ดาวิด เบตโตนี่ (แซงต์ พรีสต์,1971) ทุ่มเทความรู้ความสามารถทั้งหมดในการทำงานร่วมกับ ซีเนดีน ซีดาน เพื่อผลักดันให้ เรอัล มาดริด ประสบความสำเร็จสูงสุด ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาถือได้ว่าเขาทำงานออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ มีส่วนผลักดันให้ เรอัล มาดริด ในยุคกุนซือฝรั่งเศสประสบความสำเร็จ และกลายเป็นหนึ่งในทีมชุดประวัติศาสตร์

มาวันนี้ เบตโตนี่ มีให้เวลาสื่อสเปนเดินทางมาสสัมภาษณ์ที่ร้านอาการฝรั่งเศสในกรุงมาดริดอย่าง แซงต์ แชร์กแมง ไวน์ บาร์ แน่นอนว่าเรื่องราวย่อมเกี่ยวกับพัน เรอัล มาดริด, ซีดาน เป็นส่วนใหญ่ ทั้งยังมีอีกหลายประเด็นที่น่าสนใจโดยเฉพาะ คิลิยัน เอ็มบั๊บเป้ ซึ่งเป็นนักเตะที่ ‘โลส บลังโกส’ ปรารถนามาโดยตลอด...การสนทนาภาษาลูกหนังครั้งนี้จะสนุกเข้มข้นแค่ไหน ไปติดตามกันเลยครับ 

ถาม : คนอย่าง เบตโตนี่ มีแผนจะทำอะไรบ้างในตอนนี้ ?

เบตโตนี่ : ผมชัดเจน, ผมต้องการคุมทีมเพราะผมคิดว่าผมมีศักยภาพพอ ผมรักฟุตบอล ผมมีความใฝ่ฝัน และไอเดียในการเล่น ผมหวังว่าจะมีโปรเจคต์ดีๆที่น่าสนใจสำหรับผม 

ถาม : ไอเดียก็คือการทำงานในสเปนต่อยังงั้นใช่หรือมั๊ย ?

เบตโตนี่ : ผมไม่ได้ปิดกั้นเรื่องประเทศ , แต่ต้องยอมรับว่าผมรู้จัก ลา ลีกา สเปน ดี จากการทำงาน 7ปีที่ เรอัล มาดริด แต่ผมก็รู้จัก ลีกฝรั่งเศสเช่นกัน ในฐานะที่ผมเป็นคนฝรั่งเศส และยังรู้จักกัลโช่ เซเรีย อา ในฐานะที่ต้นตระกูลผมเป็นอิตาเลี่ยน  แต่ทุกอย่างขึ้นอยู่กับโปรเจคต์ ความปราถนาของประธานสโมสร อะไรแบบนั้น 

ถาม : แล้วทีมของ เบตโตนี่ จะเล่นแบบไหน จะเล่นแบบ ซีดาน หรือเปล่า ? 

เบตโตนี่ : มันชัดเจนว่าเรามีไอเดียในการเล่นแบบเดียวกัน แต่บางทีผมอาจจะนำเอาไอเดียใหม่ๆเข้ามาเพราะในฐานะเทรนเนอร์ทีมชุดใหญ่ ผมมีไอเดียมากมายที่ต้องการจะพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม 

ทีมผมจะเล่นเกมรุกอย่างที่ผมชอบและเป็นฝ่ายควบคุมเกม และจะต้องมีความสมดุล มีความสามารถในการปรับเปลี่ยนเพื่อรับมือกับปัญหาที่คู่ต่อสู้สร้างขึ้น เราต้องเข้าใจว่าจะมีคู่ต่อสู้ที่สามารถเล่นงานเราได้เสมอ , ทีมจะต้องมอบความสุขให้กับแฟนบอลที่มาดูเกม  ทำบางอย่างเพื่อความสนุก 

ถาม : ตอนนี้ชีวิตคุณสงบขึ้นหรือเปล่าเมื่อปราศจากความกดดันจาก เรอัล มาดริด ?

เบตโตนี่ : ที่ เรอัล มาดริด พวกเรารู้ดีว่ามีประวัติศาสตร์ที่น่าเหลือเชื่อ และมีความคาดหวังมากมายจากผู้คนที่รายรอบสโมสร ซึ่งเรารู้ว่ามันคือชัยชนะและชัยชนะ

เช่นนี้ผมคิดว่าผมได้รับวัคซีนต้านความกดดันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จากนั้นก็มาดูว่าทีมจะเล่นอย่างไร เราจำเป็นต้องเอนจอยไปกับมันอีกนิดหน่อย แต่ว่าความจริงก็คือสำหรับเทรนเนอร์แล้วผลการแข่งขันถือเป็นตัวตัดสินทุกอย่าง

ถาม : แล้ว ซีดาน เป็นยังไงบ้าง กำลังมความสุขเหมือนที่คุณมีอยู่หรือเปล่า ?

เบตโตนี่ : ซีดาน สบายดี พวกเราเป็นเพื่อนกัน และเรานัดเจอกันเป็นบางครั้ง สำหรับในฤดูกาลหน้า ผมมั่นใจว่าเขาจะตอบรับโปรเจคต์ใหม่ ซึ่งจะทำให่เขากลับมาเอนจอยกับฟุตบอลได้อีกครั้ง 

ถาม : แล้วทำไมตอนนี้พวกคุณถึงแยกทางกัน ?

เบตโตนี่ : ผมคิดว่ามันมาจากปีที่ผ่านมา ในตอนที่ ซีดาน ต้องการพักสักเล็กน้อย หลังจากนั้นผมก็รับงานคุมทีม 2 เกม ตอนที่เขา (ซีดาน) ไม่สามารถคุมได้ , ผมเริ่มมีความปราถนามากขึ้น ผมรู้สึกดี เต็มไปด้วยพลังงาน 

เมื่อจบฤดูกาล เขาบอกว่าเขาจะพัก แต่บอกว่าผมควรจะทำงานต่อ เพราะผมรักฟุตบอลและยังมีพลังที่จำเป็นในการทำงาน เขาแสดงความมั่นใจในตัวผม เขาเสนอให้ผมทำบางสิ่งบางอย่างเกี่ยวกับฟุตบอล  แต่วันใดวันนึงเราจะกลับมาร่วมงานกันอย่างแน่นอน 

ถาม : อะไรคือสิ่งที่คุณจะระลึกถึง เรอัล มาดริด ในยุคของ ซีดาน และ เบตโตนี่ ? 

เบตโตนี่ : ผมคิดว่าในยุคแรกมันคือ มาดริด ของ ซีดาน อย่างแท้จริง, เราคว้าทุกแชมป์มาครอง เราเล่นกันได้ดีมาก เป็นสุดยอดทีม ความจริงที่ต้องยอมรับคือ คริสเตียโน่ ยิงประตูได้เยอะมาก, แกนหลักในแดนกลาง,ในเกมรับ,ผู้รักษาประตู ล้วนสุดยอด 

ในยุคที่ 2 นั้นเป็นอะไรที่แตกต่างออกไป ผมคิดว่าเราได้เห็น ซีดาน ในเวอร์ชั่นที่เป็นนักปรับเปลี่ยนมากกว่าเดิม, ความสามารถในการปรับตัวของเขาให้เข้ากับสถานการณ์ในขณะนั้น , แท็คติกการเล่น และ ระบบการเล่นที่แตกต่างกัน 

บางครั้งเราเล่นกองหลัง 3 ตัว เล่นเป็นบล็อคต่ำมากกว่าเดิม เพราะรู้ว่าเราไม่มีคนที่ยิง 40-50 ประตูต่อฤดูกาลอย่าง คริสเตียโน่ อยู่ในทีมแล้ว ดังนั้นเขาจะต้องทำในสิ่งที่แตกต่างไปจากเดิม ทีมจะต้องแข็งแกร่งมากขึ้นในเกมรับ  ด้วยเหตุนี้เราจึงเซ็นสัญญากับ แฟร์กล็อง เมนดี้ 

เราชนะน้อยลง แต่เราก็ทำได้จริงตามที่ตั้งใจ แต่ว่ามันคือวงจรของทีมฟุตบอลเพราะมีคู่แข่งรายอื่นๆเข้ามา เราต้องสร้างบางสิ่งบางอย่างขึ้นใหม่ ซึ่งมันเต็มไปด้วยความยากลำบากที่จะทำให้ เรอัล มาดริด ยังคงเป็นทีมที่แข็งแกร่ง  

ในฤดูกาลสุดท้ายเราเสียแชมป์ ลา ลีกา ด้วยเหตุการณ์ที่น่าหงุดหงิดหลายครั้ง ส่วนในแชมเปี้ยนส์ลีก เราพ่ายให้กับแขมเปี้ยนที่คู่ควร นอกจากนี้ยังมีปัญหาโควิด-19 เข้ามาแทรกแซงอีกด้วย 

ถาม : คุณเซอร์ไพรส์มั๊ยกับการอำลาของ ซีดาน ?

เบตโตนี่ : ความจริงแล้วตอนนั้นผมไม่รู้เรื่องเลย แต่ผมคิดว่าเขาทำมันอย่างมีคลาสและทำมันด้วยหัวใจ ลำดับต่อมาผมคิดว่า ซีดาน มีความน่าประทับใจเพราะเขาเป็นคนที่มีความรู้ลึกซึ้งและชาญฉลาดมากในการที่จะสร้างบางสิ่งบางอย่างที่บางทีต้องใช้บุคคลที่เหมาะสมเท่านั้นในการทำมัน 

เขายอมถอยออกมาในวิถีทางที่เป็นธรรมชาติ และเป็นการตัดสินใจที่ผมสนับสนุนเขา นอกจากนี้เรายังได้เห็นทีมที่อยู่กับ อันเชล็อตติ มีพลังงานที่ต่างไปจากเดิม แม้ว่าจะเป็นผู้เล่นชุดเดิมก็ตาม เช่นนี้แล้วผมคิดว่า ซีดาน ตัดสินใจถูกต้องแล้ว เราควรจดจำแต่ช่วงเวลาที่ดีไว้ 

ถาม : มีเรื่องอะไรที่คุณรู้สึกเจ็บปวดเป็นพิเศษหรือเปล่า ?

เบตโตนี่ : ในโหวดของผมแล้ว การเห็นพวกสื่อที่ไม่ค่อยยุติธรรมกับ ซีดาน มันคือความเจ็บปวด แน่นอนว่าสื่อต้องขายข่าว สื่อต้องพูด , ในบางครั้งการวิจารณ์ก็ยุติธรรม พวกเขาสามารถพูดได้เวลาเราผิดพลาด แต่ว่าหลายต่อหลายครั้งที่มันไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย และสโมสรบางทีควรช่วยเหลือเขามากกว่านี้ 

อย่างไรก็ตามมันเป็นความเห็นส่วนตัวจาก ดาวิด เบตโตนี่ ทั้งหมดคือสิ่งที่ผมคิด 

ถาม : มาดริด ตอนนั้นเต็มไปด้วยปัญหาบาดเจ็บมากมาย มันเกิดขึ้นเพราะอะไร ? 

เบตโตนี่ : ทุกอย่างที่ มาดริด ล้วนงดงาม ในสถิติของ ยูฟ่า พูดถึงอาการบาดเจ็บ 55 ครั้งใน 1 ปีสำหรับ 1 ทีมที่สามารถเดินไปถึงรอบรองชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 

เรามีผู้เล่นที่มีอาการบาดเจ็บในจำนวนนั้น แต่ก็คงจะต้องนับรวมการระบาดของโควิด-19 เข้าไปด้วย เราหยุดกันไป 4 เดือน จากนั้นเราลงเล่น 11 เกมสำคัญในช่วงเวลาเพียง 2 เดือน นักเตะส่วนใหญ่ก็เป็นนักเตะที่ติดทีมชาติ ซึ่งก็ต้องเดินทางไปเล่นให้กับทีมชาติของพวกเขาโดยปราศจากการเตรียมตัวที่ดี 

และหลังจากนั้นเราก็เริ่มฤดูกาลใหม่ ซึ่งมันทำให้ทีมหลุดฟอร์มไปอย่างมาก ซึ่งผมไม่คิดว่ามันเป็นปัญหาที่ระเบียบหรือวิธีการฝึกซ้อม  ทีมต้องชดใช้ในราคาแพงและบางทีเกมกับ เชลซี มันก็แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย 

แน่นอน ทุกอย่างไม่ได้ออกมาดีเสมอไป มันเป็นเรื่องส่วนของเรื่องราวที่ผ่านไปแล้ว เราแค่จำจดสิ่งที่ดีเอาไว้ , 11 ถ้วยแชมป์ในรอบ 5 ปีครึ่ง เราเล่นฟุตบอลกันได้ดี 

ถาม : ตอนนี้คุณมอง เรอัล มาดริด เป็นอย่างไรบ้าง พวกเขาข้ามผ่านการจากไปของ รามอส กับ วาราน ได้แล้วหรือยัง ? 

เบตโตนี่ : การตัดสินใจเลือก อันเชล็อตติ คือความถูกต้องของสโมสร เพราะเขาคือเทรนเนอร์ที่ใจเย็น มีประสบการณ์สูง รู้จักทีมเป็นอย่างดี  จากนั้นการเสียนักเตะตัวหลักไปบังคับให้นักเตะคนอื่นๆในทีมต้องก้าวเดินขึ้นมาข้างหน้า  

ผมเห็น เรอัล มาดริด ที่แข็งแกร่งมาก,เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น ผู้คนเต็มที่กับมัน ,บางทีนี่คือการเล่นฟุตบอลในสไตล์ของ อันเชล็อตติ มากยิ่งกว่าครั้งไหนๆ มีการทรานซิสชั่นมากขึ้นกว่าเดิม และมันยุติธรรมแล้วที่พวกเขานำเป็นจ่าฝูงของตาราง 

ผมคิดว่าพวกเขาจะคว้าแชมป์ ลา ลีกา และเรารู้ว่าใน แชมเปี้ยนส์ลีก นั้นทีมจะยังต่อสู้เพื่อมันเสมอ พวกเขาจะสู้เพื่อคว้าแชมป์ ทีมอยู่ในช่วงที่หอมหวาน นี่คือ มาดริด ที่ยอดเยี่ยม ผมชอบดูทีมชุดนี้เล่น กับนักเตะบางคนที่อยู่ในช่วงเวลาที่มหัศจรรย์ ไม่ว่าจะเป็น กูร์กตัวส์,โมดริช,โครส,เบนเซม่า,วินิซิอุส...

(ติดตาม PART II ฉบับพรุ่งนี้)

เจมส์ ลา ลีกา แปล&เรียบเรียง