:::     :::

"เราจะไป...เวมบลีย์"

วันอาทิตย์ที่ 28 มกราคม 2561 คอลัมน์ Football Therapy โดย บี้ เดอะสปา
1,445
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
"เวมบลีย์ คืออีกเป้าหมายที่สโมสรตั้งหน้าตั้งตารอ เรากำลังจะได้ไปที่นั่นแล้ว" กุนซือ นิวพอร์ท พูดถึงการไปสังเวียนศักดิ์สิทธ์ ในแบบฉบับ เอฟเอ คัพ รีเพลย์

ประตูของ แฮร์รี่ เคน ก่อนหมดเวลา 8 นาที ปฏิเสธการผ่านเข้าสู่รอบ 5 ของ นิวพอร์ท เคาน์ตี้ แต่ก็ทำให้ ทีมจากลีกทู ได้เติมเต็มความฝัน นั่นคือการไปเหยียบ เวมบลีย์ ในฐานะรังเหย้าชั่วคราวของ สเปอร์ส

ภายหลังจบเกมรอบ 3 ที่ปราบ ลีดส์ ยูไนเต็ด ทีมจากแชมเปี้ยนชิพ ลงแบบพลิกล็อก ไมเคิ่ล ฟลินน์ กุนซือ เดอะ เคาน์ตี้ วาดฝันที่จะจับสลากไปเยือนทีมใหญ่อย่าง ลิเวอร์พูล หรือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มากกว่าการจับเจอทีมระดับเดียวกันอย่าง โยวิล, น็อตต์ส เคาน์ตี้ หรือ โคเวนทรี
แม้โอกาสตกรอบจะมีสูงลิ่ว แต่สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับทีมระดับลีกทู นั่นคือเรื่องของรายได้มหาศาลที่จะเข้าสู่สโมสร เพื่อพยุงสถานะทางการเงิน จากค่าตั๋ว ค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด และอื่นๆ อีกมากมาย
แต่ไปๆ มาๆ เหลืออีกเพียงแค่ประมาณ 10 นาที นิวพอร์ท ก็กำลังจะสร้างปรากฏการณ์ผ่านเข้าสู่รอบ 5 เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1949 อยู่แล้ว แต่สุดท้ายปาฏิหารย์ก็ไม่เกิดขึ้นกับการล้มทีมที่อยู่อันดับเหนือกว่าถึง 72 ขั้น และหลังจากนี้จะเป็นงานที่หนักขึ้น กับการไปเยือน เวมบลีย์
"ผมผิดหวังเพราะเราเสียประตูในช่วงท้ายเกม แต่พวกเขาคือทีมที่มีคุณภาพ และในครึ่งหลังเราไม่สามารถจับพวกเขาได้เลย" ฟลินน์ กล่าวหลังจบเกมที่ ร็อดนี่ย์ พาเหรด
แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า ส่วนสำคัญที่ทำให้ นิวพอร์ท ต่อกรกับ สเปอร์ส ได้อย่างสูสี เพราะการที่ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ เลือกปรับทีมและระบบการเล่น กับการส่งกองหน้า 2 คนลงพร้อมกัน แฮร์รี่ เคน กับ เฟร์นานโด ยอเรนเต้ และการมีกองกลางตัวรุก 2 คน แต่ดันเป็นการขยับ มูซ่า เดมเบเล่ มาเล่นกับ มุสซ่า ซิสโซโก้ และส่งกลางรับมาพร้อมกันถึง 2 ราย เอริค ดายเออร์ กับ วิคเตอร์ วานยาม่า
ด้วยแท็กติกนี้ทำให้ ฟลินน์ เตรียมตัวมารับมือง่ายมาก เพราะนอกจาก ไก่เดือยทอง ไม่มีตัวเลี้ยงทะลุทะลวงแล้ว ยังไม่ได้ลูกเซตพีซ หรือลูกครอสจากริมเส้นมากพอให้ เคน กับ ยอเรนเต้ เข้าโจมตี
จบเกมที่ ร็อดนี่ย์ พาเหรด ด้วยสถิติที่แตกต่าง นิวพอร์ท ครองบอลเป็นรอง 29-71, โอกาสยิงเป็นรอง 8-15, ลูกเตะมุมเป็นรอง 2-7 แต่ไม่มีใครสนใจเรื่องนั้น เพราะสิ่งสำคัญที่สุดคือ ผลการแข่งขัน
แมน ออฟ เดอะ แมตช์ ในเกมนี้ ไม่ใช่ เปแดร๊ก อามอนด์ ศูนย์หน้าที่โหม่งประตูขึ้นนำ แต่เป็น จอสส์ ลาบาดี กองกลางกัปตันทีม ที่หยุดเกมรุกผู้มาเยือนจากพรีเมียร์ลีกอยู่หมัด
แม้จะผิดหวังกับการโดน ไก่เดือยทอง ตามตีเสมอท้ายเกม แต่ลึกๆ แล้ว เชื่อว่าทุกคนในสโมสร นิวพอร์ท ต่างตื่นเต้น และตั้งหน้าตั้งตารอคอยการไปเยือน เวมบลีย์ สังเวียนลูกหนังที่ทุกคนอาจได้มาเหยียบที่นี่ครั้งแรกและครั้งเดียวในชีวิต

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด