แฟนบอลรุ่นเก่าหน่อย ย่อมจะคุ้นหน้าคุ้นตาเป็นอย่างดี ว่ากันว่า นี่คือกองกลางที่เปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์มากสุดคนหนึ่ง เท่าที่วงการฟุตบอลอังกฤษ เคยมีมาเลยทีเดียว 

อย่างที่เราทราบกัน ด้วยอุปนิสัย บวกกับพฤติกรรมนอกสนาม ทำให้แกสคอยน์ เดินทางไปไม่สุดในเส้นทางลูกหนัง ในแบบที่มันควรจะเป็น 

อย่างไรก็ตาม เขาได้ฝากความทรงจำเอาไว้อย่างมากมาย โดยเฉพาะในการแข่งขันฟุตบอลยูโร 96 ที่บ้านเกิดของเขารับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพ

นอกจากจะฝากลูกยิงสุดสวยลูกหนึ่งของฟุตบอลรายการนี้ ดาวเตะผมทองยังฝากท่าดีใจที่ติดอยู่ในความทรงจำเช่นเดียวกัน กับท่าของ “เก้าอี้หมอฟัน” อันลือลั่น 

ช่วงนี้ เราลองไปย้อนความทรงจำหน่อยว่า ท่าดีใจแบบดังกล่าว มีที่มาที่ไปเป็นอย่างไร บอกก่อนเลยว่า มันมาจากสถานการณ์ที่หลายคนอาจจะคาดไม่ถึงเลยทีเดียว 

ย้อนกลับไปฟุตบอลบอลยูโร 96 รอบสุดท้าย ในนัดที่ 2 ของกลุ่มเอ โดยทีมชาติอังกฤษ ลงสนามเจอกับบ้านพี่เมืองน้องอย่างทีมชาติสก็อตแลนด์  โดยผลปรากฏว่า พลพรรค “สิงโตคำราม” เอาชนะไปด้วยสกอร์ 2-0 ท่ามกลางความดีใจของสาวกของ "สิงโตคำราม"

นอกจากชัยชนะอย่างสวยหรูแล้ว หนึ่งไฮไลท์ของเกม ที่หลายคนพูดถึงประเด็นของมันอย่างกว้างขวาง นั่นคือลูกยิงสุดงามของแกสคอยน์ ในช่วงนาทีที่ 79 ที่ว่ากันว่า ติดเป็นหนึ่งลูกยิงสุดสวยตลอดกาลของประวัติศาสตร์ฟุตบอลยูโรได้เลยทีเดียว แน่นอนว่า เมื่อทัวร์นาเมนต์ยูโร เดินทางมาถึงในแต่ละครั้ง ลูกยิงนี้ก็จะถูกขุดขึ้นมาพูดถึงทุกครั้งเช่นเดียวกัน 

จังหวะดังกล่าว "แกสซ่า" ทำการตวัดบอลด้วยเท้าซ้าย ส่งบอลข้ามหัวกองหลังมากประสบการณ์อย่างโคลิน เฮนดรี ก่อนสับไกด้วยขวาแบบไม่ต้องจับ ส่งบอลไปนอนก้นตาข่ายอย่างสวยงาม ว่ากันว่า ลูกยิงดังกล่าว ทำเอาสนามเวมบลีย์ ถึงกับสั่นสะเทือนด้วยอาการดีใจ 

อย่างที่กล่าวไป นั่นคือลูกยิงที่ติดอยู่ในความทรงจำของใครหลายคน แฟนบอลจำนวนมากไม่เคยลืมเลือนลูกยิงดังกล่าว และยังคงถูกพูดถึงมาจนถึงทุกวันนี้ อย่างไรก็ตาม หนึ่งสิ่งที่ผู้คนเลือกที่จะจดจำ นั่นคือท่าดีใจหลังจากนั้นของแกสคอยน์ ที่ถูกขนานนามว่า “เก้าอี้หมอฟัน”

ท่าทางแสดงอาการดีใจดังกล่าว เป็นภาพที่แกสคอยน์ วิ่งไปเส้นด้านหลังประตู พร้อมกับลงไปนอนหงายดีใจกับพื้นสนามหญ้า พร้อมกับโดนเพื่อนร่วมทีมชาติอังกฤษ ซึ่งนำมาโดยเท็ดดี้ เชอร์ริงแฮม ฉีดน้ำจากกระบอกน้ำใส่ปาก แต่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ที่มาที่ไปของมัน 

ซึ่งเรื่องราวต้องย้อนกลับไป ก่อนที่ทัวร์นาเมนต์ยูโร 96 จะเริ่มต้นขึ้น เมื่อพลพรรค “สิงโตคำราม" เดินทางไปเก็บตัวที่ประเทศฮ่องกง บรรดานักเตะอาศัยโอกาสนี้ ไปเยือนไนท์คลับแห่งหนึ่งที่ชื่อว่า "ไชน่า จัมป์" และนั่นคือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมด ที่ต้องบอกว่า โหดมันฮาอย่างถึงที่สุด 

ที่ “ไชน่า จัมป์" นักเตะอังกฤษ ต่างเมากันแบบเต็มคราบ พร้อมกับสนุกกันอย่างสุดเหวี่ยง หลายคนเริ่มควบคุมตัวเอง และสติกันไม่อยู่แล้ว รายงานระบุเพิ่มเติมว่า ข้าวของได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก แน่นอนว่า ความเสียหายเพิ่มขึ้นตามความบ้าระห่ำของนักเตะดินแดนผู้ดี 

งานเมากระหน่ำนี้ นำทัพมาโดยแกสคอยน์ และ เชอร์ริงแฮม ซึ่งพวกเขาเจอกับเก้าอี้ ที่มีลักษณะคล้ายกับที่นั่งของทันตแพทย์ ตั้งอยู่ในร้าน จากนั้น พวกเขาจัดการจับเพื่อนร่วมทีมทีละคนนั่งลงบนนั้น และเทเหล้าเพียวกรอกปากกันอย่างเมามัน ชนิดที่ไม่ใีใครห้ามใครแล้ว

คราวนั้น หนังสือพิมพ์จอมแฉของประเทศอย่าง “เดอะ ซัน“ ถึงกับพาดหัวข่าวตัวโตเลยว่า “น่าอับอาย !!!” พร้อมกับแนบภาพประกอบ ที่ตัวแกสคอยน์ กับเชอร์ริงแฮม กำลังเมาปลิ้น ในสภาพที่เสื้อขาดวิ่นด้วย หากไม่ได้บอกว่านี่คือนักฟุตบอลทีมชาติ หลายคนคงบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า นี่คือกลุ่มขี้เมาที่พบเห็นได้ตามผับบาร์ทั่วไป 

แกสคอยน์ ออกมาเปิดเผย และเฉลยถึงท่าดีใจ ที่มีต้นตอมาจากไนท์ คลับ ในคืนนั้นว่า ”ย้อนกลับไปจังหวะนั้น โคลิน เฮนดรี้ กำลังวิ่งเข้ามา ผมเลยตัดสินใจกระดกบอลข้ามหัวเขา และวอลเลย์เต็มข้อ !!! อารมณ์ตอนนั้นสุดยอดมาก เราต้องฉลองมันด้วยท่าดีใจนั้น" 

นั่นจึงเป็นที่มาว่า แกสคอยน์ ถึงถูกเชอร์ริงแฮม ฉีดน้ำใส่ปากที่สนามเวมบลี่ย์ ในการแข่งขันฟุตบอลยูโร 96 โดยเกิดขึ้นท่ามกลางการจับจ้องของแฟนบอลมากมาย โดยมันมาจากการไล่เทเหล้าใส่ปากกันที่ฮ่องกง จนเป็นข่าวดังไปทั่วโลกนั่นเอง