่อนที่จะสานต่อผลงานอันยอดเยี่ยม ด้วยการเถลิงแชมป์ลีกสูงสุดเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา พร้อมสถิติสวยหรูอีกมากมาย
โดยในฐานะนักธุรกิจหนุ่มไฟแรง “บิ๊กปิ๊บ” ปวิณ ภิรมย์ภักดี ประธานสโมสรหนุ่มไฟแรง ในฐานะผู้นำองค์กรได้คิด คาดการณ์ทุกการเคลื่อนไหวของสโมสรอย่างรอบคอบแล้ว ก่อนที่จะตัดสินใจทำอะไรสักอย่าง โดยยึดหลัก “ผลประโยชน์ของสโมสรและแฟนบอลต้องมาก่อน”
หากนักเตะงอแงไม่ต่อสัญญากับทีม ในฐานะเจ้าของทีมจึงไม่รีรอที่ตัดสินใจเด็ดขาดยุติการเจรจา เพราะเชื่อว่าเงื่อนไขและค่าเหนื่อยที่มอบให้นักเตะทุกบาททุกสตางค์ ล้วนสมเหตุสมผลกับสถานการณ์ที่ไม่ปกติเช่นนี้
เมื่อนักเตะไม่โอเคกับสิ่งที่มอบให้ สโมสรก็พร้อมปล่อยนักเตะออกจากทีม เพื่อเปิดทางให้นักเตะคนอื่นได้พิสูจน์ตัวเองว่ามีดีพอที่จะสวมเครื่องแบบสีน้ำเงิน
เพราะการทำทีมฟุตบอล เขาไม่ยอมให้นักเตะมีอำนาจการต่อรองเหนือกว่าสโมสรอย่างแน่นอน
นี่เป็นการแสดงจุดยืนที่ชัดเจนของ “บิ๊กปิ๊บ” ปวิณ ภิรมย์ภักดี ประธานสโมสร “บีจีพียู” ที่ให้ความสำคัญกับสโมสรเป็นอันดับแรก เพราะไม่ว่านักเตะจะย้ายมา พวกเขาก็ต้องมีวันที่ต้องจากทีมตามวิถีฟุตบอลเสมอ
แต่สิ่งสำคัญในฐานะประธานสโมสร จำเป็นต้องรักษาสถานการณ์ภาพให้สโมสรเดินหน้าต่อไป ระหว่างทางอาจจะสมหวัง หรือผิดหวังบ้าง
สุดท้ายมันก็คือรสชาติหนึ่งของเกมที่เรียกว่า “ฟุตบอล” ที่คนทำทีมต้องเรียนรู้และประคองทีมให้อยู่รอดในโลกธุรกิจลูกหนังอันโหดร้ายต่อไป