อีกหนึ่งสิ่งที่เจ้าตัวมักโพสต์เป็นประจำ นั่นคือภาพของคนในครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นคุณแม่, พี่ชาย, พี่สาว, ลูกชาย, หลาน, ญาติสนิท และแฟนสาว แน่นอนว่า ยังรวมไปถึงกลุ่มเพื่อนสนิทอีกด้วย
หากสังเกตดีๆ โรนัลโด้ มักชอบถ่ายภาพร่วมกับเพื่อนสนิทคนหนึ่งเสมอ ถือเป็นเพื่อนที่อยู่ด้วยกันในทุกช่วงเวลา ไล่ตั้งแต่พักผ่อนร่วมกัน, ออกไปเที่ยวด้วยกัน และเฉลิมฉลอง ในวันที่ "CR7" ประสบความสำเร็จ ในการคว้าแชมป์รายการต่างๆ
ทำให้ใครหลายคนอดสงสัยไม่ได้ว่า เพื่อนคนที่โรนัลโด้ ถ่ายรูปด้วยเป็นประจำ เป็นใครมาจากไหน และมีความสัมพันธ์กันรูปแบบใด ? เพราะน้อยคนนัก ที่จะคุ้นหน้าคุ้นตาเพื่อนรายนี้
ทุกอย่างได้รับการเฉลยมาแล้วว่า เพื่อนคนนี้มีชื่อว่า "โชเซ่ เซเมโด้" ปัจจุบันเป็นนักฟุตบอลในตำแหน่งกองกลางตัวรับ และสังกัดสโมสรวิตอเรีย เซตูบัล ในลีกของประเทศโปรตุเกส
เซเมโด้ ถือเป็นเพื่อนกับทางโรนัลโด้ มาตั้งแต่ทั้งสองเป็นนักเตะเยาวชนของสปอร์ติ้ง ลิสบอน พร้อมกับผ่านเรื่องราวที่แสนยากลำบากมาด้วยกัน จนเกิดเป็นมิตรภาพที่แสนงดงามมาจนถึงทุกวันนี้
เซเมโด้ ออกมาเปิดเผยเรื่องราวที่หลายอาจจะยังไม่เคยทราบมาก่อนว่า ครั้งหนึ่งเขาเกือบโดนสปอร์ติ้ง ลิสบอน หั่นออกจากทีมมาแล้ว แต่ผลสุดท้าย สโมสรเลือกเก็บตัวเขาเอาไว้กับทีมต่อไป
ซึ่งคนที่ช่วยเหลือเซเมโด้ ไม่ให้โดนตัดอออกจากทีมในวันนั้น ก็คือเพื่อนนามว่าโรนัลโด้ ที่อาสาไปเคลียร์กับสโมสรให้ โดยเรื่องราวดังกล่าว ถือเป็นสิ่งที่ยังคงจดจำมาจนถึงปัจจุบัน
เซเมโด้ ออกมาย้อนความทรงจำว่า "โรนัลโด้ บอกว่าให้นำเตียงเสริมมาไว้ที่ห้องนอนของเขา และมาใช้ตู้เสื้อผ้าร่วมกันก็ได้ เขายังปกป้องผมด้วยคำว่า -หากนายไป ข้าก็จะไปเหมือนกัน-"
นั่นเป็นคำพูดที่เปรียบเสมือนการสาบานเป็นเพื่อนตาย เพราะรู้ดีว่า หากไม่ได้ไปต่อในเส้นทางสายลูกหนัง เขาคงหมดอนาคต และต้องไปใช้ชีวิตอย่างไม่รู้ชะตากรรมอย่างแน่นอน
"ผมเป็นหนี้บุญคุณเขา" เซเมโด้ เล่าต่อ "บ้านเกิดของผมที่เซตูบัล ไม่ใช่สถานที่ที่เหมาะกับเด็กวัยรุ่น เพื่อนของผมหลายคนเข้าไปเกี่ยวพันกับอาชญากรรม บางคนก็ตาย หรือไม่ก็ติดคุก"
"หากตอนนั้น ผมถูกสโมสรสปอร์ติ้ง ลิสบอน ส่งตัวกลับบ้าน ผมคงเข้าสู่วงการขโมยรถ อาจบอกได้เลยว่า โรนัลโด้ เป็นคนที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงชีวิตผม, ครอบครัว, ลูกๆ และอาชีพ ทุกอย่างเป็นเพราะเขาจริงๆ"
ช่วงปี 2003 พวกเขาทั้งสองคนต่างต้องแยกจากกันเป็นครั้งแรก เมื่อโรนัลโด้ ออกไปผจญภัยกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยอดทีมจากเกาะอังกฤษ พร้อมกับคว้าแชมป์ได้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นพรีเมียร์ลีก, เอฟเอ คัพ, ลีก คัพ, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และสโมสรโลก
ตามด้วยการย้ายไปร่วมทีมเรอัล มาดริด ในช่วงปี 2009 ด้วยค่าตัวอันเป็นสถิติโลก ณ เวลานั้น ที่จำนวน 80 ล้านปอนด์ พร้อมกับกวาดความสำเร็จทุกอย่างที่ขวางหน้า ทั้งกับสโมสร และระดับส่วนตัว ชนิดที่ไล่เรียงทั้งวันก็ไม่หมด
ขณะที่เซเมโด้ ต้องย้ายออกจากทีมสปอร์ติ้ง ลิสบอน ในช่วงปี 2007 ด้วยการออกมาค้าแข้งในระดับลีกรองของประเทศอังกฤษ ทั้งกับชาร์ลตัน แอธเลติก และเชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์ ก่อนที่จะย้ายมาเล่นกับทีมบ้านเกิดอย่างวิตอเรีย เซตูบัล
ซึ่งเกียรติประวัติของเซเมโด้ มีน้อยมาก นอกจากการคว้ารองแชมป์ลีกวันกับพลพรรค "นกเค้าแมว" ก็มีเพียงรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของชาร์ลตัน แอธเลติก และเชฟฟิลด เว้นส์เดย์ ติดตัวมาเท่านั้น
แม้ว่าเส้นทางการค้าแข้ง และกราฟชีวิตของโรนัลโด้ และเซเมโด้ จะแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แต่มันก็ไม่เคยทำให้มิตรภาพของทั้งสองคน ต้องมีอันเจือจางลงไปเลยแม้แต่น้อย
โรนัลโด้ ยังเป็นคนเดิมเหมือนตอนวัยรุ่น ที่พร้อมช่วยเหลือเพื่อนฝูงเสมอ ยามต้องเจอกับทุกปัญหาที่ถาโถมเข้ามาในชีวิต และอ้าแขนต้อนรับทุกครั้ง เมื่อมีเวลาว่างที่ตรงกัน
และนี่คือเรื่องราวบางส่วนของโรนัลโด้ นักเตะที่หลายคนมองว่าหยิ่งยโส และเชื่อมั่นในตัวเองสูง แต่อีกหนึ่งมุมคือมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่ง ที่ชอบช่วยเหลือคนรอบข้าง โดยไม่หวังผลตอบแทน
