:::     :::

ความจริงเกี่ยวกรณีของ อุมตีตี้

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
เพื่อคว้าผู้เล่นหน้าใหม่ บาร์เซโลน่า ทำทุกวิถีทางเพื่อให้ อุมตีตี้ ย้ายออกไป แต่ปราการหลังฝรั่งเศสปฏิเสธมาตลอดจนถูกแฟนๆมองว่าเห็นแก่ตัว แต่ความจริงคือเป็นอย่างไร ? อะไรคือสิ่งที่ยุติธรรมสำหรับทั้งสองฝ่าย ?

บาร์เซโลน่า ยุคเรเนสซองส์ พยายามทุกวิถีทางเพื่อกลับมาเป็นมหาอำนาจทางลูกหนังอีกครั้งหลังล้มพับมาร่วม 2 ฤดูกาล 

โจน ลาปอร์ต้า ซึ่งเข้ามารับไม้ต่อจาก โจเซป มาเรีย บาร์โตเมว ประธานคนก่อนที่ละเลงไว้เละเทะต้องแก้ปัญหาหลายทางไปพร้อมๆกัน และหนึ่งในภารกิจเร่งด่วนคือการทำให้ทีมกลับมามีผลงานที่ดีอีกครั้ง 


แต่ด้วยทรัพยากรนักเตะที่ไม่ได้คุณภาพเพียงพอ ทำให้ยักษ์ใหญ่กาตาลันยังขึ้นๆลงๆ ห่างไกลจากจุดที่เคยยืน 

หลังดึง ชาบี เอร์นานเดซ กลับมานั่งแท่นกุนซือใหญ่ ลาปอร์ต้า พยายามซัพพอร์ตด้วยการเสริมนักเตะชั้นดีเข้าสู่ทีม 

ล่าสุดประสบความสำเร็จในการดึง เฟร์ราน ตอร์เรส จาก แมนฯซิตี้ เข้ามา กระนั้นทุกคนรู้ดีว่ามันยังไม่เพียงพอ บาร์ซ่า จำต้องเพิ่มแข้งชั้นยอดเข้ามาอีก 

ด้วยกฏการเงินที่ครอบอยู่ ไม่มีทางเลยที่ ลาปอร์ต้า จะก้าวไปถึงเป้าหมาย หากไม่ระบายนักเตะชุดปัจจุบันที่ถูกมองเป็นส่วนเกินออกไป แต่กระบวนการนี้เป็นไปอย่างเชื่องช้าและยากลำบาก ด้วยปัญหาหลักๆ 2 ข้อ


1. ไม่มีสโมสรไหนพร้อมจ่ายแพงๆให้นักเตะที่ผลงานไม่ดี หรือสภาพไม่ 100%

2. นักเตะยังเหลือสัญญากับทีมและไม่ต้องการย้าย หรือถ้าจะย้ายก็ต้องเป็นไปตามข้อเรียกร้องของเขา  


นักเตะส่วนเกินใน บาร์เซโลน่า มีหลายคน แต่ที่สร้างความปวดหัวให้ ลาปอร์ต้า และน่าจะรวมถึงแฟนบาร์ซ่า มากที่สุดเห็นจะไม่พ้น ซามูแอล อุมตีตี้ เพราะทำยังไงก็ปล่อยออกจากทีมไม่ได้เสียที 

อุมตีตี้ คือหนึ่งในนักเตะที่มีค่าเหนื่อยระดับท็อปของทีม ปัจจุบันรับอยู่ปีละ 9 ล้านยูโร หากสามารถปล่อยออกไปได้ ก็จะทำให้สโมสรสามารถเติมแข้งใหม่เข้ามา โดยอาศัยช่องว่างค่าเหนื่อยของเขา 

ล่าสุดที่ทำเอาแฟนบาร์ซ่าหัวร้อน ก็มาจากข่าวของ นสพ.สปอร์ต ที่รายงานว่า อุมตีตี้ ปิดโอกาสย้ายออกจากทีม ด้วยการปฏิเสธข้อเสนอจากสโมสรต่างๆทั้งในตุรกีและฝรั่งเศสรวมแล้วถึง 5 ครั้ง 

มาเตอู อเลมานี่ ผ.อ สโมสรพยายามกดดันตัวนักเตะในทุกทางเพื่อให้รับสักหนี่งข้อเสนอ แต่ อุมตีตี้ ปฏิเสธ พร้อมกับยื่นข้อเสนอกลับมา 

ถ้าจะให้เขาไป สโมสรต้องยกเลิกสัญญาพร้อมกับจ่ายเงินชดเชยให้ หรือไม่ เขาก็ต้องได้รับข้อเสนอจากทีมที่เล่นใน แชมเปี้ยนส์ลีก ซึ่งเป็นไปได้ยากมาก (ด้วยฟอร์มและสภาพร่างกายในปัจจุบัน)


บาร์เซโลน่า กับ อุมตีตี้ จึงเหมือนทางตัน คุยเท่าไหร่ก็ไม่หาข้อสรุปไม่ได้ แต่ฝ่ายที่ถูกวิจารณ์อย่างหนักก็คือ อุมตีตี้ ที่ถูกมองว่าเห็นแก่ตัว 

แฟนๆมองว่าเขาเอาแต่นอนกินค่าเหนื่อย ฉวยผลประโยชน์จากสัญญาที่ยาวถึงปี 2023 แทนที่จะพิจราณาตัวเองแล้วย้ายออกจากทีม เนื่องจากตลอด 3 ปีที่ผ่านมา เขาแทบไม่ได้สร้างประโยชน์ให้กับทีมเลย


อุมตีตี้ ได้รับบาดเจ็บ หลังจบศึกฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย ซึ่งเจ้าตัวมีส่วนช่วยพา ฝรั่งเศส คว้าแชมป์โลกสมัยที่ 2 มาครอง จากนั้นมีอาการหมอนรองกระดูกหัวเข่าซ้ายฉีกขาดระหว่างลงฝึกซ้อมกับ บาร์เซโลน่า แต่ในความเป็นจริงแล้ว เจ้าตัวเริ่มมีปัญหามาตั้งแต่ก่อนฟุตบอลโลก 2018 เปิดฉากขึ้นแล้ว

อุมตีตี้ เผยเข้ารับการผ่าตัดและเฉือนเนื้อหมอนรองกระดูกเมื่อตอนอายุ 17 ซึ่งมันคือต้นตอของปัญหาที่แท้จริง อาการนี้จะค่อยๆแสดงผลออกมาเมื่อผ่านการเล่นไปเรื่อยๆ 

กับ ลียง รวมถึงทีมชาติฝรั่งเศสในยูโร 2016 ในวัย 21-22 อุมตีตี้ ไม่มีปัญหาใดๆ เขาโชว์ฟอร์มได้ยอดเยี่ยม จนเป็นที่ต้องการของหลายทีมยักษ์ใหญ่

สุดท้ายเป็น บาร์เซโลน่า ที่คว้าตัวมาในราคา 25 ล้านยูโร ภายใต้สัญญา 5 ปี (2016-2021) 


ฤดูกาลแรก 2016-17 อุมตีตี้ เล่นได้สุดยอดจนได้รับการโหวตให้เป็นการเซ็นสัญญาที่ดีที่สุดแห่งปีของ ลา ลีกา 

ฤดูกาลต่อมา 2017-18 เขายังโชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่น จนมีข่าวว่าทีมใหญ่จ้องตาเป็นมัน โดยเฉพาะ แมนฯยูไนเต็ด ที่พร้อมเปย์ไม่อั้น 

แม้จะมีสัญญาถึง 2021 แต่ข้อกังวลของ บาร์เซโลน่า เวลานั้น คือพวกเขาตั้งค่าฉีกสัญญา อุมตีตี้ ไว้เพียง 60 ล้านยูโร ซึ่งไม่ใช่อุปสรรคของทีมเงินหนาในพรีเมียร์ลีกเลย 

บาร์โตเมว กลัวที่จะต้องเสีย อุมตีตี้ ไป ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นทีมคงแย่ เพราะนี่คือเซนเตอร์ฮาล์ฟตัวหลักที่เล่นเข้าขากับ เคราร์ด ปีเก้ อย่างมาก ทั้งยังอายุแค่ 23 ยังใช้งานได้อีกยาวไกล 


วิธีเดียวที่จะล้อมรั้วกั้นไม่ให้ อุมตีตี้ โดนฉกตัวไปก็คือการเพิ่มค่าฉีกสัญญา แต่จะทำได้ก็ต่อเมื่อมีการปรับปรุงหรือต่อสัญญาฉบับใหม่ออกไป 

บาร์โตเมว ยอมทำตามเงื่อนไขเพื่อให้การเจราจาจบลงโดยเร็วที่สุด เนื่องจากฟุตบอลโลกกำลังจะเปิดฉากขึ้นในอีกไม่ช้า ถ้า อุมตีตี้ ยังคงโดดเด่นเหมือนในศึกยูโร และ 2 ฤดูกาลที่ผ่านมากับทีม คราวนี้ คงยากที่จะรั้งเขาไว้แน่ๆ 


เมื่อประเมินสถานการ์เช่นนั้น บาร์โตเมว จึงตัดสินใจขึ้นค่าเหนื่อยให้ อุมตีตี้ จาก 3 ล้านเป็น 9 ล้านยูโรต่อปี พร้อมขยายสัญญาจาก 2021 ไปถึง 2023 และแก้ค่าฉีกสัญญาจาก 60 ล้าน เป็น 250 ล้านยูโร 


อุมตีตี้ ตกลงต่อสัญญญากับทีมเมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2018 การต่อสัญญาของเขาถือเป็นข่าวดีสำหรับ บาร์เซโลนิสต้า ทุกคน เพราะนี่คืออนาคตของทีมอย่างแท้จริง 

อย่างไรก็ตาม มีข่าวลือว่าก่อนการต่อสัญญา ทีมแพทย์สโมสรได้ทำการตรวจสภาพร่างกายของ อุมตีตี้ และมีความกังวลเกี่ยวกับหัวเข่าของเขาว่าอาจมีปัญหาในอนาคต ทีมแพทย์ชี้ว่าการต่อสัญญายาวถือเป็นความเสี่ยง แต่บอร์ดบริหารได้ตัดสินใจไปแล้ว 


มีข่าวออกมาภายหลังบาดเจ็บหนักระหว่างซ้อมกับ บาร์เซโลน่า ว่าแท้จริงแล้ว อุมตีตี้ มีอาการมาตั้งแต่ระหว่างเล่นฟุตบอลโลกแล้ว ซึ่งเจ้าตัวออกมายอมรับภายหลังว่าเป็นเรื่องจริง โดยได้รับคำเตือนว่าถ้ายังฝืนลงเล่นต่อไปอาจจะส่งผลร้ายในอนาคต 


อย่างที่รู้กันว่า อุมตีตี้ ยอมเสี่ยง เขาฝืนอาการบาดเจ็บที่เข่าซ้ายลงเล่นให้ ฝรั่งเศส เป็นคนโหม่งประตูชัยให้ ‘ทัพตราไก่’ ดับ เบลเยี่ยม 1-0 ในรอบรองชนะเลิศ ก่อนเข้าไปคว้าแชมป์โลกสำเร็จ 

อุมตีตี้ ยอมรับว่าไม่รู้สึกเสียใจเลยที่ตัดสินใจแบบนั้น เพราะสุดท้าเขาก็ได้เป็นแชมป์โลก 


หลังอาการบาดเจ็บเข่าทรุดลง อุมตีตี้ พยายามรักษาตัวอย่างเต็มที่ 

เริ่มจากวิธี PRP(Platelet Rich Plasma) ซึ่งเป็นเทคนิครักษาโรคข้อเข่าเสื่อมโดยไม่ต้องทำการผ่าตัด

แต่ใช้การฉีดเกล็ดเลือดหนาแน่นที่ได้มาจากเลือดของผู้ป่วยเองเข้าไปเร่งกระบวนการซ่อมแซมของเนื้อเยื่อ

แต่ก็ไม่ได้ผลมากเท่าไหร่ สุดท้ายต้องเข้ารับการผ่าตัด ซึ่งจนวันนี้ กองหลังฝรั่งเศสก็ยังกลับมาเป็นคนเดิมไม่ได้


ในมุมของสโมสรและแฟนบอล อุมตีตี้ ไม่ควรอยู่กับทีมอีกต่อไป เพราะเขาไม่ได้เล่น แถมค่าเหนื่อยสูงลิบ เวลานี้ไม่ต่างอะไรกับตัวถ่วง ทีมเดินหน้าไม่ได้ ส่วนนึงก็เพราะเขา 

แต่ในมุมของ อุมตีตี้ เขาก็มีสิทธิ์ที่จะอยู่กับทีมจนครบสัญญา เพราะสโมสรเป็นฝ่ายเรียกร้องการต่อสัญญาเอง และเงินที่เขารับอยู่ในปัจจุบัน ก็เกิดจากความยินยอมพร้อมใจของทั้งสองฝ่าย 


ตอนวิกฤตการเงินในช่วงโควิดระบาดช่วงแรก อุมตีตี้ เป็นหนึ่งในนักเตะที่ยอมลดค่าเหนื่อยลงมาเพื่อช่วยสโมสร แสดงให้เห็นว่าเขาไม่ใช่คนแล้งน้ำใจ 

มาเวลานี้ เมื่อสโมสรต้องการได้นักเตะรายใหม่ ก็มาไล่ให้เขาย้าย กดดันวิถีทุกทาง ซึ่งก็น่าเห็นใจอยู่ เพราะเหมือนสโมสรเองต่างหากที่ไม่เคารพสัญญาที่ทำกันไว้

        กระนั้นเรื่องคงไม่เลวร้ายถึงขั้นนี้ หากเจ้าตัวไม่ฝืนสังขารในฟุตบอลโลก หากตัดสินใจหยุดพัก อุมตีตี้ น่าจะยังได้โลดแล่นเป็นกำลังหลักของ บาร์เซโลน่า แต่เขาก็จะไม่ได้ลงเล่นในรอบรองฯ ที่ตัวเองเป็นคนโหม่งประตูชัย รวมถึง ฝรั่งเศส อาจไม่ได้เข้าชิง และไม่ได้แชมป์โลก 

เรื่องของ อุมตีตี้ ก็มีอยู่ประมาณนี้ ซึ่งก็แล้วแต่มุมมอง แต่ไม่ว่าจะมองอย่างไร ผมคิดว่าเราควรให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย 


เจมส์ ลา ลีกา 


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด