เรากำลังบอกเล่าถึงความสัมพันธ์ระหว่าง "แม็กซ์เวลล์" บุรุษที่ออกตามหาความฝันจากประเทศบราซิล กับอีกหนึ่งคนอย่าง "ซลาตัน อิบราฮิโมวิช” ผู้ปักหมุดย่านโรเซนการ์ด ประเทศสวีเดน ลงบนแผนที่โลก 

        เมื่อเราติดตามเส้นทางการก้าวเดินของทั้งสองคน จะพบได้ว่าโชคชะตาของพวกเขา ถูกเกี่ยวพันเอาไว้ด้วยกันอย่างไม่รู้ตัว เมื่อมีโอกาสเล่นร่วมกันที่อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม, อินเตอร์ มิลาน, บาร์เซโลน่า และเปแอสเช

        จะด้วยความบังเอิญ หรืออะไรก็แล้วแต่ การเล่นร่วมกันใน 4 สโมสร จากทั้งหมด 4 ประเทศ ถือเป็นช่วงระยะที่แสนยาวนาน จนสามารถกินเวลาได้เกือบทั้งชีวิต ในการค้าแข้งของทั้งสองคนเลยทีเดียว 

        อาจกล่าวได้ว่า มีนักเตะไม่กี่คนบนโลก ที่จะได้เล่นร่วมกันในหลายสโมสร พร้อมกับเก็บเกี่ยวเกียรติยศอย่างมากมาย จนถึงวันที่แม็กซ์เวลล์ ตัดสินใจแขวนสตั๊ดไปแล้ว ขณะที่ซลาตัน ยังคงอยู่ในช่วงบั้นปลาย

        หากนับนิ้วไปเรื่อยๆ ตั้งแต่ค้าแข้งบนแผ่นดินยุโรป พวกเขาสามารถคว้าแชมป์ระดับเมเจอร์ รวมกันมากถึงกว่า 70 โทรฟี่ !!! ส่งผลให้ติดอยู่ในลิสต์รายชื่อลำดับต้นๆ ของนักเตะที่ประสบความสำเร็จมากสุดบนโลกลูกหนังอาชีพ

        โดยจะว่าไปแล้ว "พรหมลิขิต" ที่เรากล่าวในข้างต้น ก็มาจากเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันเหมือนกัน กับปัญหาบางสิ่งบางอย่าง ที่ให้คนที่มีบุคลิกแตกต่างกันอย่างสุดขั้ว กลับกลายมาเป็นเพื่อนตายกันในบั้นปลาย

        จุดเริ่มต้นแห่งมิตรภาพของพวกเขา ต้องย้อนกลับไปเมื่อปี 2001 ที่กรุงอัมสเตอร์ดัม, เมืองหลวงของประเทศฮอลแลนด์ มันเป็นการเจอหน้ากันครั้งแรกของ 2 เด็กหนุ่ม ที่ต่างออกเดินทางมาค้าแข้งนอกบ้านเกิดเป็นครั้งแรกในชีวิต 

        ช่วงเวลานั้น ซลาตัน ต้องพบเจอกับความยากลำบาก ด้วยความที่เป็นคนใช้เงินอย่างไม่ระมัดระวัง และขาดการวางแผนส่งผลให้เขาแทบไม่มีเงินติดตัวเลย นอกจากนี้ เงินเดือนก้อนแรกจากอาแจ็กซ์ อัมเตอร์ดัม จะออกตอนสิ้นเดือนอีกด้วย 

        ซลาตัน ตบเท้าย้ายเข้าบ้านหลังใหม่ที่กรุงอัมสเตอร์ดัม ซึ่งมีเพียงแค่เตียงนอน กับโทรทัศน์ 1 เครื่องเท่านั้น พร้อมกันนี้ เขายังโดนความหิวโหยเข้าเล่นงาน เนื่องจากเงินทองที่มีเริ่มหมดไปเรื่อยๆ

        เป็นเหตุผลให้ซลาตัน ตัดสินใจโทรศัพท์ไปหาแม็กซ์เวลล์ เพื่อนใหม่ที่เพิ่งพบกันที่สนามบิน โดยเป็นคนที่เขารู้สึกไว้วางใจ แม้จะเพิ่งพบหน้ากันเป็นครั้งแรกก็ตาม

        อดีตกองหน้าทีมชาติสวีเดน ออกมาย้อนความทรงจำว่า "ตอนนั้นผมต่อสายโทรศัพท์ไปหาแม็กซ์เวลล์ พร้อมบอกเขาว่า - ฟังนะ ที่บ้านข้าไม่มีอาหารหลงเหลือแล้ว ข้าต้องการความช่วยเหลือจริงๆ-"

        "จากนั้นแม็กซ์เวลล์ ตอบผมกลับมาว่า -ไม่เป็นไรเพื่อน แกมาที่บ้านข้าได้เลยนะ- หลังคุยกันเสร็จ ผมไปนอนค้างบ้านเขา เป็นระยะเวลา 2 สัปดาห์ด้วยกัน พร้อมกับทำกิจกรรมร่วมกันมากมาย"

        "ไม่ว่าจะเป็นการสังสรรค์, รับประทานอาหาร และยังขับรถออกไปฝึกซ้อมฟุตบอลด้วยกัน หลังจากนั้น เงินเดือนก้อนแรกของผมกับอาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ก็ถึงออกมา ชีวิตผมจึงเข้าสู่ภาวะปกติ"

        นอกจากความมีน้ำใจ และเสียสละ อีกหนึ่งสิ่งที่ซลาตัน ชื่นชอบในตัวของแม็กซ์เวลล์ คือการเป็นคนที่มีชีวิตแสนเรียบง่าย ซึ่งแตกต่างจากนักเตะชาวบราซิเลี่ยน ทั่วไป ที่มักชื่นชอบการออกไปเที่ยวยามราตรี

        ซลาตัน ออกมากล่าวเพิ่มเติมว่า "สำหรับอุปนิสัยของแม็กซ์เวลล์ เขาถือเป็นชาวบราซิเลี่ยน ที่ไม่เหมือนกับชาวบราซิเลี่ยน ทั่วไป ดูได้จากการที่เขาเป็นคนที่ไม่คอยชอบเข้าสังคมสักเท่าไหร่"

        "นอกจากนี้ เขายังเป็นคนที่ไม่ค่อยชื่นชอบไปงานปาร์ตี้ อย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่ใช่คนที่คอยเก็บเนื้อเก็บตัวหรอกนะ เขาเป็นคนที่มีอารมณ์ค่อนข้างอ่อนไหว และรักครอบครัวเป็นที่สุด เหตุผลเหล่านี้ ทำให้เขากลายเป็นเพื่อนที่น่าคบหาเอามากๆ"

        จากวันนั้นถึงวันนี้ กาลเวลาผ่านมา 16 ปีเต็มแล้ว ทว่าซลาตัน และแม็กซ์เวลล์ ยังคงติดต่อกันอยู่เสมอ พร้อมกับติดตามความเป็นไปของแต่ละฝ่ายอย่างไม่ขาดหาย 

       หากพวกเขามีเวลาว่างที่ตรงกัน ก็มักจะนัดกันออกไปทำกิจกรรมต่างๆ นอกจากนี้ ครอบครัวของทั้งสองคน ก็ยังสนิทสนมกันมากอีกด้วย 

        เพราะพวกเขาต่างรู้ดีว่า นี่ไม่ใช่มิตรภาพที่หากันได้ง่ายๆ โดยเฉพาะในวงการฟุตบอล ที่เต็มไปด้วยการแข่งขันที่สูงมาก พร้อมกับมีเรื่องราวของความบาดหมางที่เกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ

        พร้อมกันนี้ ในวันที่แม็กซ์เวลล์ ตัดสินใจประกาศแขวนสตั๊ดไป ตัวของซลาตัน ก็ยังส่งคลิปอวยพร และเปิดปากยกย่องความเป็นนักสู้ของแม็กซ์เวลล์ อีกด้วย 

        "แม็กซ์เวลล์ คือเพื่อนที่ดีที่สุดบนโลกใบนี้" ซลาตัน ปิดท้ายถึงเพื่อนรัก