:::     :::

"มันไม่ใช่การสปรินท์ มันคือมาราธอน" Diogo Dalot

วันเสาร์ที่ 25 กันยายน 2564 คอลัมน์ #BELIEVE โดย ศาลาผี
5,952
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
บทสัมภาษณ์ที่จะทำให้คุณได้รู้ว่า ดิโอโก้ ดาโลต์ เติบโตขึ้นมาอย่างมาก และพร้อมแล้วที่จะเป็นกำลังสำคัญให้กับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดในซีซั่นนี้ รวมถึงเล่าสิ่งที่ได้จากการยืมตัวกับเอซีมิลาน และเปิดเผยมุมมองจาก"คนใน" ที่เห็นสิ่งต่างๆในทีมปีนี้ว่ารู้สึกเช่นไร และทีมนี้ดีพอจะคว้าแชมป์ได้หรือไม่ นี่คือคำตอบจากดาโลต์

ดิโอโก้ ดาโลต์ กองหลังแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด หวังที่จะใช้ประสบการณ์ของตนเองที่ได้รับมาจากการไปยืมตัวยาวทั้งซีซั่นกับเอซีมิลาน ในฤดูกาล 2020/21 ที่ผ่านมา เพื่อช่วยทีมปีศาจแดงลุยศึกในฤดูกาลปัจจุบัน

กองหลังวัย 22 ปีรายนี้ได้ลงเป็นตัวจริงครั้งแรกนับตั้งแต่กลับมาจากเซเรียอา ในเกมเจอเวสต์แฮม ถ้วยคาราบาวคัพ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา

หลังจากที่เป็นสำรองมาสองนัดในเกมเจอกับวูล์ฟ และ ยังบอยส์ ในช่วงต้นฤดูกาล ฟูลแบ็ครายนี้ก็กระตือรือร้นที่จะลงเล่นให้กับปีศาจแดงในช่วงเดือนหน้าที่จะถึงนี้

เขาพูดถึงความมุ่งมั่น และเล่าเรื่องราวเบื้องลึกในตอนที่ใช้เวลาอยู่กับมิลาน ผ่านบทสัมภาษณ์exclusive ที่เพิ่งปล่อยออกมาเมื่อกลางสัปดาห์ให้ได้ชมกันทาง United Review

และนี่คือบทสัมภาษณ์เต็มๆดังกล่าว

เริ่มเลยนะดิโอโก้ คุณรู้สึกยังไงหลังจากเดือนแรกของซีซั่นผ่านไป ที่ฝึกซ้อมอย่างหนักและรอคอยโอกาสลงสนาม?

"ผมรู้สึกดี ดีมากๆ รู้สึกพลังงานมันอัดแน่น ผมตื่นเต้นที่จะได้ลงสนาม และผมพร้อมที่จะช่วยทีมแล้ว นั่นแหละครับคือเหตุผลที่ว่าทำไมผมถึงมาอยู่ตรงนี้ และนั่นคือหน้าที่ของผมที่จะเตรียมตัวให้พร้อมลงสนาม ผมสู้เพื่อสิ่งนั้น และมันคือเหตุผลที่ทำให้ผมยังอยู่เพื่อที่จะพร้อมลงเล่นแล้วก็ช่วยทีมได้"

การไปยืมตัวที่เอซีมิลานเป็นปี มันให้ประโยชน์คุณอย่างไรบ้างเมื่อฤดูกาลที่แล้ว และคุณรู้สึกว่ามันพัฒนาไปยังไงบ้างตลอด12เดือนที่ผ่านมา?

"ผมคิดว่ามันสำคัญมากในแง่ของความมั่นใจและเวลาการได้ลงสนาม ผมเป็นนักเตะเพียงคนเดียวที่พร้อมลงสนามได้ทุกนัดตลอดซีซั่น และนั่นเป็นเรื่องพิเศษสำหรับผมมากเลยนะ เพราะสองปีก่อนผมไม่ได้พร้อมแบบนี้ ผมรู้สึกมีพลังเอามากๆ ฟิต แล้วก็เติบโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้น นี่มันเรื่องใหญ่สำหรับผมเลยนะ และผมก็พร้อมมากๆแล้วที่จะแสดงฝีเท้าให้ทุกคนเห็น"

มีอะไรเป็นพิเศษไหมที่เรียนรู้มาจากการเล่นในอิตาลี?

"คนเราเรียนรู้ได้เสมอไม่ว่าจะมากหรือน้อยจากทุกๆเรื่อง ไม่ใช่แค่เป็นเพราะว่าวัฒนธรรมที่แตกต่าง แค่เพราะเป็นคนละลีก หรือผู้คนที่ต่างออกไป การเรียนรู้มีอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว ไม่เพียงแค่ด้านฟุตบอล แต่รวมถึงเรื่องนอกสนามด้วย แต่สำหรับเชิงฟุตบอล ผมมีประสบการณ์ที่แตกต่างออกไปจากการเล่นพรีเมียร์ลีกอย่างมาก และในอิตาลี สไตล์การเล่นมันต่างออกไปเลย แล้วผมก็ปรับตัวเข้าหามัน ผมคิดว่าการที่ผมได้เรียนรู้สิ่งต่างๆมามากมายจะช่วยให้ผมประสบความสำเร็จได้ในปีนี้

แน่นอนว่า นับตั้งแต่คุณกลับมาแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด สโมสรก็เซ็นสัญญาเพื่อนร่วมชาติของคุณมาด้วย อย่างคริสเตียโน่ โรนัลโด้ คุณตื่นเต้นแค่ไหนที่เขามาอยู่ที่นี่?

"มันมหัศจรรย์มากๆ ไม่ใช่แค่ผมนะที่ได้เจอคริสเตียโน่ที่นี่ แต่สำหรับทุกๆคนเลยล่ะ เขามอบพลังงานอันเต็มเปี่ยมให้กับทุกๆคน และเขายอดเยี่ยมมาก ผมข้อความไปหาเขาและแสดงความยินดีที่เขากลับมาอยู่ที่นี่เลยทันทีที่ทุกอย่างคอนเฟิร์ม เขาพูดให้ผมฟังว่าเค้ามีความสุขแค่ไหนที่ได้กลับมาเป็นส่วนหนึ่งของสโมสรนี้อีกครั้ง เขาอยากจะช่วยทีม และมันก็เป็นสิ่งที่ทีมเราต้องการ ซึ่งเขาก็ได้ทำมันแล้ว"

"ผมคิดว่าแฟนๆสามารถคาดหวังในตัวคริสเตียโน่ได้เหมือนเดิมนะ อยู่ที่นี่เพื่อที่จะคว้าชัยชนะเหมือนที่เขาเคยๆทำมา แล้วก็เล่นในแบบที่เขาเป็น คุณสามารถคาดหวังสิ่งที่ดีที่สุดได้ เราอยู่ช่วยเขา และเขาก็อยู่ช่วยเราเช่นเดียวกัน และผมคิดว่าทุกๆอย่างเมื่อมันรวมเข้าด้วยกันแล้วจะทำให้เราสามารถทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ได้"

คุณภาพการเล่นในด้านไหนของเขาที่คุณชื่นชมมากที่สุด?

"ผมคิดว่าเป็นเรื่องของวิธีการปฏิบัติตัวของเขา และก็การเตรียมตัวก่อนแข่งนะ มันเห็นได้ชัดเจนมากๆ แล้วตอนนี้ก็เห็นแบบใกล้ชิดด้วย มันเป็นอีกเลเวลนึงเลย คุณเคยได้เห็นเขาทำก่อนที่จะกลับมา และตอนนี้คุณได้เห็นเขาอีกจากเบื้องหลังไปด้วย ดังนั้นมันจึงเป็นสิ่งที่พิเศษมากที่จะรวมเอาเรื่องต่างๆเหล่านี้ทุกอย่างเข้าด้วยกัน มันสุดยอดมากที่ได้มีพลังงานนั้น มีจิตใจในการเล่นฟุตบอลเช่นนั้นอยู่ในห้องแต่งตัว ผมคิดว่าเขาดึงทุกๆคนขึ้นมาอีก และมันเป็นสิ่งที่เป็นพลังงานบวกสำหรับพวกเรา"

เวลาที่คุณดูในห้องแต่งตัว แล้วเห็นสปิริตอันดีในทีม และคุณภาพอันยอดเยี่ยมภายในทีม เห็นแล้วคุณสัมผัสได้บ้างไหมว่าเราจะสามารถคว้าบางสิ่งบางอย่างด้วยกันได้สำเร็จ?

"ทุกๆคนตื่นเต้นอย่างมากในซีซั่นนี้ ผมเคยพูดเอาไว้แล้ว มันไม่ใช่การสปรินท์ มันคือมาราธอน พวกเรารู้ว่านี่คือฤดูกาลที่ยาวนาน เราจำเป็นต้องค่อยๆไปทีละขั้นตอน เกมต่อเกม ลุยไปข้างหน้าด้วยจิตใจแบบนั้นจนถึงช่วงเดือนพฤษภาคมที่คงสถานะทีมกำลังไล่ล่าแชมป์ และสู้เพื่อชัยชนะในทุกๆรายการที่เราลงแข่งขัน เรามุ่งมั่นกับเป้าหมายของเราในการต่อสู้เพื่อที่จะคว้าแชมป์ให้ได้ ผมคิดว่าเรามีทุกสิ่งพร้อมนะ เราแค่ทำงานให้สำเร็จเพื่อบรรลุเป้าหมายให้ได้เท่านั้น"

แนวรับของเราแข็งแกร่งมากเลย และมันคงยอดเยี่ยมที่จะมีคนอย่างราฟาเอล วาราน ให้ได้เรียนรู้ในแนวรับ รวมถึงกองหลังคุณภาพดีรายอื่นๆของเรา

"ใช่ครับ ผมคิดว่าเราสามารถเรียนรู้อะไรเล็กๆน้อยๆได้จากทุกๆคน ไม่ใช่แค่จากคนที่ย้ายเข้ามาเท่านั้น การแข่งขันภายในทีมมีอยู่อย่างเต็มเปี่ยมอย่างชัดเจนในทีม โดยส่วนตัวแล้วผมว่านั่นคือจุดแข็งที่เรามีในซีซั่นนี้ เป็นเพราะว่าทุกๆคนต่างก็ต้องสู้เพื่อแย่งตำแหน่งให้ตัวเองทั้งนั้น ทุกๆคนอยากลงสนาม จะไม่มีใครสามารถไว้วางใจกับตำแหน่งที่ตัวเองเล่นได้เลย เพราะพวกเขาก็รู้ดีว่าคนอื่นๆต่างก็สู้เพื่อที่จะให้ได้ลงเล่นทั้งนั้น นั่นเป็นสิ่งที่ดีสำหรับสโมสร และสำหรับตัวของพวกเรานักเตะเองด้วย เพราะว่ามันทำให้ภายในใจของเราตื่นตัว และพร้อมที่จะสู้เพื่อตำแหน่งในทีมตลอดเวลา

คุณต้องเจองานหนักในสนามซ้อมเมื่อต้องเผชิญหน้ากับตัวรุกโหดๆของเราหลายๆคน เรื่องนี้ช่วยคุณยังไงได้บ้างในการเตรียมตัวที่จะลงแข่ง

"มันเป็นความท้าทายในการฝึกซ้อมนะ แต่ถ้าคุณได้ซ้อมอยู่กับนักเตะที่ดีมากๆ และบางคนก็ดีที่สุดของพรีเมียร์ลีก มันทำให้คุณเตรียมตัวพร้อมอย่างดีอยู่เสมอในการลงแข่ง ความท้าทายที่ต้องเผชิญมันแตกต่างกันออกไป จากนักเตะมากหน้าหลายตา แต่ถ้าคุณซ้อมกับนักเตะที่มีคุณภาพสูงส่งและเข้มข้น คุณก็จะถูกเตรียมพร้อมมากขึ้นยิ่งกว่าเดิม ผมคิดว่าเราจะต้องรักษาระดับนั้นเอาไว้ และเป็นมืออาชีพในทุกๆวัน ไม่หลงระเริง และเตรียมพร้อมสำหรับทุกๆเกม"

ตัวรุกอายุน้อยของเราหลายๆคนต่างก็พูดกันว่า พวกเขาได้เรียนรู้มากมายจากบางคนอย่างเช่น เอดินสัน(คาวานี่) สำหรับคุณมันเหมือนกันเลยไหมในแง่ของเกมรับ?

"มันท้าทายเสมอเวลาที่คุณได้ซ้อมกับคนอย่างเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหล่ากองหลัง เพราะว่าเราจะต้องลงมาลุยกับนักเตะที่โคตรสร้างสรรค์ เล่นกับบอลเก่ง และโคตรดียามไม่มีบอลอยู่กับตัว เพราะงั้นสำหรับเราแล้วมันเป็นเรื่องที่เยี่ยมที่สุดเสมอ ความท้าทายมันเพิ่มขึ้นนะ และความต้องการที่มีต่อตนเองก็ยิ่งสูงขึ้นด้วย ซึ่งนั่นเป็นเรื่องที่ดีสำหรับทุกๆคน"


สุดท้ายนี้ มีแฟนๆถามเกี่ยวกับท่าดีใจแตะชีพจรของคุณ(pulse) คุณเล่าให้ฟังหน่อยว่ามันมีความหมายยังไง?

"อ่าาา.. ใช่ครับ จับชีพจรดูไง!(ฮา) มันเป็นเรื่องขำๆนะ ผมมีเพื่อนบางคนในทีมชาติ และเราเล่นไพ่ Uno กัน ตอนที่เราปล่อยไพ่ +4 ลงมา ทุกคนทำท่าทางแบบนี้(ชี้ไปที่คอ) เพราะว่าไม่มีใครมี +4แล้ว ดังนั้นมันเลยจึงเป็นเรื่องตลกๆนั่นเอง แล้วหลังจากนั้นพวกเราก็คิดว่าจะให้มันเป็นท่าดีใจของกลุ่มเราเวลาที่ยิงได้ในทีมชาติ ซึ่งมันยังไม่เกิดขึ้น แต่หลังจากนั้นเราตัดสินใจกันว่า ทุกครั้งที่เรายิงได้ เราจะทำท่านั้นกัน มันเป็นท่าที่ดูธรรมดามากเลยนะ แต่เราก็ไม่เคยเห็นใครทำมาก่อนเหมือนกัน เพราะงั้นมันเจ๋งเลยแหละ(555)"

"ผมจะทำท่านี้อีกแน่นอนถ้ายิงได้!"

-ศาลาผี-

Reference

https://www.manutd.com/en/news/detail/diogo-dalot-discusses-loan-spell-at-milan-in-exclusive-united-review-interview-24-september-2021

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด