:::     :::

เดินต่อไปในวันไร้ 'อเล็กซิส'

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
การย้ายสลับฝั่งระหว่าง อเล็กซิส ซานเชซ กับ เฮนริค มคิทาร์ยาน เป็นดีลที่ลงตัวและดีที่สุดเท่าที่จะเกิดขึ้นได้ในตลาดหน้าหนาวตอนนี้

อาร์เซน่อล จบปัญหาที่ยืดเยื้อมานานซึ่งต้องยอมรับว่าส่งผลกระทบต่อฟอร์มการเล่นของทีมอย่างเห็นได้ชัด ขณะที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ได้นักเตะคุณภาพไปร่วมทีมและตัดหน้าคู่ปรับสำคัญอย่าง แมนฯ ซิตี้ 

จริงอยู่ว่าการลุ้นแชมป์ลีกของผีแดงอาจเป็นเรื่องยากในฤดูกาลนี้ แต่ในรายการอื่นที่เหลือน่าจะมีโอกาสมากขึ้นโดยเฉพาะยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่อเล็กซิสไม่ติดคัพไท สามารถลงสนามช่วยทีมได้

ดาวเตะทีมชาติชิลีได้ย้ายสมใจ แม้ไม่ใช่แมนฯ ซิตี้ ที่มีโอกาสคว้าแชมป์ลีกสูงมากในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า แต่ชื่อชั้นของ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ไม่ได้ยิ่งหย่อนกัน และกินขาดในเรื่องความสำเร็จ ฐานแฟนบอลทั่วโลก และประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่

การย้ายมาตั้งแต่ตอนนี้จึงเป็นเหมือนการเตรียมพร้อมสำหรับการท้าทายแชมป์ในฤดูกาลหน้า ซึ่งด้วยการที่มีเขาอยู่ในทีมก็ยิ่งทำให้เพิ่มแรงดึงดูดแข้งใหม่

ที่สำคัญคือรายได้มหาศาล ซึ่งในวัยที่เพิ่งครบ 29 ปี เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา นี่คือสัญญาฉบับสำคัญที่สุดที่สามารถโกยเงินก้อนใหญ่ก่อนเข้าสู่ช่วงปลายอาชีพค้าแข้ง

ด้าน มคิทาร์ยาน แม้ไม่เต็มใจนักกับการต้องย้ายออกจากถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด แต่มองในแง่ความก้าวหน้าของเส้นทางอาชีพ ยังไงก็ดีกว่าอยู่อย่างคนไร้ค่าแบบที่ โชเซ่ มูรินโญ่ ไม่ต้องการอีกแล้ว

อาร์แซน เวนเกอร์ ยังมองเห็นคุณภาพและพร้อมชุบชีวิตให้ดาวเตะอาร์เมเนียอีกครั้ง ความเชื่อมั่นของกุนซือชาวฝรั่งเศสคือสิ่งที่มูรินโญ่ไม่มีให้อีกแล้ว 


อเล็กซิส ซานเชซ กับ เฮนริค มคิทาร์ยาน เพิ่งเดินทางมาเคลียร์เรื่องเวิร์กเพอร์มิตที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง 

ตรงนี้คือสิ่งที่ ''มคิ'' ต้องคิดให้ได้ ตัดความชอบ-ไม่ชอบออกไป เพราะไม่มีใครได้อย่างใจต้องการทุกอย่าง 

บางทีฟุตบอลเกมรุกในแบบฉบับเวนเกอร์ และอาร์เซน่อล อาจตอบโจทย์ให้เจ้าตัวเค้นฟอร์มเก่งออกมาก็ได้ หรืออย่างน้อยๆ สิ่งที่ดีที่สุดคือ การได้ลงสนามที่มากกว่าเดิม

ขณะที่อาร์เซน่อลมีหลายแง่มุมให้ต้องตามต่อ

แน่นอนว่าการเสียผู้เล่นระดับท็อปของทีมคือเรื่องเสียหายที่ไม่ควรเกินขึ้นโดยเฉพาะกลางฤดูกาลแบบนี้

อเล็กซิส คือผู้เล่นที่มีสถิติทำประตูและแอสซิสต์ดีสุดของทีมนับตั้งแต่ย้ายมาจากบาร์เซโลน่าในซัมเมอร์ 2014 (มีส่วนร่วม 121 ประตู) 

ในหลายต่อหลายนัด เขาพาทีมเอาตัวรอดได้ด้วยความสามารถเฉพาะตัว และเป็นผู้เล่นที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสำหรับทีมที่ต้องการไล่ล่าแชมป์รายการสำคัญไม่ว่าจะเป็นฝีเท้า ความมุ่งมั่น และหัวใจนักสู้อันแข็งแกร่ง 

ปืนใหญ่ได้รับผลกระทบแน่นอนกับการไม่มี อเล็กซิส ซานเชซ ในช่วงที่เหลือของฤดูกาล ซึ่งยังมีเป้าหมายสำคัญอยู่ที่การติดท็อปโฟร์ รวมถึงฟุตบอลถ้วยอีก 2 รายการทั้ง ลีก คัพ และยูโรปา ลีก ที่ตำแหน่งแชมป์คือตั๋วพิเศษนำทางกลับไปสู่เวทีแชมเปี้ยนส์ ลีก 

มีความน่าหวั่นอกหวั่นใจรออยู่กับการที่ไม่มีหนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดในทีมอีกแล้ว แต่ชีวิตต้องดำเนินต่อไป เวนเกอร์ และบอร์ดบริหารต้องหาทางอุดรูรั่วที่อเล็กซิสทิ้งเอาไว้ให้ได้มากที่สุด

มคิทาร์ยานไม่ได้เล่นในตำแหน่งเดียวกับอเล็กซิส นั่นทำให้เวนเกอร์ยังต้องการผู้เล่นที่มีคุณภาพจบสกอร์ ทำให้พยายามอย่างหนักในการล่าตัว ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมย็อง อีกราย

ดีลของ มคิทาร์ยาน รอเพียงขั้นตอนทางเอกสารก็จะเรียบร้อย พร้อมเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ขณะที่เคสของโอบาเมย็อง อาจต้องคุยกันหลายรอบ เพราะค่าตัวที่ดอร์ทมุนด์ ตั้งเอาไว้สูงกว่าที่อาร์เซน่อลต้องการจ่าย


เมซุต โอซิล (ขวา) ได้ เฮนริค มคิทาร์ยาน เป็นคู่หูในการช่วยทำเกมรุก

หากได้ทั้ง มคิทาร์ยาน และ โอบาเมย็อง ซึ่งเคยเป็นพาร์ตเนอร์กันที่เสือเหลืองมาร่วมทีมแบบแพ็กคู่กันน่าจะพอฟัดพอเหวี่ยงในปัญหาที่ อเล็กซิส ซานเชซ ทิ้งเอาไว้

อาร์เซน่อลขาดตัวที่เล่นริมเส้นไปทั้ง อเล็กซิส รวมถึง ธีโอ วัลค็อตต์ ที่ปล่อยให้เอฟเวอร์ตัน แต่คุณภาพตรงกลางที่มี ''มคิ'' เข้ามาเติม และการจบสกอร์ของ ''โอบา'' ก็จะเป็นทางเลือกให้เวนเกอร์ได้ปรับระบบการเล่นและเซตเกมรุกกันใหม่

ตอนนี้ยังไม่สามารถบอกได้ว่า ''ได้ 2 เสีย 1''  จะออกมาเวิร์กอย่างที่คิดหรือไม่ แต่อาร์เซน่อลไม่สามารถทำอะไรได้มากกว่านี้กับสถานการณ์ที่เผชิญอยู่ 

ในแง่มุมอีกอย่างที่สำคัญคือ การจบปัญหาคาราคาซังได้เสียที เวนเกอร์ จะได้เดินหน้าต่อได้เต็มๆ ไม่ต้องมาคอยตอบปัญหาเรื่อง อเล็กซิส ซานเชซ ในทุกวัน 

ดาวเตะวัย 29 ปี หมดใจกับทีมไปตั้งแต่กลับมาจากพักร้อนช่วงปรีซีซั่น และหัวเสียอย่างหนักที่ไม่ได้ย้ายออกจากเอมิเรตส์ก่อนปิดตลาดซัมเมอร์

การรั้งตัวอเล็กซิสให้ช่วยทีมอีกเฮือกส่ง ''ผลเสีย'' มากกว่า ''ผลดี'' เพราะนอกจากผลงานในสนามไม่เป็นตามเป้าแล้ว ยังก่อให้เกิดรอยร้าวในทีมอีกต่างหาก 

แม้สิ่งนี้ไม่สามารถพิสูจน์แบบจับต้องได้ แต่ทุกคนรู้อยู่แล้วด้วยเซนส์ของการทำงานและใช้ชีวิตร่วมกัน 

มิร์เรอร์ สื่อในอังกฤษเคยวิเคราะห์แล้วว่า นักเตะหลายคนในทีมไม่พอใจกับท่าทีแข็งข้อของอเล็กซิส ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา และตั้งคำถามกับความจริงจังของบอร์ดบริหารในการแก้ไขปัญหา

กลุ่มที่ไม่พอใจมองว่า สโมสรไม่มีความตั้งใจมากพอในการเคลียร์เรื่องคาราคาซังของอนาคตอเล็กซิส และเลือกเก็บนักเตะที่หมดใจเอาไว้กับทีม แถมให้อภิสิทธิ์หลายอย่างเหนือกว่าผู้เล่นคนอื่น 


อาร์เซน่อล กำลังเจรจาดึง ปิแอร์ เอเมริค โอบาเมยอง มาผนึกกำลังร่วมกับ มคิทาร์ยาน 

ทุกคนรู้ดีว่าไม่ช้าก็เร็ว อเล็กซิส ซานเชซ ต้องไป แทนที่จะปล่อยตัวในช่วงซัมเมอร์เพื่อแลกกับเงิน 50-60 ล้านปอนด์ และเดินหน้าต่อได้เต็มตัว อาร์เซน่อลกลับอาการ ''กั๊ก'' พร้อมตั้งความหวังลมๆ แล้งๆ ว่าจะสามารถโน้มน้าวใจให้ต่อสัญญาใหม่ได้

พวกเขาไม่เด็ดขาดในการตัดสินใจและบริหารจัดการได้ย่ำแย่ที่ปล่อยให้นักเตะหลายคนเข้าสู่สัญญาปีสุดท้ายซึ่งเต็มไปด้วยความเสี่ยง และขาดอำนาจต่อรองในการเจรจาทั้งเรื่องของสัญญาใหม่ และค่าตัวกับหากสุดท้ายต้องขายจริงๆ 

อาร์เซน่อลต้องยอมรับทุกความผิดพลาดอันเกิดมาจากการบริหารจัดการ และต้องจำไว้เป็นบทเรียนว่าไม่มีใครใหญ่กว่าสโมสร 

อเล็กซิส ซานเชซ พูดเอาไว้ตั้งแต่วันแรกที่ย้ายมาร่วมทีมแล้วว่า เขาต้องการความสำเร็จ อยากเป็นแชมป์ เพราะมียีนของผู้ชนะเต็มตัว หลายต่อหลายครั้งเราจึงได้เห็นตัววิ่งพล่านเหมือนคนบ้า ขณะที่คนอื่นถอดใจไปแล้ว

แต่เมื่อคิดได้ว่า อาร์เซน่อล ณ ตอนนี้ ไม่มีความทะเยอทะยานมากพออย่างที่เขามี การแยกทางจึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด

แฟนอาร์เซน่อลที่โทษ อเล็กซิส ซานเชซ ว่าสุดท้ายแล้วก็ทำในแบบเดียวกับ เอ็มมานูเอล อเดบายอร์, ซามีร์ นาสรี่, เชส ฟาเบรกาส, โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ฯลฯ ควรต้องมองให้ออกว่าแท้จริงแล้วทำไมนักเตะเหล่านี้ถึงไม่อยากอยู่กับทีมต่อไป

เวนเกอร์ เองก็ควรต้องเข้าใจด้วยเช่นกันไม่ใช่ป่าวประกาศลั่นทุ่งวาดฝันสวยงามว่าพร้อมไล่ล่าความสำเร็จ แต่การกระทำกลับตรงกันข้าม ทั้งที่ยุคปัจจุบัน พวกเขาไม่ได้สู้กับแมนฯ ยูไนเต็ด ทีมเดียวเหมือนยุคยิ่งใหญ่ของทีมเมื่อสิบกว่าปีก่อนอีกแล้ว

การเสียนักเตะอย่าง อเล็กซิส ซานเชซ ออกไปเป็นรายล่าสุดจึงไม่ใช่โลกของอาร์เซน่อลต้องหยุดลงแค่นี้ เวนเกอร์และบอร์ดต้องเดินหน้ากันต่อไปและวางแนวทางของสโมสรให้ชัดเจนว่ายังทำตัวให้คู่ควรกับการเป็นทีมใหญ่หรือไม่

พวกเขาต้องใช้การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ให้เป็นประโยชน์ หาทางออกให้ดีที่สุด และลุยไปข้างหน้าอีกครั้ง ไม่ใช่ปล่อยให้กรณีแบบ ซานเชซ ตามมาหลอกหลอนอีกในอนาคต 


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด