:::     :::

หมดเวลา "โอบา"

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
อนาคตของ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง กับ อาร์เซน่อล ถูกตั้งคำถามดังๆ ขึ้นอีกครั้งหลังถูกตัดออกจากทีมชุดล่าสุด

โอบาเมย็อง ไม่มีส่วนร่วมในเกมที่ "ปืนใหญ่" เปิดรัง เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม เอาชนะ เซาธ์แฮมป์ตัน 3-0 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา

มิเกล อาร์เตต้า กุนซือปืนโตเปิดเผยตั้งแต่ก่อนเกมแล้วว่า โอบาเมย็อง ทำผิดวินัยของสโมสร จึงหลุดโผจากทีม ไม่มีชื่อทั้งตัวจริงและสำรอง 

"เป็นเรื่องของการทำผิดระเบียบ ผมคิดว่าเรามีความสม่ำเสมอกับการที่ไม่มีข้อต่อรองภายในทีม การที่ตั้งมาตรฐานขึ้นมาให้สโมสร ดังนั้นเขาเลยไม่ได้มีส่วนร่วมในเกมนี้" อาร์เตต้า ระบุ

กุนซือชาวสแปนิช ไม่ได้ลงรายละเอียดชัดเจนว่าการผิดระเบียดของหัวหอกกัปตันทีมเป็นอย่างไรกันแน่ 

แต่สื่อดังอย่าง ดิ แอธเลติก เปิดเผยว่า "โอบา" ได้รับอนุญาตเป็นการส่วนตัวให้เดินทางไปฝรั่งเศสเพื่อเยี่ยมคุณแม่ที่ป่วย โดยสโมสรกำหนดว่าต้องกลับอังกฤษภายในเย็นวันพุธตามเวลาท้องถิ่น เพื่อเตรียมตัวลงซ้อมในเช้าวันพฤหัสบดี

ทว่า ดาวยิงทีมชาติกาบองอยู่ที่ฝรั่งเศสต่อในคืนวันพุธ ก่อนขึ้นเครื่องด่วนกลับถึงอังกฤษในตอนเช้า ซึ่งเจ้าตัวมั่นใจว่าสามารถเดินทางไปซ้อมได้ทันที ไม่มีสายแน่นอน

ทว่าในสถานการณ์ปัจจุบันมีเรื่องมาตรการป้องกันโควิด-19 มาเกี่ยวข้องซึ่งช่วงนี้การแพร่ระบาดภายในสหราชอาณาจักรกลับมาน่าเป็นห่วงอย่างมากอีกครั้ง โดยนอกจากเชื้อสายพันธุ์เดลต้าที่ลุกลามระดับหนึ่งแล้วนั้น ก็ยังมีสายพันธุ์ใหม่อย่างโอมิครอนที่เพิ่มขึ้นมาอีก

โอบาเมย็อง เข้ารับการตรวจที่ฝรั่งเศสก่อนขึ้นเครื่องกลับลอนดอน ทว่าตามระเบียบของยูเค เขาต้องเข้ารับการตรวจ PCR ซ้ำที่อังกฤษ ตรงนี้คือสิ่งที่ โอบาเมย็อง เข้าใจผิดและชะล่าใจ จึงค้างที่ฝรั่งเศสต่ออีกคืน 

ขณะเดียวกัน อาร์เซน่อล "น่าจะลืม" กำชับดาวยิงจอมเก๋าอีกรอบว่าห้ามกลับช้ากว่ากำหนดเด็ดขาดเพราะการตรวจซ้ำที่อังกฤษนั้นต้องรอผลตรวจออกจึงจะกลับมาใช้ชีวิตปกติ สามารถเดินทางไปทำงาน หรือในกรณีของ โอบาเมย็อง คือกลับมาซ้อมได้


อาร์เตต้า เล่นไม้แข็งกับ โอบาเมย็อง

เมื่อ โอบาเมย็อง กลับมาช่วงเช้าวันพฤหัสฯ และผลตรวจ PCR ยังไม่ออกมา อาร์เซน่อล จึงสั่งห้าม โอบาเมย็อง มาที่สนามซ้อม ทำให้ท้ายที่สุดไม่มีส่วนร่วมในเกมชนะนักบุญนัดล่าสุด

ขณะเดียวกันในช่วงเวลาดังกล่าวก็มีไอจีสตอรี่ของร้านสักลายที่ลงรูปของ โอบาเมย็อง เข้ารับการสักซึ่งความเห็นในโซเชียลต่างเชื่อว่านี่คืออีกปัจจัยสำคัญที่ทำให้ อาร์เตต้า ไม่พอใจและตัดชื่ออกจากทีม

