อย่างที่ทราบกันดีถึงผลงานที่ไม่น่าอภิรมย์เท่าไหร่ โดยเฉพาะเกมพรีเมียร์ลีกสองนัดหลังสุดที่ทำได้คะแนนเดียวทั้งที่เล่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด
ไม่แปลกที่แฟนบอลจะควันออกหูหงุดหงิดกับผลการแข่งขันและฟอร์มการเล่นโดยรวมของปิศาจแดง เพราะ 5 คะแนนที่เสียไปนอกจากจะทำให้ทีมพลาดโอกาสในการไต่อันดับบนตารางคะแนน มันยังส่งผลไปถึงสภาพจิตใจโดยรวมของบรรดาผู้เล่น โดยเฉพาะในช่วงเวลาสำคัญที่ทีมมีโอกาสขึ้นไปจ่าฝูงแบบเดี่ยวๆ หากพิจารณาในตารางคะแนนแล้ว 'ถ้า' ผีแดง เก็บได้ 6 คะแนนเต็มจากสองนัดที่ผ่านมาจะทำให้เก็บไป 19 คะแนน ทิ้งที่สองถึง 3 แต้ม
นั่นคือความเป็นไปได้ที่ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา โยนโอกาสทิ้งไป ซึ่งหากทีมไม่พลาดกันเองนอกจากจะส่งผลไปยังเรื่องอันดับแล้ว ยังจะช่วยในแง่ความมั่นใจก่อนจะเจอโปรแกรมสุดโหดในช่วงครึ่งหลังของเดือนนี้
หลายคนคงทราบและตั้งตารอลุ้นผลงานช่วง 16 วันต่อจากนี้ของ แมนฯ ยูไนเต็ด ซึ่งจะเริ่มจากการออกไปเยือน เลสเตอร์ ซิตี้ ในวันเสาร์ แม้ผลงานของ จิ้งจอกสีน้ำเงิน ไม่ดีเท่าไหร่ แต่การไปเล่นที่ คิง เพาเวอร์ สเตเดียม ไม่มีคำว่าง่ายอย่างแน่นอน
บวกกับปัญหาในแนวรับที่ โซลชา กุมขมับและต้องหาทางจัดทีมให้รัดกุมที่สุด เพราะการขาดหายไปของ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ และ ราฟาแอล วาราน จะส่งผลเสียอย่างมาก แม้อันที่จริงในตอนที่ แม็กไกวร์ กับ วาราน ฟิตลงสนาม แนวรับของทีมก็ใช่ว่าจะดีหรือมีผลงานที่ยอดเยี่ยม เพราะหากลองย้อนกลับไปดูเกมที่ทั้งสองคนยืนกองหลังตัวกลางร่วมกันก็แทบจะเสียประตูทุกนัดมีเพียงเกมดวล วูล์ฟแฮมป์ตัน ที่ทีมเก็บ คลีน ชีต ได้ แต่ก็ยังดีกว่าทางเลือกอื่นๆ ที่มีในตอนนี้
นั่นคือจุดสำคัญที่บรรดาตัวสำรองต้องลงไปแก้ขัดและสร้างผลงานที่ดีเมื่อโอกาสมาถึง เพราะไม่ใช่แค่ประตูแห่งโอกาสที่เปิดออกมา มันยังเป็นงานสำคัญที่ต้องช่วยให้ทีมไม่เสียประตูพร้อมได้ผลการแข่งขันที่ดีอีกด้วย
อย่างที่เรียนไปแล้วว่าเกมสุดสัปดาห์นี้จะเป็นนัดแรกของโปรแกรมสุดโหดส่งท้ายเดือนตุลาคม หลังจากจบศึกที่ คิง เพาเวอร์ สเตเดียม นัดต่อไป ปิศาจแดง จะลงเล่นในรายการ แชมเปี้ยนส์ ลีก รับมือ อตาลันต้า
ผลงานใน แชมเปี้ยส์ ลีก ของ ผีแดง ถือว่าทำได้ดีขึ้นหลังจากบุกพ่าย ยัง บอยส์ ในนัดแรก ก่อนจะบดเอาชนะ บียาร์เรอัล แบบหืดจับ 2-1 แม้จะเป็นเกมที่ยากลำบากกว่าจะได้ 3 แต้มมาครอง แต่เกมล่าสุดมันช่วยเพิ่มโอกาสและความมั่นใจในรายการนี้
กระนั้น เกมที่ต้องดวลตัวแทนจากอิตาลีจะเป็นนัดสำคัญในการกำหนดทิศทางของ โซลชา และลูกทีม หากว่าสามารถเก็บชัยชนะได้ก่อนออกไปเล่นที่ แบร์กาโม่ ในนัดหน้า (ช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน) มันจะช่วยในแง่ของความมั่นใจรวมไปถึงอันดับตารางคะแนนที่จะได้เปรียบคู่แข่ง
สิ่งสำคัญในการดวล อตาลันต้า คือบรรดานักเตะต้องหาทางรับมือกับเกมเพรสซิ่งหนักของคู่แข่ง ที่สำคัญคือการทำเข้าทำและเติมเกมของวิงแบ็กที่อันตราย ไหนจะต้องเจอแนวรุกอันทรงพลังที่เล่นสวนกลับได้ดี
ถือเป็นรายละเอียดเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เพราะส่วนสำคัญที่สุดคือการทำงานของ โซลชาและทีมงานที่ต้องวิเคราะห์คู่แข่งอย่างถี่ถ้วน พร้อมหาทางรับมือกับคู่แข่งให้ดีที่สุด
หลังจากนั้น แมนฯ ยูไนเต็ด จะได้เล่นใน โอลด์ แทรฟฟอร์ด ต่ออีกหนึ่งเกม แต่นัดนี้บรรยากาศเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง เพราะต้องรอรับ ลิเวอร์พูล อริเบอร์ 1 และคู่แค้นทีมสำคัญ
แน่นอนว่าการเจอกับ หงส์แดง ไม่ว่าจะเกิดขึ้นตอนไหน เกิดขึ้นในสถานการณ์ใด หรือจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ก็ตาม มันจะเป็นเกมที่สำคัญทั้งในแง่ของนักเตะและแฟนบอลที่ไม่มีทางให้ฝ่ายตรงข้ามเป็นผู้ชนะ
ยิ่งการเจอกันในห้วงเวลานี้มีเดิมพันของอันดับตารางคะแนนเข้ามาเกี่ยว มันยิ่งเป็นตัวผลักดันให้ทั้งสองฝ่ายอยากกลับออกมาในฐานะผู้กำชัย
ถือเป็นโปรแกรมโหดที่สุดในช่วงส่งท้ายเดือนตุลาคมของ ปิศาจแดง และหากมองย้อนกลับไปยังสถิติที่ผ่านมาต้องบอกว่าไม่ค่อยเข้าทาง ผีแดง เพราะตลอด 6 เกมหลังในลีก ยูไนเต็ด ไม่สามารถเอาชนะ ลิเวอร์พูล ได้เลย แถมล่าสุด หงส์แดง บุกไปถล่มถึง โรงละครแห่งความฝัน 4-2
แน่นอนว่าสถิติไม่เคยโกหกใคร แต่ในอีกมุมหนึ่งสถิติก็มีไว้ทำลาย และเชื่อว่านักเตะปิศาจแดงต้องการลบล้างความอับอายจากเกมล่าสุดที่แพ้คาบ้านให้ ลิเวอร์พูล ซึ่งหนนี้บรรยากาศจะแตกต่างออกไปเพราะบรรดา 'เรด อาร์มี่' พร้อมเข้าไปให้กำลังใจทีมรักอย่างเต็มที่
ปิดท้ายเดือนตุลาคมก่อนเทศกาล 'ฮาโลวีน' ทัพนักเตะปิศาจแดงจะยกพลไปลอนดอนเพื่อดวล ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ แม้สถิติเยือน ไก่เดือยทอง ช่วงหลังถือว่าออกมาดี แต่อย่างที่ทราบกันว่าอะไรก็เกิดขึ้นในเวทีพรีเมียร์ลีก และก่อนจะถึงเกมนี้ยังมีปัจจัยหลายๆ อย่างที่อาจจะกำหนดทิศทางของเกมทั้งในเรื่องอาการบาดเจ็บ, ติดโทษแบน และฟอร์มการเล่นก่อนหน้านั้น
เป็นโปรแกรม 4 นัดที่แฟนบอลต้องการให้ทีมมีผลงานและผลการแข่งขันที่ดี เพราะอย่าลืมว่าความคาดหวังในซีซั่นนี้เพิ่มมากขึ้นกว่าที่ผ่านมาอันเนื่องมาจากการเสริมทัพและลมปากของบอร์ดบริหารรวมไปถึง โซลชา ที่ย้ำหนักแน่นว่าพร้อมพาทีมประสบความสำเร็จ (อีกครั้ง)
แต่ผลงานที่ผ่านมาทำให้ความสงสัยกลับมาอีกครั้ง คำถามมากมายถาโถมไปยังตัวกุนซือ จึงไม่แปลกที่พวกเขาต้องพิสูจน์ตนเองให้ได้หลังจากนี้
อันที่จริงแล้วไม่เพียงแค่โปรแกรม 4 เกมต่อไปในช่วงครึ่งหลังของเดือนตุลาคม เพราะสองเกมในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนก็สำคัญไม่แพ้กันทั้งในเวที แชมเปี้ยนส์ ลีก และ พรีเมียร์ลีก ที่ต้องดวลกับทั้ง อตาลันต้า และ แมนฯ ซิตี้
4 เกมในช่วงปลายเดือนตุลาคมบวกกับ 2 เกมในช่วงต้นเดือนหน้าอาจจะเป็นตัวกำหนดทิศทางต่างๆ ได้อย่างชัดเจนโดยเฉพาะในศึกยูซีแอลที่จะเริ่มเห็นเส้นทางของทีมแล้วว่าจะดำเนินไปยังจุดไหน
ไม่ต่างไปจากเกมลีกที่ต้องเร่งทำผลงาน แม้ว่าจะเจองานหนักและเกมสุดโหดแต่มันเป็นภารกิจที่ทีมต้องฟันฝ่าไปให้ได้หากว่าอยากกลับไปเป็นเบอร์ 1 อีกครั้ง
ถึงจะโหดแต่ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ มีเพียงเดินหน้าพุ่งชนเพื่อพิสูจน์ตนเองให้ทุกคนได้เห็นว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ปีนี้แตกต่างจากที่ผ่านมา
