ลิโอเนล เมสซี่ ให้สัมภาษณ์กับนิตยสารฟร้องซ์ฟุตบอลเป็นครั้งแรกนับแต่ย้ายมาอยู่กับ เปแอสเช ซึ่งดาวเตะอาร์เจนไตร์ได้เปิดเผยหลากหลายเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นความรู้สึกในช่วงเวลาที่ต้องจาก บาร์เซโลน่า และตัดสินใจตอบรับข้อเสนอของยักษ์ใหญ่ปารีเซียง รวมถึงโอกาสในการคว้า บัลลงดอร์ และการคว้าแชมป์โกปา อเมริกา เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา 

ใครที่คิดถึง ‘คิงเลโอ’ หวังว่าจะอิ่มเอมไปกับบทสัมภาษณ์สั้นๆนี้ครับ 

การอำลา บาร์เซโลน่า 

ผมไม่ได้คาดคิดมาก่อนเลย ตอนนั้นในหัวผมมีแต่ความคิดที่จะต่อสัญญา และกลับไปลงซ้อมให้เร็วที่สุด ผมคิดว่าทุกอย่างได้รับการแก้ไขหมดแล้ว และเหลือเพียงแค่ให้ผมไปเซ็นในเอกสารเท่านั้น แต่เมื่อผมถึง บาร์เซโลน่า พวกเขาบอกว่ามันเป็นไปไม่ได้แล้ว, ผมไม่สามารถอยู่กับทีมได้และผมต้องมองหาสโมสรอื่น เพราะ บาร์ซ่า ไม่มีเงินที่จะต่อสัญญากับผม ผมจึงต้องเปลี่ยนแผน 

มันเป็นเรื่องที่ยากมากที่จะยอมรับ เมื่อคิดว่าเราจะต้องย้ายออกจากบ้าน และเส้นทางของครอบครัวจะต้องกลับตาลปัตร เด็กๆจะต้องเปลี่ยนโรงเรียน เปลี่ยนเพื่อนร่วมชั้นเรียนในสถานที่ใหม่ 

เป็นครั้งแรกที่เรื่องนี้เกิดขึ้นกับอาชีพของผม ก่อนหน้านั้นผมกับครอบครัวได้ตัดสินใจว่าผมจะยุติอาชีพนักฟุตบอลที่ บาร์เซโลน่า, มันเป็นเรื่องยาก แต่เราก็ก้าวข้ามบททดสอบนี้มาได้ด้วยกัน 

มีสิ่งต่างๆมากมายผ่านเข้ามาในความคิดผม แต่ผมไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากต้องไป  

………………………

การเซ็นสัญญากับ เปแอสเช

ผมเริ่มคิดถึงอนาคตของตัวเองและ เปแอสเช ก็เสมอโอกาสที่ผมจะได้ไปอยู่กับพวกเขา ตอนนั้นผมได้รับข้อเสนออื่นๆด้วยเช่นกัน แต่ผมต้องยอมรับว่าเราบรรลุข้อตกลงกันอย่างรวดเร็ว  

มันไม่ง่ายเพราะว่าทุกอย่างจะต้องถูกจัดการให้เรียบร้อยภายในระยะเวลาอันจำกัด แทบจะเพียงแค่ในคืนเดียวเท่านั้น 

ตอนที่ปฏิบัติการเต็มไปด้วยความยากลำบากเมื่อคำนึงถึงสถานการณ์ในเวลานั้น เห็นได้ชัดว่าผมถูกดึงดูดด้วยโปรเจ็คที่ทะเยอทะยานของสโมสร ,เหล่านักเตะ,กลุ่มคนทำงาน ทุกๆองค์ประกอบเหล่านี้ทำให้ง่ายที่จะบรรลุข้อตกลงกันอย่างรวดเร็ว 

การมีเพื่อนที่รู้จักในสโมสร เรื่องนี้ถือเป็นส่วนสำคัญในตอนที่ผมต้องตัดสินใจ เพราะผมรู้ว่าผมจะไปอยู่ที่ปารีส ผมจะต้องเริ่มทุกอย่างจากศูนย์ การรู้ว่าคุณมีเพื่อนอยู่ในทีม ทำให้ผมสามารถบอกตัวเองได้ว่าการปรับตัวคงจะง่ายขึ้น 

