ผู้รักษาประตู

ไมเคิล ฟาลเคสการ์ด (ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด)

จอมหนึบในเลกแรก ขอมอบให้กับแข้งฟิลิปปินส์ลูกครึ่งเดนมาร์กรายนี้ แม้ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด จะไม่ได้เป็นแชมป์เลกแรก และเสียไปถึง 12 ประตู มากกว่า ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน ผู้รักษาประตูที่พา บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จบการเป็นแชมป์เลกแรกในลีกสูงสุด แต่สถิติการเซฟของเขานั้นยอดเยี่ยมเอามากๆ 

มือกาวรายนี้เก็บคลีนชีตไปทั้งหมด 6 นัด ประกอบด้วย ชนะ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 2-0, ชนะ นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี 2-0, ชนะ ชลบุรี เอฟซี 1-0, ชนะ ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด 4-0, ชนะ โปลิศ เทโร เอฟซี 5-0 และ ชนะ ขอนแก่น ยูไนเต็ด 1-0 เรียกว่าเหนียวหนึบจนช่วยทีมฟาดไปได้ถึง 18 คะแนนเต็มๆ

แบ็คซ้าย

ปิยพล ผานิชกุล (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)

หากเทียบกับคนอื่นๆ ที่เป็นแบ็คซ้ายอาชีพแล้ว ผลงานของ ปิยพล กับการถูกจับมาเล่นตำแหน่งที่ไม่ถนัด ดูแล้วทำได้ดีเกินความคาดหวังไปเยอะมาก ด้วยการเล่นที่ใช้สมองบวกกับเทคนิคส่วนตัวที่ยอดเยี่ยม นอกจากนี้ยังมีสกิลเลี้ยงบอลติดเท้า และเปิดบอลแม่นยำ

ผ่านมาเลกแรกเขาได้โอกาสลงสนามเป็นตัวจริงถึง 11 เกม และตัวสำรองอีก 3 นัด ยิงได้ 1 ประตู พร้อมกับทำแอสซิสต์ให้เพื่อนได้ด้วย นอกจากนี้ยังมีบางเกมที่ขยับมาเป็นแดนกลาง คอยเชื่อมเกมให้กับเพื่อนๆอีก เรียกได้ว่าเป็นครึ่งทางของฤดูกาลที่ผลงานยอดเยี่ยมจริงๆ สำหรับแข้งสารพัดประโยชน์รายนี้

เซนเตอร์ฮาล์ฟ

เรบิน ซูลาก้า (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)

นานมากแล้วที่ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เสาะตามหาปราการหลังระดับพรีเมี่ยม หลังจากปล่อย ออสมาร์ อิบันเยซ ให้กับ เอฟซี โซล และฤดูกาลก่อนก็เสีย อันเดรส ตูเญซ ไปให้กับ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด จนแมวมองของทีมไปเจอเพชรเม็ดงาม เจ้าของส่วนสูง 192 เซนติเมตร ที่เคยผ่านการเล่นกับ เลฟสกี้ โซเฟีย ในลีกบัลแกเรีย มาแล้ว

นั่นคือ เรบิน ซูลาก้า เซนเตอร์ตัวหลักทีมชาติอิรักลูกครึ่งสวีเดน ซึ่งเข้ามาเป็นกุญแจสำคัญในแผงหลัง กับการเล่นที่ดุดันสไตล์ยุโรป การอ่านเกมที่เฉียบขาด และการเข้าปะทะที่หนักหน่วง จนเกมรับของ "ปราสาทสายฟ้า"แข็งแกร่งขึ้นมาก อีกทั้งยังมีชื่อลุยศึกฟีฟ่า อาหรับ คัพ 2021 ที่ประเทศกาตาร์ ระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน - 18 ธันวาคม นี้อีกด้วย

เอเวอร์ตัน กอนคัลเวส (ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด)

หลังย้ายมาร่วมทีมทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ตั้งแต่ปี 2018 เขาลงสนามให้ทีมไปแล้วมากกว่า 100 เกม ด้วยฟอร์มการเล่นที่สม่ำเสมอและเป็นหัวใจในเกมรับมาตลอดระยะเวลาเกือบ 4 ปี ทำให้ปัจจุบัน เอเวอร์ตัน รับบทบาทเป็นกัปตันทีมแบบสมเกียรติอีกด้วย

ในปีนี้เขาส่วนร่วมในเลกแรกทุกนัด ลงไปทั้งหมดเต็มๆ 1,350 นาที ซึ่งถือว่าเป็นผู้เล่นคนสำคัญอย่างยิ่งของ "แข้งเทพ" ที่กำลังจะต่อยอดลุ้นแชมป์ไทยลีกหนแรก ภายใต้ชื่อสโมสร ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด แถมในเลกสองก็กำลังจะได้พาร์ทเนอร์แนวรับอย่าง สุพรรณ ทองสงค์ เข้ามา หลังหมดสัญญากับ สุพรรณบุรี เอฟซี ไปแล้ว

แบ็คขวา 

ทริสตอง โด (ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด)

เป็นการกลับมาทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมจริงๆ สำหรับ ทริสตอง โด หลังจากหลายฤดูกาลที่ผ่านมา ฟอร์มของเขาดร็อปลงอย่างน่าใจหาย ทั้งๆ ที่เคยเป็นแบ็คขวาที่ร้อนแรงอย่างมาก นับตั้งแต่ย้ายมาเล่นกับ โปลิศ เทโร เอฟซี ก่อนจะย้ายมาช่วยพา เมืองทอง ยูไนเต็ด คว้าแชมป์ไทยลีก เมื่อฤดูกาล 2016

2 ประตูที่เขาทำได้กับ "แข้งเทพ" ในเลกแรก และฟอร์มการเติมเกมบุกที่ยอดเยี่ยมแบบต่อเนื่อง นับเป็นส่วนสำคัญที่ในการไล่ล่าแชมป์ไทยลีก 2021/2022 หากทำได้จะถือเป็นการฉลองให้กับ ขจร เจียรวนนท์ ที่ก้าวมาเข้ามาบริหารสโมสรฟุตบอล ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ครบ 10 ปีพอดี

กองกลาง

สารัช อยู่เย็น (บีจี ปทุม ยูไนเต็ด)

ฟันเฟืองในแดนกลางของ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ที่ผลงานดีอย่างต่อเนื่อง ทั้ง คิลเลอร์พาส, วางบอลสั้นยาว, ไล่อัดตัดเกม ล้วนแต่มาจากการทำผลงานที่ดีของเขา ซึ่งถือกองกลางระดับเบอร์ต้นๆ ของเมืองไทยในเวลานี้ 

แม้การป้องกันแชมป์ของ "เดอะ แรบบิท" เป็นเรื่องท้าทายอย่างมาก เพราะพวกเขาจบเลกแรกด้วยการตามหลัง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด อยู่ 5 แต้ม แต่การมี "ตังค์" ในแดนกลาง เป็นอาวุธเด็ดที่พร้อมจะเผชิญหน้าเกมรุกในเลกสอง น่าสนใจว่าการได้ วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ มาจากชลบุรี จะยิ่งช่วยให้บทบาทของทั้งคู่โดดเด่นไปพร้อมๆ กันได้หรือไม่

ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ (ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด)

เรื่องช็อกก่อนเปิดฤดูกาล 2021/2022 ก็คือ ปวิณ ภิรมย์ภักดี ประธานสโมสรบีจี ปทุม ยูไนเต็ด ประกาศขาย ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ ที่มีส่วนให้ทีมคว้าแชมป์ไทยลีก 2020 และเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก 2021 ก่อนจะเป็น ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ที่ยืมตัวมาในเลกแรก 

แต่การคว้า"นิว" ทำให้ขุมกำลังในแดนกลางของ "แข้งเทพ" แน่นกว่าเดิมมาก แม้ช่วงแรกอาจจะเริ่มต้นปรับตัวด้วยการเป็นสำรองก่อน แต่เขาก็ใช้เวลาไม่นานในการเข้ามาเป็นฟันเฟืองของ "โค้ชแบน" ธชตวัน ศรีปาน ซึ่งตั้งแต่เดือน ม.ค.2022 เป็นต้นไป สัญญาฉบับใหม่กับการอยู่ในถิ่น ทรู สเตเดี้ยม แบบถาวร จะเริ่มสตาร์ทภายในระยะเวลา 3 ปี

วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ (ชลบุรี เอฟซี)

ครึ่งปีแรกที่มหัสจรรย์ของ วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ หลังจากระเบิดฟอร์มการเล่นอย่างเอกอุ ในการทำเกมรุกให้กับ ชลบุรี เอฟซี เรียกได้ว่าคุ้มค่าและอาจจะดูดีกว่า จิดี้ คานยุค ที่ย้ายมาจาก นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ด้วยซ้ำ หลังจากที่ "ยิม" ทำไปแล้ว 4 แอสซิสต์ และอีก 8 ประตูในฤดูกาลนี้

ฟอร์มแบบนี้เองที่ทำให้เขาลบคำสบประมาทจากแฟนบอลบางราย ที่มองว่าเขาเองเป็น "ดาวรุ่งตลอดกาล" ลงอย่างราบคาบ ด้วยการเล่นที่ดูดุดัน และเปี่ยมด้วยเทคนิค จนกลายเป็นคีย์แมนหลักของ "ฉลามชล" ที่พาทีมก้าวไปจบอันดับ 3 ในตารางเลกแรก จนต่อยอดถึงการลุ้นแชมป์ด้วย

ในเลกที่สองความท้าทายต่อไปของ "ยิม" คือการออกจากอ้อมอก "ฉลามชล" ไปอยู่กับ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ด้วยค่าตัวสุดแพง และต้องเดินหน้าอาชีพค้าแข้งในสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไป ส่วนจะเป็นอย่างไรนั้น ผลงานในสนามจะตอบคำถามให้เห็นเอง

กองหน้า

เฮแบร์ตี้ แฟร์นานเดส (ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด)

เหลืออีก 3 ประตูเท่านั้น เขาก็จะกลายเป็น "เทพเจ้าไทยลีก" คนใหม่อย่างเป็นทางการ ด้วยการลบสถิติของ คลีตัน ซิลวา อดีตกองหน้าเพื่อนร่วมชาติที่เคยเล่นให้กับ โอสถาสภา, โปลิศ เทโร เอฟซี, เมืองทอง ยูไนเต็ด และ ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด ซึ่งทำสถิติยิงสูงสุดตลอดกาลไว้ที่ 144 ลูก 

ในเลกแรกเขาไม่ใช่ "เดอะ แบก" ของ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด แต่เขาเป็นหนึ่งในกลจักรสำคัญในเกมรุก ที่ช่วยประสานงานกับ วานเดอร์ หลุยซ์, ปกเกล้า อนันต์, ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ ฯลฯ ได้อย่างน่าเกรงขาม และกลายเป็นดาวซัลโวสูงสุดของทีม ด้วยการยิงไป 9 ประตู พร้อมพาทีมล่าแชมป์ไทยลีก แบบเต็มตัว

แฮมิลตัน โซอาเรส (หนองบัว พิชญ เอฟซี)

เจ้าของความสูง 191 ซม. เพิ่งย้ายจากลีกคูเวตเข้ามาเล่นไทยลีกเพียงฤดูกาลแรกเท่านั้น แต่ฟอร์มของเขากลับเปรี้ยงปร้างและน่าอัศจรรย์จนเป็นที่กล่าวขานไปทั่ว ซึ่งในเลกแรกเขายิงไปถึง 10 ประตู กลายเป็นดาวซัลโวสูงสุดของลีกร่วมกับ วิลเลียน พ็อพพ์ ของ เมืองทอง ยูไนเต็ด

โดยเฉพาะการคว้ารางวัลประตูยอดเยี่ยม ในเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา จากการกระโดดวอลเลย์แบบสุดสวย ถือเป็นการสร้างความสั่นสะเทือนให้กับวงการลูกหนังอาชีพไทย ที่นานๆ จะได้เห็นการทำประตูด้วยลีลามหัศจรรย์เช่นนี้ ในเกมที่พลพรรค "พญาไก่ชน" เปิดบ้านเอาชนะ สุพรรณบุรี เอฟซี 2-1 เมื่อ 24 ต.ค. 2564

ศุภชัย ใจเด็ด (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)

ถือเป็นเลกแรกที่ยอดเยี่ยมของหัวหอกทีมชาติไทย หลังกดไป 8 ประตู พร้อมกับ 4 แอสซิสต์ เท่ากับ วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ จอมทัพของ ชลบุรี เอฟซี ปี 2021 กลายเป็นปีที่เขาโชว์ฟอร์มได้ร้อนแรงที่สุด นับตั้งแต่ก้าวมาเล่นให้กับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เพราะยังไม่เคยมีฤดูกาลไหนที่ยิงได้มากกว่า 5 ลูกเลย

ว่ากันว่าลูกยิงของเขาแต่ละเม็ด มีความหลากหลายทั้งเท้าซ้าย-ขวา และลูกโหม่ง ซึ่งมาจากการซ้อมอย่างหนัก และความตั้งใจที่อยากจะก้าวมาเป็นหัวหอกระดับแถวหน้าทีมชาติไทย จนสามารถพาทีมคว้าแชมป์เลกแรกไปได้ จับตาดูกันต่อไปว่าใน เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020 ชื่อของ ศุภชัย ใจเด็ด จะร้อนแรงมากเพียงใด

โค้ชยอดเยี่ยม

ธชตวัน ศรีปาน (ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด)

แม้จะจบด้วยการพาทีมคว้ารองแชมป์เลกแรก โดยมี 32 แต้มเท่ากับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แต่ประตูได้เสียเป็นรอง ถึงกระนั้น "ปราสาทสายฟ้า" ยังวางใจไม่ได้ เพราะตอนนี้ ผลเฮดทูเฮด ซึ่งจะใช้เป็นเกณฑ์ตัดสินแชมป์หลังจบฤดูกาลนั้น ถือว่าพลพรรค ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ยังได้เปรียบในเรื่องนี้อยู่มาก

การไม่เปลี่ยนแปลงทีมเยอะเกินไป ถือเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้ "โค้ชแบน" พาทีมเริ่มต้นซีซั่นอย่างร้อนแรง ปีนี้นับเป็นโอกาสที่ดีกับการเข้าใกล้คว้าแชมป์ไทยลีก และถ้าทำได้ก็จะเป็นสมัยที่ 2 ของสโมสร หลังจากในชื่อเดิมอย่าง ม.กรุงเทพ เคยสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์เป็นสมัยแรกในการแข่งขันไทยฟุตบอลไทยแลนด์พรีเมียร์ ลีก ครั้งที่ 10 ฤดูกาล 2548-2549 

สำรอง

ผู้รักษาประตู

ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)

จอมเซฟประสบการณ์สูงทำผลงานอย่างโดดเด่นจริงๆ เมื่อมีเขาอยู่ในสนามจะทำให้รุ่นน้องทั้ง 10 คนอุ่นใจเสมอ จนทีมสามารถคว้าแชมป์เลกแรกไปครอง พร้อมกับทำสถิติเสียประตูน้อยสุดในเลกแรก

กองหลัง

นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)

มาตรฐานการเล่นไม่มีตก สำหรับ "ผู้กองต้น" ทั้งลีลากระชากลากเลื้อยเพื่อไปเปิดบอล หรือการไล่ประกบปีกคู่แข่ง ทำให้เพื่อนๆ ต่างวางใจกัปตันเบอร์ 15 แห่งทัพ "ปราสาทสายฟ้า"

เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว (นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี)

หากวัดกันที่ผลงานของทีม ต้องถือว่าพวกเขาทำได้ดีจริงๆ และเกมหลังบ้านที่มีกัปตันรายนี้คอยออแกไนซ์ มันช่างแข็งแกร่งเสียเหลือเกิน และเขายังเป็นเพียงคนเดียวที่ลงเล่นต่อเนื่องทุกนัดมาตั้งแต่ฤดูกาลที่แล้วจนถึงปัจจุบันรวม 45 เกมแบบไม่เคยถูกเปลี่ยนตัวออกหรือติดโทษแบนเลย

กองกลาง

รัชนาท อรัญไพโรจน์ (สุพรรณบุรี เอฟซี)

เป็นเลกแรกที่ยอดเยี่ยมของ "เช็ก" ที่ทำหน้าที่โดดเด่นอย่างมาก ทั้ง คุมจังหวะเกม เปิดบอลสั้น-ยาว หรือแม้แต่ฟรีคิกที่ทำผลงานได้ออกมาแบบเด็ดดวงสะระตี่จริงๆ พร้อมกับฝากผลงานในการซัดไปทั้งสิ้นถึง 5 ประตู

ปกรณ์ เปรมภักดิ์ (การท่าเรือ เอฟซี)

เจ้าของสถิติท็อปแอสซิสต์ในเลกแรก ด้วยการปั้นบอลให้เพื่อนยิงประตูไปทั้งหมด 5 ครั้ง จากเท้าขวาข้างถนัด แต่โชคร้ายมาได้รับบาดเจ็บกล้ามเนื้อฉีกในเกมสุดท้ายที่ออกไปชนะ หนองบัว พิชญ เอฟซี 1-0 จนต้องถอนตัวออกจากทีมชาติไทย

เลอสันต์ เทียมราช (หนองบัว พิชญ เอฟซี)

เจ้าของคาแร็คเตอร์สุดจ๊าบ เอาเสื้อทับในกางเกง ก้าวขึ้นมาเป็นจอมทัพที่น้องใหม่ในไทยลีก 1 จะขาดไปไม่ได้เลย ด้วยการทำเกมรุกอย่างชาญฉลาด ไปกับบอลได้ดี และเข้าขามากๆ กับ แฮมิลตัน โซอาเรส หัวหอกดาวซัลโวของทีม

กองหน้า

วานเดอร์ หลุยซ์ (ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด)

เป็น 15 เกมแรกที่เขาใช้ทักษะการเลี้ยง ล่อหลอก ยิงประตู อย่างสุดยอด ประสานงานกับ เฮแบร์ตี้ แฟร์นานเดซ จนแนวรับตรงข้ามหัวหมุนเลยทีเดียว และซัดไปได้ 6 ลูกพร้อมกับมีส่วนร่วมกับอีกหลายประตูของทีม "แข้งเทพ"

วิลเลียน พ็อพพ์ (เมืองทอง ยูไนเต็ด)

10 ประตู จาก 15 เกมที่เขาลงเล่น ทำให้เขากลายเป็นดาวซัลโวเลกแรกของไทยลีก 2021/2022 ร่วมกับ แฮมิลตัน ซัวเรซ กองหน้าของ หนองบัว พิชญ เอฟซี ไปโดยปริยาย