ความรักของ สเปอร์ส กับ แฮร์รี่ เคน ฮีโร่โฮมโกรว์นของพวกเขากำลังลดลงเรื่อยๆ และการจบกันแบบไม่สวยในซัมเมอร์นี้ยังคงมีความเป็นไปได้ แม้ว่ากัปตันทีมชาติอังกฤษจะกลับมาซ้อมที่ลอนดอนเหนือแล้วก็ตาม

    เคน จะยังไม่มีชื่อในทีมสำหรับเกมคัดเลือกยูโรปา คอนเฟอเรนซ์ ลีก กับ ปาซอส แฟร์ไรร่า และอาจรวมไปถึงเกมสุดสัปดาห์กับ วูล์ฟส์ ด้วย

    อย่างไรก็ตาม หากเกิดการเซ็นใบหย่าระหว่าง เคน กับ ไก่เดือยทอง ขึ้นมาจริงๆ สโมสรก็หาสตาร์ที่จะก้าวมาวัดรอยเท้าแทนดาวยิงวัย 28 ปี รายนี้ได้แล้ว

    ซน ฮึง-มิน อาจไม่ได้มาจากอะคาเดมี่ของสโมสร และนั่งชื่นชมเกมบนอัฒจันทร์ที่ไวท์ ฮาร์ท เลน ใมาตั้งแต่เด็กๆ ทว่าความจงรักภักดีที่เขาแสดงออกมาขณะที่ทีมกำลังอยู่ในจุดต่ำสุดในรอบหลายปีช่างมีความหมายอย่างมากมายสำหรับแฟนบอล

    หลังฤดูกาล 2020-21 ที่ สเปอร์ส จบเพียงอันดับ 7 ในตาราง และการค้นหาผู้จัดการทีมคนใหม่อันยาวนานก็จบลงที่การแต่งตั้ง นูโน่ เอสปิริโต้ ซานโต เข้ามาเป็นกุนซือ

    เป็นที่เข้าใจได้ง่ายๆ ว่า เคน รู้สึกว่าตัวเองดีกว่าจะอยู่ที่นี่ต่อไปแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อ แมนฯ ซิตี้ เป็นจุดหมายปลายทางที่หวังไว้

    แต่ในทางกลับกัน ช่วงเวลาที่ถ้วยแชมป์ และการไปเล่นแชมเปี้ยนส์ลีก ดูห่างไกลจาก สเปอร์ส มากขึ้นเรื่อยๆ และนักเตะที่ดีที่สุดของสโมสรต้องการย้ายออกไป ซน กลับเลือกที่จะต่อสัญญาใหม่ 4 ปี

    ความมุ่งมั่นนั้นเป็นความโดดเด่นที่แสนพิเศษ ขณะที่ปัญหาของ เคน ที่ต้องการหลุดพ้นสัญญา 6 ปีของเขา เป็นการเตือนว่าหากคุณทำข้อตกลงกับ แดเนียล เลวี่ คุณก็ควรเตรียมพร้อมสำหรับบางอย่างที่จะเกิดขึ้นหากคุณอยากกลับลำ

    อันที่จริง ซน ก็ได้รับความนิยมจากแฟน ไก่เดือยทอง อยู่แล้ว และยังอยู่ในหน้าประวัติศาสตร์ของสโมสร หลังทำประตูแรกในพรีเมียร์ลีก ที่ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ สเตเดี้ยม แถมยังมีบทบาทสำคัญในการพาทีมไปถึงรอบชิงชนะเลิศแชมเปี้ยนส์ลีก เมื่อปี 2019 ด้วย

    ทว่าตอนนี้สถานะ และความสำคัญของเขาเพิ่มขึ้นอย่างใหญ่หลวง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อรัศมีของ เคน กำลังเริ่มจางหายไป

    เคน ขโมยพาดหัวข่าวใหญ่บนหน้าสื่อเมื่อฤดูกาลที่แล้วด้วยการเป็นนักเตะคนที่ 3 เท่านั้นที่ทำประตู และแอสซิสต์ได้มากที่สุดในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลเดียวกัน

    แต่ในขณะเดียวกัน ซน ก็มีฤดูกาลที่ยอดเยี่ยมที่สุดในอาชีพค้าแข้งของเขา โดยทำไป 22 ประตูในทุกรายการ ขณะที่ก็มี 10 แอสซิสต์ในพรีเมียร์ลีก ด้วย

    ด้วยความเร็ว และสปีดอันร้อนแรง ความสามารถของ ซน ในการยิงได้ทั้งสองเท้า รวมถึงไม้ตายในการเผชิญหน้ากับกองหลังแบบ 1 ต่อ 1 ทั้งใน และนอกกรอบเขตโทษ ตามที่ นาธาน อาเก้ เจอมาแล้ว เมื่อวันอาทิตย์ เขาได้กลายเป็นหมัดเด็ดสำหรับการจบสกอร์ไปแล้ว

    แม้ช่วงเวลาที่ผ่านมาส่วนใหญ่ ซน จะถูก สเปอร์ส ใช้งานตรงปีกซ้าย แต่ด้วยจุดเด่นเหล่านั้นทำให้เขาสามารถเป็นกองหน้าตัวเป้าที่สมบูรณ์แบบได้

    เขาแสดงให้เห็นตลอดช่วงปรีซีซั่น โดยทำไป 3 ประตู และอีก 4 แอสซิสต์ ก่อนที่จะแสดงให้เห็นอีกครั้งกับชัยชนะเหนือ แมนฯ ซิตี้ เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

    แต่เอาจริงๆ ด้วยพลังงานของเขาในตำแหน่งนั้นก็ถือว่าไม่ธรรมดาอยู่แล้ว เพราะจาก 55 นัดที่เคยเป็นตัวจริงในตำแหน่งกองหน้าตัวเป้าให้ สเปอร์ส เขาทำไปรวม 49 ประตู จากทั้งการยิงเองหรือแอสซิสต์

    มันไม่ได้หมายความว่า สเปอร์ส จะดีกว่าหากไม่มี เคน นะ เพราะการเล่นร่วมกันของทั้งสองได้พัฒนาขึ้นอย่างมาก จนถึงระดับที่ซีซั่นก่อนทั้งคู่ได้สร้างสถิติมีส่วนร่วมกับประตูมากที่สุดในพรีเมียร์ลีกต่อฤดูกาล โดยช่วยแอสซิสต์ให้กันรวม 14 ครั้ง

    ในขณะเดียวกัน ถ้า เคน ย้ายออกไป และ ซน ก้าวมายืนแทนตำแหน่งของเขา มันก็จะเป็นความท้าทายสำหรับหลายคนในทีมที่จะก้าวมาแทนสตาร์เกาหลีใต้ในตำแหน่งปีกซ้าย

    สตีเว่น เบิร์กไวน์ ยังไม่เคยแสดงความสม่ำเสมอออกมา ส่วนหนึ่งก็อาจจะเพราะเขายังไม่ได้มีตำแหน่งลงตัวแบบจริงจัง ในขณะที่ความคาดหวังจาก ไบรอัน คิล วัย 20 ปี ว่าจะให้เล่นได้ระดับเดียวกับ ซน ก็คงไม่แฟร์เท่าไหร่เนื่องด้วยเพิ่งย้ายมาในลีกใหม่ วัฒนธรรมใหม่ๆ

    หันมามองที่ แมนฯ ซิตี้ การที่พวกเขาแพ้ เลสเตอร์ ในคอมมิวนิตี้ ชิลด์ ต่อด้วย สเปอร์ส แบบยิงไม่ได้เลย ดังนั้นข้อสรุปที่ชัดเจนก็คือพวกเขาต้องการกองหน้าตัวเป้า ด้วยเหตุนี้ เรือใบ จึงอาจกลับมาพิจารณาเพิ่มข้อเสนอเพื่อคว้าตัว เคน ให้ได้

    ส่วน เลวี่ และ ไก่เดือยทอง ก็ได้เห็นแล้วว่าพวกเขาสามารถเอาชนะทีมแชมป์เก่าได้โดยที่มี ซน เป็นกองหน้าไม่ต้องพึ่งพา เคน ดังนั้นพวกเขาจึงพร้อมที่จะปล่อยดาวยิงทีมชาติอังกฤษออกไปแน่หากข้อเสนอมันโดนใจ

    แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น อนาคตที่ต้องไปต่อโดยไม่มี เคน ของ สเปอร์ส มันก็ไม่ได้แย่อะไรเลยนี่หว่า

    พาสต้า