ในโกปา อเมริกา พวกเขาถามผมว่าเมื่อไหร่ผมจะไปรวมกับพวกเขา แต่มันก็เป็นเพียงเรื่องอำกันขำๆ เพราะพวกเรารู่ว่าไอเดียของผมคืออยู่กับ บาร์เซโลน่า นับเป็นเรื่องเซอร์ไพรส์มากๆสำหรับพวกเขาตอนที่ผมบอกพวกเขาว่าผมจะย้ายไป ปารีส 

………………………

ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก

มัน (ถ้วยแชมเปี้ยนส์ลีก)คือความฝันของทุกคนที่นี่ (ปารีส) สโมสรใช้เวลาหลายปีในการทำงานเพื่อเป้าหมายนี้ และในช่วงปีหลังๆพวกเขาเกือบจะทำได้สำเร็จ 

จากมุมมองส่วนตัวของผม ผมเองก็มองในจุดเดียวกัน ผมอยากที่จะกลับไปคว้าแชมป์แชมเปี้ยนส์ลีกอีกครั้ง เหมือนที่ผมเคยพูดไว้ตอนอยู่กับ บาร์เซโลน่า เพราะว่ามันเป็นการแข่งขันที่ยอดเยี่ยม, ยากลำบากในการเป็นผู้ชนะ แต่ผมคิดว่ากลุ่มนักเตะเหล่านี้มีศักยภาพมากพอที่จะคว้าถ้วยนี้มาครองได้ 

เป็นความจริงที่ทุกสายตาล้วนจับจ้องมาที่ เปแอสเช, แต่ว่าก็มีทีมอื่นๆที่แข็งแกร่งมากด้วยเช่นกัน อย่าง เชลซี,สองทีมจากเมืองแมนเชสเตอร์(ยูไนเต็ด,ซิตี้),เรอัล มาดริด ที่มีลุ้นในรายการนี้เสมอ,อินเตอร์ มิลาน,บาเยิร์น มิวนิค แต่ละทีมล้วนแล้วแต่เป็นทีมที่ยิ่งใหญ่ 

พวกเรามีความสามารถเฉพาะตัวที่สุดยอด แต่เรายังคงต้องทำความรู้จักกันให้ดีกว่านี้เพื่อหลอมรวมกันเป็นทีม ในการที่จะคว้าแชมป์เรายการสำคัญนั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเล่นกันเป็นทีม สิ่งนี้คือสิ่งที่ทำให้ผมพูดว่าเรายังคงตามหลังเมื่อนำไปเทียบกับยักษ์ใหญ่เหล่านี้ ซึ่งมีประสบการณ์ในการเล่นเป็นทีมมากกว่าพวกเรา 

………………………

บัลลงดอร์ 

ไม่, ผมไม่คิดว่าตัวเองเป็นตัวเต็ง และผมไม่เคยชอบพูดถึงมันจนกว่าจะรู้ผล ถ้ามันเกิดขึ้น มันคงเป็นเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่ที่ผมคว้ารางวัลอีกครั้ง ,ที่เป็นอยู่มันก็สุดยอดมากๆแล้วที่ได้มา 6 ครั้ง และเป็นนักเตะเพียงคนเดียวที่ทำได้ ถ้าได้อีก เป็นครั้งที่ 7 คงเป็นอะไรที่เหลือเชื่อมาก 

ช่วงหน้าร้อนที่ผ่านมาผมคว้าแชมป์ที่ผมยังไม่เคยได้และนั่นคือจุดสุดยอด หลังจากนี้ หากผมได้บัลลง

ดอร์ อีกลูก ผมคงจะมีความสุขและรู้สึกขอบคุณอย่างยิ่ง อย่างไรก็ตามผมไม่ต้องการที่จะคิดถึงมันในตอนนี้ 

ในทีมของผม มีอย่างน้อย 2 คนที่ผมจะโหวตคะแนนให้ นั่นคือ เนย์ และ คีลิยัน ถัดมาก็ เลวานดอฟสกี้ ซึ่งมีปีที่ยิ่งใหญ่ นอกจากนี้ เบนเซม่า เองก็เช่นกัน เขามีผลงานที่สุดยอดมาก, เรารู้ดีว่าถ้วยแชมป์นั้นก็มีความสำคัญเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็น แชมเปี้ยนส์ลีก,ยูโร และ โกปา อเมริกา ซึ่งไม่ต้องสงสัยเลยมันจะเป็นส่วนนึงในการโหวตลงคะแนน 

