อินญีโก้ มาร์ตีเนซ สลัดคราบ'ขาว-น้ำเงิน'กลายร่างมาสวมเสื้อ'ขาว-แดง'ท่ามกลางเสียงก่นด่าสาปแช่งจากแฟนๆ เรอัล โซเซียดาด หลังนักเตะวัย 26 ปีกลืนน้ำลายตัวเองทั้งที่เคยให้คำมั่นเมื่อปี 2014 ว่าจะไม่ย้ายข้ามฟากมาอยู่กับทีมคู่ปรับร่วมแคว้นบาสก์

ต้นสายปลายเหตุเกิดขึ้นจาก อายเมอริค ลาปอร์เต้ ปราการหลังวัย 23 ปีย้ายออกจาก บิลเบา ไปค้าแข้งในลีกเมืองผู้ดีกับ แมนฯซิตี้ หลังทัพเรือใบจ่ายเงินค่าฉีกสัญญาจำนวน 65 ล้านยูโร 

ดังนั้น บิลเบา จึงจำเป็นต้องรีบหาตัวแทน ลาปอร์เต้ จนกระทั่งลงเอยกับ อินญีโก้ มาร์ตีเนซ หลังเจียดเงินส่วนหนึ่งมาฉีกสัญญากองหลังวัย 26 ปีมูลค่า 32 ล้านยูโร 

อินญีโก้ มาร์ตีเนซ เริ่มต้นเล่นฟุตบอลกับ เอาร์เรร่า ออนดาร์โรอา สโมสรท้องถิ่นในบ้านเกิด ก่อน เรอัล โซเซียดาด จะดูดเข้าสังกัดทีมเยาวชนในเวลาต่อมา จนกระทั่งก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ลงประเดิมเวทีลีกาเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2011 ในเกมบุกชนะ สปอร์ติ่ง คิฆอน 2-1

ประจวบเหมาะที่การทำประตูแรกบนเวทีลีกาของ อินญีโก้ เกิดขึ้นในศึกดาร์บี้แมตช์แคว้นบาสก์กับ บิลเบา เมื่อวันที่ 2 ตุลาคมปีเดียวกัน หลังยิงลักไก่จากแดนตัวเองก่อน เรอัล โซเซียดาด จะพ่ายคู่ปรับร่วมแคว้นคารัง 1-2

อินญีโก้ มาร์ตีเนซ ก้าวขึ้นมาเป็นผู้เล่นตัวหลักของ เรอัล โซเซียดาด และเพิ่งต่อสัญญายาว 5 ปีเมื่อวันที่ 26 เมษายน 2016 โดยมีค่าฉีกสัญญา 32 ล้านยูโร 

กองหลังวัย 26 กะรัตเคยตกเป็นเป้าหมายของ บาร์เซโลน่า ตั้งแต่ช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา แต่ทีมอาซูลกราน่าไม่ต้องการจ่ายเงินค่าฉีกสัญญา การย้ายไปค้าแข้งกับทีมอาซูลกราน่าจึงถูกพับฐานไปโดยปริยาย ก่อนที่ อินญีโก้ จะทำเซอร์ไพรส์ด้วยการย้ายไปสวามิภักดิ์ต่อทีมคู่ปรับร่วมแคว้นบาสก์เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา

อินญีโก้ มาร์ตีเนซ เซ็นสัญญากับ บิลเบา จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2023 พร้อมมูลค่าฉีกสัญญา 80 ล้านยูโร แต่กองหลังวัย 26 ปีไม่ใช่นักเตะคนแรกที่ย้ายข้ามฟากจาก เรอัล โซเซียดาด สู่ทีมคู่กัดร่วมแคว้นบาสก์อย่าง บิลเบา แต่ที่สร้างความโกรธแค้นให้แฟนบอลเป็นเพราะคำพูดจากปากของ อินญีโก้ ที่เคยให้คำมั่นว่าจะไม่ย้ายจากทีม'ขาว-น้ำเงิน'เพื่อไปเล่นกับทีม'ขาว-แดง'นั่นเอง

แอธเลติก บิลเบา เป็นสโมสรเก่าแก่ของแคว้นบาสก์และประเทศสเปน ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1898 หรือ 120 ปีก่อนหน้านี้ พวกเขามีศักดิ์ศรีเป็นทีมหมายเลขหนึ่งของแคว้นนี้ก็ว่าได้ หลังเคยคว้าแชมป์ลีกา 8 สมัย, แชมป์โกปา เดล เรย์ 23 สมัย และ แชมป์สแปนิช ซูเปอร์ คัพ 2 ครั้ง

ขณะที่ เรอัล โซเซียดาด ก่อตั้งสโมสรเมื่อปี 1909 หรือราว 108 ปีก่อน อายุอานามก็น้อยกว่า บิลเบา ราว 12 ปี เคยคว้าแชมป์ลีกเมืองกระทิง 2 สมัย, โกปา เดล เรย์ 2 สมัย กับ สแปนิช ซูเปอร์ คัพ 1 ครั้ง ถึงกระนั้นพวก'ลา เรอัล'มองว่าพวกเขามิได้มีศักดิ์ศรีด้อยกว่า บิลเบา แม้แต่น้อย 

ทั้งสองสโมสรมีนโยบายทำทีมแตกต่างกันอย่างชัดเจน บิลเบา ยึดจารีตประเพณีที่ต้องใช้นักเตะที่มีเชื้อสายหรือเกี่ยวข้องกับความเป็นบาสโก้เท่านั้น ขณะที่ เรอัล โซเซียดาด ทำทีมฟรีสไตล์ไม่เกี่ยงว่าคุณจะเป็นคนชาติไหนสามารถเล่นกับสโมสรได้แบบไม่กีดกัน

ดังนั้นจากอดีตที่ผ่านมา บิลเบา จึงมักจะใช้พลังถูกนักเตะเชื้อสายบาสโก้ไปจาก เรอัล โซเซียดาด เสมอ ผ่านมาจนถึง อินญีโก้ มาร์ตีเนซ เป็นรายล่าสุด

จากเมือง บิลเบา สู่เมือง ซาน เซบาสเตียน ซึ่งเป็นฐานที่ตั้งของ เรอัล โซเซียดาด อยู่ไม่ห่างกันมากนักใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งและเคยมีนักเตะ'ลา เรอัล'ย้ายไปค้าแข้งกับ บิลเบา ก่อนหน้านี้หลายต่อหลายคน

อาทิ บิตตอร์ อัลกีซ่า, โลเรน ฆวาร์โรส, โจเซบา เอเชเบร์เรีย, มีเกล บาเลนเซียก้า, อีกอร์ กาบีลอนโด้, อีบัน ซูเบียอูร์เร่, กอร์ก้า เอลูสตอนโด้ จนถึง อินญีโก้ มาร์ตีเนซ รายหลังสุดจะได้รับเสียงสาปส่งมากกว่าผู้เล่นคนอื่น 

'ผมเศร้ามากและรู้สึกเจ็บปวดมาก พี่น้องของเราจากไปอยู่กับ บิลเบา ในช่วงสถานการณ์เลวร้าย หนึ่งในนักเตะดีที่สุดและทีมใหม่ของเขาก็กำลังอยู่ในสถานการณ์ย่ำแย่เช่นเดียวกัน'มีเกล เอเรนต์ชูน นักร้องนำวง'ดันแคน ดู'ซึ่งเป็นแฟนบอล'ลา เรอัล'ระบายความรู้สึกผ่านทวิตเตอร์ 

เรอัล โซเซียดาด กำลังตกอยู่ในสถานการณ์เลวร้ายหลังการปราชัยบนเวทีลีกา 4 เกมติดต่อกัน จากที่เคยมีโอกาสลุ้นทำอันดับไปเล่นฟุตบอลยุโรปในช่วงต้นฤดูกาล ตอนนี้รูดลงมาอยู่อันดับ 15 มี 23 คะแนนจากการลงเล่น 21 นัด ห่างจากโซนตกชั้นอันดับ 18 (เดปอร์ติโบ ลา กอรุนญ่า) เพียง 6 แต้มเท่านั้น 

สาวก'ลา เรอัล'จำนวนไม่น้อยจึงรู้สึกเศร้า เซ็ง ไม่พอใจและโกรธแค้นที่ อินญีโก้ มาร์ตีเนซ ตัดสินใจทิ้งทีมไปในช่วงสถานการณ์คับขัน

'ผมรู้สึกถึงความคิดเห็นก่อนหน้านี้ ผมรู้สึกแย่มากๆ ผมเคยชื่นชอบ แอธเลติก และมีความสุขกับความสำเร็จของพวกเขา แต่ 48 ชั่วโมงที่ผ่านมา มันเป็นการกระทำที่ไม่สง่างามเอาซะเลย' หัวหน้าวง'ดันแคน ดู'แสดงความไม่พอใจพฤติกรรมการดูดนักเตะคู่แข่งของบิลเบา 

โจเซบา เอเชเบร์เรีย เริ่มต้นจากการเป็นนักเตะเยาวชนของ เรอัล โซเซียดาด แต่ บิลเบา ใช้พลังดูดนักเตะเข้าสังกัดตอนอายุเพียง 17 กะรัตด้วยเงิน 550 ล้านเปเซต้า หรือเทียบเท่า 3.3 ล้านยูโรในปัจจุบันเมื่อปี 1995 ซึ่งมันกลายเป็นจุดเริ่มต้นของความบาดหมางระหว่างสองสโมสร เนื่องจากฝ่าย เรอัล โซเซียดาด ไม่พอใจที่ บิลเบา แอบตีท้ายครัวเพื่อดึงนักเตะดาวรุ่งอนาคตไกลไปจากทีม

เอเชเบร์เรีย กล่าวหนุนการลงทุนซื้อสัญญามูลค่า 32 ล้านยูโรเพื่อดึง อินญีโก้ มาร์ตีเนซ เข้าสู่ทีมว่า'ผมคิดว่าเขาเป็นการเซ็นสัญญาที่ยอดเยี่ยม ทีมมีเซนเตอร์ฮาล์ฟดีๆหลายคนทั้ง (ชาเบียร์) เอเชยต้า, เยราย (อัลบาเรซ) และ (อูไน) นูนเญซ แต่เขาเป็นคนถนัดเท้าซ้าย ดังนั้นเขาจึงเป็นการเสริมทัพที่ยอดเยี่ยม'

โจเซบา เอเชเบร์เรีย วัย 40 ปี ปัจจุบันเป็นเทรนเนอร์ของ อาโมเรเบียต้า สโมสรระดับ เซกุนด้า เบ กลุ่ม 2 ซึ่งเป็นทีมในแคว้นบาสก์เช่นเดียวกัน หลังเริ่มต้นงานเทรนเนอร์กับทีมเยาวชนของ บิลเบา ในช่วงปี 2012-2015 ก่อนย้ายมาอยู่กับ บาสโกเนีย ในฤดูกาล 2016-17 จนกระทั่งมาทำงานกับ อาโมเรเบียต้า ตั้งแต่ช่วงซัมเมอร์ปีก่อน 

เอเชเบร์เรีย ย้อนความหลังถึงการย้ายข้ามฟากจาก เรอัล โซเซียดาด สู่ บิลเบา เมื่อ 20 ปีก่อนว่า'ตอนเด็กผมตัดสินใจย้ายมาที่นี่ ตอนนี้มันเกิดขึ้นเหมือนกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับผมในตอนนั้น แต่คุณไม่จำเป็นต้องมองย้อนกลับไป'

'เขาเป็นนักเตะที่มีมนุษย์สัมพันธ์ดีและมีแคแร็กเตอร์ เขายังมีประสบการณ์บนเวทีระดับชาติและจะเป็นส่วนผสมที่ลงตัวของบิลเบา'

จอน อันโดนี กอยโกเอตเชีย ซึ่งเคยเล่นกับทั้ง เรอัล โซเซียดาด และ บิลเบา กล่าวเสริมว่า'แอธเลติก เป็นสโมสรที่ยิ่งใหญ่ระดับเดียวกับ มาดริด หรือ บาร์ซ่า ผมทราบว่าเป็นการจ่ายเงินค่าฉีกสัญญาและ ลา เรอัล แทบจะทำอะไรไม่ได้เลย'

'การย้ายทีมของ ลาปอร์เต้ ทำให้ แอธเลติก มีเงินจำนวนมากและสถานการณ์ทำให้เขาต้องย้าย แต่การจากไปของเขาจะทำให้ ลา เรอัล ตกอยู่ในสถานการณ์อันตราย เมื่อไม่นานมานี้ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะดีขึ้น หลังนักเตะที่บาดเจ็บไปฟิตพร้อมคืนสนามทั้ง โอยาร์ซาบาล หรือแม้แต่ อินญีโก้'

สื่อเมืองกระทิงขุดคุ้ยหาบทสัมภาษณ์ของ อินญีโก้ เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2014 ก่อนนำมาแฉในสิ่งที่กองหลังวัย 26 กะรัตเคยพูดเมื่อราว 4 ปีก่อนว่า'ผมไม่คิดว่า แอธเลติก จะมาที่นี่เพื่อจ่ายเงินให้ศัตรู 30 ล้านเพื่ออะไร ผมไม่ได้คิดถึงเรื่องนั้นหรืออะไรเลย ผมจะไม่ย้ายข้ามฟากไปอยู่กับทีมคู่ปรับ ตอนนี้ผมยังรู้สึกเฉยๆนะ'

อินญีโก้ บอกกล่าวผ่านสื่อหลังมีข่าวก่อนหน้านั้นว่า แอธเลติก บิลเบา สนใจจะดึงตัวไปทีมร่วมหลัง บาร์เซโลน่า จ้องจะฉก อายเมอริค ลาปอร์เต้ ไปเข้าสังกัด ก่อนย้อนไปถึงคำพูดของคนเดียวกันเมื่อปี 2013 ว่า'ผมอยู่ที่นี่มาตั้งแต่เด็กและมีความรู้สึกผูกพันมากมาย'

'คำพูดเป็นนาย'สิ่งที่ อินญีโก้ มาร์ตีเนซ เคยพูดไว้ก่อนหน้านี้หวนกลับมาทำร้ายตัวเองหลังเขาตัดสินใจทำตรงข้ามกับที่เคยพูด ดังนั้นสาวก'ลา เรอัล'จึงสาปส่งกองหลังวัย 26 ปีแบบ'ผีไม่เผา เงาไม่เหยียบ'ไปตราบนานเท่านาน