บทสนทนาจบลงแค่นั้น ก่อนถูกเปลี่ยนเรื่องใหม่ ฉันทราบแค่เขาชื่อ พัค ซัง-โฮ

ใช่ ... เขาคือ พัค ซัง-โฮ คนเดียวกันดับที่พาทีมชาติเวียดนาม U-23 ผ่านเข้ารอบตัดเชือก และเป็นหนึ่งเดียวในอาเซียนที่ทำได้นี่แหละ

ย้อนกลับไปก่อนหน้าทัวร์นาเมนต์ ซีเกมส์ 2017 จะรูดม่านเปิด ด่อง เหงียน ดิ๊ก อุปนายกสมาคมฟุตบอลเวียดนาม มั่นใจยิ่งกว่าใครว่า เวียดนาม จะเป็นแชมป์อาเซียน ภายใต้การนำของ เหงียน ฮู่ ถัง ด้วยเหตุผลที่นักเตะดาวรุ่งฟูมฟักมากว่า 10 ปี ในอะคาเดมี่ ฮอง อันห์ ยา ลาย อยู่ในวัยที่ห้าวเป้ง

ทว่าทัพดาวทองต้องร่ำไห้ใส่ชามก๊วยจั๊บญวน หลังถูกทีมชาติไทยไล่ยำ 0-3 ที่กัวลาลัมเปอร์ ตกรอบแรกเรียบร้อยแบบไม่ต้องรอช้อยเก็บฉาก

การเปลี่ยนแปลงเริ่มขึ้นอีกครั้ง...

ปลายกันยา สมาคมฟุตบอลเวียดนามตั้ง พัค ฮัง-โซ มาดูแลทีม U-23 ท่ามกลางเสียงแซะจากสื่อในประเทศ ซึ่งคงไม่ผิด เมื่อโปรไฟล์ที่หรูหราสุดของ ฮัง-โซ คือการเป็นมือขวา กุ๊ด ฮิดดิ้งส์ ในฟุตบอลโลกชุดคว้าอันดับ 4 ในปี 2002 เท่านั้น ที่เหลือล้วนไร้ผลงานเป็นชิ้นอัน

แต่ตัดภาพกลับมาฉากปัจจุบัน ชื่อของ พัค ฮัง-โซ กำลังกลายเป็นกุนซือที่ชาวเวียดนามบูชามากสุดคนหนึ่ง

เขาเริ่มงานโดยการใช้วัตถุดิบที่มีอยู่ในประเทศ อย่างผู้เล่นชุดถูกขนานนามว่า “บาร์เซโลนา ออฟ อาเซียน” มาผสม กับทีมชาติชุดลุยฟุตบอลโลก U-20 เหยาะน้ำปลานิด สะบัดพริกไทยหน่อย เต็มพริกเล็กน้อย ออกมาเป็นเวียดนามโฉมใหม่ที่ไฉไลกว่าเดิมในแบบแผน 5-4-1

ทั้งที่แข้งส่วนใหญ่เป็นชุดที่แพ้ไทย 0-3 ที่มาเลเซียนั่นแหละ

รับแน่น รอสวนกลับตามสไตล์บอลเป็นรอง มองเผินๆคือสไตล์ "แบ็กทูเบสิก" ธรรมดา แต่ที่ไม่ธรรมดาคือความเข้าใจเกมของเด็กชุดนี้ที่เล่นด้วยกันมานาน หากคิดภาพไม่ออกลองนึกถึง "ยุคทอง" ของ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ที่หักปากกาเซียนเข้ารอบตัดเชือก เอเชียนเกมส์ 2014

บอลกับพื้นแม่นยำ ไม่โยนยาวพร่ำเพรื่อ เคลื่อนที่แบบรู้ใจ ใช้จังหวะจบสกอร์ไม่เปลือง พิษสงเหล่านั้นถูกเผยให้เห็นแล้วจากการบุกชนะ ทีมชาติไทย ในฟุตบอลรายการ M-150 CUP ที่บุรีรัมย์ ก่อนมาชิงแชมป์เอเชีย

  

มากกว่านั้นคือประสบการณ์ลูกหนังของทีมชุดนี้มีไม่แพ้ "ช้างศึก" ผู้เล่นที่ชาวไทยแซะว่าเป็น "ก้อง ห้วยไร่" อย่าง เหงียน กง เฟือง อยู่ในช่วงวัยพีกสุดขีด ผสมกับแข้งรายอื่นอย่าง โด ดุย มานห์, เลือง ซวน ตรวง, เหงียน กวง ไฮ และแท็คติกที่ลงตัวของ ฮัง-โซ ส่งให้ เวียดนามชุดนี้ถูกอัพเลเวลขึ้นจากเดิม

ที่สำคัญเด็กเหล่านี้หลายคนผ่านธงทีมชาติชุดใหญ่มาแล้ว การเจอกระดูกเบอร์เดียวกันดูเหมือนจะไม่ใช่อุปสรรคอีกต่อไป ฉะนั้นการตะบันเข้าถึงรอบตัดเชือกได้ ไม่ใช่เรื่องที่ "ฟลุ๊ก"

อีกอย่างแม้จะเป็น "ยุคทอง" ดังที่สื่อในประเทศโม้ไว้บนหน้ากระดาษตลอด 2-3 ปีที่ผ่านมา ทว่าพวกเขาแทบไม่เคยพุ่งชนความสำเร็จแบบเป็นชิ้นอันระดับทัวร์นาเมนต์ การถูกก่นด่ารอบทิศ เยาะเย้ยถากถางจากเพื่อนบ้าน ไม่ต่างจากฟืนที่ทำให้ทีมชุดนี้ลุกโชน กระหายชัยชนะ และต้องการประกาศกร้าวว่า "กูก็ทำได้"       

"ก้าวข้ามอาเซียน" เป็นวลีฟุตบอลที่ชาวไทยใช้ปลุกใจ ในการออกไปปีนป่ายกำแพงระดับเอเชีย แต่วันนี้เวียดนาม กำลังไปถึงจุดนั้นด้วยทรัพยากรลูกหนังที่เคยถูกแฟนบอลไทยยิ้มเยาะ       

วัตถุดิบที่ ด่อง เหงียน ดิ๊ก หมักบ่มและเคยขายฝันไว้กำลังผลิบานกระแทกเบ้าตาแฟนบอลเวียดนาม ด้วยสูตรสำเร็จลูกหนังของโค้ชเกาหลีใต้ และทีมนี้จะเป็นผู้ท้าชน "ช้างศึก" ชุดใหญ่ในอนาคตแน่

ในวันที่ดาวทองเต็มท้องฟ้าเวียดนาม

ท้องฟ้าแดนสยามเงียบงันราวปลูกป่าช้าในใจ...