:::     :::

คุยกับพ่อธีรศิลป์ : "มุ้ยซัง" ตะลุยแดนปลาดิบ

วันเสาร์ที่ 03 กุมภาพันธ์ 2561 คอลัมน์ ONE MAN SHOW โดย แมน โกสินทร์
2,449
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
มาอัพเดทกันอีกครั้งกับความเคลื่อนไหวของ "มุ้ยซัง" ธีรศิลป์ แดงดา กับชีวิตที่กำลังจะไปโลดแล่นที่ญี่ปุ่น กับบทสัมภาษณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟจากปากของ พ.อ.อ.ประสิทธิ์ แดงดา คุณพ่อของหัวหอกเบอร์หนึ่งทีมชาติไทย

แมน : สวัสดีครับพี่ประสิทธิ์ ผมอยากคุยกับพี่เรื่องมุ้ยเอาไปเขียนเป็นคอลัมน์อีกสักรอบครับ

พ่อมุ้ย : อ๋อ ได้ๆ เรื่องอะไรล่ะ

แมน : ขอถามก่อนเลยว่างวดนี้ 31 ได้ซื้อมั้ยครับ

พ่อมุ้ย : ผมไปทุ่มซื้อตั้งแต่งวดก่อนแล้ว ซื้อไว้เยอะมาก เพราะผมรู้ก่อนคนอื่นว่ามุ้ยจะใช้เบอร์นี้ไง แต่ก็ไม่ถูก แล้วงวดนี้ดันไม่ได้ซื้อ แต่แม่ (กาญจนา แดงดา) เขาซื้อต่อเนื่องอีกงวดก็ถูกบนดินแต่ไม่รู้ว่าถูกกี่ใบได้เท่าไหร่นะ

แมน : เห็นว่ามุ้ยเลือกนี้เพราะเป็นปีเกิดใช่มั้ยครับ ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีเลยนะพี่ แค่เบอร์เสื้อก็นำโชคแล้ว

พ่อมุ้ย : ก็คงใช่อย่างนั้นแหละ (หัวเราะ)

เบอร์เสื้อของมุ้ย "31" ออกรางวัลเลขท้าย 2 ตัวตรงๆ 

แมน : คราวนี้พ่อรู้สึกตื่นเต้นบ้างมั้ย ที่มุ้ยได้ไปเล่นในเจลีกแล้ว เทียบกับความรู้สึกก่อนหน้านี้อย่างตอนไปอัลเมเรีย

พ่อมุ้ย : ไม่เลยนะ รู้สึกเฉยๆ มาก เพราะมุ้ยเขาผ่านอะไรมาเยอะแล้ว ไปมาทั้งอังกฤษ, สวิส, สเปน การไปเล่นที่ลา ลีกา สเปน ผมว่าก็ไม่ได้แตกต่างจากเจลีกอยู่แล้วล่ะ แล้วมุ้ยก็โตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นเยอะแล้วด้วย เขาตัดสินใจอะไรเองได้หมดแล้ว

แมน : มุ้ยได้ติดต่อคุยกับพ่อบ้างมั้ยว่าเขาไปเจออะไรบ้างช่วงที่ไปตรวจร่างกาย ไปแนะนำตัวทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่

พ่อมุ้ย : เขาไม่ได้บอกอะไรเลยนะ  

แมน : เห็นว่าที่ญี่ปุ่นเขาตั้งชื่อเรียกให้มุ้ยแล้วนะพี่ รู้สึกว่าจะ "มุ้ยซัง" เจก็ "ชนาคุง" ส่วนอุ้มนี่น่ารักสุดเลยชื่อ "บุญจัง"

พ่อมุ้ย : ผมไม่รู้ความหมายเหมือนกันนะ แต่ผมว่ามันดูเด็กๆ น่ะ มุ้ยปีนี้ก็ 30 แล้ว แทบจะอาวุโสที่สุดในทีมแล้วด้วยมั้ง ไปเรียกชื่อน่ารักๆ ไม่เข้ากับเขาหรอก (หัวเราะ)  

แมน : เรียกซังก็ยังโอเคนะพี่ เวลาคนญี่ปุ่นเรียกกันลงท้ายว่าซังก็คือคุณ จะรุ่นใหญ่หน่อย แต่จังนี่จะเด็กๆ ไปเลย ผมว่าอุ้มนี่ไม่เข้าสุดแล้ว จังนี่เขาเอาไว้เรียกเด็กเล็กๆ หรือเด็กผู้หญิงน่ารักๆ 555 

พ่อมุ้ย : ผมก็ไม่รู้หรอกว่าเขาเรียกกันยังไง (หัวเราะ)

แมน : ถามเรื่องเกมเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่ผ่านมาหน่อยครับ พี่คิดว่ามันไม่แฟร์มั้ยที่เหมือนทางเอเอฟซีเขาจะเอื้อประโยชน์ให้ทีมใหญ่กว่า ได้เป็นเจ้าบ้านเตะเกมเดียวแบบนี้

พ่อมุ้ย : ก็มีพูดกันมานานนะ ผมว่าเอเอฟซีเขาพลาดเลยล่ะเรื่องนี้ เพราะอาเซียนนี่แหละคือศูนย์กลางความคลั่งไคล้ในเกมฟุตบอลของเอเชีย ฐานคนดู 600 กว่าล้านคนเนี่ย ไม่งั้นเจลีกเขาจะเปิดโควตาอาเซียนหรอ แต่เขาคงจะมองในเรื่องของคุณภาพทีมล่ะมั้งว่าอยากได้ทีมแกร่งๆ เข้าไปเล่น แต่ถ้าอยากจะเพิ่มเรตติ้งก็น่าจะให้โควตาอาเซียนเข้าไปเล่นรอบแบ่งกลุ่มมากกว่านี้ นี่อาเซียนก็เหลือบุรีรัมย์ให้ลุ้นทีมเดียวแล้วล่ะมั้ง ทีมอื่นมีเหลืออีกมั้ย

แมน : เหลือบุรีรัมย์ทีมเดียวแล้วครับ ผมก็คิดแบบพี่แหละครับ คือเอาจริงๆ ไม่ต้องเหย้าเยือนก็ได้ถ้าเขาห่วงเรื่องค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นอะไรนั่น แต่ถ้าจับสลากไปเลยว่าทีมไหนจะได้เป็นเจ้าบ้านมันจะยุติธรรมกว่าเนอะพี่ คือไม่แน่หรอกถ้าเซี่ยงไฮ้ต้องมาเยือนเชียงรายแล้วจะชนะได้มั้ย แต่ผมว่าเวลามาเตะที่ไทย, อินโดนีเซีย, พม่า, มาเลเซีย ผมมั่นใจว่าคนดูจะเยอะกว่าเวลาไปเตะที่ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้ หรือ ออสเตรเลีย แน่ๆ แล้วไม่รู้เพราะเอเอฟซีเขามีผู้บริหารเป็นฝั่งอาหรับเยอะรึเปล่า ตอนนี้เขาจัดแยกโซนแล้วกว่าจะเจอกับเอเชียตะวันออกก็ต้องรอบชิงเลย เท่ากับว่าการันตีเลยว่าจะมีทีมจากตะวันออกกลางหรือเอเชียกลางเข้าชิงแน่ๆ หนึ่งทีม

พ่อมุ้ย : ก็เขาคงคิดว่าจัดแบบนั้นแล้วดี เวลารอบลึกๆ พวกจีน, ญี่ปุ่น, เกาหลีก็แข่งกันเองดูกันเองไง (หัวเราะ)

เอเอฟซียอมเสียแฟนบอลที่คลั่งไคล้เกมลูกหนังระดับนี้ไปได้ยังไง

แมน : พ่อได้ดูเกมที่เมืองทองเจอคาชิวะ เรโซล ใช่มั้ยครับ มันทำให้เห็นความแตกต่างมั้ยเรื่องของสปีดบอล หรือคุณภาพในเกม 

พ่อมุ้ย : ไม่หรอก คือผมมองว่าเกมรับของเมืองทองมีความผิดพลาดตั้งแต่เซลิโอเจ็บออกไป ช่องระหว่าง นุกูลกิจ (ครุฑใหญ่) กับ ไมค์ (วัฒนา พลายนุ่ม) ถูกเจาะอยู่อย่างนั้นตลอด ไอ้ตัวญี่ปุ่นที่เป็นคนจ่ายบอล เขาจ่ายทะลุช่องกี่ทีก็หลุดทุกครั้ง เพราะการยืนตำแหน่งดูจะไม่เข้าใจกัน แต่ตรงกองหลังมันก็เป็นปลายเหตุแล้วล่ะ ผมยังสงสัยเลยว่าแบน (ธชตวัน ศรีปาน) เขาคิดยังไงถึงส่งชัปปุยส์ไปเล่นตรงนั้น ผมว่า บาส (พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา) เล่นคู่กับ อุ้ม น่าจะดีกว่า เพราะ บาส เล่นแบ็กซ้ายได้ดีอยู่แล้ว จะได้ดันอุ้มขึ้นไปเล่นตรงกลาง ชัปปุยส์สไตล์ของเขาคือคนสวิตช์บอล เปลี่ยนแกนซ้ายขวา คอยคุมจังหวะเกม แต่ไม่ใช่คนที่จะมาไล่บอลหรือปิดช่องไม่ให้คู่ต่อสู้จ่ายได้ กลางตัวไล่บอลเหลือแค่ อี โฮ คนเดียว แล้ว อี โฮ มันมีกี่ขาล่ะถึงจะไปไล่ทัน พอผ่าน อี โฮ ได้ ญี่ปุ่นเขาก็โล่งทุกทีเลย อย่างลูกแรกกับลูกสอง ชัดเลยว่าตำแหน่งการยืนของกองกลางมีปัญหา ปล่อยให้เขาเลือกทะลุช่องได้สบายๆ จริงๆ ลูกที่สามก็ไม่น่าเสียหรอก ผมยังงงว่า นุกูลกิจ จะเทตามมาหา เก่ง (อดิศร พรหมรักษ์) ทำไม ถ้าเขายืนรักษาตำแหน่งตัวเองไว้ก็น่าจะประกบได้แล้ว 

แมน : แล้วมุ้ยล่ะพี่ เห็นมีโอกาสยิงอยู่ 2 ครั้งแต่ดูเหมือนการตัดสินใจจะมีลังเลอยู่เหมือนกัน ถ้าไปเล่นในเจลีกจะต้องตัดสินใจให้เด็ดขาดและเร็วขึ้นมั้ย

พ่อมุ้ย : อืมลูกแรกนี่ผมว่าถ้ามุ้ยยิงไปเลยก็คงจะติดนะ แต่พอล็อกหลบแล้วยิงมันไปแฉลบนิดนึงบอลก็เลยเบา ทำให้เขาสกัดออกมาจากเส้นได้ทัน ส่วนอีกลูกนี่ผมก็มองว่าเขาน่าจะยิงไปที่เสาสอง แต่มุ้ยตัดสินใจยิงแปยัดเสาแรกแล้วก็หลุดกรอบไปเลย แต่ส่วนหนึ่งผมก็มองว่านัดนี้ มุ้ย ขาดตัวเชื่อมในแดนหน้าไปหน่อย 

แมน : ยิ่งพอเสียไป 2 ประตูแล้วจะเอาคืนก็ยากมากนะพี่ เพราะ คาชิวะ เรโซล เขาแพ็คเกมแล้วรอสวนกลับอย่างเดียวเลย

พ่อมุ้ย : ใช่ญี่ปุ่นเขาเล่นกันอย่างนั้นแหละ เหมือนเป็นหุ่นยนต์ พอยิงได้แล้วก็แพ็คเกมรอสวนเร็ว เมืองทองเจอญี่ปุ่นกี่ทีก็เป็นแบบนี้ตลอด เขาอาศัยจังหวะโต้กลับเร็วแล้วแทงทะลุช่องแบบนี้แล้วก็โดนทุกที

แมน : อุ้มเองก็ดูจะเล่นกดดันตัวเองไปหน่อยมั้ยพี่

พ่อมุ้ย : ใช่ อุ้มดูเกร็งๆ ไม่เป็นตัวของตัวเองเท่าไหร่ เพราะเขาคงรู้ว่าถูกจับตามองอยู่เยอะด้วยมั้ง จริงๆ แล้วผมว่าอุ้มนี่ล่ะที่จะปรับตัวได้ยากที่สุดถ้าเทียบกับ มุ้ย และ เจ แล้วนะ เพราะเขาไม่เคยออกจากกรอบประเทศไทยมาก่อน เขายังไม่รู้ว่าต้องไปเจออะไรบ้าง

แมน : ผมเคยถามโค้ชที่เคยร่วมงานกับอุ้มอย่าง มาสเซอร์ธร (ธร สอระภูมิ โค้ชรร.อัสสัมชัญ ธนบุรี) แล้วก็โค้ชเฮง ที่เคยคุมอุ้มตอนอยู่ รร.กีฬากรุงเทพฯ ทุกคนชมอุ้มนะพี่ว่าน่าจะเอาตัวรอดได้ เพราะอุ้มเป็นคนที่หัวใจเข้มแข็งมาก ใจสู้ เป็นคนไม่ยอมแพ้ และก็ไม่ยอมใคร ซึ่งเนี่ยแหละที่จะทำให้เขาพิสูจน์ตัวเองได้

พ่อมุ้ย : อืมอันนี้ก็จริง เพราะอุ้มเขาเป็นคนที่มุ่งมั่นมาก ไม่เคยยอมแพ้ต่ออะไรเลย 

สำหรับ "โก๋อุ้ม" คนนี้เรื่องหัวจิตหัวใจต้องยกให้เค้า

แมน : ก็จะต่างจากเจ ที่เป็นคนอัธยาศัยดี ดูเป็นเด็กๆ เฟรนด์ลี่ เข้ากับเพื่อนๆ ได้ง่าย ส่วนมุ้ย นี่คงต้องเป็นเรื่องผลงานรึเปล่าพี่ เพราะถ้าเป็นเรื่องนอกสนามนี่่ท่าทางจะชนะใจยากมั้ยครับ 555

พ่อมุ้ย :  เออใช่ (หัวเราะ) คงต้องเป็นในสนามน่ะแหละ ถ้าทำผลงานดีเขาถึงจะยอมรับ ยิ่งถ้าเป็นตอนซ้อมนี่มุ้ยจะเฉื่อยมากนะ แต่ถ้าลงในสนามแข่งแล้วเขาจะอันตรายมาก ผมยังมองว่า 3 คนนี้ มุ้ยน่าจะยิงประตูได้ก่อนใครนะ เพราะสไตล์ของญี่ปุ่นเขาจะเข้าทำเร็วแล้วเล่นบอลไม่กี่จังหวะ ซึ่งมุ้ยชอบอยู่แล้ว เพราะเขาต้องการไลน์ให้เล่นแค่ 1-2 จังหวะแล้วหาช่องเข้าไปยิงเลย ถ้ามัวเซ็ตบอลไปมา มุ้ยคงไม่มีโอกาสยิงประตูมากนัก แล้วมุ้ยเขาเป็นคนจบสกอร์ได้ดีด้วย ก็น่าจะเข้าทางเขากับวิธีการเล่นของพวกญี่ปุ่น

แมน : กองหลังญี่ปุ่นนี่แข็งมากเลยนะพี่ อย่างเกมแชมเปี้ยนส์ลีก ขนาด ชาช่า ที่ว่าแข็งๆ โดนกระแทกยังเก็บบอลไม่ค่อยอยู่เลย 

พ่อมุ้ย : ใช่บอลญี่ปุ่นเขาใช้พลังร่างกายค่อนข้างเยอะอยู่แล้ว ลองดูสิว่าเขาจะไม่ค่อยเก็บบอลไว้กับตัวนาน อย่างที่บอกว่าเป็นสไตล์โรบอท แทบไม่มีการเลี้ยงผ่านคู่ต่อสู้ 3-4-5 คนให้เห็นเลย พอ เจ ไปเล่นแล้วทำได้เขาก็เลยฮือฮากันไงเพราะเขาไม่ค่อยเห็นสไตล์แบบนี้ แต่เจก็ฉลาดเอาตัวรอดเก่ง ถ้าเจอรุมหลายๆ คนเจมันก็รีบถ่ายบอลให้เพื่อนเลย ฟุตบอลมันต้องมีแบบนี้บ้างมันถึงจะมีเสน่ห์ ต้องมีแบบ โรนัลดินโญ่, เมสซี่ บ้าง

แมน : แล้วมุ้ยจะต้องไปปรับสไตล์ของตัวเองมั้ยครับ

พ่อมุ้ย : ผมยังห่วงเหมือนกันว่ามุ้ยจะถูกสั่งให้ปรับสไตล์การเล่นจนสูญเสียความเป็นตัวเองไป มุ้ยก็มีข้อดีในสไตล์ที่เขาเล่น แต่ถ้าถูกปรับสไตล์ก็ไม่รู้ว่าจะเป๋เลยหรือเปล่า อย่างเมสซี่ หรือ คูตินโญ่ ถ้าถูกสั่งห้ามเล่นในสไตล์ที่ตัวเองถนัด คิดว่าเขาจะเป็นยังไงล่ะ แต่มุ้ยเองหลังจากที่ไปสเปนช่วงไทยลีกปิดฤดูกาล เขาไปดูบาร์เซโลน่า เขาไปศึกษาวิธีการเล่นของเมสซี่นะ แล้วก็ดูว่าเมสซี่เขาเลี้ยงบอลยังไงให้ผ่านคู่ต่อสู้ได้หลายๆ คนแบบแทบไม่มีใครโดนตัว แล้วตอนกลับมาเล่นบอลแม่โขง เห็นมั้ยว่าเขาเลี้ยงครึ่งสนามผ่านผู้เล่นของเวียดนามเข้าไปยิงประตูได้เลย ผมว่าเขาก็นำเอาสิ่งที่เขาเห็นมาลองใช้ดูแล้วก็ทำให้เขาเคลื่อนที่ไปกับบอลได้ดีขึ้น

แมน : ที่เขาเรียกว่าบอดี้เฟนท์ ใช่มั้ยครับ คือ เมสซี่เนี่ยสุดยอดของโลกในเรื่องบอดี้เฟนท์แล้วพี่ ตัวไม่ใหญ่แต่เวลาเลี้ยงผ่านคู่ต่อสู้ กลับแทบไม่มีใครสัมผัสตัวเขาโดนเลย ต้องลองไปดูพวกการ์ดของบาสเก็ตบอลพี่ ตัวเล็กๆ ถือบอลพุ่งเข้าไปหา แต่หลบตัวใหญ่ๆ ได้หมด 

พ่อมุ้ย : อ่าใช่ๆ แบบพวกบาสเก็ตบอลน่ะแหละ คือการขยับร่างกายท่อนบอลท่อนล่างโยกหนีคู่ต่อสู้

เรื่องเลี้ยงบอลหลบคู่ต่อสู้แบบเป็นหมู่คณะต้องขอคารวะเมสซี่

แมน : สภาพร่างกายมุ้ยเป็นไงบ้างครับ ปีนี้เอาจริงๆ ผมว่าเขาดูตัวไม่ได้ใหญ่เหมือนช่วงก่อนไปอัลเมเรีย และตอนกลับมาใหม่ๆ เหมือนตอนนี้จะบางลงนิดๆ หรือเปล่า

พ่อมุ้ย : ร่างกายตอนนี้มุ้ยดีมากนะ เขาไม่เจ็บหนักๆ มานานแล้ว ผมมองว่าตั้งแต่ที่เขากลับมาจากอัลเมเรีย เขาเรียนรู้อะไรมากขึ้น การปะทะที่เสี่ยงบาดเจ็บมีน้อยลง รู้จักวิธีเล่นกับเพื่อนร่วมทีมมากขึ้น อุ้มเนี่ยจะเป็นคนที่รู้ทางมุ้ยที่สุดแล้ว ว่าจ่ายบอลยังไงแล้วมุ้ยเอาไปเข้าทำได้ ผมก็หวังว่าที่ญี่ปุ่น เพื่อนๆ จะจ่ายบอลให้ได้แบบนั้น

แมน : ได้ข่าวว่า ซานเฟรชเช่ ฮิโรชิม่า ก็มีเสริมกองหน้ามาเหมือนกัน แล้วเห็นมุ้ยให้สัมภาษณ์กับสื่อไทยอยู่ว่า ถ้า 3 นัดแรกยิงประตูไม่ได้ก็หวาดเสียวอยู่เหมือนกัน ว่าอาจจะนั่งยาว

พ่อมุ้ย : เอ้อเขาก็คิดเหมือนผมแฮะ แน่นอนอยู่แล้วแหละไม่ว่าใครก็ตามในโลกนี้ ถ้าเป็นกองหน้าแล้ว 3 นัดแรกยิงประตูยังไม่ได้ โค้ชเขาก็คงไม่เอาไว้ อาจจะถูกถอดเลย ผมก็ยังไม่รู้นะว่ามุ้ยไปแล้วจะได้ลงตัวจริงเลยหรือเปล่า เพราะไม่รู้ว่าทีมเขาจะไว้วางใจแค่ไหน เหมือนตอนไปสเปน ขนาดกองหน้าทีมชาติญี่ปุ่นก็ถูกดองเหมือนกัน 

แมน : ไมค์ ฮาเวนาร์ ที่เคยอยู่กอร์โดบา น่ะหรอพี่ ตอนนี้มาเป็นเพื่อนร่วมทีมอุ้มที่วิสเซิ่ล โกเบ แล้ว

พ่อมุ้ย : นั่นแหละๆ คือถ้าเขาไม่ไว้ใจ หรือสไตล์ไม่เข้ากับทีม ลงไปแล้วยิงประตูไม่ได้ก็ลำบาก แต่ดูเหมือนว่า ซานเฟรชเช่ เนี่ยเขาก็ยังไม่ค่อยดีเท่าไหร่นะ ไม่รู้เป็นเพราะอากาศบ้านเรามันร้อนหรือเปล่า เห็นมาอุ่นเครื่องที่ไทยก็แพ้ทุกเกมเลย (แพ้การท่าเรือ 2-5 และแพ้ พัทยา ยูไนเต็ด 1-2) 

ซานเฟรชเช่ ฮิโรชิม่า อุ่นเครื่องล่าสุดแพ้ พัทยา ยูไนเต็ด ไปอีก 1-2 

แมน : เหมือนว่าเขาจะมีปัญหาที่เกมรับอยู่นะพี่ แล้วทีมก็เปลี่ยนโค้ชใหม่จากนอร์เวย์มาเป็นญี่ปุ่นด้วย ดูเหมือนจะเน้นบอลรับแล้วโต้มากกว่าเดิมอีกมั้ง

พ่อมุ้ย : ก็นั่นน่ะสิ โดนท่าเรือยิงตั้ง 5 ลูก เกมรับก็น่าเป็นห่วงเหมือนกันนะ แต่ไม่แน่หรอก พอกลับไปที่ญี่ปุ่น คุ้นเคยสภาพอากาศกว่าก็อาจจะดีขึ้นก็ได้

แมน : เห็นมุ้ยบอกว่าช่วงแรกจะยังไม่เอาครอบครัวไปอยู่ที่ญี่ปุ่นด้วยหรอพี่ 

พ่อมุ้ย : อ๋อ ใช่เห็นมุ้ยเล่าให้ผมฟังนะว่าสโมสรนี้เขาให้เข้าไปอยู่ในแคมป์ ก็คือจะแยกครอบครัวเลย ถ้าจะเจอกันก็ต้องขับรถออกมาไม่ได้ไปอยู่ด้วยกัน ซึ่งเท่ากับว่ามันก็ไม่ต่างกันเลยถ้าอยู่เมืองไทย ในแคมป์ก็มีทุกอย่างพร้อมหมดล่ะนะ แต่ผมคิดนะว่าการเอาครอบครัวไปอยู่ด้วยมันสำคัญมากสำหรับนักบอลอาชีพ ทั่วทั้งโลกแหละเวลานักเตะย้ายไปประเทศอื่นเขาก็เอาลูกเมียไปอยู่ด้วย ไม่งั้นมันก็จะมีปัญหาตามมา บางคนถึงกับอยู่ไม่ได้เลยนะถ้าต้องแยกจากลูกเมีย

แมน : ก็คงเหมือนกับนักเตะบราซิลที่มาเล่นบ้านเราไงพี่ บางคนมาอยู่แป๊บเดียวก็ต้องกลับเพราะห่างลูกเมีย คิดถึงบ้านบ้าง เมียงอแงบ้าง อย่างอุ้มก็เห็นว่าจะพาเบสต์กับน้องลิสบอนไปอยู่ด้วยเลยที่โกเบ

พ่อมุ้ย : มันต้องอย่างนั้นแหละ เดี๋ยวสักพักมุ้ยก็คงพามาดริดไปอยู่ด้วยแหละ เขาคงจะลองทำให้อะไรมันเรียบร้อยก่อน แล้วค่อยพาไป เขาก็อยากจะเป็นแบบอย่างให้มาดริด เหมือนที่เขาเคยมีผมเป็นแบบอย่างเหมือนกันน่ะ

แมน : มุ้ยจะให้มาดริดเล่นฟุตบอลด้วยหรอครับ

พ่อมุ้ย : ก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามาดริดจะชอบมั้ย เขาอาจจะไม่เป็นนักฟุตบอล อาจจะเป็นนักร้องก็ได้ ตอนนี้ก็ร้องเก่งมาก (ร้องไห้) หรืออาจจะเป็นดาราก็ได้นะ ถ้าโตมาแล้วหน้าตาไปได้ทางแม่ (น้องบีบี) น่ะ (หัวเราะ)

แมน : ถ้าไม่พาไปอยู่ด้วย มุ้ยเองรึเปล่าพี่ที่จะงอแงคิดถึงลูก 555

พ่อมุ้ย : น่าจะอย่างนั้นแหละ (หัวเราะ) เรื่องครอบครัวนี่มุ้ยเขาจัดการเองหมดเลยนะ อย่างเรื่องเจเนี่ย ผมไม่รู้หรอกว่าจริงๆ แล้วมันเป็นยังไง รู้แต่จากข่าวที่ออกมา แต่มุ้ยเนี่ย เขาจะคบใคร รักใครผมไม่ยุ่งเลยนะ เพราะสมัยผมแต่งงานกับแม่มุ้ย ผมก็ตัดสินใจกันเองหมดเลย มุ้ยเนี่ยตอนแต่งงานเขาทำเองหมดทั้งดูฤกษ์ ทั้งของชำร่วย เลือกสถานที่ ทุกอย่างอะ ผมมีหน้าที่แค่ไปร่วมงานเท่านั้นเอง สำหรับผมคิดว่าความรักมันเป็นเรื่องของลูกๆ แค่เขาไม่ได้เอาคนสำมะเลเทเมา คนไม่รู้หัวนอนปลายเท้า คนพิกลพิการมาเป็นเมียผมก็สบายใจแล้ว

แมน : เรื่องนี้ผมโนคอมเม้นต์ดีกว่าพี่ ผมเป็นห่วงเจมากกว่าว่าจะมีผลต่อสภาพจิตใจแค่ไหน กลัวจะฟอร์มตก ดูช่วงนี้ก็ซึมๆ ไปเลย เห็นมีโพสต์เฟซบุ๊คบ่นเหงาซะด้วย

พ่อมุ้ย : อ้าวมันก็มีผลนะ แล้วอย่าล้อเล่นกับโลกโซเชี่ยลเชียวล่ะ นักบอลนี่นะเห็นกันมาเยอะแล้ว เวลาอกหักหรือมีปัญหาครอบครัว มันส่งผลในสนามด้วยอยู่แล้ว

แมน : เหมือนอย่าง (เฮนริก) มคิทาร์ยาน ของแมนฯยูฯ ไงพี่ที่แฟนเลิกแล้วหนีไปคบกับเศรษฐี เล่นเอาจิตใจล่องลอย ฟอร์มหลุดจนกู่ไม่กลับเลย ตอนนี้ก็โดนปล่อยไปอาร์เซนอลแล้ว ผมเองก็เคยเป็นนะพี่ สมัยตอนเลิกกับแฟนใหม่ๆ โหกว่าสภาพจะกลับมาเหมือนเดิมได้ก็นานเหมือนกัน เวลาทำงานเราก็แยกแยะได้ แต่พอไม่ได้ทำงานมันก็มีเคว้งๆ เหมือนกัน

เฮนริก มคิทาร์ยานหัวใจแทบสลายเมื่อถูกแฟนสาวทิ้งไปแต่งงานกับมหาเศรษฐี

พ่อมุ้ย : นั่นแหละมันสำคัญ ต่างประเทศเขาจะมองต่างจากบ้านเราเลยนะ คือเขาอยากให้รีบมีครอบครัวด้วยซ้ำ เพราะมันจะทำให้นักเตะไม่ว่อกแว่ก ไม่ออกนอกลู่นอกทาง จากพวกที่เคยติดเที่ยว ติดผู้หญิง ก็จะได้เลิกแล้วหันมามีสมาธิกับเรื่องฟุตบอลอย่างเดียว

แมน : จริงเลยครับ พี่ประสิทธิ์วันนี้ผมขอรบกวนพี่เท่านี้ก่อนดีกว่าครับ พอดีกำลังจะต้องเข้ารายการไปอ่านข่าว เดี๋ยวไว้รบกวนอีกนะพี่ ขอบคุณมากครับ

พ่อมุ้ย : โอเคก็ประมาณนี้ก่อนแล้วกันนะ


ถ้าชอบก็กดไลค์ ถ้าใช่ก็กดแชร์ แล้วอย่าลืมให้เครดิตกันด้วยนะครับ (แมน โกสินทร์ อัตตโนรักษ์)


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด