ย้อนความหลัง บ้านของอาร์เซน่อล
โดยเฉพาะผลงานในศึกพรีเมียร์ลีก ที่สถานะอยู่ห่างจากทีมหัวตารางเข้าไปทุกที แน่นอนว่า ในเรื่องของคุณภาพของตัวผู้เล่น รวมถึงการยืนระยะที่มั่นคง ยังถือเป็นสิ่งที่ถูกพูดถึงเป็นอย่างมาก
อีกหนึ่งเรื่องที่ดูเหมือนว่าจะไม่เกี่ยวข้อง แต่มันก็มีส่วนเหมือนกัน นั่นคือการย้ายสนามจาก “ไฮบิวรี่” มาเป็น “เอมิเรสต์ สเตเดี้ยม” รังเหย้าแห่งใหม่ ที่เปิดใช้อย่างเป็นทางการในช่วงปี 2006
ย้อนกลับไปที่สนามไฮบิวรี่ อาร์เซน่อล เก็บเกี่ยวความสำเร็จอย่างมากมาย ภายใต้การคุมทีมของอาร์แซน เวนเกอร์ โดยพวกเขาสามารถคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ที่สนามแห่งนี้ถึง 3 สมัยด้วยกัน แถมมีสมัยหนึ่งเป็นการคว้าแชมป์แบบไร้พ่ายด้วย
หากเราจะเอ่ยถึงชื่อของ “ไฮบิวรี่” ถือว่าเป็นสังเวียนแข้งที่มีมนต์เสน่ห์ ตรงที่เป็นสนามขนาดเล็ก โดยมีความจุประมาณ 38,000 คน อัฒจันทร์ทั้ง 4 ด้านอยู่ติดกับผืนหญ้า ไม่มีลู่วิ่งมารบกวนใจ
โดยที่แฟนบอล “เดอะ กันเนอร์ส” สามารถส่งเสียงกระตุ้นบรรดานักเตะอาร์เซน่อล อย่างเต็มที่ ขณะเดียวกัน ยังเป็นการข่มขวัญคู่แข่งอีกด้วย นั่นเพราะว่าที่นั่งอยู่ติดกับสนามหญ้าเอามากๆ
หากใครยังจำกันได้ ไฮบิวรี่ ทำให้ภาพที่ถูกถ่ายทอดออกไป แฟนบอลจะรู้สึกว่านักเตะอาร์เซน่อล เคลื่อนเกมกันเร็วมาก โดยใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาที ต่อบอลจากหน้าปากประตูตัวเอง และไปจบสกอร์ของผู้มาเยือน
ขณะที่ เอมิเรสต์ สเตเดี้ยม แม้จะมีความจุมากกว่าที่ราว 60,000 ที่นั่ง ท่ามกลางสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัย กระนั้น อาร์เซน่อล แทบจะไม่ประสบความสำเร็จกับสนามแห่งนี้เลย โดยไม่เคยคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ที่สนามแห่งนี้
เรื่องราวดังกล่าว ไม่ใช่สิ่งที่แฟนบอลบางส่วนคิดไปเองเท่านั้น อาร์แซน เวนเกอร์ ตำนานกุนซือของพวกเขา ก็มองแบบเดียวกัน โดยกล่าวว่า อาร์เซน่อล ไม่ใช่ยุครุ่งเรืองอีกต่อไป พวกเขาเดินหน้าสู่ยุคใหม่ แต่ดันทิ้งจิตวิญญาณเอาไว้ที่สนามไฮบิวรี่
เวนเกอร์ ออกมาย้อนความทรงจำว่า “ความตั้งใจของเรา นั่นคือสร้างบ้านหลังใหม่ โดยให้เหมือนไฮบิวรี่ แต่เรากลับลืมพกวิญญาณของสนามเก่ามาด้วย ไม่มีทางทำให้มันคล้ายเลยแม้แต่น้อย แน่นอนว่า ไม่เคยมีบรรยากาศแบบวันวานอีกแล้ว”
กุนซือชาวฝรั่งเศส กล่าวต่อไปว่า ”สำหรับผมแล้ว ผมมีความเชื่อมโยงกับสนามไฮบิวรี่ ด้วยความรัก ตลอดเวลาที่อยู่บนตำแหน่งคุมทัพ ณ สังเวียนนั้น ทัศนคติของแฟนบอลเป็นไปในเชิงบวก ทรงเกมบนสนามก็น่าพึงพอใจ นี่ยังคงเป็นสถานที่พิเศษในใจของผมอยู่เสมอ"
อีกหนึ่งเรื่องราวในมุมมองของเวนเกอร์ ที่มีต่อสนาม “ไฮบิวรี่” นั่นคือเรื่องของความอบอุ่น ที่ถือว่าเป็นจุดแข็งของสโมสร ที่ทรงคุณค่า และคุ้มค่าต่อการรักษาเอาไว้เป็นระยะเวลานาน
”ตอนนั้น ลูกจ้างของสนามเต็มที่ไม่เกิน 40 คน” เวนเกอร์ กล่าว “ย้อนกลับไปเวลานั้น ต่างฝ่ายต่างจำชื่อรู้จักกันหมด กระทั่งวันนี้ มีแตะหลัก 600 ชีวิตแล้ว ทีมเติบโตจากธุรกิจครอบครัวไปสู่บริษัทใหญ่แล้ว"
เวนเกอร์ ทิ้งท้ายว่า ”ที่สนามไฮบิวรี่ เมื่อคุณนั่งติดขอบสนาม แฟนบอลอยู่ใกล้มาก เมื่อบรรดานักฟุตบอลมาเตะมุม คุณสามารถยื่นมือไปขอจับยังได้ ทำให้ทุกคนคล้ายมีส่วนร่วมบนสนาม เปรียบเหมือนกับความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียว และความอบอุ่น"
นอกจากเวนเกอร์ .... เธียร์รี่ อองรี ดาวยิงสูงสุดตลอดกาลของอาร์เซน่อล ที่เคยผ่านการเล่นสนามเหย้าของทีมมาทั้ง 2 สนาม ก็ออกมากล่าวเช่นเดียวกันว่า “ไฮบิวรี่” เปรียบเหมือนกับบ้านที่แสนอบอุ่น และไม่มีที่ไหนเหมือนที่นี่อีกแล้ว
อองรี กล่าวว่า “ผมเคยเล่นมาหลายสนาม ไม่ว่าจะเป็นสนามที่ใหญ่กว่า และสนามที่สวยงามกว่า แต่สนามไฮบิวรี่ มีความไม่เหมือนใคร มันจะเป็นแบบนั้นเสมอ"
"สำหรับผม ไม่มีอะไรมาเทียบสนามไฮบิวรี่ ได้เลย ผมมีความทรงจำที่ยอดเยี่ยม ทุกคนต่างรักที่จะเล่นที่นั่น”