"ป้อมปราการ"ถึงเวลาต้องสร้างใหม่
แม้จะเสีย 2 คีย์แมนอย่าง จักพัน ไพรสุวรรณ กองหลังไปให้ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด กัปตันนิว พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี กองกลางไปให้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และไม่สามารถรั้ง บาร์รอส ทาร์เดลี หัวหอกดาวซัลโวประจำทีมและดาวซัลโวรีโว่ไทยลีกเมื่อฤดูกาลที่แล้วไว้ได้ แต่ อิชิอิ มั่นใจว่าเอาอยู่ เพราะเขายึดระบบการเล่นมาก่อนการพึ่งนักเตะคนใดคนหนึ่ง
ทว่าเหมือนฟ้าฝ่าลงกลางใจพวกเขาต้องมาเสีย เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์ ปีกตัวเก่งที่บาดเจ็บพักยาวอีก
ทำให้ฟอร์มการเล่นลุ่มๆ ดอนๆ และสาระวันเตี้ยลง ผลงานในลีก 5 นัดหลังสุดไม่ชนะใครเลย แถมแพ้ไป 4 นัด
หลายคนคิดว่าเดี๋ยวเลก 2 อิชิอิ คงแก้ไขจุดอ่อนทีมได้ และสโมสรคงทุ่มเงินซื้อนักเตะฝีเท้าเกรดเอ มายกระดับทีมให้แกร่ง พร้อมกลับมาทำผลงานไฉไลอีกหน
ทว่า มาซาทาดะ อิชิอิ กุนซือคนเก่ง ซึ่งเป็นดั่งความหวังหมู่บ้าน กลับโบกมืออำลาทีมไปคุมทัพ “ปราสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ชนิดเซอร์ไพรส์กันทั้งบาง
แม้ว่าทางสโมสรจะแต่งตั้งกุนซือใหม่ “ยาสุชิ โยชิดะ” ที่มีประสบการณ์และฝีมือไม่ธรรมดาเข้ามาทำหน้าที่แทน
แต่ด้วยศักยภาพของนักเตะที่มีอย่างจำกัดจำเขี่ย ย่อมทำให้กุนซือเลือดซามูไรเจองานหนัก
เพราะปัญหาของทีมคือ ผู้เล่นตัวจริง กับ ตัวสำรองไม่สามารถทดแทนกันได้ ยังไม่ถูกแก้ไข
การเสริมทัพในเลก 2 สโมสรที่เจอพิษโควิด-19 จนการเงินสะดุด ทำให้คว้าแข้งระดับเกรดเอ มาเสริมทัพเพียงคนเดียว คือ ซามูเอล โรซ่า กอนซัลเวซ หัวหอกที่ยืมมาจาก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
ซึ่งต้องบอกว่าเป็นเพียงคนเดียวที่พอฝากผีฝากไข้ได้ ส่วนนักเตะคนอื่นๆ ที่ตบเท้าเข้ามาล้วนเป็นนักเตะตัวสำรองของทีมอื่นทั้งสิ้น
เกมล่าสุดเหมือนทีมกำลังจะเจอจุดเปลี่ยน เมื่อออกนำ หนองบัว พิชญ น้องใหม่ 2-0 ใครเห็นก็คงคิดว่า 3 แต้มคงไม่หลุดมือ
ที่ไหนได้ครึ่งหลังกลับโดนไล่ตีเสมอ 2-2 ทำให้ไม่ชนะใครในลีก 6 นัดรวด
ตอนนี้อันดับในตารางคะแนนของ “เขี้ยวสมุทร” หล่นมาอยู่อันดับ 13 ของตารางคะแนน มีแต้มนำห่าง สุพรรณบุรี เอฟซี ทีมในโซนตกชั้นอันดับ 14 แค่ 2 แต้ม แต่แข่งมากกว่า 1 นัด
อย่าลืมว่าทีมในเร้ดโซนทั้ง เชียงใหม่ ยูไนเต็ด, พีที ประจวบ เอฟซี และ สุพรรณบุรี เอฟซี ทีมสวมบทเจ้าบุญทุ่มคว้าแข้งฝีเท้าแจ่มมาร่วมทีมอย่างคับคั่งในช่วงเลก 2
ทำให้ขนาดทีมใหญ่และมีนักเตะให้เลือกใช้งานเพียบต่างจาก สมุทรปราการ ซิตี้
ยิ่งดูโปรแกรมการแข่งขันในลีก 7 นัดข้างหน้า ของ สมุทรปราการ ซิตี้ ต้องเจอของแข็งทั้ง ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด, บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด
หรือทีมที่เขี้ยวลากดินอย่าง ราชบุรี มิตรผล หรือ โปลิศ เทโร เอฟซี อีก
บอกเลยน่าเป็นห่วง โยชิดะ และ สมุทรปราการ ซิตี้ จริงๆ เพราะหากพวกไม่สามารถหาจุดเปลี่ยน หรือเก็บชัยชนะใน 7 เกมข้างหน้า โอกาสหล่นไปอยู่โซนสีแดงและมีโอกาสร่วงตกชั้นไม่น้อย
อย่าลืมว่านี่คือนรกไทยลีกที่ไม่เคยปราณีให้กับทีมที่อ่อนแอ หวังเหลือเกินว่า ป้อมปราการที่ร้าว จะไม่แตกกระจาย ในท้ายฤดูกาล
ไม่เช่นนั้นแฟนบอล “เขี้ยวสุมทร” คงออกอาการรมบ่จอยแน่นอน
ถึงกระนั้น ก็คงได้แต่ให้กำลังใจว่าพวกเขาจะกลับมาแข็งแกร่งดั่งป้อมปราการอีกครั้ง
สู้ต่อไป “เขี้ยวสมุทร”