22 ตุลาคม 2017 ลิเวอร์พูลของเจอร์เก้น คล็อปป์ บุกไปโดนท็อทแน่ม ฮอตสเปอร์ ต้อน 4-1 กลับเมืองลิเวอร์พูลไปอย่างบอบช้ำ เสียงของแฟนบอลแตกออกเป็น 2 ส่วน ทั้งคนที่เชื่อในคล็อปป์ และคนที่คิดว่าทีมต้องมีการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง พูดได้เลยว่าน่าจะเป็นวิกฤตศรัทธาอย่างจริงจังครั้งแรกในรอบ 2 ปี นับตั้งแต่คล็อปป์ก้าวเข้ามาในชายคาแอนฟิลด์เมื่อปี 2015
จากวันนั้นจนถึงวันนี้ 3 เดือนต่อมา คล็อปป์พิสูจน์ตัวเองให้แฟนบอลที่ต่อต้านเขาเห็น ... กูของจริง !! พาทีมไร้พ่ายนับถึงเกมล่าสุด 18 เกม (รวมทุกรายการ) เข้าไปแล้ว ทำสถิติเป็นกุนซือลิเวอร์พูลในยุคพรีเมียร์ลีกที่พาทีมไร้ความปราชัยได้ยาวนานที่สุด
แถมเกมล่าสุด คล็อปป์ สามารถนำทีมหงส์แดง ยัดเยียดความปราชัยในลีกครั้งแรกให้กับว่าที่แชมป์อย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่แอนฟิลด์ไปได้อย่างสนุก 4-3 กับความหวังแชมป์ไร้พ่ายของทีมเรือใบสีฟ้าไปอย่างแสบสันต์
ด้วยฟอร์มแบบนี้ ทำให้ลิเวอร์พูลก้าวจากอันดับ 9 เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม มายึดอันดับ 3 ในตารางพรีเมียร์ลีก ณ ปัจจุบัน ได้แบบชนิดที่ว่าคู่แข่งต้องหันมามองกันทั้งลีก
ชื่อเสียงเรียงนามของ Fab Four หรือ 4 ตัวรุกอันประกอบไปด้วย โมฮาเหม็ด ซาล่าห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่, ซาดิโอ มาเน่ และฟิลิปเป้ คูตินโญ่ กลายเป็น 4 เครื่องจักรสังหารที่ทรงประสิทธิภาพแทบจะเรียกได้ว่าดีที่สุดในเวลานี้เลย
แต่แล้ว ฟ้าก็ผ่าลงมากลางแอนฟิลด์ ... คูตินโญ่ ขอย้ายทีมอีกครั้ง และครั้งนี้เขาทำมันสำเร็จ ลิเวอร์พูลจำใจต้องปล่อยคูตินโญ่ไปบาร์เซโลน่าตามที่เจ้าตัวต้องการ
แต่การย้ายทีมของคูตินโญ่ก็ตอบแทนลิเวอร์พูลได้มากถึง 142 ล้านปอนด์ เทียบกับ 8.5 ล้านปอนด์ที่ลิเวอร์พูลจ่ายไปเมื่อ 5 ปีก่อน บอกได้คำเดียวว่า โคตรคุ้ม !!
หลายคนกลัวกันว่าการขาดหายไปของคูตินโญ่อาจจะทำให้ Fab Four ไม่น่ากลัวเหมือนเช่นเคย และทีมน่าจะต้องทำอะไรสักอย่างกับเงิน 142 ล้านปอนด์ ที่ได้จากค่าตัวของพ่อมดน้อยรายนี้
แต่คล็อปป์เหมือนจะไม่สนใจคำขอนั้น เกมกับแมนฯ ซิตี้ คล็อปป์ส่งอเล็กซ์ อ็อกซ์เลด แชมเบอร์เลน ลงไปเล่นแทนในช่องว่างที่คูตินโญ่ทิ้งไว้ และก็เป็นอ็อกซ์เลดคนนี้ที่ยิง 1 จ่าย 1 คว้าแมน ออฟ เดอะ แมตช์ ในเกมชนะซิตี้ไป
นี่คือ สิ่งที่คล็อปป์ ตอบแฟนบอลด้วยการกระทำ !!
เจอร์เก้น คล็อปป์ ให้สัมภาษณ์หลังจากวันเอาชนะแมนฯ ซิตี้ ว่า เขาเองไม่คิดว่าตลาดนักเตะเดือนมกราคมนี้ จะมีใครเข้ามาเสริมทีมอีก โอเค แม้จะไม่ปิดประตูซะทีเดียว แต่ดูจากทรงแล้วมันเป็นแบบนั้น
คล็อปป์เลือกที่จะบอกว่า เขามีทีมที่น่าพอใจอยู่แล้วในเวลานี้ อย่าลืมว่าอดัม ลัลลาน่า อีก 1 ตัวเก่งของทีมที่หายหน้าไปตลอดครึ่งฤดูกาลแรก กลับมาจากอาการบาดเจ็บแล้ว และคล็อปป์เองก็เล็งที่จะใช้ลัลลาน่านี่แหละที่จะสร้างความแตกต่างให้กับทีม เมื่อบวกกับอ็อกซ์เลด แชมเบอร์เลน อีกคน คล็อปป์เองมีถึง 2 ตัวเลือกในตำแหน่งนี้แล้ว
อันนี้ก็ต้องตามดูกันต่อว่า สิ่งที่คล็อปป์คิดจะถูกต้องหรือไม่ แต่ที่แน่ไม่ถูกใจแฟนบอลสายเปย์ที่อยากให้ทีมทุ่มเงินซื้อตัวดังมาเสริมทีมอย่างแน่นอน
บางครั้งคำว่าถูกใจ กับถูกต้อง มันก็ไปด้วยกันได้ลำบาก ... เคสนี้จะเป็นอย่างไรต้องคอยตาม
ดังนั้นพอจะสรุปได้ว่า ตลาดนักเตะมกราคมของลิเวอร์พูล คงมีแค่เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค ย้ายมาแค่คนเดียว
ในขณะที่ลิเวอร์พูลกำลังนิ่ง ทีมลุ้นท็อป 4 ด้วยกัน ต่างขยับหาตัวเข้ามาเสริมกันอย่างจ้าละหวั่น
ผู้สันทัดกรณีหลายคนให้ความเห็นว่า ที่ทีมท็อป 4 ต่างขยับตัวพร้อมกันรอบนี้ ปัจจัยที่สำคัญอย่างหนึ่งคือ ฟอร์มของลิเวอร์พูล ที่กำลังเข้าฝักนี่แหละ
ปกติลิเวอร์พูลมักจะพลาดกับทีมเล็กๆ ทำคะแนนหล่นเรี่ยราดตามทาง แต่ในฤดูกาลนี้กลับตรงกันข้าง กลายเป็นทีมที่แน่นอนมากในเกมเจอทีมเล็ก ถึงตอนนี้ ยังไม่แพ้ทีมเล็กเลยแม้แต่เกมเดียว
ด้วยปัจจัยเช่นนี้ ทีมอื่นๆที่เป็นคู่แข่งก็นิ่งนอนใจไม่ได้ เราจึงได้เห็นการขยับตัวพร้อมกันของทั้งแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, อาร์เซน่อล รวมไปถึงเชลซี ด้วย
เมื่อยืมมือคนอื่นมาหยุดหงส์แดงไม่ได้ ก็ต้องพึ่งตัวเองนี่แหละ ทำตัวเองให้ดี ให้เก่งที่สุดซะ ไม่ต้องไปสนใจฟอร์มทีมอื่น
ชื่อของอเล็กซิส ซานเชซ, ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมย็อง รวมไปถึงเอดิน เชโก้ เลยกลับมาอยู่บนหน้าการซื้อขายอีกครั้ง
ตรงนี้อาจจะสรุปได้แบบกำปั้นทุบดินไปหน่อย แต่ลึกๆผมก็เชื่อนะ ว่าลิเวอร์พูลฤดูกาลนี้ ใครเจอก็ต้องปวดหัวด้วยกันทั้งนั้น
ว่าแล้วก็แอบภูมิใจเล็กๆไปกับแฟนบอลลิเวอร์พูลทุกคน ที่ผ่านมาทำดีแล้ว แต่อย่าตกม้าตายแล้วกันครับ
เพราะถ้าเกิดตกม้าตายไม่ติด ท็อป 4 ผมพูดเลยว่างานนี้หนักหนาสาหัสแน่นอน เจอร์เก้น คล็อปป์