………………………

เอ็มบั๊บเป้ 

กับนักเตะอย่างเขานั้นมันง่ายมากที่จะปรับตัวเข้าหา นอกจากนั้นแล้ว คิลิยัน ยังพูดภาษาสเปนได้อย่างคล่องแคล่วอีกด้วย นั่นทำให้อะไรๆง่ายขึ้นอีก 

แต่ผมเพิ่งย้ายมา ผมยังไม่รู้จักเขาดีพอที่จะพูดหรือแสดงความเห็นเกี่ยวกับเขา ก็เหมือนกับคนอื่นๆ คงต้องรอให้เวลาผ่านไปสักพักก่อนเพื่อดูว่าจะเป็นยังไง แต่ว่าท้ายที่สุดแล้ว เขา(เอ็มบั๊บเป้) ก็ยังอยู่กับเรา และสำหรับผมแล้วนั่นคือเรื่องที่น่ายินดี เขาคือส่วนสำคัญที่ทำให้เรามีโอกาสอันดีที่จะประสบความสำเร็จตามเป้าที่ตั้งไว้ 

………………………

La MSN vs la MNM

ความแตกต่างระหว่าง La MSN กับ la MNM อันดับแรกก็คือเรื่องของอายุ  ตอนนั้นเรายังเป็นหนุ่มแน่น ตอนที่เริ่มเล่นด้วยกันกับ เนย์, มาวันนี้ คนที่เป็นหนุ่มคือ คิลิยัน, หลุยส์ (ซัวเรซ) และ คิลิยัน นั้นแตกต่างกัน  หลุยส์ เป็นหมายเลข 9 โดยธรรมชาติ เป็นกองหน้าขนานแท้ เขามีประสิทธิภาพสูงมากเวลาอยู่ในกรอบเขตโทษ และเคยชินกับการยิงประตูจำนวนเยอะๆ 

ส่วน คิลิยัน นั้น เขาชอบเล่นกับบอล เขาเป็นนักเตะที่มีพละกำลังมหาศาลและเร็วอย่างเหลือเชื่อ เขาจะจัดการคุณทันที หากว่าคุณเปิดพื้นที่ว่างให้ นอกจากนี้แล้วเขายังยิงประตูได้เยอะอีกด้วย 

ทั้งคู่ต่างก็เป็นนักเตะที่น่าตื่นตาตื่นใจ แต่ว่ามีคุณภาพที่ในแนวทางที่แตกต่างกันมาก

………………………

การคว้าแชมป์โกปา อเมริกา 

มันเป็นอะไรที่เหลือเชื่อสุดๆกับการคว้าแชมป์ใบนี้ นี่คือสิ่งที่ผมฝันถึงมานาน ผมต่อสู้เพื่อมันมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา ผมเคยขยับเข้าใกล้มันหลายต่อหลายครั้ง  และในที่สุดผมก็ทำมันสำเร็จที่บราซิล ในเกมกับ บราซิล ช่างเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อเอามากๆ 

มันคือฝันที่เป็นจริง มันเหลือเชื่อที่ได้บอกกับตัวเองว่าสุดท้ายแล้วผมก็ทำมันสำเร็จจนได้ ผมคว้าแชมป์นี้ภายใต้เสื้อตัวนี้ (อาร์เจนติน่า) มันมหัศจรรย์ที่ได้กลับไปเจอกับชาวอาร์เจนไตร์(หลังคว้าแชมป์) 

ผมเก็บความรู้สึกแปลกๆไว้ข้างในตัวเองมาตลอดว่าผมอาจแขวนสตั๊ดโดยที่ไม่สามารถคว้าแชมป์กับทีมชาติตัวเองได้ , นี่คือถ้วยที่ขาดหายไปของผม ผมไม่สามารถที่จะยอมแพ้ได้ มันคือการปลดปล่อย สำหรับทุกสิ่งทุกอย่างในโลก 

ผมต้องการมัน (แชมป์กับทีมชาติ) และผมคิดว่าพวกเราทุกคนต่างก็ต้องการมัน ชาวอาร์เจนติน่าทุกคนและวงการฟุตบอลของเราก็เช่นกัน หลังจากที่เราขาดแคลนแชมป์มานานหลายปี  

เจมส์ ลา ลีกา แปล&เรียบเรียง