ส่วน ดิ แอธเลติก มองต่างว่าการสักของ โอบาเมย็อง อาจไม่ได้เหตุผลสำคัญเพราะเป็นการจองคิวล่วงหน้าเอาไว้ก่อนแล้วและสักที่ร้านในลอนดอน ไม่ใช่ที่ฝรั่งเศส ต่อให้ โอบาเมย็อง ไม่ได้เดินทางออกนอกประเทศ ก็ต้องมาให้ช่างสักจิ้มแขนตามนัดหมายอยู่ดี 

นี่คือไทม์ไลน์และที่มาที่ไปทั้งหมดของ โอบาเมย็อง ก่อนหลุดทีมนัดล่าสุด

พอเกิดเรื่องนี้ขึ้นมา หลายคนเห็นด้วยกับการตัดสินใจของ อาร์เตต้า ที่หั่นชื่อ โอบา ออกจากทีมไปเลย ในเมื่อให้อนุญาตไปต่างประเทศเป็นกรณีพิเศษเพราะเป็นเรื่องครอบครัวแล้ว โอบา ก็ควรต้องกลับตามเวลาที่ตกลงกันเอาไว้ ไม่ใช่คิดเองเออเองว่าสามารถอยู่ต่อได้

ยิ่งตัวเขาเป็นถึงกัปตันทีม การเป็นตัวอย่างที่ดีต่อเพื่อนร่วมทีมคือสิ่งสำคัญ เรื่องระเบียบวินัยและการตรงต่อเวลาคือคุณสมบัติแรกๆ ที่ต้องแสดงออกมาให้คนรอบข้างได้เห็น 

นอกจากนี้ การที่ผลงานในสนามช่วงหลังของอดีตหัวหอก โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ต่ำกว่ามาตรฐาน ยิงประตูไม่ได้มาหลายนัดและถูกดร็อปเป็นสำรองในเกมกับ เอฟเวอร์ตัน ก็ยิ่งทำให้สถานการณ์ดูแย่ลงไปอีก

ส่วนอีกมุมก็มองว่า การเปิดประเด็น "ผิดวินัย" ของ อาร์เตต้า ก็อาจไม่ถูกต้องนักเพราะเจ้าตัวไม่ได้ระบุชัดเจนว่าเป็นเรื่องอะไร การถูกสื่อนำไปขยายความถูกบ้างผิดบ้างยิ่งทำให้เรื่องราวขยายใหญ่โตแบบไม่จำเป็น 

การทำผิดกฏระเบียบต่างๆ ของนักฟุตบอลเป็นเรื่องปกติที่เคยเกิดขึ้นกับทุกสโมสร แต่ผู้จัดการทีมหลายคนก็เลือกที่จะจัดการเรื่องนี้เป็นการภายใน ไม่จำเป็นต้องพูดออกสื่อให้ภาพของสโมสรเสียหาย 

อาร์แซน เวนเกอร์ อดีตกุนซือ อาร์เซน่อล ก็มีวิธีจัดการเรื่องต่างๆ ในทำนองนี้ เขาแทบจะไม่เคยพูดถึงนักเตะของตัวเองในทางลบต่อหน้านักข่าวเลยทั้งที่ตลอดเวลา 22 ปีในตำแหน่ง ก็ทำงานกับนักเตะหลายร้อยคนซึ่งไม่ใช่ทุกคนที่อยู่ในระเบียบวินัยตลอด แค่นึกภาพตอนคุมทีมยุคแรกๆ ที่ต้องรับมือแข้งอังกฤษสายขี้เมาก็น่าปวดหัวแทนแล้ว


ตำแหน่งกัปตันทีมเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม ผู้จัดการทีมแต่ละคนก็มีวิธีการของตัวเองแตกต่างกันไปซึ่ง อาร์เตต้า ก็เลือกวิธีนี้ที่ออกแนว "ไม้แข็ง" แบบที่เคยใช้กับ มัตเตโอ เก็นดูซี่ และ เมซุต โอซิล 

สิ่งที่เป็นคำถามหลังการหลุดทีมรอบล่าสุดของ โอบาเมย็อง คือ อนาคตต่อจากนี้ของดาวยิงจอมเก๋าจะเป็นอย่างไร?

ที่เป็นเรื่องน่าติดตามต่อเพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ โอบาเมย็อง ทำผิดกฏระเบียบเพราะย้อนไปในฤดูกาลก่อนก็เคยถูกดร็อปเป็นสำรองในเกมสำคัญ "นอร์ธ ลอนดอน ดาร์บี้แมตช์" ที่พบ สเปอร์ส มาแล้วหลังมาซ้อมสาย หรือจะขุดอดีตให้ลึกกว่านั้นสมัยค้าแข้งกับ ดอร์ทมุนด์ ก็เคยโดนลงโทษในเรื่องระเบียบวินัยเช่นกัน 

ก่อนจะเกิดประเด็นล่าสุดนี้ อนาคตของ โอบาเมย็อง ก็ไม่ได้มั่นคงมากนักเพราะผลงานในช่วง 1-2 ปีหลังตกลงมาอย่างน่าใจหาย หรือพูดให้เห็นภาพชัดก็คือตั้งแต่ต่อสัญญาจนถึงปี 2023 ในซัมเมอร์ปีที่แล้ว โอบาเมย็อง ก็เหมือนไม่ใช่คนเดิม สถิติการทำประตูลดน้อยถอยลงต่อเนื่อง 

ฤดูกาลนี้ โอบาเมย็อง ยิงได้เพียง 4 ประตูในลีก หลายนัดช่วงหลังก็ทิ้งโอกาสทองไปไม่นับไม่ถ้วน ได้ยิงจ่อๆ ไม่เข้า ความมั่นใจหดหายจนเหมือนกับว่าไม่สามารถเค้นฟอร์มเก่งกลับออกมาได้อีกแล้ว ยิ่งเล่นยิ่งออกทะเล 

ท่าทีของสโมสรล่าสุดยืนเคียงข้าง อาร์เตต้า เต็มที่เมื่อตัดสินใจปลด โอบาเมย็อง ออกจากตำแหน่งเป็นที่เรียบร้อย และจะไม่ให้ลงเล่นในอีกเกมสำคัญพบ เวสต์แฮม ซึ่งหาก "ปืนใหญ่" ชนะได้ก็จะขึ้นอันดับ 4 ของตาราง 

อาร์เซน่อล ระบุชัดในแถลงการณ์ว่า "เราคาดให้นักเตะทุกคนโดยเฉพาะกัปตันทีมของเราทำตามกฏและมาตรฐานที่เรากำหนดและตกลงร่วมกันเอาไว้"  

ก่อนการตัดสินใจครั้งนี้ของ อาร์เซน่อล แฟนบอลหลายคนก็เรียกร้องให้ปลด โอบาเมย็อง ออกจากตำแหน่งกัปตันทีม เช่นเดียวกับอดีตนักเตะอย่าง พอล เมอร์สัน 

เมอร์สัน กล่าวว่า "นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดแบบนี้ขึ้น เขาจะไม่ได้เป็นกัปตันทีมหากผมเป็นผู้จัดการทีม ไม่มีทางแน่นอน การเป็นกัปตันทีม อาร์เซน่อล เป็นสิ่งมีเกียรติ และต้องมีการเปลี่ยนแปลงในตอนนี้ คนอื่นต้องได้เป็นกัปตันทีม"

ผลลัพธ์หลังการทำผิดวินัยล่าสุดนี้ทำให้ตำแหน่งกัปตันทีมกระเด็นหลุดในทันที แต่แน่นอนว่าอาจไม่จบแค่นี้ 

สิ่งที่มีโอกาสเกิดขึ้นต่อไปคือ โอบาเมย็อง กับ อาร์เซน่อล อาจต้องถึงเวลาแยกทางกันในเร็วๆ นี้ คงไม่สามารถร่วมงานกันจนจบสัญญาในซัมเมอร์ปี 2023

ปัจจุบัน อาร์เซน่อล แบกรับค่าเหนื่อยของหัวหอกทีมชาติกาบองมากกว่า 300,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ซึ่งเป็นตัวเลขที่ค่อนข้างสูง ทว่าผลงานในสนามกลับสวนทาง นานวันเข้ายิ่งห่างไกลกับคำว่า "คุ้มค่า"

ในซัมเมอร์หน้า โอบาเมย็อง จะมีอายุ 33 ปีแล้ว เขาไม่ใช่ผู้เล่นหนุ่มที่จะเป็นอนาคตของสโมสรซึ่งตรงกันข้ามกับการสร้างทีมของ อาร์เตต้า ในฤดูกาลนี้ที่เห็นได้ชัดว่าเน้นผู้เล่นอายุน้อยเป็นหลัก 5-6 ผู้เล่นใหม่ที่ย้ายเข้ามาไม่มีใครอายุเกิน 23 ปีเลย

ถ้ามีข้อเสนอเข้ามาในเดือนมกราคมนี้ อาร์เซน่อล พิจารณาแน่นอนซึ่งหากข้อเสนอไม่น่าเกลียดเกินไปก็พร้อมตอบรับเพื่อเปิดทางให้ โอบาเมย็อง ย้ายออกไป และจะได้เดินหน้าสร้างทีมใหม่เต็มตัว

แต่ก็นั่นแหละ การที่ โอบาเมย็อง ตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ก็คงเป็นไปได้ยากที่จะดึงดูดความสนใจจากทีมอื่น 

ฟอร์มตก, ค่าเหนื่อยแพง, ขาดความเป็นผู้นำ, มีปัญหาเรื่องระเบียบวินัย ฯลฯ

ไม่แปลกที่หลายคนอาจนึกย้อนถึงช่วงท้ายของ เมซุต โอซิล ก่อนอำลา อาร์เซน่อล 


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด