:::     :::

แชมป์เก่าหมดลุ้น-เซบีย่า คือผู้ไล่ล่า ?

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
หลังปราบ แอตเลติโก มาดริด แชมป์เก่าลงได้ เวลานี้ เซบีย่า ได้ขึ้นแท่นเป็นผู้ไล่ล่าจ่าฝูง เรอัล มาดริด อย่างเต็มตัวแล้ว

ไม่ว่าผลการแข่งขันที่ เบร์นาเบว กับ กาดิซ จะออกมาอย่างไร แชมป์หน้าหนาวจะตกเป็นของ เรอัล มาดริด อยู่ดี อีกทั้งยังไม่มีข้อสงสัยใดๆว่ าทีมของ คาร์โล อันเชล็อตติ คือเต็งหนึ่งที่จะคว้าแชมป์ ลา ลีกา ฤดูกาลหน้านี้ เมื่อพิจราณาจากแต้ม และฟอร์มการเล่น 


เรอัล มาดริด เก็บ 42 แต้มจาก 17 เกม ถือว่าเยอะมากสำหรับทีมในกลุ่ มลุ้นแชมป์ เพราะโดยมาตราฐานที่ผ่านๆมาในช่ วง 5-6 ปีหลัง ทีมที่คว้าแชมป์ในบั้นปลาย ส่วนใหญ่เมื่อผ่านนัดที่ 17 จะมีอยู่ 36-38 แต้มโดยประมาณ 

42 แต้มจาก 17 เกมของ มาดริด เทียบได้กับสถิติสูงสุดของ แอต.มาดริด เมื่อฤดูกาลที่แล้ว โดยทีม ‘ตราหมี’ เก็บ 42 แต้มเมื่อผ่าน 17 เกม ก่อนจะทะลุคว้าแชมป์ไปครองเป็ นครั้งที่ 2 ในรอบ 7 ปี 


เช่นนี้แล้วเมื่อ เรอัล มาดริด คือเต็งจ๋าที่จะคว้าแชมป์ แล้วใครล่ะคือผู้ไล่ล่าที่สมน้ำ สมเนื้อ ? 


คำถามนี้ ดูเหมือนจะได้รับคำตอบไปบางส่ วนแล้วจากผลการแข่งขันที่ รามอน ซานเชซ ปิซฆวน เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา 

เซบีย่า ของ ยูเลน โลเปเตกี โคจรมาเจอกับ แอต.มาดริด แชมป์เก่าที่นำทัพโดย โชโล่ ซิเมโอเน่ จะมองว่าเป็นเกมคัดเลือกตั วแทนในปฏิบัติการ ‘ไล่ล่า คาร์เล็ตโต้ & co’ ก็คงไม่ผิดนัก โดยเฉพาะกับฝั่งเจ้าบ้านที่แต้ มรั้งอันดับ 2 ของตาราง 16 นัด   34 แต้ม ตามหลัง มาดริด 8 แต้ม แต่แข่งน้อยกว่า 1 นัด 


ส่วน แอตเลติ แชมป์เก่าอยู่อันดับ 4 จาก 16 เกมเก็บได้เพียง 29 แต้ม ถือว่าตามค่อนข้างห่างถึง 13 แต้ม แต่ถ้าจะทิ้งน้ำหนักไปที่ ประสบการณ์ ขุมกำลัง คุณภาพของนักเตะ และตัวเทรนเนอร์แล้ว ก็เห็นว่าทีมของ โชโล่ ซิเมโอเน่ ยังดูมีศักยภาพในการไล่ล่ ามากกว่าทีมอื่นๆในกลุ่มหั วตารางด้วยกัน 


อย่างไรก็ตาม จุดพลิกผันก็มาอยู่ที่ รามอน ซานเชซ ปิซฆวน นี้เอง เมื่อ เซบีย่า จัดการปราบ แอตเลติ ลงได้ 2-1 ทำแต้มเด้งขึ้นไปที่ 37 แต้ม ไล่หลัง เรอัล มาดริด เหลือเพียง 5 แต้ม 

แน่นอนว่าโดยภาพรวม เซบีย่า ยังดูไม่แกร่งพอในสายตาเกจิ-กู รู ที่จะไล่ล่ากดดัน เรอัล มาดริด ไปตลอดทั้งฤดูกาลนี้ 


อันดับแรก พวกเขาแทบร้างราความสำเร็จในลา ลีกา ไปนานมาก หนสุดท้ายที่เป็นแชมป์ลีกสูงสุ ดของประเทศเกิดขึ้นเมื่อฤดูกาล 1945-46

ด้วยระยะเวลาที่ทิ้งห่ างจากกาลปัจจุบันถึง 75 ปี  ซึ่งไม่น่าจะมีผู้บริหาร,นักเตะ หรือกระทั่งแฟนบอลจากยุคคว้ าแชมป์เหลืออยู่แล้วในปัจจุบัน จึงแทบพูดได้ว่านักเตะเซบีย่าลื มไปแล้วว่ารสชาติของแชมเปี้ ยนของสเปนนั้นเป็นอย่างไร 


หรือถ้าจะมองในฐานะของผู้ไล่ล่า หนสุดท้ายที่ เซบีย่า ได้รองแชมป์ก็เกิดขึ้นเมื่อ 64 ปีที่แล้ว หรือในฤดูกาล 1956–57 

ปีนั้นการแข่งขันยังมีเพียง 16 ทีม แข่งกันเหย้า-เยือน 30 นัด ภายใต้กติกาเก่า ชนะได้ 2 แต้ม,เสมอ 1 แต้ม ซึ่งว่าตามความจริงแล้ว แม้ เซบีย่า จะจบอันดับ 2 แต่ในห้วงเวลาที่ขับเคี่ยวกั นมาช่วง 3-4 นัดสุดท้าย ไม่ใช่พวกเขาที่เป็นผู้ไล่ล่าที่ แท้จริง หากแต่เป็น แอธ.บิลเบา กับ บาร์เซโลน่า มากกว่า 


กระทั่งเกมรองสุดท้าย นัดที่ 29 เรอัล มาดริด ทำแต้มขาดลอย ไม่มีใครไล่ได้ทัน ทำให้ทั้ง บิลเบา กับ บาร์ซ่า เล่นกันแบบไม่เน้น ส่งผลให้ เซบีย่า ซึ่งเอาชนะ บิลเบา 4-1 ปาดหน้าคว้ารองแชมป์ไปครอง โดยมี 39 แต้มเท่ากับ บาร์ซ่า แต่ เฮด ทู เฮด ดีกว่า 


นั่นคือเรื่องราวเกี่ยวกั บการคว้าแชมป์และลุ้นแชมป์ลา ลีกา ของ เซบีย่า ที่ผ่านมา ซึ่งแทบจะพูดได้ว่าในยุคใหม่นี้ พวกเขาไม่มีประสบการณ์ในการลุ้ นแชมป์อย่างจริงจังเลย ช่วง 1 ทศวรรษหลังมานี้ 

ที่ใกล้เคียงที่สุดก็เห็นจะเป็ นฤดูกาลที่ผ่านมา ที่ยอดทีมแคว้นอันดาลูเซียทำแต้ มเกาะกลุ่มลุ้นแชมป์ไปจนถึงช่วง 3 นัดสุดท้าย ก่อนจะหลุดวงโคจร 

อย่างไรก็ตาม หากจะมองถึงการลิ้มรสความสำเร็จ หรือลงเล่นในเกมนัดตัดสินแชมป์ เซบีย่า ก็ดูจะมีอยู่ไม่น้อย เพราะช่วง 15 ปีที่ผ่านมา พวกเขาประกาศศักดาคว้าแชมป์ยู โรป้า ลีก ไปถึง 6 สมัยด้วยกัน 


ตรงนี้แม้จะเทียบเคียงลำบาก แต่ก็ถือว่าใกล้ที่สุดแล้ว ถ้าจะมองในแง่ของความสำเร็จที่ เป็นการพิสูจน์ให้เห็นถึงศั กยภาพในทีม เซบีย่า 

ในเรื่องของขุมกำลัง เซบีย่า มีนักเตะที่ฝีเท้าดี เกือบทุกตำแหน่ง เพียงแต่ไม่ได้อยู่ในระดับเวิล์ ดคลาสทุกตำแหน่ง หรือบางคนอาจจะเคยแตะไปถึงจุดนั้ น แต่ปัจจุบันก็ลดถอยลงมาสวนทางกั บวัยที่มากขึ้น 


ในแง่ของฝีไม้ลายมือของตัวกุนซื อ ยูเลน โลเปเตกี ถือเป็นหนึ่งในเทรนเนอร์ที่ทุ กคนในวงการให้การยอมรับ เขาได้รับเลือกให้คุมทีมชาติ สเปนชุดใหญ่เมื่อ 4  ปีก่อน แต่ก็ต้องมาตกม้ าตายจากการแอบไปรับงานคุม เรอัล มาดริด ล่วงหน้า 

แม้การทำงานกับ เรอัล มาดริด จะพังพาบไม่เป็นท่า แต่ทุกคนเข้าใจดีกว่า โลเปเตกี พบเจอกับปัญหาอะไรในการทำงาน จนกระทั่งเขาคัมแบ็กคืนวงการด้ วยการเข้ามคุม เซบีย่า เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2019 ซึ่งต้องยอมรับเลยว่า โลเปเตกี ทำได้น่าประทับใจมาก 


เขาหาจุดลงตัวของทีมได้เร็ว จัดวางขุมกำลังหลัก-สำรองได้อย่ างลงตัว ปรับแต่งตำแหน่งผู้เล่ นบางรายให้เหมาะสม จนทำให้ทีมประสบความสำเร็ จตามเป้าหมาย คว้าอันดับ 4 ได้ตั๋วลุย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ส่วนฤดูกาลที่แล้ว โลเปเตกี ก็ยังรักษามาตราฐานได้เหมือนเคย พา เซบีย่า เข้าป้ายอันดับ 4 แถมช่วงปลายๆ ยังแอบมีลุ้นแชมป์เล็กๆ 

มาในฤดูกาลปัจจุบัน คราวนี้สถานการณ์ของ เซบีย่า แตกต่างออกไป เพราะดูจากแต้มพวกเขาถือเป็ นแคนดิเดตในการลุ้นแชมป์อย่ างเต็มตัว เป็นทีมที่มีโอกาสปาดหน้าเเซง หรือไล่กดดัน เรอัล มาดริด จ่าฝูงได้มากที่สุด 


เมื่อฐานะเปลี่ยน จะด้วยความเต็มใจหรือไม่ก็ตาม เวลานี้สื่อก็จะมอง เซบีย่า ต่างไปจากเดิม ดังนั้นแล้ว ลำดับแรกที่ โลเปเตกี กับลูกทีมต้องเตรียมพร้อมรับมื อทันทีหลังโค่น แอตเลติ ลงก็คือความกดดัน 

หลายคนอาจจจะคิดว่าเรื่องแบบนี้ ไม่น่าจะมีผล เพราะ เซบีย่า ก็ดูเหมือนจะรู้ตัวเองดีในระดั บนึงว่ายังห่างจาก เรอัล มาดริด การที่สุดท้ายพวกเขาจะไม่ สามารถกดดัน มาดริด ได้ตามที่สื่อหรือแฟนคาดหวัง ก็ถือว่าไม่ใช่ความผิดอะไร 


กระนั้นก็ดี ความกดดันเป็นสิ่งที่มองไม่เห็น เมื่อก้าวมาถึงจุดนี้ จุดที่สูงสุดเหนือทีมอื่นๆอีก 18 ทีม ตามธรรมชรติ ไม่มากก็น้อยย่อมคิดฝันถึ งการคว้าแชมป์ 

มันเป็นไปไม่ได้ที่ เซบีย่า จะไม่คิดถึงมัน เพียงแต่พวกเขาจะจัดการกั บความคิดของตัวเองได้ดีแค่ไหน หากทำได้ รักษาใจให้นิ่ง นั่นคือเรื่องที่ดี แต่หากสมาธิแตกซ่าน ก็ไม่แคล้วอาจต้องเสียขบวน เผลอๆ อันดับ 2 ก็จะยังรักษาไว้ไม่ได้ 


ลา ลีกา ดำเนินมาถึงครึ่งฤดูกาล หลายคนเริ่มบ่นเข้าหูแล้วว่า “น่าเบื่อ” เพราดูทรง เรอัล มาดริด ทำท่าจะม้วนเดียวจบ แต่เอาน่าความสนุกยังพอมีอยู่ อย่างน้อยก็นานทีปีหนที่ทีมอย่ าง เซบีย่า จะขึ้นแท่นเป็นผู้ไล่ล่าบ้าง ส่วน แอตเลติ นั้น จากสภาพเวลานี้ แม้ยังไม่สามารถกาชื่อทิ้ งจากสารบบลุ้นแชมป์ได้ แต่โอกาสก็ริบหรี่เต็มทน


เจมส์ ลา ลีกา 


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด