สิ่งที่หลายคนสนใจคือ มาโน โพลกิง จะจัด 11 คนแรกลงสนามในรูปแบบไหน
อย่างที่เกริ่นไปในงานเขียนก่อนหน้า “ช้างศึก” เชือกนี้ มีสภาพผู้เล่นที่สมบูรณ์สุดในรอบ 10 ปี คงไม่ผิดนัก ทีมมีขุมกำลังฝีเท้าดีให้เลือกสรรนับไม่ถ้วน
26 ขุนพล ที่อยู่ ณ สิงคโปร์ เวลานี้ (อีก 4 คนตามมาสมทบทีหลัง) สามารถสลับสับเปลี่ยนลงเล่นได้หลายแบบแผน และทดแทนกันได้อย่างไร้ปัญหา
วันนี้เราจะมาอ่านใจ เฮดโค้ชบราซิเลียนกัน
ป.ล. ขณะเขียนคอลัมน์นี้ ทีมชาติไทย ยังไม่ส่งชื่อ 23 คนสุดท้าย
ระบบการเล่น
แม้อินฟลูเอนเซอร์สายบอลไทย จะคาดเดาต่าง ๆ นานา ว่า มาโน โพลกิง จะมีการปรับรูปแบบการเล่น จากการวิเคราะห์ผู้เล่นที่ติดทีมมา แต่ผู้เขียนยังเชื่อสนิทใจว่า เจ้าตัวจะยังคงยึดระบบเก่ง 4-2-3-1 ลงสนามเช่นเดิม
เหตุผลคือ ด้วยทัวร์นาเมนต์ที่มีการเตรียมทีมระยะสั้น การใช้แบบแผนการเล่นที่ถนัดสุด และแมสสุดในฟุตบอลยุคนี้อาจเป็นทางเลือกที่ “เซฟ” และทำความเข้าใจง่ายมากกว่า ขณะที่ระบบการเล่นอย่าง 4-4-2 หรือ 3-5-2 ผู้เขียนยังเชื่อว่าสามารถเปลี่ยนระหว่างเกม หรือช่วงแก้เกมได้ แต่ระบบยืนพื้นสไตล์ “มาโนสกอร์สูง” ยังคงคิดว่าเป็น 4-2-3-1
ผู้รักษาประตู
ทั้ง ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน และ ฉัตรชัย บุตรพรม ฝีไม้ลายมือถือว่าไม่ได้ต่าง โอกาสลงสนามทั้งคู่ถือว่ามีมากพอกัน แต่หากให้เลือกและเดาใจเชื่อว่าเกมแรก มาโน อาจให้ “บอย” สตาร์ทตัวจริงก่อน “แชมป์”
กองหลัง
ขณะที่ผู้เขียนกำลังรัวคอลัมน์อยู่นี้ ทีมชาติไทย มีแนวรับแท้ ๆ ให้ใช้งานแค่ 7 คนเท่านั้น หลัง ธี่ราทร บุญมาทัน และ ฟิลิป โรลเลอร์ จะเดินทางตามมาสมทบทีหลัง
ตำแหน่งแบ็กซ้าย-ขวา แน่นอนว่าฝั่งซ้ายเมื่อไม่มี “อุ้ม” ตัวเลือกเดียวที่เหลือคือ สุริยา สิงห์มุ้ย ที่น่าจะถูกจับประเดิมสนามในเกมแรก ขณะที่ฝั่งขวา เชื่อว่า มาโน จะใช้งาน ทริสตอง โด ก่อน นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม ด้วยเหตุผลที่วัวเคยค้าม้าเคยคู่ ลูกศิษย์เก่าที่ ทรู แบงค็อกฯ ซึ่งเจ้าตัวน่าจะมีคู่มือการใช้งาน และให้โอกาสลงสนามก่อน
คู่เซ็นเตอร์ มานูเอล ทอม ยืนเป็นตัวหลักอยู่แล้ว ขณะที่พาร์ตเนอร์ ผู้เขียนเลือกจิ้มไปที่ เอเลียส ดอเลาะ แม้ โจนาธาน เข็มดี จะมีเกมที่ดีในทีมชุดไม่เกิน 23 แต่นี่คือการขึ้นมาเล่นทีมชุดใหญ่ครั้งแรก น่าจะให้โอกาสนักเตะหน้าเดิมลงเล่นก่อนในเกมพบ ติมอร์ เลสเต
กองกลาง
แม้มีตัวเลือกชนกันมากมาย แต่เชื่อว่า มาโน่ จะใช้งาน สารัช อยู่เย็น กับ ธนวัฒน์ ซึ่งจิตถาวร ยืนคู่กัน “ตัง” คือตัวเลือกหมายเลข 1 ในแดนกลางอยู่แล้ว ขณะที่ “กัน” เองถือว่าทำผลงานได้ค่อนข้างดีที่ผ่านมา คลาสบอลของเขาถูกยอมรับอย่างรวดเร็ว ซึ่งน่าจะเป็นคู่ลงตัวที่สุดในเวลานี้ โดยมี พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล และ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ รอโอกาสข้างสนาม
ตัวรุก
ฝั่งซ้าย สุภโชค สารชาติ น่าจะเป็นตัวยืนหลัก ขณะที่ตัวกลางที่เป็นตำแหน่ง ชนาธิป สรงกระสินธ์ ที่ยังติดภารกิจอยู่กับ ซัปโปโร น่ะให้ วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ ที่ฟอร์มกระฉูดในลีกลงเป็นตัวจริง โดยมี ปกเกล้า อนันต์ รอโอกาสบนม้านั่งสำรอง ส่วนฝั่งขวาขอหักปากกาเซียนว่า พิชา อุทรา อาจได้รับโอกาสลงเล่นก่อน ศิวกรณ์ เตียตระกูล
กองหน้า
หากไม่บาดเจ็บหรือสภาพร่างหายไม่ฟิต ธีรศิลป์ แดงดา น่าจะได้รับโอกาสเป็นกองหน้าตัวเป้าอยู่แล้ว แม้ ศุภชัย ใจเด็ด จะมีผลงานที่ยอดเยี่ยม แต่การเลือกใช้ประสบการณ์ของ “มุ้ย” ลงไปเล่นก่อน แล้วค่อยใช้ “อาร์ม” หรือ อดิศักดิ์ ไกรษร ลงมาเติมเต็มเพิ่มมิติเกมรุกในครึ่งหลัง น่าจะมีโอกาสมากกว่า
