สำหรับ “บรูโน่ แฟร์นันด์ส” จอมทัพของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดยเขาสามารถสร้างสรรค์ผลงานอย่างน่าประทับใจ ด้วยการยิงไป 4 ประตู จากการลงสนาม 4 เกมแรกของศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ พร้อมกับช่วยทีม “ปีศาจแดง” ยึดตำแหน่งหัวตารางอันดับคะแนนอย่างเหนียวแน่น
อย่างไรก็ตาม กว่าที่บรูโน่ จะก้าวมาเป็นนักเตะซูเปอร์สตาร์เหมือนในปัจจุบัน เขาต้องผ่านแบบทดสอบสำคัญอย่างมากมาย โดยเฉพาะการออกมาเล่นฟุตบอลนอกบ้านเกิดเป็นครั้งแรกกับโนวาร่า ทีมในระดับกัลโช่ เซเรีย บี อิตาลี ที่ต้องบอกว่า ท้าทายความสามารถ และจิตใจเสียเหลือเกิน
ช่วงนี้ เราลองย้อนความทรงจำ เกี่ยวกับดาวเตะหมายเลข 18 รายนี้กันหน่อย เกี่ยวกับชีวิตเริ่มเล่นฟุตบอลอาชีพที่ทีมโนวาร่า ผ่านมุมมองของบุคคลที่สัมผัสเขาอย่างใกล้ชิด ที่จะมาเผยมุมมองที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก โดยมันอาจเป็นประโยชน์ต่อแข้งที่กำลังท้อแท้ในเส้นทางลูกหนังไม่มากก็น้อย
-กระดาษแห่งความพยายาม- “คริสเตียโน่ เจียเร็ตต้า” ออกมาย้อนความทรงจำ สมัยที่เขารับหน้าที่เป็นผู้อำนวยการด้านกีฬาของโนวาร่า สโมสรเล็กๆในลีกอิตาลี ย้อนไปปี 2012 เขาได้พบกับดาวรุ่งคนหนึ่งนามว่า “บรูโน่ แฟร์นันด์ส” ที่เต็มไปด้วยพรสวรรค์ และพรแสวง ถือเป็นการค้นพบที่สร้างความภาคภูมิใจให้เขามาจนถึงทุกวันนี้
เจียเร็ตต้า เริ่มกล่าวถึงบรูโน่ เด็กที่เขาพบตั้งแต่เป็นเยาวชนของเบาวิสต้า ในลีกโปรตุเกส “ผมทำงานในหน้าที่ของผู้อำนวยการด้านกีฬา 15 ปี ผมไม่เคยสัมผัสนักเตะคนไหนที่ฉลาดกว่านี้ หรือคุณสามารถพูดง่ายๆคือว่า ผมไม่เคยเจอใครที่เหมือนกับเขาเลยจริงๆ”
“ผู้ดูแลผลประโยชน์ของผมบอกว่า อยากให้ผมลองไปดูฟอร์มการเล่นของดาวรุ่งโปรตุกีส คนหนึ่งดู มันจะให้ผลคุ้มค่าอย่างแน่นอน” เจียเร็ตต้า พูดต่อ “ดังนั้น ผมจึงตัดสินใจออกเดินทางไป ก่อนจะพบว่า เด็กคนนี้มีเทคนิคที่ยอดเยี่ยมมาก เขาเก่งในสถานการณ์ที่ต้องดวลกับคู่แข่งแบบตัวต่อตัว ส่วนการตัดสินใจของเขาก็ดีไม่แพ้กัน”
เจียเร็ตต้า บอกอีกว่า “สิ่งเดียวที่ผมไม่เคยลืมคือ โครงสร้างร่างกายของบรูโน่ ย้อนกลับไปเวลานั้น เขาเป็นเด็กที่ผอมบางเอามากๆ แต่เขาก็โชว์สิ่งที่เรียกว่าคาแร็คเตอร์ออกมา มากกว่าผู้เล่นคนอื่นในช่วงวัยเดียวกัน”
“เมื่อเท้าของเขาได้สัมผัสลูกฟุตบอล มันมีตัวตนของเขาอยู่บนนั้นด้วย” ผลสุดท้าย เจียเร็ตต้า นำความคิดเหล่านั้น เดินไปบอกกับประธานสโมสรโนวาร่า โดยมอบคำนิยามว่า นี่คือ “นิว รุย คอสต้า” (ตำนานจอมทัพทีมชาติโปรตุเกส) ส่งผลให้ โนวาร่า ตัดสินใจซื้อตัวมาครอบครอง
เราอาจจะกล่าวได้ว่า บรูโน่ กับการเดินทางออกมาเล่นฟุตบอลต่างแดนเป็นครั้งแรกในชีวิต ไม่เคยเป็นเรื่องง่ายเลย โดยเฉพาะกับการเป็นเด็กวัยเพียงแค่ 17 โดยเจียเร็ตต้า กล่าวว่า บรูโน่ ต้องเจอกับแบบทดสอบครั้งสำคัญ
นอกเหนือจากความคิดถึงบ้านที่ถูกบรรเทา ด้วยการที่คุณพ่อ, คุณแม่ และแฟนสาว เดินทางมาเยี่ยมอย่างเสมอแล้ว สิ่งที่บรูโน่ ต้องเอาตัวรอดด้วยตัวเอง นั่นคือเรื่องของภาษา
ย้อนกลับไปเวลานั้น บรูโน่ สื่อสารภาษาอังกฤษ ขั้นพื้นฐาน เพื่อความเข้าใจขั้นเบื้องต้นกับบุคคลอื่นเท่านั้น แน่นอนว่า ความรู้เรื่องภาษาอิตาเลี่ยน มีค่าเท่ากับศูนย์
แต่นั่นไม่ทำให้บรูโน่ คิดยอมแพ้ เจียเร็ตต้า บอกถึงความประทับใจที่ไม่มีวันลืมเลือน และเป็นเรื่องราวที่หลายคนอาจจะยังไม่เคยรู้ว่า “ผมเดินทางไปเยี่ยมบรูโน่ ที่หอพัก และพบกับกระดาษโน๊ตแบบโพสต์อิท แปะอยู่เต็มไปหมด นี่คือเครื่องมือเตือนความจำ”
“เมื่อเขามองไปที่โพสต์อิทเหล่านั้น เขาจะได้เรียนรู้บรรดาคำศัพท์พื้นฐานได้ เขาแปะโพสต์อิทที่เขียนภาษาอิตาเลี่ยน ที่แปลว่าโต๊ะเอาไว้บนโต๊ะ, แปะภาษาอิตาเลี่ยน ที่แปลว่าเก้าอี้เอาไว้บนเก้าอี้ และแปะภาษาอิตาเลี่ยน ที่แปลว่าตู้เย็นเอาไว้บนตู้เย็น”
“ผมมองว่า มันเป็นการกระทำที่ฉลาดมาก เวลาผ่านไปราว 1 เดือน บรูโน่ ก็สามารถพูดภาษาอิตาเลี่ยน ได้แล้ว ทัศนคติของเขายอดเยี่ยมมาก แม้จะเป็นเด็กอายุ 17 แต่เขากลับมีบุคลิกที่แข็งแกร่ง”
กาลเวลาผ่านไป 9 ปี บรูโน่ ที่เคยแปะกระดาษโพสต์อิทแห่งความพยายามคนนั้น กลายเป็นนักเตะที่เติบโตเต็มวัย พร้อมกับมีสัญลักษณ์ทีมชาติโปรตุเกส และสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แปะอยู่ตรงหน้าอกด้านซ้าย
