:::     :::

'ซาบิตเซอร์'ส่วนเติมเต็มทีมเสือใต้

วันอังคารที่ 31 สิงหาคม 2564 คอลัมน์ เล่าเก่าก้าวใหม่ โดย Latino
1,720
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
มาร์เซล ซาบิตเซอร์ มิดฟิลด์ทีมชาติออสเตรียเปิดตัวฐานะสมาชิกใหม่ของ บาเยิร์น มิวนิค หลังย้ายมาจาก แอร์เบ ไลป์ซิก ด้วยค่าตัว 16 ล้านยูโรและเซ็นสัญญา 4 ปีกับทีมยักษ์ใหญ่แคว้นบาวาเรีย

บาเยิร์น มิวนิค มองหาการเสริมความแข็งแกร่งในแดนกลางของพวกเขาด้วยการเซ็นสัญญากับ มาร์เซล ซาบิตเซอร์ มิดฟิลด์ทีมชาติออสเตรียมาจาก แอร์เบ ไลป์ซิก เพื่อร่วมงานกับ ยูเลียน นาเกลส์มันน์ อีกครั้งที่ 'อัลลีอันซ์ อาเรน่า' 

แอร์เบ ไลป์ซิก ไม่มีทางเลือกนอกจากการเรียกร้องผลตอบแทนมากสุดจากการปล่อย ซาบิตเซอร์ ออกจาก 'เร้ด บูลล์ อาเรน่า' เนื่องจากมิดฟิลด์วัย 27 ปีเหลือสัญญาเพียง 10 เดือน ก่อนทีมกระทิงแดงเมืองเบียร์จะตอบข้อเสนอราว 16 ล้านยูโรจาก บาเยิร์น มิวนิค 

ซาบิตเซอร์ ซึ่งเคยร่วมงานกับ นาเกลส์มันน์ หนึ่งปีในไลป์ซิก เซ็นสัญญากับ บาเยิร์น มิวนิค จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2025 มิดฟิลด์วัย 27 ปีจะสวมเสื้อหมายเลข 18 ของ เลออน โกเร็ตซ์ก้า ที่เปลี่ยนไปใช้เบอร์ 8 ต่อจาก ฆาเบียร์ มาร์ตีเนซ 


'ผมมีความสุขมากที่ได้เล่นให้ บาเยิร์น' 

'ตอนเด็กๆ เสื้อแข่งของ บาเยิร์น เป็นความภูมิใจของผม ผมได้เสื้อตัวใหม่ในช่วงคริสต์มาสทุกปี ผมจะทุ่มเทเต็มที่เพื่อสโมสรนี้ ผมต้องการคว้าชัยชนะให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และแน่นอนที่สุดคือการคว้าแชมป์จำนวนมาก' ซาบิตเซอร์ กล่าวระหว่างการเปิดตัวฐานะสมาชิกใหม่ของทีมยักษ์ใหญ่แคว้นบาวาเรีย 

แน่นอนว่าหลายคนสนใจว่ามิดฟิลด์วัย 27 ปีจะนำอะไรมาสู่เกมของเจ้าของแชมป์ลีกเมืองเบียร์ 9 สมัยล่าสุดบ้าง 

การมาถึงของ ซาบิตเซอร์ ช่วยเพิ่มคุณภาพเชิงลึกในแดนกลางของ บาเยิร์น มิวนิค สำหรับคู่หูตัวเลือกแรกในปัจจุบันคือ โยชัว คิมมิค กับ เลออน โกเร็ตซ์ก้า ที่สร้างความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันทั้งในและนอกสนาม 

แต่ถ้าคนใดคนหนึ่งพลาดโอกาสลงสนามไม่ว่าจะเป็นการบาดเจ็บหรือติดโทษแบนก็ตาม นาเกลส์มันน์ จะมีตัวเลือกจำกัด เนื่องจากตัวเลือกลำดับถัดไปคือ โกร็องแต็ง โตลิสโซ่ แต่มิดฟิลด์ชาวฝรั่งเศสมีปัญหาบาดเจ็บบ่อยครั้งที่ขัดขวางพัฒนาการของเขา นับตั้งแต่ย้ายมาจาก ลียง ในช่วงซัมเมอร์ปี 2017 โดยมี มาร์ก โรก้า มิดฟิลด์ชาวสเปน กับ มิชาแอล กุยซ็อง เป็นอีกสองทางเลือก 


ซาบิตเซอร์ จะกลายเป็นตัวเลือกก่อน โตลิสโซ่ หรือ แข่งขันเพื่อแย่งตำแหน่งตัวจริง หรือแม้แต่การลงพร้อม คิมมิค และ โกเร็ตซ์ก้า หาก นาเกลส์มันน์ ปรับแท็คติกมาเล่นระบบ 3 มิดฟิลด์ 

ระบบดังกล่าว คิมมิค อาจถอยลงต่ำ ขณะที่ โกเร็ตซ์ก้า อาจได้รับบทบาทเป็นตัวฟรีในสไตล์มิดฟิลด์ 'บ็อกซ์-ทู-บ็อกซ์'และจะมีส่วนร่วมในการทำประตูมากขึ้น ส่วน ซาบิตเซอร์ จะทำหน้าที่สอดประสานระหว่างทั้งสองคน

ในแง่ของเกมรุก ซาบิตเซอร์ จะมีส่วนช่วยในการทำประตูของทีมเสือใต้มากขึ้น หากดูจากค่าเฉลี่ยของมิดฟิลด์วัย 27 ปีที่จะทำทุกหนึ่งประตูจากการลงเล่น 186 นาทีตลอดอาชีพค้าแข้งของเขา เหนือกว่า คิมมิค (187 นาที) และ โกเร็ตซ์ก้า (196 นาที) 

สำหรับค่าเฉลี่ยของ คิมมิค ผู้เล่นตำแหน่งหมายเลข 6 ของ บาเยิร์น มิวนิค จะสร้างโอกาสในการทำประตู 415 ครั้ง ขณะที่ ซาบิตเซอร์ สร้างสรรค์โอกส 229 ครั้ง มากกว่า โกเร็ตซ์ก้า ที่สร้างโอกาส 214 ครั้ง แต่ โกเร็ตซ์ก้า ทำ 33 ประตูบนเวทีบุนเดสลีกา มากกว่า ซาบิตเซอร์ กับ คิมมิค ที่ทำ 32 กับ 17 ประตูตามลำดับ

คิมมิค เป็นหนึ่งในนักเตะอันดับต้นๆของลีกที่จ่ายบอลเฉลี่ยต่อเกมมากกว่า 99 ครั้งในการเล่นบุนเดสลีกา ขณะที่ โกเร็ตซ์ก้า กับ ซาบิตเซอร์ ซึ่งเล่นในบทบาทมิดฟิลด์ 'บ็อกซ์-ทู-บ็อกซ์' จ่ายบอลเฉลี่ย 61 กับ 62 ครั้ง ตามลำดับ 

ซาบิตเซอร์ แย่งบอลกับคู่แข่งเฉลี่ยเกมละ 18 ครั้ง (ชนะ 49 เปอร์เซ็นต์) ขณะที่ คิมมิค ดวลกับคู่แข่ง 17 ครั้งต่อเกม (ชนะ 54 เปอร์เซ็นต์) ส่วน โกเร็ตซ์ก้า ปะทะคู่แข่งเฉลี่ย 25 ครั้งต่อเกม (ชนะ 49 เปอร์เซ็นต์)


และในแง่ของความคล่องตัวในแดนกลางของสนามทั้ง 3 คนทำผลงานใกล้เคียงกัน ไล่จาก ซาบิตเซอร์ วิ่งเฉลี่ย 7.21 ไมล์, สปรินต์ 24.2 ครั้งต่อ 90 นาที และ สปีดสูงสุด 21.44 ไมล์ต่อชั่วโมง ด้าน คิมมิค วิงเฉลี่ย 7.58 ไมล์, สปรินต์ 21.2 ครั้งต่อเกมและ สปีดสูงสุด 20.57 ไมล์ต่อชั่วโมง ส่วน โกเร็ตซ์ก้า วิ่งเฉลี่ย 7.15 ไมล์, สปรินต์ 23.7 ไมล์ต่อเกม และ สปีดสูงสุด 21.38 ไมล์ต่อชั่วโมง

การมาของมิดฟิลด์ทีมชาติออสเตรียไม่เพียงแต่เพิ่มตัวเลือกในแดนกลางเท่านั้น แต่ยังเพิ่มทางเลือกตำแหน่งปีกด้วยเช่นกัน แม้ว่าทีมเสือใต้มักจะมองหาผู้เล่นริมเส้นสไตล์ อาร์เยน ร็อบเบน หรือ ฟร้องค์ ริเบรี่ ก็ตาม 

ขุมกำลังทีมเสือใต้ชุดปัจจุบันมีขุมกำลังริมเส้นอย่าง แซร์ช นาบรี, ลีรอย ซาเน่ และ คิงส์เล่ย์ โกมัน สองคนแรกยังสามารถปรับมาเล่นตำแหน่งหมายเลข 10 หรือแม้แต่กองหน้าตัวเป้าได้เช่นกัน

สำหรับ ซาบิตเซอร์ เคยเล่นตำแหน่งปีกขวาใน แอร์เบ ไลป์ซิก ยุค นาเกลส์มันน์ ซึ่งเขาทำในสิ่งที่หลายคนเรียกว่า 'Bastian Schweinsteiger move' จากมิดฟิลด์ฝั่งขวาไดม่อนด์ไปเล่นมิดฟิลด์ตัวกลางก่อนก้าวขึ้นมาเป็นผู้เล่นระดับท็อป 

การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในช่วงเดือนมกราคมปี 2020 หลัง ดีเอโก้ เดมเม่ ย้ายไปค้าแข้งกับ นาโปลี นั่นทำให้โค้ชตัดสินใจว่า ซาบิตเซอร์ สามารถอุดช่องว่างดังกล่าวได้ดีพร้อมสวมปลอกแขนกัปตันทีมด้วยจนกว่า วิลลี่ ออร์บัน ผู้นำทีมตัวจริงจะฟื้นตัวจากการบาดเจ็บ


แต่ในฐานะปีกที่สร้างชื่อตอนค้าแข้งกับ ซัลซ์บวร์ก ทำให้เขายิง 19 ประตูและทำ 16 แอสซิสต์จากการลงเล่น 33 เกมระหว่างการเล่นกับทีมดังออสเตรียด้วยสัญญายืมตัวในซีซั่น 2014-2015

ดังนั้นการเซ็นสัญญากับ ซาบิตเซอร์ จึงครอบคลุมการใช้งานรอบด้าน แต่ นาเกลส์มันน์ อาจไม่จำเป็นต้องใช้มิดฟิลด์วัย 27 ปีลงเล่นตำแหน่งปีก เนื่องจากกุนซือวัย 34 ปีวางแผนผลักดัน จามาล มูเซียล่า แข้งดาวรุ่งลงเล่นตำแหน่งดังกล่าว

บาเยิร์น มิวนิค เป็นทีมที่มีอาวุธเข้าทำหลากหลายหากแนวรับคู่แข่งสามารถล็อค โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ หัวหอกชาวโปลได้ก็ตาม แต่ทีมเสือใต้ยังมีตัวอันตรายที่พร้อมสอดแทรกขึ้นมาทำประตูอย่าง โธมัส มุลเลอร์, แซร์ช นาบรี, ลีรอย ซาเน่, คิงส์เล่ย์ โกมัน, เลออน โกเร็ตซ์ก้า, อัลฟอนโซ่ เดวิส หรือแม้แต่ โยชัว คิมมิค ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่ทีมเสือใต้จะกระทุ้งรวมกัน 199 ประตูตลอดช่วง 2 ฤดูกาลหลังสุด 

แน่นอนว่าทีมยักษ์ใหญ่แคว้นบาวาเรียจะอันตรายมากยิ่งขึ้นกับการมาของ ซาบิตเซอร์ 


มิดฟิลด์ทีมชาติออสเตรียทำ 8 ประตูบนเวทีบุนเดสลีกากับ แอร์เบ ไลป์ซิก ในซีซั่นที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นผลงานที่ดีมากสำหรับผู้เล่นมิดฟิลด์ตัวกลาง โดยมีเฉพาะ เลวานดอฟสกี้ (41), มุลเลอร์ (11) และ นาบรี (10) สามเพื่อนร่วมทีมใหม่ที่ทำประตูมากกว่าเขาเท่านั้น

8 ประตูของ ซาบิตเซอร์ ทำให้เขากลายเป็นดาวซัลโวสูงสุดของ แอร์เบ ไลป์ซิก ซีซั่นก่อน นอกจากนี้มิดฟิลด์วัย 27 ปียังกดชนเสา/คานอีก 3 ครั้ง ด้วยความสามารถในการเล่นเกมรุกของ บาเยิร์น มิวนิค จึงมีโอกาสที่เขาจะทำประตูมากขึ้นกว่าเดิม แม้ว่าเขาไม่จำเป็นต้องเข้าใกล้ประตูฝั่งตรงข้ามเพื่อทำแบบนั้นก็ตาม

อีกหนึ่งทีเด็ดของ ซาบิตเซอร์ คือการยิงลูกฟรีคิก โดย 3 จาก 7 ประตูที่มาจากการยิงฟรีคิกเป็นผลงานของมิดฟิลด์ทีมชาติออสเตรีย โดยไม่มีผู้เล่นคนใดในบุนเดสลีกาที่ทำประตูจากนอกกรอบเขตโทษมากกว่าเขานับตั้งแต่ก้าวขึ้นมาเล่นบุนเดสลีกากับ แอร์เบ ไลป์ซิก ในปี 2016

12 จาก 32 ประตูบนเวทีบุนเดสลีกาของ ซาบิตเซอร์ มาจากการยิงไกลกว่าระยะ 18 หลา นับเฉพาะฤดูกาลที่แล้วมีเฉพาะ มักซิมิเลียน อาร์โนลด์ มิดฟิลด์ของ โวล์ฟสบวร์ก ที่ยิงประตูจากนอกเขตโทษมากกว่าเขา


การเซ็นสัญญากับ ซาบิตเซอร์ ไม่มีใครโต้เถึยงว่าเป็นความประสงค์ของ นาเกลส์มันน์ หลังยืนยันกับ ฮาซาน ซาลิฮามิดชิช ว่ามิดฟิลด์ทีมชาติออสเตรียเป็นผู้เล่นที่ต้องการตามแนวทางการเล่นของเขา

นาเกลส์มันน์ เป็นคนโยก ซาบิตเซอร์ จากปีกมาเล่นมิดฟิลด์ตัวกลางพร้อมแต่งตั้งเป็นกัปตันทีม แอร์เบ ไลป์ซิก ในฤดูกาลที่ผ่านมา ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเทรนเนอร์วัย 34 ปีมีแผนสำหรับมิดฟิลด์วัย 27 ปี ในทีมเสือใต้โฉมใหม่ หลังร่วมกันนำทีมกระทิงแดงเมืองเบียร์เข้าป้ายรองแชมป์บุนเดสลีกาและ เดเอฟเบ โพคาล

'มาร์เซล เป็นนักฟุตบอลที่ดีมากๆ เขามีความคิดที่ยอดเยี่ยม มีความทะเยอทะยานมาก และมีความรับผิดชอบทั้งในและนอกสนามในฐานะกัปตันทีมแอร์เบ ท้ายที่สุดโค้ชของเรารู้จักเขาเป็นอย่างดีในฐานะนักเตะที่เป็นผู้นำ เรากำลังรอคอยเขา' ซาลิฮามิดชิช กล่าวถึงมิดฟิลด์ทีมชาติออสเตรีย

ส่วน โอลิเวอร์ คาห์น ซีอีโอของ บาเยิร์น มิวนิค กล่าวถึงมิดฟิลด์วัย 27 ปีว่า 'ซาบิตเซอร์ นำทุกอย่างของนักเตะที่ต้องการเล่นให้ เอฟซี บาเยิร์น เขาจะไม่ต้องการช่วงเวลาปรับตัวให้คุ้นชินกับสภาพแวดล้อมนานนักเพราะเขาคุ้นเคยกับปรัชญาของโค้ช นาเกลส์มันน์ ของเราแล้ว'


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด