:::     :::

ปืนขึ้นท็อปโฟร์!

วันพฤหัสบดีที่ 16 ธันวาคม 2564 คอลัมน์ โรงเตี๊ยมลูกหนัง โดย ทอมมี่ ท่ามะกา
1,462
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
อาร์เซน่อล ขึ้นมารั้ง "ท็อปโฟร์" ได้เป็นครั้งแรกในรอบ 436 วัน หลังเปิดบ้านเอาชนะ เวสต์แฮม คู่แข่งโดยตรงในเกมกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา

คู่นี้เดิมพันอันดับ 4 เพราะก่อนลงสนาม "ขุนค้อน" เป็นเจ้าของอันดับนี้อยู่แล้ว ขณะที่ผู้ท้าชิง อาร์เซน่อล อยู่อันดับ 6 ตามหลัง 2 คะแนน ส่วน แมนฯ ยูไนเต็ด ที่อยู่อันดับ 5 กลายเป็น "เป้านิ่ง" เนื่องจากโปรแกรมไปเยือน เบรนท์ฟอร์ด เลื่อนการแข่งขันออกไปด้วยเหตุโควิดระบาดในแคมป์ผีแดง

มิเกล อาร์เตต้า ไม่เปลี่ยนทีมจากนัดสุดสัปดาห์ที่เอาชนะ เซาธ์แฮมป์ตัน 3-0 โดยที่ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง หัวหอกกัปตันทีมถูกตัดชื่อออกจากทีมอีกนัดจากคดีตั้งแต่ก่อนเกมกับนักบุญ

โอบาเมย็อง ทำผิดวินัยกรณีเดินทางกลับมาช้ากำหนดหลังไปเยี่ยมคุณแม่ที่ฝรั่งเศส ก่อนที่สโมสรจะตัดสินใจปลดออกจากตำแหน่งกัปตันทีมด้วย

อเล็กซองด์ ลากาแซ็ตต์ จึงทำหน้าที่เป็นกัปตันทีมเกมแรกในช่วงที่ อาร์เตต้า ยังไม่รีบร้อนเลือกกัปตันคนใหม่อย่างเป็นทางการ

ข่าวดีคือการได้ เอมิล สมิธ โรว์ จอมทัพดาวรุ่งฟิตกลับมามีชื่อเป็นสำรองอีกครั้งหลังพลาดเกมสุดสัปดาห์

ส่วน เวสต์แฮม ของ เดวิด มอยนส์ มีปัญหาในการจัดทัพมากทีเดียวเพราะขาดตัวหลักในเกมรับหลายคนไม่ว่าจะเป็น เคิร์ท ซูม่า, อันเจโล่ อ็อกบอนน่า และ อาร่อน เครสเวลล์ รวมถึง เบน จอห์นสัน ที่ช่วงหนึ่งก็ยึดตัวจริงตำแหน่งแบ็กขวาได้

ช่วงหลายนัดที่ผ่านมา เวสต์แฮม จึงเปลี่ยนแนวรับทุกนัด และส่งผลต่อผลงานช่วงหลังที่ชนะได้เพียงนัดเดียวจาก 6 นัดล่าสุด ทว่านัดเดียวที่ชนะก็เป็นเกมยากสุดที่เปิดรังเชือด เชลซี 3-2

การที่แผงหลังไม่ใช่ชุดตัวจริงทำให้ มอยส์ เซตเกมรับมาแน่นมากๆ สามารถปิดเกมรุกของ อาร์เซน่อล ได้เกือบทุกจังหวะในครึ่งชั่วโมงแรก

แต่ขุนค้อนก็หาจังหวะโต้กลับที่เคยเป็นจุดเด่นได้ลำบากเพราะปืนใหญ่เองก็ไล่กดดันถึงตัวตั้งแต่ข้างบน บีบให้การเล่นส่วนใหญ่อยู่ในแดนผู้มาเยือน

ด้วยความสดของผู้เล่นหนุ่มทั้ง มาร์ติน โอเดการ์ด, บูคาโย่ ซาก้า และ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ ที่ช่วยกันไล่บอลตั้งแต่ข้างหน้า อาร์เซน่อล จึงเริ่มเหนือกว่าและต่อบอลกันได้ไหลลื่นขึ้นในช่วง 15 นาทีสุดท้ายของครึ่งแรก


มาร์ติเนลลี่ สุดขยันก่อนได้ฉลองประตู

อาร์เซน่อล เจาะกันตามช่องเน้นฝั่งซ้ายของ ซาก้า เป็นหลัก สลับกับยิงไกลแถวสองที่เกือบเป็นประตูทั้งจากลูกยิงของ คีแรน เทียร์นีย์ และ อเล็กซองด์ ลากาแซ็ตต์ ทว่าเด็กเก่าปืนอย่าง ลูคัสซ์ ฟาเบียนสกี้ เซฟช่วยทีมเยือนเอาไว้ทำให้จบ 45 นาทีแรกยังไม่มีสกอร์

แต่ครึ่งหลัง อาร์เซน่อล ก็ปลดล็อกได้เร็วตั้งแต่ 3 นาทีแรกจากจังหวะเข้าทำที่สุดยอด ลากาแซ็ตต์ ไหลบอลเข้าเขตโทษให้ มาร์ติเนลลี่ แตะทีแรกหลุดเลยเพราะสปีดต้นกินขาด ก่อนเอียงตัวปั่นเสียบเสาไกลในสไตล์ เธียร์รี่ อองรี

ประตูนี้ช่วยเพิ่มโมเมนตัมให้ปืนใหญ่ได้มาก เกมครึ่งหลังดีกว่าครึ่งแรกชัดเจนก่อนลุยต่อจนกระทั่งมาได้จุดโทษในจังหวะที่ วลาดิเมียร์ ชูฟาล เสียบฟาวล์ อเล็กซองด์ ลากาแซ็ตต์

จุดโทษนี้โชคร้ายสำหรับ เวสต์แฮม เพราะ ชูฟาล ก็คิดว่าตัวเองเสียบโดนบอลแล้ว เพียงแต่ แอนโธนี่ เทย์เลอร์ ผู้ตัดสินในเกมนี้มองว่าเป็นการฟาวล์มากกว่า แถมเสียหายซ้ำสองตรงที่ก่อนหน้านี้เขามีใบเหลืองติดตัวอยู่แล้ว ใบเหลืองที่สองจึงกลายเป็นใบแดง เวสต์แฮม ก็เลยเหลือผู้เล่นเพียง 10 คน

ทว่า ลากาแซ็ตต์ ที่รับหน้าที่มือสังหารกลับยิงไปติดเซฟ ฟาเบียนสกี้ ที่พุ่งถูกทางป้องกันได้ยอดเยี่ยม 

นับเป็นครั้งที่ 3 ในฤดูกาลนี้แล้วที่ อาร์เซน่อล ยิงจุดโทษพลาดหลัง โอบาเมย็อง พลาดสองครั้งแรกในเกมกับ วัตฟอร์ด และ แอสตัน วิลล่า 

การเสียกองหลังไปหนึ่งคนไม่ได้ส่งผลเฉพาะเกมรับเพราะเกมรุกก็ต้องปรับด้วยเนื่องจาก มอยส์ เลือกถอยหน้าเป้าอย่าง มิคาอิล อันโตนิโอ ลงมาเล่นแบ็กขวาแทนซึ่งในอดีตเจ้าตัวเคยเล่นตำแหน่งนี้มาก่อน

สำรองที่ลงมาหลังเหลือ 10 คนอย่าง ซาอิด เบนห์ราม่า ก็ไม่ใช่หน้าเป้า กลายเป็นว่า เวสต์แฮม เลือกที่จะเซฟหลังมากขึ้นไม่ให้โดนเพิ่ม แถมช่วงท้ายก็มี แฮร์ริสัน แอชบี้ กองหลังดาวรุ่งลงมาอีกคนและถอดตัวรุก ปาโบล ฟอร์นาลส์ ออกไป

สิ่งที่ อาร์เซน่อล ทำได้ดีเหมือนเกมกับ เซาธ์แฮมป์ตัน คือการที่เดินหน้าต่อเพื่อลุ้นประตูที่สอง ไม่ได้หยุดอยู่เพียงประตูเดียวแล้วพลาดโดนแซงเหมือนกับเกม เอฟเวอร์ตัน

ก่อนได้ประตูตอกฝาโลงในนาที 87 จากตัวสำรอง เอมิล สมิธ โรว์ รูปเกมของ อาร์เซน่อล ก็ลุยในทุกจังหวะที่มีพื้นที่ มาร์ติเนลลี่ และ ซาก้า ป่วนแนวรับทีมเยือนได้อย่างมาก 


ฟาเบียนสกี้ ป้องกันจุดโทษของ ลากาแซ็ตต์ ได้

ส่วน สมิธ โรว์ ก็ลงมาพร้อมความสดและขยันวิ่งไล่บอลอยู่แล้ว เขาปรี่เข้าถึงกองหลังที่มีบอลเพื่อบีบให้ออกบอลยาก 

"เมื่อเราเจอวิธีโจมตีพวกเขาได้ เราก็คอนโทรลเกมได้มากขึ้น 'เคาน์เตอร์-เพรส'ของเราก็สุดยอดมากวันนี้" อาร์เตต้า กล่าว 

อาร์เซน่อล จึงเก็บชัยชนะได้พร้อมกับฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยม แถมเป็นการเอาชนะคู่แข่งที่มีเป้าหมายลุ้นตั๋วยุโรปเหมือนกัน สามคะแนนที่ได้จึงพิเศษมากๆ 

"เราเล่นด้วยมาตรฐานที่สูงจริงๆ เต็มไปด้วยพาสชั่น เอเนอร์จี้ และคุณภาพ เราเล่นในเกมที่ต้องการเล่นกับทีมที่คอนโทรลได้ยาก พวกเขามีแนวทางแก้ปัญหาในเกมรุกมากมายและเจาะไม่ได้ง่ายๆ ฟอร์มการเล่นนี้คู่ควรกับชัยชนะ" กุนซือปืนโตสรุปผลงาน 

ปืนใหญ่ ขึ้นมารั้งอันดับ 4 ที่คุ้นเคยได้อีกครั้ง แต่ อาร์เตต้า ก็มองว่าทีมยังต้องปรับในเรื่องการจบสกอร์ที่เกมนี้มีโอกาสถึง 21 ครั้ง ทว่าได้เพียง 2 ประตู 

"เราจำเป็นต้องมีคุณภาพการจบสกอร์ในพื้นที่สุดท้ายมากกว่านี้อีกนิด" 

ชัยชนะ 2 นัดในบ้านทำให้สถานการณ์กลับมาดีอีกครั้ง บทพิสูจน์ต่อไปคือเกมนอกบ้านที่ต้องทำให้ดีขึ้นกว่า 3 นัดที่แพ้รวดในการไปเยือน แอนฟิลด์, โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด และ กูดิสัน ปาร์ค

น่าสนใจอย่างยิ่งว่า มิเกล อาร์เตต้า จะพาทีมรักษาอันดับ 4 ที่คุ้นเคยเอาไว้ได้นานเพียงใด

 


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด