:::     :::

"มีสิทธิ์เจอยักษ์" คู่ต่อกรที่อาจเจอรอบต่อไปของปีศาจแดง

วันศุกร์ที่ 26 พฤศจิกายน 2564 คอลัมน์ #BELIEVE โดย ศาลาผี
2,422
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
วิเคราะห์คู่แข่งในรอบ 16 ทีมสุดท้ายที่แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดอาจจะต้องเจอ งานนี้บอกเลยว่า ของแข็งเพียบ และเลี่ยงยากจริงๆ เพราะเพราะทีมระดับท็อปคลาสของยุโรป มีสิทธิ์ลงไปเป็นรองแชมป์กลุ่มสูงมาก

จากการที่เอาชนะบียาร์เรอัลในรอบแบ่งกลุ่มและเข้ารอบ 16 ทีมของแชมเปี้ยนส์ลีกด้วยความปลอดภัยสุดๆเพราะนัดสุดท้ายไม่ว่าผลของทั้งสองคู่ในกลุ่ม F ของเราจะเป็นยังไง แมนยูไนเต็ดก็จะเข้ารอบในฐานะ "แชมป์กลุ่ม" แล้วเป็นที่เรียบร้อย

เกมนัดสุดท้ายของยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก เว้นระยะไป1อาทิตย์ วีคหน้าจะไม่มีUCL เตะ และกลับมาอีกทีคือวันที่ 7 และ วันที่ 8 ธันวาคม 2564 โดยที่นัดสุดท้าย ปีศาจแดงจะเปิดโอลด์แทรฟฟอร์ด ต้อนรับการมาเยือนของม้ามืดที่สู้ทุกทีมในกลุ่มนี้ได้อย่างสมศักดิ์ศรีอย่าง "Young Boys" ที่เคยชนะเรามาแล้ว และล่าสุดก็ยังสร้างเซอไพรส์ที่หลายๆคนคาดไม่ถึง กับการเสมอกับทีมจอมบุกอย่าง Atalanta ได้ด้วยสกอร์ 3-3

แต่แม้จะเหลืออีกหนึ่งเกมสุดท้าย แต่เราก็พอจะเห็นภาพแบบ "คร่าวๆ" แล้วว่า ทีมใดบ้างที่มีสิทธิ์จะมาเจอกับเรา โดยที่การจับสลากประกบคู่ในรอบน็อคเอ้าท์ 16 ทีมสุดท้าย จะมีขึ้นในวันจันทร์ที่ 13 ธันวาคมนี้ ซึ่งก็คือ สัปดาห์ถัดไปหลังจากสิ้นสุดการแข่งขัน UCL ในรอบแบ่งกลุ่มครบทุกคู่ทุกกลุ่มนั่นเอง

เรามาลองดูกันว่า คู่ปรับของเราในรอบต่อไป ซึ่งจะเริ่มเตะกันอีกทีช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ปี2022 มีอะไรรอต้อนรับเหล่าเด็กหนุ่มของเราอยู่บ้าง

คู่แข่งที่แมนยูมีสิทธิ์เจอในรอบ 16ทีมสุดท้ายในของแต่ละกลุ่ม

กลุ่ม A : Paris Saint-Germain

กลุ่ม B : FC Porto, AC Milan หรือไม่ก็ Atletico Madrid

กลุ่ม C : Sporting

กลุ่ม D : Real Madrid หรือ Inter Milan

กลุ่ม E = Barcelona หรือ Benfica

กลุ่ม G : Lille, RB Salzburg, Sevilla หรือไม่ก็ Wolfsburg

กลุ่ม H : Juventus

สถานะของการแข่งขัน

ในกรณีของ แมนยูไนเต็ด, อาแจ็กซ์(ของเทน ฮาก), บาเยิร์น มิวนิค, ลิเวอร์พูล และ แมนเชสเตอร์ซิตี้ เป็นแชมป์กลุ่มของตัวเองเป็นที่แน่นอนแล้ว ดังนั้น ห้าทีมนี้จะอยู่โถเดียวกันอย่างแน่นอน และเราจะไม่ต้องเจอกับทีมพวกนี้ในรอบน็อคเอ้าท์ 16 ทีมสุดท้าย


ในกลุ่ม A ของแมนเชสเตอร์ซิตี้นั้นคว้าแชมป์กลุ่มลอยลำไปแล้วด้วยการปาด PSG ไป 2-1 เมื่อคืนที่ผ่านมา และทีมฟุตบอลจากฝรั่งเศสทีมนี้ก็จะเป็นหนึ่งใน 8 ทีมที่จะต้องอยู่โถสองเป็นที่แน่นอนแล้วในการจับสลาก เพราะซิตี้นำห่าง 12 ต่อปารีส 8 แต้ม ยังไงนัดสุดท้ายก็ไล่ไม่ทัน

กลุ่มเอน่าลุ้น ไลป์ซิก กับ คลับบรูจจ์มากกว่าในเกมสุดท้าย ว่าอันดับสามใครจะได้ลงไปเตะยูโรปาลีกต่อ เพราะไล่ปารีสไม่ทัน ตกรอบUCLเป็นที่แน่นอนแล้ว

กลุ่มที่ดูจะเดายากสุดก็คือ กลุ่มเจ้าปัญหา กรุ๊ปB ของพี่ๆลิเวอร์พูลนี่แหละ เนื่องจากลิเวอร์พูลชนะรวด 5 นัด เก็บ 15 แต้มเต็ม ป่าเถื่อนสุดๆ ซึ่ง Porto, Atletico Madrid และ AC Milan ต้องแย่งชิงตำแหน่งรองแชมป์กลุ่มกันในกรุ๊ป B

โดยที่ขณะนี้ ทีมที่มีภาษีจะเข้ารอบดีที่สุด ก็คือปอร์โต้ มีอยู่ 5 คะแนน ในขณะที่เอซีมิลาน กับ แอตเลติโก มาดริด มีกันคนละ 4 คะแนนเท่ากัน แต่เมื่อวัด Head-to-Head แล้ว ขั้นแรก วัดแต้มของผลแล้วเท่ากัน(ชนะกันคนละเกม) ถัดมา วัดผลต่างประตูได้เสียยามที่เจอกันเอง ก็ยังเท่ากันอยู่, วัดจำนวนประตูที่ยิงได้ ก็ยังเท่ากันอยู่ดี (2) จึงต้องวัดกันด้วยกฎในข้อถัดมา

ซึ่งวัดกันด้วย ผลต่างประตูได้เสียเมื่อเทียบกัน "ทั้งกลุ่ม" ปรากฏว่า GD เอซีมิลาน -2 แอตมาดริด -3 ดังนั้น ปีศาจแดงดำ เอซีมิลาน จึงมีเฮดทูเฮดในขณะนี้นำทีมตราหมีอยู่

ในกลุ่มนี้ผลยังออกได้ทั้งสามหน้า ไม่ว่าปอร์โต้ แอตมาดริด หรือเอซีมิลาน ก็ยังมีสิทธิ์เข้ารอบอยู่ เพราะคะแนนใกล้ๆกัน และสามารถเฉือนกันได้ในนัดสุดท้ายทั้งหมด ซึ่ง เอซีมิลาน จะเปิดบ้านต้อนรับลิเวอร์พูล ส่วนปอร์โต้เอง ก็จะได้เฝ้าบ้านเจอ แอตเลติโกมาดริด

Scenario ที่อาจจะเกิดขึ้นในกลุ่มB สำหรับรองแชมป์ มีเยอะมาก เช่น แอตเลติโกมาดริด อาจจะชนะปอร์โต้ และ เอซีมิลาน ก็อาจจะชนะลิเวอร์พูลที่จะ "อาจจะผ่อน" จัดชุดสำรองลงในนัดสุดท้าย มิลานก็มีโอกาสชนะลิเวอร์พูลเช่นกัน

สองทีมนี้ ใครชนะคู่แข่งด้วยจำนวนประตูที่เยอะกว่ากัน และทำให้ ผลต่างประตูได้เสียในกลุ่ม (Goal Difference) ดีกว่า ทีมนั้นจะเข้ารอบทันที

แต่.. หากปอร์โต้ สามารถชนะแอตเลติโกมาดริดได้ ปอร์โต้ก็จะการันตีตามเป็นรองแชมป์กลุ่ม เข้ารอบตามลิเวอร์พูลทันทีเช่นกันแบบไม่ต้องลุ้นผลอีกคู่ เพราะแต้มนำทั้งสองทีมที่เหลืออยู่

กลุ่มนี้เดายากจริงๆ แต่ถ้าให้ลองคาดการณ์เล่นๆว่าใครจะเข้ารอบมาเป็นรองแชมป์กลุ่ม ศาลาผีคิดว่าเป็น "AC Milan" มากกว่า เนื่องจากทั้งสามทีมฟอร์มใกล้กันมากๆ แต่ลิเวอร์พูลเข้ารอบไปแล้ว และมิลานได้เปิดบ้านเล่น มีแรงขับแรงจูงใจที่จะเก็บสามแต้มเข้ารอบให้ได้ ในขณะที่ แอตเลติโกมาดริด ฟอร์มก็ไม่ถึงกับว้าวมาก แล้วต้องไปเยือนปอร์โต้ ที่ก็ต้องพยายามจะ "ชนะ" เพื่อการันตีการเข้ารอบเช่นกัน

หลายคนอาจมองว่า ปอร์โต้ กุมชะตากรรมของตัวเองอยู่ แต่ผมรู้สึกว่า คู่ปอร์โต้จะเอาชนะกันไม่ได้ แล้วก็เสมอกันไป ปอร์โต้ลงไปเล่นยูโรปาลีก ส่วนเอซีมิลาน น่าจะชนะลิเวอร์พูลได้ และเก็บสามคะแนน เป็น 7 แต้ม ตามหงส์แดงเข้ารอบไปแบบสวยๆต่อหน้าแฟนบอลเจ้าถิ่น

ส่วนกลุ่ม C ซึ่งมีอาแจ็กซ์ ของ เอริค เทน ฮาก นั้น นำโด่งยังกะมาจากนอกโลก ชนะ "5นัดรวด" เช่นเดียวกันกับลิเวอร์พูลอย่างแข็งแกร่ง และประตูได้เสีย ล่อเข้าไป +13 ประตูแล้ว ลอยลำไปอย่างสวยงาม

แหม มันน่าจับไปเจอลิเวอร์พูลจริงๆ เสียดายว่าอยู่โถเดียวกัน!!

รองแชมป์กลุ่มนี้ ตกเป็นของ "Sporting" เป็นที่แน่นอนแล้วที่การันตีการเข้ารอบ เพราะว่าพวกเขาเปิดบ้านชนะดอร์ทมุนด์มา 3-1 เมื่อวันพุธที่ผ่านมา และคะแนนนำเสือเหลืองอยู่ 3 คะแนน แต่ Head-to-Head โดยรวมแล้ว พวกเขายิงประตูรวมมากกว่าดอร์ทมุนด์ (3-2) ดังนั้นต่อให้นัดสุดท้าย สปอร์ติ้ง แพ้อาแจ็กซ์ ดอร์มุนด์ชนะเบซิคตัส แต้มขึ้นมา 6 คะแนนเท่ากัน สปอร์ติ้งก็จะเข้ารอบในฐานะรองแชมป์กลุ่มอยู่ดี

Sporting จึงเป็นอีกทีมที่มีสิทธิ์สูงที่จะได้เจอแมนยูไนเต็ดเราเช่นกัน

กลุ่ม D ทั้ง Real Madrid และ Internazionale (Inter Milan) เข้ารอบแล้วทั้งคู่แน่นอน เพราะอันดับสามอย่างม้ามืด Sheriff มีแค่ 6 แต้ม ยังไงก็ไล่ทั้งสองทีมไม่ทันแล้ว ทีมนายอำเภอเชริฟจะได้ไปวาดลวดลายคาวบอยต่อในยูโรปาลีก

แต่มาดริด กับ อินเตอร์ มีคิวจะต้องเจอกันเองในนัดสุดท้าย ราชันชุดขาวมี 12 งูใหญ่มี 10 แต้ม นัดสุดท้ายใครชนะจะได้แชมป์กลุ่มทันที ซึ่งก็ยังไม่มีอะไรแน่นอนว่าอะไรจะเกิดขึ้น เพราะคงดวลกันเดือดแน่ๆ อินเตอร์ของ ซิโมเน่ อินซากี้ ต้องชนะสถานเดียว ส่วนมาดริด แค่เสมอก็แชมป์กลุ่มแล้ว และได้เล่นในบ้านด้วย

มีแนวโน้มว่า แชมป์กลุ่มจะเป็นเรอัล มาดริด แล้วอันดับสองก็คือ "Inter Milan" ซึ่งมีสิทธิ์จะได้จับสลากเจอแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดเช่นกัน

แต่ถ้าชุดขาวพลาด ก็อาจจะได้ดู แมนยู-มาดริด ก็ได้ ใครจะไปรู้?

กลุ่ม E มี Barcelona กับ Benfica อยู่ เป็นสองทีมที่มีความเป็นไปได้ว่าจะเจอกับแมนยูไนเต็ด ซึ่งทีมจากกาตาลุญญา อาจจะใจชื้นขึ้นนิดนึงตรงที่บาเยิร์นนั้นเป็นแชมป์กลุ่ม เข้ารอบแบบพี่แซงค์ปฏิวัติ แบเบอร์ไปแล้วมันแบเบอร์ ด้วยคะแนน 15 แต้มเต็มจากชัยชนะ 5 นัดรวดอีกหนึ่งทีม โคตรรรรรเถื่อน

ดังนั้นนัดสุดท้าย บาเยิร์นเปิด Allianz Arena ต้อนรับบาร์ซ่า มีโอกาสเหมือนกันที่เสือใต้จะผ่อนเกม พักนักเตะบางคน ในเกมที่ไม่สำคัญสำหรับพวกเขาแล้ว ในขณะที่ Benfica นั้นมี Head-to-Head เหนือกว่าบาร์ซ่าในยามที่เจอกันเอง และเกมนัดสุดท้าย เบนฟิก้าเปิดบ้านต้อนรับ ดินาโมเคียฟ

Scenarioที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในกลุ่มนี้ก็คือ Benfica ไม่น่าพลาดที่จะเก็บสามคะแนนเต็มต่อทีมที่อ่อนที่สุดในกลุ่ม ซึ่งมีแค่ 1 แต้ม อย่างเคียฟได้ และพวกเขาก็จะมี 8 แต้มทันที

ส่วนบาร์ซ่า ขณะนี้มี 7 คะแนนอยู่ หากว่า "ไม่ชนะ" บาเยิร์นมิวนิค ถ้าทำได้แค่ "เสมอ" แต้มของเจ้าบุญทุ่มจะมีแค่ 8 แต้มเท่าเบนฟิก้า แต่เฮดทูเฮดแพ้เละเทะ (GD 3-0) ดังนั้น บาร์ซ่าจำเป็นต้องชนะสถานเดียว ถ้าหากคู่เบนฟิก้าชนะ ซึ่งมีโอกาสสูงสุดๆ

ในมุมมองของผู้เขียน มองว่าบาร์ซ่ามีโอกาสลงไปเล่นยูโรปาลีกอยู่เหมือนกัน หากว่าบาเยิร์นไม่"ปล่อยจอย"ซะก่อนในนัดนี้ มันก็มีโอกาสที่บาร์ซ่าจะไม่ชนะบาเยิร์นก็ได้ เพราะไปเล่นที่บ้าน บาเยิร์นก็คงจะไม่โยนเกมขนาดนั้น ศักดิ์ศรีและความเป็นมือโปรก็มี แต่ก็อาจจะส่งสำรองลงเยอะหน่อย

หลายๆสำนักเชื่อว่า บาเยิร์นคงผ่อน และบาร์ซ่าคงจะเอาชนะไป และได้ 10 คะแนน ซึ่งต่อให้เบนฟิก้าชนะเคียฟ ก็จะมีแค่ 8 แต้ม ทุกอย่างอยู่ในกำมือของบาร์เซโลน่าเอง

แต่ผู้เขียนมีความรู้สึกแปลกๆว่า "Benfica" อาจจะเป็นทีมที่เข้ารอบผ่านบาร์ซ่าไปได้ที่ 8 คะแนนเท่ากัน แต่เฮดทูเฮดดีกว่า ดังนั้น Benfica อาจจะเป็นทีมรองแชมป์กลุ่ม ที่มีโอกาสจับสลากมาเจอแมนยูไนเต็ด แถมเป็นคู่ปรับในประวัตศาสตร์ของทีมเราด้วยในอดีตเมื่อยุค  60s

ส่วนเสือใต้ บาเยิร์น มิวนิคเอง ก็มีโอกาสที่จะแสดงศักยภาพให้เห็นกันจะจะด้วยการพยายามขยี้บาร์ซ่า เก็บชัย 6 นัดรวด ประกาศความอหังการให้โลกรู้ว่าพวกกูมาแล้ว ในขณะที่โดยเฉพาะ "Robert Lewandowski" ที่จักรยานเทพเจ้าในเกมที่ผ่านมา เขาต้องการที่จะทำประตูให้ได้ในทุกๆนัดที่เล่นUCL ไม่ต่างอะไรกับ "Cristiano Ronaldo" ของเราเลย และนั่นจะเป็นฝันร้ายของบาร์ซ่าแน่นอนถ้าเลวานฯกดท่าใหญ่ติดอีก แล้วเบนฟิก้าถล่มดินาโมเคียฟเละเทะ

กลุ่มนี้ถือว่า ยังต้องลุ้นกันมันส์หยด ยังไม่แน่สำหรับทีม2Bนี้

กลุ่ม G โอกาสยังเปิดกว้างอยู่มากของทั้ง 4 ทีมว่า ใครจะเข้ารอบเป็นสองทีมสู่แมตช์น็อคเอ้าท์ได้

Wolfsburg อยู่รั้งท้ายในกลุ่มด้วยการมี 5 แต้ม แต่จะเข้ารอบได้ ถ้าพวกเขาสามารถชนะแชมป์กลุ่มอย่าง "Lille" (ลีลล์) ได้ในเกมที่บ้านนัดสุดท้าย

ทีมแชมป์ลีกเอิงอย่างลีลล์ที่โดนแร้งลงไปบางส่วนนั้น ต้องการเพียงแค่ "แต้มเดียว" เพื่อที่จะการันตีการเข้ารอบ เพราะอันดับ 2 อย่าง ซัลซ์บวร์ก กับอันดับ 3 อย่าง เซบีญ่า ต้องมาวัดกันเองในนัดสุดท้าย ซึ่ง เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก จะเปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของเทพยูโรปาลีกอย่าง เซบีญ่า

ซัลซ์บวร์กขอแค่ "ไม่แพ้" เซบีญ่า ไม่ว่าจะชนะหรือเสมอ ก็จะเข้ารอบทันทีเช่นกัน เพราะมี 7 คะแนน นำเซบีญ่าอยู่ 1แต้ม ถ้าซัลซ์บวร์กมี 8 แต้ม แล้วโวล์ฟสบวร์กชนะลีลล์ ได้8แต้ม RB Salzburg จะเข้ารอบ เพราะ Head-to-Head กับ Wolfsburg ดีกว่า

ส่วนสถานการณ์ของ Sevilla นั้นจำเป็น "ต้องชนะ" RB Salzburg ให้ได้สถานเดียวเท่านั้นถึงจะเข้ารอบ

ดูจากผลงานในกลุ่มนี้แล้ว ผู้เขียนรู้สึกว่า Lille อาจจะสามารถยันเสมอกับ Wolfsburg ได้ พอๆกับที่ Wolfsburg อาจจะฮึดเอาชนะลีลล์ได้แบบหลังชนฝา เล่นในบ้านนัดสุดท้ายด้วย

ส่วนคู่ซัลซ์บวร์ก ได้เปิดบ้านรับ เซบีญ่า คิดว่า ทาง RB Salzburg ดูจะมีภาษีที่ดีกว่า ฟอร์มดีกว่า ได้เล่นในบ้าน และกุมความได้เปรียบอยู่ เพราะเล่นเอาเสมอก็เข้ารอบแล้ว ดีไม่ดีจะชนะซะด้วยซ้ำ เก็บเป็น 10 คะแนน อาจจะได้แชมป์กลุ่ม ส่วน Wolfsburg หากฮึดเอาชนะ Lille ได้ ก็จะเข้าเป็น "รองแชมป์กลุ่ม" ในฐานะอันดับสอง มี8คะแนนเท่ากับลีลล์ทันที

แต่ Head-to-Head ถ้าพวกเขาชนะลีลล์ได้ ก็จะเหนือกว่าเช่นกัน ดังนั้นสำหรับกลุ่ม G ที่ดูคะแนนใกล้เคียงกันและโอกาสเปิดกว้างนั้น มันก็มีบางอย่างที่สามารถวิเคราะห์Scenarioที่อาจจะเกิดขึ้นได้ไม่ยากนัก

คิดว่า "Wolfsburg" คือคู่แข่งที่แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดอาจจะได้เจอในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ซึ่งแมนยูไนเต็ดเจอโวล์ฟสบวร์กล่าสุดสองครั้ง คือปี 2010 กับ 2016 ซึ่งไฮไลต์กับทีมนี้ที่แฟนผีจำได้ก็น่าจะเป็นเกมเยือนที่บุกไปชนะโวล์ฟสบวกร์ก 1-3 ในวันที่ 8 ธันวาคม ปี 2009

แหม พูดแล้วก็คิดถึงลูกยิงแฮททริกของตำนานลิเวอร์พูลอย่าง ไมเคิล โอเว่นเลยจริงๆ..

กลุ่ม H Chelsea และ Juventus นั้นเข้ารอบแล้วเรียบร้อย ถึงแม้ว่าจ่าฝูงพรีเมียร์ลีกอย่างสิงห์บลูส์จะเพิ่งเปิดรังสแตมฟอร์ด บริดจ์ ไล่ยำยูเว่สนุกเท้าไปถึง 4-0 เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมาพร้อมกับทีมเรา เชลซีจะบุกไปเยือน Zenit St Petersburg ถ้าเก็บชัยชนะในวันนั้นได้ ก็จะการันตีการเป็นแชมป์กลุ่มทันที โดยไม่ต้องลุ้นคู่ที่ ยูเว่ เปิดบ้านเจอกับ Malmo เพราะว่า Head-to-Head เชลซีดีกว่ายูเว่

ในขณะที่เซนิตเอง ก็การันตีการลงไปเล่น ยูโรปาลีก เช่นกัน ไม่ต้องกลัวว่าจะโดนมัลโม่แซง เพราะ Head-to-Head เซนิต ดีกว่ามัลโม่ ต่อให้พวกเขาแพ้นัดสุดท้าย แล้วมัลโม่ชนะยูเว่ได้ เซนิตก็จะจบที่3อยู่ดี

แรงจูงใจไม่มี ในขณะที่เชลซีก็ต้องการการันตี การบุกไปเยือนเซนิต ไม่น่าใช่งานยากของเชลซี และเชื่อว่าสิงห์บลูส์คงจะคว้าแชมป์กลุ่มแน่ๆ

ดังนั้น "Juventus" คือคู่ต่อสู้ที่มีแนวโน้มจะเจอแมนยูไนเต็ดได้ (เพราะไม่ว่ายังไงก็ตาม ไม่มีทางได้เจอเชลซีแน่นอน ต่อให้เชลซีหล่นมาเป็นรองแชมป์กลุ่มนัดสุดท้าย เพราะมาจากลีกประเทศเดียวกันกับแมนยูไนเต็ด)

ถ้าต้องเจอยูเว่ แม้ฟอร์มจะดรอปลงมา แต่ก็ยังน่ากลัวสุดๆ..

*อนึ่ง แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดนั้น ในการจับสลาก ไม่สามารถที่จะเจอกับคู่แข่งร่วมรอบแบ่งกลุ่มอย่าง บียาร์เรอัล หรือ อตาลันต้า ซ้ำได้ ในขณะที่ก็จะบล็อคการจับสลากให้ไม่สามารถเจอสโมสรจากอังกฤษด้วยกันเอง อย่างเชลซี แมนซิตี้ ลิเวอร์พูล

รอบ 16 ทีมสุดท้าย จะจับสลากกันในวันที่ 13 ธันวาคมนี้ที่ Nyon, Switzerland ตามเวลา 11:00 GMT (บ้านเราน่าจะราว 6 โมงเย็น) ถ่ายทอดสดบน BT Sport ที่UK โดยที่ทีมรองแชมป์จะต้องเล่นเป็นเจ้าบ้านก่อนในเลกแรก

และที่สำคัญ กฎ "away-goals" ยกเลิกไปแล้วในฤดูกาลนี้

-ศาลาผี-

[ของแถม]

ตามความรู้สึกของผู้เขียน เท่าที่ดูทีมที่มีโอกาสเข้ารอบมาเจอเรานั้น มีความรู้สึกดังนี้

Group A = Paris Saint-Germain (น่าจะโหดที่สุดในบรรดาทีมที่เรามีสิทธิ์ต้องเจอแล้ว)

Group B = FC Porto, AC Milan หรือ Atletico Madrid (หนักๆทั้งนั้น กลุ่มลิเวอร์พูลนี่แหละ ทีมเค้าชนะรวดมา5นัดได้ไง?)

Group C = Sporting (พอไหว)

Group D = Real Madrid หรือ Inter Milan (โอ้โห ให้ตายเถอะโรบิ้น)

Group E = Barcelona หรือ Benfica (ไม่ถูกโรคกับบาร์ซ่า ขอเบนฟิก้าแทนได้มั้ย?)

Group G = Lille, RB Salzburg, Sevilla หรือ Wolfsburg (ทีมอะไรก็ได้ที่ไม่ใช่เซบีญ่า)

Group H = Juventus (ไม่อ๊าวววววววววว)

**ทีมที่ทำตัวหนาไว้ในบทความนี้ คือทีมที่ผู้เขียนเก็งว่าน่าจะเข้ารอบ

Reference

https://www.manutd.com/en/news/detail/champions-league-state-of-play-on-24-nov-as-united-win-group

https://www.uefa.com/uefachampionsleague/standings/

https://www.uefa.com/uefachampionsleague/match/2000430--wolfsburg-vs-man-united/

https://www.youtube.com/watch?v=olbtG1gXq4M
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด